Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 43

ตอนที่ 43 เมื่อขึ้นเขาฮั่วซานแล้วย่อมไม่มีหนทางให้หันหลังกลับ

“เข้าวังแต่อายุน้อย เอาแต่อ่านหนังสือในห้อง โชคดีที่ได้เข้ามาเป็นอาลักษณ์ให้กับ 12 สำนักขันที ทำได้ดี และรู้จักวางตัว สะสมคุณวุฒิไปทีละก้าวขึ้น…หากคงเป็นบารมีชาติก่อน เข้าตาหัวหน้าขันทีสำนักส่วนพระองค์ท่านก่อน จึงถูกส่งไปเป็นสหายร่วมเรียนที่ตำหนักบูรพา ก็นับว่าเป็นอีกก้าวสู่ตำแหน่งมีเกียรติแล้ว”

โจวอี้พูดออกมาแล้ว ก็มีท่าทีเปลี่ยนไป ตอนมาส่งมอบหนังสือ ยังมีมารยาทนอบน้อม รักษาท่าทีเคร่งครัด แต่บัดนี้กลับผ่อนคลายลงมาก เป็นตัวของตัวเองมาก ดูเหมือนกำลังเล่าเรื่องเก่าให้เพื่อนฟัง

“เจ้าคิดดู เติบโตมากับฮ่องเต้ ความสัมพันธ์นายบ่าวย่อมผูกพันแน่นหนา รัชทายาทขึ้นครองราชย์ ย่อมต้องใช้งานผู้ที่ไว้ใจได้ มีความเป็นไปได้สูงว่าสหายร่วมเรียนที่ตำหนักบูรพาจะได้เป็นหัวหน้าขันทีสำนักส่วนพระองค์ ดูและราชสำนักฝ่ายใน น้องหวัง ในเมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว จางกงกงของเราก็ควรได้เป็นหัวหน้าขันทีสำนักส่วนพระองค์ใช่หรือไม่?”

หัวหน้าขันทีสำนักส่วนพระองค์เป็นตำแหน่งอันดับหนึ่งของขันทีฝ่ายใน ทำหน้าที่ลงชาดสีแดงบนฎีกาแทนฮ่องเต้ อำนาจราวขุนเขา ส่วนใหญ่สถานะหัวหน้าขันทีสำนักส่วนพระองค์ยังสูงกว่ามหาอำมาตย์อีก กล่าวกันว่าใต้หล้าเป็นรองแค่เพียงโอรสสวรรค์เท่านั้นก็ดูจะไม่มากเกินไป

แต่หวังทงแม้ว่าจะรู้เรื่องในวังน้อย แต่ก็รู้ว่าตอนนี้หัวหน้าขันทีสำนักส่วนพระองค์คนปัจจุบันก็คือเฝิงเป่า และยังเป็นผู้บัญชาการสำนักบูรพาอีกด้วย…

“จางกงกงไม่อาจเป็นหัวหน้าขันทีสำนักส่วนพระองค์ หากตามสถานะตำแหน่งและวัยวุฒิแล้ว เป็นผู้บัญชาการสำนักบูรพาก็มีคุณสมบัติพอ แต่ก็ถูกเฝิงกงกงควบไปด้วย หากเจ้าเป็นจางกงกง จะทุกข์ใจหรือไม่?”

โจวอี้ถามอย่างผ่อนคลาย แต่หวังทงกลับพยักหน้ายิ้มฝืด ไม่กล้ารับคำ แต่ก็พอแอบเดาสีหน้าของจางเฉิงตอนบ่ายและสาเหตุที่มาช่วยเหลือยามค่ำคืนนี้ได้ โจวอี้ยังคงพูดต่อ

“เฝิงกงกงเป็นหัวหน้าขันทีสำนักส่วนพระองค์มาตั้งแต่รัชสมัยเจียจิ้ง ตอนนี้ก็สามรัชกาลแล้ว ไทเฮาไว้วางพระราชหฤทัย ฮ่องเต้ยำเกรง อำมาตย์จางก็ยังเป็นขุนนางเก่าแก่ในรัชสมัยเจียจิ้ง เป็นผู้รู้พระทัยอดีตฮ่องเต้ ตอนนี้เป็นพระอาจารย์ฮ่องเต้ คำพูดน่าเชื่อถือ ฮ่องเต้ยังต้องให้ความยำเกรง ในราชสำนักมีขุนนางเก่าแก่ที่ฮ่องเต้ยังต้องยำเกรงเช่นนี้ จะยังมีกิจอันใดให้จางกงกงของเราได้ทำอีกหรือ?”

