Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 396

ตอนที่ 396 เก็บเงินได้มากมายมหาศาล

“ฝ่าบาท ฎีกาหวังทงผ่านสำนักฎีกามาแล้ว ขอทรงทอดพระเนตร”

เจ้าจินเลี่ยงกราบทูลขึ้นไม่ดังนัก พร้อมกับยื่นฎีกาถวายฮ่องเต้ว่านลี่

เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งแรกที่เข้าวังมา เจ้าจินเลี่ยงเติบโตสูงขึ้นมาก และสถานะก็ก้าวขึ้นเร็วกว่าความสูงของเขาเสียอีก ผ่านเหตุการณ์โดนรุมตีที่อุทยานปัจจิมมา เจ้าจินเลี่ยงได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้มีคุณธรรมใหญ่ เป็นรุ่นหลังที่ควรค่าแก่การส่งเสริม

จางเฉิงก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น ตอนนี้บางครั้งที่ยุ่งกับงาน ก็ยังให้เจ้าจินเลี่ยงติดตามเสด็จแทน นี่เป็นโอกาสที่ขันทีหลายคนใฝ่ฝันถึง

ได้ยินมาว่าเป็นฎีกาของหวังทง เดิมที่กำลังเหม่อลอยก็อยู่ก็สะบัดพระพักตร์ไปมา เอื้อมพระหัตถ์ออกมารับไป เปิดออกอ่าน ตรัสอย่างเบื่อหน่ายว่า

“ก็แค่โจรสลัดยอมสวามิภักดิ์ไม่กี่คน เรื่องพวกนี้แจ้งทางการไปก็พอ ไยต้องส่งมาให้เราด้วย”

ตรัสจบก็โยนลงบนโต๊ะ เจ้าจินเลี่ยงไม่กล่าวอันใด เข้าไปเก็บฎีกาขึ้นมา เขย่งเท้าผลักฎีกากองอื่นให้ฮ่องเต้ว่านลี่ต่อ พอเสร็จจึงได้ทูลว่า

“ฝ่าบาท ใต้เท้าหวังได้ส่งเอกสารรายงานไปยังกรมทหารและศาลเมืองเหอเจียนแล้ว”

ฮ่องเต้ว่านลี่พยักพระพักตร์ไม่ตรัสอันใด ทอดพระเนตรไปที่อื่นก่อนจะนึกได้ว่าจะตรัสอันใด

“เสี่ยวเลี่ยง อย่าลืมถามจางปั้นปั้น เฉินหลินที่กวางตุ้งเริ่มปราบโจรแล้วหรือยัง ไม่จับตาดูให้ดีเดี๋ยวจะไม่ได้การ จำไว้นะ”

“กระหม่อมทราบแล้วพะยะค่ะ”

**********

กรมทหารและศาลเมืองเหอเจียนไม่สนใจเรื่องโจรสลัดสวามิภักดิ์อันใด ตามที่พวกเขาเห็น ก็แค่หวังทงคิดจะหาทางสร้างความชอบเท่านั้น ก่อนหน้าใช่ว่ามีโจรบุกโจมตีหรอกหรือ คิดแล้วก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้ไปหาโจรจากไหนสวามิภักดิ์แสดงความสามารถของเขากัน

แต่ในเมื่อรายงานขึ้นมา ก็อนุมัติรับรู้ไปก็แล้วกัน ก็แค่ตรวจรับ ไม่ให้พวกนี้ต้องกลับไปเป็นโจรอีก แสดงให้เห็นถึงความเมตตากรุณาของราชสำนัก

ตอนหวังทงรายงานขึ้นไป เดิมไม่คิดว่าจะง่ายดายเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าพวกชีจี้กวงและอวี๋ต้าโหยวกว่าจะปราบภัยร้ายโจรสลัดมาได้ กว่าหูจงเซี่ยนจะทำให้วังจื๋อยอมมอบตัวได้ กว่าพวกโจรสลัดวัวโค่วจะไม่กล้ารุกรานแผ่นดินหมิงอีก

นอกจากพวกที่ติดต่อคบค้าสมาคมกับผู้คนบนท้องทะเลทั้งวันแล้ว พวกขุนนางในราชสำนักและคนอื่นๆ ต่างคิดว่าชายแดนฝั่งทะเลสงบสุขแล้ว ถึงกับคิดว่าพวกที่บุกเทียนจินครั้งก่อนก็แค่พวกโจรกระจอกใจกล้าบ้าบิ่น แค่ส่งกำลังไปปราบแถบติดทะเลอย่างที่ฮกเกี้ยนกวางตุ้งก็พอ เพิ่มกำลังตรวจตราก็พอจะรับมือได้หายห่วง พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีการมีอยู่ของ ‘ราชาไตรธารา’ กำลังอิทธิพลใหญ่บนผืนทะเลนี้อยู่ด้วย

แต่สำหรับหวังทง รายงานไปแล้ว ผลเป็นเช่นไร ก็บอกได้ว่าตนได้รายงานเบื้องบนไปแล้ว มีพระราชโองการและเอกสารทางการยืนยัน หากไม่ทำเช่นนี้ วันหน้าเรื่องนี้คงได้ย้อนกลับมาว่าเขาเองเป็นผู้ลักลอบติดต่อโจรสลัด คิดจะก่อกบฏ

การสนทนาในวันนั้น ไม่มีค่าพอจะทำให้หวังทงไว้วางใจในเสิ่นวั่งและต่งช่วงสี่ สองคนนั้นจากไป หวังทงส่งคนติดตามไม่ว่า หากยังกักบริเวณพวกเขาไว้ด้วย

ขณะเดียวกันก็ส่งม้าเร็วไปที่ซานตง สืบว่ามีคนชื่อต่งช่วงสี่หรือไม่ เป็นดังที่เขาว่าไว้หรือไม่ หากมีความเท็จ ก็จะจัดการที่เทียนจินให้เรียบร้อย

เมืองเทียนจินไปเมืองเหอเจียนผ่านทางเมืองเต๋อโจวเข้าไปเมืองจี่หนาน เส้นทางแม้ว่าไกลไม่น้อย แต่ม้าวิ่งและไม่หยุดพัก หกวันข่าวก็ส่งกลับมา

สถานะต่งช่วงสี่ไม่ผิด รายงานมาว่าการค้าที่ซานตงใหญ่โตมาก สายสัมพันธ์อ๋องหลูไม่เลว มักจะส่งของเล่นปราณีตตะวันตกเป็นบรรณาการเข้าจวนไปประจำ ว่ากันว่ายังเคยส่งสาวงามจากไท่ซีแดนตะวันตกไปด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรายงานมาว่าเป็นพวกอันธพาลรังแกหญิงสาว เสเพลอย่างมาก เรื่องพวกนี้ย่อมเป็นจริง และก็สอดคล้องกับสิ่งที่หวังทงสังเกตเห็นได้จากรูปลักษณ์ภายนอก

สิ่งที่ทำให้หวังทงรู้สึกเหลือเชื่อก็คือว่า นายกองพันต่งมีสายสัมพันธ์ไม่เลวกับท่านจางจริง ว่ากันว่าเคยร่วมกราบไหว้เป็นพี่น้องกับอิ๋วชีคนสนิทท่านจางด้วย คนข้างนอกยังรู้ว่าเคยกราบท่านจางเป็นบิดาบุญธรรมด้วย ที่ซานตงทุกหน่วยงาน ไม่กล้าล่วงเกินเขาผู้นี้ เกรงอกเกรงใจอย่างมาก

สำหรับว่าส่งอันใดให้ท่านจางนั้น หวังทงส่งสายสืบเข้าไปยังที่พักของต่งช่วงสี่ แอบตรวจสอบ นอกจากเงินทองของมีค่าเป็นของขวัญแล้ว ยังมีแมวน้ำหลายตัวที่ตากแห้งแล้ว สามารถทำเป็นตัวยาได้ตลอดเวลา

แมวน้ำใช้ทำอันใดนั้น ไปสอบถามจากร้านขายยาจีนมา บอกว่าใช้เป็นยาเพิ่มพลังหยางหรือเพิ่มพลังเพศชายนั่นเอง……

เรื่องนี้นับว่าเหลวไหลมาก ทว่าหวังทงเองก็เคยได้ยินมาข่าวลือว่าจวนจางจวีเจิ้งเลี้ยงดูหญิงงามไว้มากมาย เหมือนว่ามอบแมวน้ำให้เป็นของกำนัลก็มีความเป็นไปได้

พอปลดคำสั่งกักบริเวณ ต่งช่วงสี่ที่เห็นชัดว่าหวาดกลัวก็ส่งคนมาขออำลากลับกับหวังทง คนเองรีบขึ้นเรือไปเมืองหลวงทันที

**************

ในที่สุดเรื่องของเสิ่นวั่งก็ได้ข้อสรุป เงินแสนถูกส่งมาในวันรุ่งขึ้น ใช้รถคันใหญ่ขนมาที่หน้าประตูจวนหวังทง ล้วนเป็นทองคำที่สีสันงดงามยิ่ง