เสียงกลองเสียงระฆังในวังดังมาถึงในห้อง หวังทงรู้สึกหนาวสั่นเล็กน้อย ที่สูงย่อมปะทะแรงลมหนาว หากล้มก็อาจตายได้ง่ายๆ ดูเหมือนตนเองไม่อาจหันหลังกลับแล้ว

“ทว่า เฝิงกงกงกับอำมาตย์จางอายุก็มากแล้ว ฮ่องเต้อายุยังน้อย เวลายังอีกมาก ผู้ใดได้ใกล้ชิดกับฮ่องเต้มาก ผู้นั้นก็จะยิ่งได้ประโยชน์มาก…จางกงกงรับใช้ใกล้ชิดทุกวัน แต่เขาก็เป็นมนุษย์ที่ไม่อาจหลีกหนีความชราไปได้ เรื่องบนโลกนี้ยากที่จะคาดเดา ไม่มีใครคาดคิดว่าฮ่องเต้จะได้พบกับน้องหวัง ไทเฮายังทรงชื่นชม”

พอกล่าวถึงตรงนี้ โจวอี้ก็หยุด มองหวังทงด้วยรอยยิ้มบางๆ หวังทงอึ้งไปครู่หนึ่งจึงได้สติกลับมาก ถอนหายใจ รู้สึกว่าในห้องหนาวเหน็บกว่าปกติ

เห็นอยู่ว่าเตาไฟตรงหน้ากำลังลุกโชน แต่ยามนี้ไม่ใช่อากาศเหน็บหนาวแต่เป็นใจเหน็บหนาว หวังทงยามนี้คิดเพียงเรื่องเดียว

‘ชาตินี้ต้องมีชีวิตที่โชติช่วง โลกนี้จะมีอำนาจวาสนามาอย่างไม่ต้องเสียอะไรที่ไหนกัน ลองกันดูสักตั้งจะเป็นไรไป’

ใจแน่วแน่แล้ว หวังทงก็กล่าวอย่างนิ่งสงบว่า

“พี่โจวโปรดเล่าให้ละเอียด ข้ากำลังฟังอยู่!”

“น้องหวังจิตใจความคิดระดับนี้ ไม่เหมือนกับอายุ 14 เลย จางกงกงรับใช้ฮ่องเต้ในวัง น้องหวังมีโอกาสอันดี นอกวังใกล้ชิดฮ่องเต้ให้มากหน่อย ในนอกประสานกำลัง รับใช้ฮ่องเต้ให้ดี น้องหวัง เจ้ายินดีหรือไม่?”

“ไยจะไม่ยินดี พี่โจว วานกล่าวขอบคุณจางกงกงแทนข้า ความหวังดีของกงกงข้าจะจดจำไว้ ไม่มีวันลืม จะต้องได้ตอบแทนบุญคุณ”

พูดคุยเรื่องยิ่งใหญ่เช่นนี้ หวังทงแม้ว่าจะแปลกใจและใจเต้นแรง แต่ท่าทีโดยรวมก็ยังคงสงบนิ่ง กล่าวได้ว่าจิตใจมั่นคงสงบนิ่งอย่างมาก

โจวอี้พยักหน้ารับยิ้มลุกขึ้นยืนยกมือปัดเสื้อผ้า กล่าวอย่างสบายใจว่า

“จิตใจของน้องหวัง จางกงกงเข้าใจแล้ว เวลายังอีกยาวไกล พวกเราค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน เวลานี้ดึกแล้ว ข้าต้องเข้าไปพักผ่อนแล้ว”

ยื่นมือเอาตำรับห้องเครื่องยัดเก็บ จากนั้นก็ล้วงเล่มหนาสีฟ้าไม่มีอักษรที่หน้าปกออกมาเล่มหนึ่ง วางบนโต๊ะกล่าวว่า

“จางกงกงได้ให้คนสนิทคัดลอกไว้ชุดหนึ่ง ชุดนี้น้องหวังก็เก็บเอาไว้ค้นหาข้อมูลเถอะ”

หวังทงสูดหายใจลึก หากเมื่อครู่ตนลังเลปฏิเสธ ฉบับคัดลอกเล่มนี้เกรงว่าคงไม่หยิบออกมา โจวอี้เดินไปทางเรือนด้านข้าง เดินไปสองสามก้าวก็หันมากล่าวว่า

“ในเมื่อเราพี่น้องได้รู้จักกัน มีคำพูดจริงใจสองสามประโยคอยากบอกว่า อาหารการกินอย่างไรก็เรื่องเล็กน้อย หรือน้องหวังอนาคตจะไปเป็นหัวหน้าห้องเครื่องให้ได้กัน”