พวกโจรสลัดก่อการบนท้องทะเลนั้นง่าย แต่จะหาฝั่งที่ไว้ใจขึ้นพักอาศัยนั้นเป็นเรื่องยากมาก ของที่ปล้นชิงมานั้นง่าย แต่จะเปลี่ยนเป็นของขายออกไปนั้นยาก

เสิ่นวั่งกล่าวไว้อย่างชัดเจนมากแล้วว่า ตั้งแต่เทียนจินตั้งด่านเก็บภาษีท่าเรือ กำไรของพวกเขาไม่น้อยก็สูญหายไป คิดจะไปหาที่ขนถ่ายสินค้าใหม่ แต่ระยะทางก็ไกลไป ยังต้องเปิดสายการค้ากับที่อื่นอีก ภัยความเสี่ยงอีกมากมายนับไปถ้วน

ราชาไตรธาราสั่งสมอิทธิพลมามาก นั่งเก็บเงินบนท้องทะเล กินดื่มเที่ยวได้อย่างสบายใจ แต่ในฐานะหัวหน้าของทุกคน ในมือมีเงินก้อนใหญ่มหาศาล ได้แต่เก็บไว้ ย่อมไม่ใช่ทางที่ดี

ผู้คนมักมีใจคิดหวนคืนบ้านเกิดยามร่ำรวย นับประสาอันใดกับทางตะวันออกทั้งผืนนี้ พื้นที่รุ่งเรืองร่ำรวยนี้ ล้วนเป็นผืนแผ่นดินราชวงศ์หมิง มีเงินไปใช้จ่ายให้สะใจจึงนับว่าสุขแท้ การต้องโดดเดี่ยวกลางทะเล รอนแรมต่างเมือง ช่างไร้ความหมาย

นับประสาอันใดกับราชาไตรธาราที่ทรงอิทธิพลใหญ่เช่นนี้ คิดจะเสวยสุขลาภยศ ก็เกรงว่าจะตายในน้ำมือทางการ ตอนนั้นหัวหน้าโจรสลัดใหญ่วังจื๋อยอมสวามิภักดิ์ยังถูกประหาร ทำให้ไม่มีโจรใดกล้าเจริญรอยตามอีก

ทว่าหวังทงนั้นแตกต่าง นายกองพันผู้นี้ทำงานมีระบบ ราวกับว่าเพื่อความร่ำรวยของตน และยังเพื่อความเจริญของเทียนจิน เพื่อส่งเงินทองเข้าวังหลวงให้มาก

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากเสิ่นวั่งไตร่ตรองดีแล้ว ก็คิดว่าหากตนมีเงื่อนไขที่สั่นคลอนอีกฝ่ายได้ ก็จะลองเสี่ยงดูสักครา

แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากเสิ่นวั่งเดินสำรวจรอบเทียนจินหนึ่งรอบแล้ว พบกว่าแม่น้ำทะเลและคลองส่งน้ำแม้ว่าไม่มีกำแพงกั้น แต่ทหารประจำการไม่น้อย การจัดการต่างๆ ยังเพื่อต่อต้านทางทะเลทั้งนั้น หากเข้าโจมตีย่อมสูญเสียสาหัส ไม่มีผลดีอันใด

สุดท้าย กู้เหลาหู่ที่ไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติของราชาไตรธาราอย่างจริงใจก็นำกำลังเข้าบุกก่อนถูกกวาดล้างเรียบ ยิ่งทำให้ราชาไตรธารารู้ว่าที่คิดไว้นั้นไม่ผิด ทำให้เขารวบรวมความคิดคนในปกครองทั้งหมด ขวากหนามใหญ่สุดได้ถูกทำลายไปแล้ว คนอื่นย่อมไม่มีสิทธิ์กล่าวอันใด

ก่อนหวังทงจะรวมทุนเปิดร้านประกันภัย เสิ่นวั่งก็มาเทียนจิน การมาครั้งนี้ไม่ได้มาดูเพื่อโจมตี แต่เพื่อดูว่ามีการค้าอันใดควรค่าแก่การลงทุนหรือไม่

เดินเตร่เที่ยวชมไปหลายวัน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจถึงความสามารถในการทำหินให้เป็นทองของหวังทง เทียนจินนี้เขาเองก็เคยมาหลายครั้ง ก็แค่พื้นที่รกร้างไม่อาจดำรงชีพได้ ตอนนี้กลับกลายเป็นพื้นที่ทองคำมีค่าทุกตารางนิ้ว แม้จะไม่คึกคักเท่ากับเมืองซูโจวทางใต้หรือเมืองซงเจียงทางเหนือ แต่ความโดดเด่นนั้นดูจะล้ำหน้าไปไกลกว่าแล้ว

หากเป็นพ่อค้าทั่วไปก็แล้วไป แต่การเกี่ยวพันกับการค้าที่เทียนจินและทางทะเลเช่นนี้ เสิ่นวั่งย่อมเห็นกระจ่างแล้วว่า เรือใหญ่ของตนต้องการพื้นที่เช่นนี้ เช่นกัน เทียนจินแม่น้ำทะเลก็ต้องการอิทธิพลบนท้องทะเลเช่นพวกเขา

หากสู้กันทั้งสองฝ่ายจะสูญเสียทั้งคู่ หากร่วมมือกันก็จะได้ประโยชน์อย่างมาก ไม่เพียงแต่ส่งผลดีเท่านั้น แต่ยังส่งผลดียิ่งใหญ่อีกด้วย

ในเมื่อหวังทงเป็นคนทำงาน เป็นคนแสวงหาผลกำไร เป็นคนมีเหตุผล การจะใช้ภาพความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ยิ่งใหญ่มาดึงดูดอีกฝ่าย ก็ย่อมได้ผล

ก่อนที่หวังทงจะเรียกทุกคนมาประชุมกัน เสิ่นวั่งก็เชิญนายกองพันต่งช่วงสี่มาเป็นสื่อกลางนำตัวเข้าประชุม

รอจนหวังทงเล่าถึงแผนการที่เขาคิดเอาไว้ออกมา เสิ่นวั่งก็ตัดสินใจได้ทันที และคิดถึงวิธีการที่จะนำพบที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยว่า ‘ขอน้อยยินดีร่วมทุนหนึ่งแสนตำลึง’

สำหรับเหตุผลที่เสิ่นวั่งถูกขนานนามว่า ราชาไตรธารานั้น ก็เพียงเพราะชื่อ ‘เสิ่นวั่ง’ ทำให้นึกถึง ‘วังจื๋อ’ ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย อย่างไรฟังดูแล้วก็ยิ่งใหญ่ดี แม้ว่าเขาเองนั้นไม่เกี่ยวข้องอันใดกับวังจื่อ……

*************

หลังจากหวังทงคิดตั้งร้านประกันภัย ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนัก อย่างไรก็แปลก แม้ว่าจะเห็นข้อดีมากมาย แต่ไม่รู้ว่าพ่อค้าเทียนจินจะเห็นด้วยหรือไม่

อย่าได้ดูแคลนคนโบราณ หวังทงเดิมคิดว่าตนเองได้หลักการเป็นชุดๆ มาจากโลกก่อน การจะเข้าใจพ่อค้าโลกนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอันใด ครั้งนี้ก็เช่นกัน วันที่ 11 เดือนเจ็ด ร้านประกันภัยก็รวบรวมความคิดเห็นจากทุกคนเรียบร้อย ผ่านการปิดช่องโหว่จากพ่อค้าที่มีประสบการนานปี กฎเกณฑ์ร้านประกันภัยก็สำเร็จเป็นรูปร่าง

ทว่าพ่อค้าที่เสนอความเห็นนั้นล้วนมีเงื่อนไขตน ก็คือขอลงเงินหุ้นในร้านประกันภัยมากอีกหน่อย ไม่ใช่แต่เสิ่นวั่งผู้เดียวที่เห็นผลประโยชน์ใหญ่ในการนี้

วันที่ 11 เดือนเจ็ด คนของหวังทงก็ได้เห็นปรากฎการณ์แปลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ปรากฎการณ์ที่ทุกคนผ่านไปหลายปียังต้องเก็บไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง ‘พวกเจ้าเคยเห็นว่ามีคนนำเงินมาขอร้องให้เจ้ารับไว้ถึงหน้าประตูหรือไม่?’ ‘พวกเจ้าเคยเห็นการแย่งกันมายืนจ่ายเงินแถวหน้ากันแล้วตีกันหรือไม่?’

หวังทงคาดว่าจะรวบรวมเงินได้หนึ่งล้านสองแสนตำลึง สามารถรับประกันได้ว่าเทียนจินจะได้รับการพัฒนาต่อไป ยังสามารถประกันความเสี่ยงให้พ่อค้าที่เทียนจินอีกด้วย

ตอนนั้นแค่คิดตัวเลขไว้ จะรวบรวมได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ ตอนนี้ดูแล้ว คาดการไว้ต่ำไปแล้ว……

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version