หวังทงยิ้ม ไม่ตอบรับคำ นั่งอยู่ที่นั่นพลิกหนังสืออ่าน คืนวันนี้เขาไม่อาจเข้านอนเร็วได้ เตรียมงานการในครัวก็ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด

นับๆ ดูเวลาก็วันที่ 25 เดือนสิบสองแล้ว ยังอีก 5 วันจึงจะปีใหม่ บรรยากาศเฉลิมฉลองบนท้องถนนก็เริ่มคึกคักมากขึ้น พ่อครัวที่ร้านยุ่งจนไม่มีเวลาพัก แต่ก็ถูกนางหม่าและจางซื่อเฉียงตะโกนเรียกไป

เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ในใจทุกคนรู้สึกดีใจ เถ้าแก่บอกว่าบ่ายวันที่ 30 จะเริ่มหยุด วันที่ 7 ค่อยกลับมา นอกจากนี้ทุกคนอย่างน้อยยังได้เงินอีกคนละ 500 อีแปะ เนื้ออีก 20 ชั่ง ปีนี้ทุกคนในครอบครัวก็พลอยดีใจกันไปด้วย

ขันทีที่มีลำดับขั้นน้อยลงไปกว่าเมื่อวาน ราวกับว่ากลับสู่สภาวะลูกค้าปกติ ขันทีและองครักษ์ในวังใบหน้าเหน็ดเหนื่อย ยังมีคนสอบถามว่าสามารถห่อกลับไปกินในวังได้ไหม หรือไม่ก็เอาไปฝากเพื่อนที่เตรียมงานปีใหม่กันอยู่ในวัง

หวังทงตอนเปิดร้านได้เตรียมกล่องไม้บางๆ เอาไว้เป็นกล่องข้าวจริงๆ ตอนนี้ได้ใช้พอดี แต่วันรุ่งขึ้นต้องนำกล่องข้าวกลับมาคืนให้ใช้ซ้ำได้อีก

หลังจากลูกค้าคนแรกมาหอเลิศรสแล้ว โจวอี้ก็เปลี่ยนเป็นชุดขันทีระดับล่าง กลับเข้าวังไปรายงาน ได้คุยกันเมื่อคืนวานนี้ หวังทงจิตใจนิ่งสงบลงไปมาก

เหมือนกับทุกวัน เขานั่งอยู่ที่มุมร้าน ตอนเช้างานจะว่างอยู่สักหน่อย พอดีใช้เวลามาทำเรื่องส่วนตัว

ด้านหน้าหวังทงมีชายผู้หนึ่งนั่งอยู่ ข้างในสวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาล การแต่งกายเช่นนี้คนในเมืองหลวงคุ้นเคยกันดี ส่วนใหญ่เป็นพวกเลี้ยงม้าให้คนมีเงินนอกเมือง

“พี่หม่า เชิญนั่งๆ เราคนกันเอง เกรงใจกันทำไม!”

หวังทงรู้สึกเก้ๆ กังๆ ส่งเสียงทักทายไม่ขาดปาก คนเบื้องหน้าก็คือหม่าซานเปียวลูกชายนางหม่า บอกกันว่าเมื่อวานก็มาถึงแล้ว แต่ในร้านเกิดเรื่องราวมากมาย จึงไม่ได้เข้ามาทักทาย

ได้ยินหวังทงกล่าวเช่นนี้ หม่าซานเปียวก็ฉีกยิ้ม นั่งลงทันที ก้นยังไม่ทันแตะเก้าอี้ เบื้องหลังก็ได้ยินเสียงนางหม่าตำหนิเสียงดัง

“ซานเปียว ต่อหน้าเถ้าแก่อย่าได้ไร้มารยาท ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!!”

หม่าซานเปียวแม้มุทะลุ แต่ก็เป็นลูกกตัญญู ได้ยินเช่นนั้นก็ยืนขึ้นอีกครั้ง หน้ามุ่นอยู่ตรงนั้น หวังทงจำได้ว่าหลายปีก่อนเขาเคยแบกเล่นหยอกเล่นกันมา วันนี้อีกฝ่ายท่าทางนอบน้อมเช่นนี้ ก็รู้สึกไม่ชิน

ส่งเสียงกระแอมไป ก่อนจะพยายามหาเรื่องถามว่า

“พี่หม่า ได้ยินน้าหม่าบอกว่าพี่ถูกนายจ้างนอกเมืองทำร้าย เป็นอะไรหรือไม่?”

“ไม่เป็นไร โดนแส้ไปสามสี่ที ไอ้เลวที่ลงแส้ข้ามันต้องนอนแบ็บบนเตียงครึ่งเดือนเลยทีเดียว”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version