ตอนที่ 756 ปืนใหญ่ เครื่องดีดก้อนหิน
ทั่วสนามรบอยู่ๆ ก็ดังก้องไปทั่วด้วยเสียงยิงถล่มดังราวอสุนีบาต นี่ไม่ใช่แค่ฟ้าผ่าธรรมดา แต่เป็นสายฟ้าฟาดยาว ก่อนจะระเบิดดังสะเทือนไปทั้งแถบ ราวกับสายฟ้าฟาดผ่าพื้นปฐพีแยก
ทหารที่อยู่รอบละแวกปืนใหญ่ต่างรู้ตัวก่อน พากันอุดหูไว้ คนที่ไกลออกไปก็ได้ยินเสียงดังอึงทั่วในรูหู ทุกคนรู้สึกถึงพื้นดินสั่นสะเทือน ทหารราบที่อยู่ใกล้กองกำลังหู่เวยแตกตื่น กองทัพแตกตื่นเล็กน้อย
ไม่ว่าม้าของทหารหมิงหรือม้าพวกนอกด่านล้วนแตกตื่นตกใจ พากันส่งเสียงร้องและกระโดดไปมา ทหารม้าต้องกระชากไว้ด้วยแรงกำลังอย่างมากจึงทำให้สงบได้ ไม่เพียงแต่ม้าทหารม้าเท่านั้น แม้แต่สัตว์ลากรถของกองกำลังหู่เวยเองก็แตกตื่นเช่นกัน บรรดาคนขับรถต่างก็ต้องบังคับให้นิ่งสงบสุดแรงเช่นกัน
ทั้งคนและสัตว์ทางฝั่งกองกำลังหู่เวยปรับตัวกับเสียงปืนไฟดังได้ดีพอสมควรเพราะเคยเจอมาหลายครั้ง แต่ทางพวกนอกด่านนั้น ม้าหลายตัวเกรงว่าคงเป็นครั้งแรก
กองทหารม้าที่โจมตีปีกซ้ายกองกำลังหู่เวย หลายคนร่วงจากหลังม้า ถึงกับแม้แต่ตัวทหารม้าเองก็ยังตกใจแตกตื่นเช่นกัน วุ่นวายกันไปทั้งกอง
“หน่วยที่ 1 หน่วยที่ 2 ขึ้นหน้าไป 50 ก้าว พลปืนใหญ่ตามไป!!”
หลังจากสภาพการณ์สั่นสะเทือนกลับคืนมาสงบเป็นปกติ หรือจะเรียกให้ถูกก็คือหวังทงรู้สึกว่าคนอื่นๆ น่าจะตั้งสติได้หลังจากแตกตื่นกันแล้ว ก็ออกคำสั่งเสียงดังทันที ทหารถ่ายทอดคำสั่งข้างกายยังอึ้งอยู่ หากก็รีบวิ่งเข้าไปรับคำสั่งมาถ่ายทอดต่อ
สนามรบเงียบมาก แม้ว่ายังมีเสียงร้องฮึดฮัดของม้าที่บ้าคลั่งดังอยู่ข้างๆ หู แต่เสียงอื่นๆ นั้นไม่มี หวังทงมองไปทางฐานทัพฝั่งเมืองจี้โจว ทางนั้นก็หยุดรบเพราะเสียงปืนใหญ่ที่ยิงพร้อมกันเมื่อครู่ ตอนหวังทงมองไป ทางนั้นจึงเริ่มมีเสียงตะโกนสังหารกันดังขึ้นอีกครั้ง
ปืนประสุนหกชั่ง 15 กระบอกยิงพร้อมกัน ก็แค่กระสุนน้ำหนัก 6 ชั่ว 15 ลูกยิงไปยังค่ายศัตรูพร้อมกัน กระสุนเหล็กลอยดิ่งไปด้วยความเร็วเท่านั้น
อากาศหน้าหนาวพื้นดินแข็ง กระสุนเหล็กกระทบพื้นก็ย่อมกระเด้งขึ้น ก่อนจะลอยต่อไป จากนั้นก็ไปยังทิศทางที่เล็งไว้ กระเด้งอีกที หรือไม่ก็สองทีแล้วก็จะหยุดลง
หากมุมของปืนประสุนหกชั่งตั้งได้พอดี กระสุนปืนใหญ่ก็จะสามารถยิงได้ไกลถึง 600 ก้าวขึ้นไป แต่ครั้งนี้จุดหมายเล็งไปที่กองทหารม้านอกด่านที่ออกันหนาแน่น ดังนั้นปากกระบอกจึงได้กดลงเล็กน้อย
กระสุนเหล็ก 15 ลูกยิงลอยไปด้วยความเร็วสูง ไปตกอยู่ท่ามกลางทหารม้าพวกนอกด่านที่ออกันแน่น ในตำแหน่งที่เล็งนี้จึงแหวกเป็นเส้นทางเลือดเนื้อ 15 แนวยาว ไม่ว่าม้าหรือทหารม้าในชุดเกราะก็ไม่มีผู้ใดต้านทานกระสุนปืนใหญ่ในรัศมียิงนี้ได้ ร่างถูกกระสุนปืนใหญ่พุ่งทะลุผ่านหรือไม่ก็ถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆ
หลังเสียงถล่มราวอสุนีบาตเงียบลง ทหารม้าที่เผชิญหน้ากับสองหน่วยกองกำลังหู่เวยก็เบาบางลงไปมาก หูของทุกคนที่อื้ออึงตอนนี้ก็เริ่มได้ยินเสียงร้องโหยหวยดังประปราย เสียงร้องโหยหวนเช่นนี้ช่างทำให้รู้สึกสิ้นหวัง เพราะเสียงร้องก่อนตาย เสียงร้องหลังไร้แขนไร้ขา บนสนามรบนี้ไม่อาจมีชีวิตรอดต่อไปได้อีกแล้ว
ปืนใหญ่ยิงถล่มระลอกนี้ ทำให้ทหารม้าพวกนอกด่านหลายร้อยหรือมากกว่านั้นล้มตายสิ้น มีแต่ทหารม้านอกด่านที่โชคดีไม่มากนัก พวกเขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ รอจนได้สติก็ส่งเสียงร้องตะโกนดัง หากไม่วิ่งหนีและไม่วิ่งไปที่ใด กลับวิ่งเข้าใส่ทหารกองกำลังหู่เวย
สนามรบเริ่มมีเสียงเอะอะดังขึ้นอีกครั้ง แต่ทหารม้านอกด่านไม่มีผู้ใดคิดจะบุกเป็นกองหน้า หากพากันรีบดึงม้าตนเองไว้อย่างบ้าคลั่ง พากันวิ่งออกไปทางสองปีกข้าง สนามรบเบื้องหน้าว่างลง มันน่ากลัวเหลือเกิน หนีให้ยิ่งไกลก็ยิ่งดี
ดังนั้นจึงมีแค่ทหารม้าพวกนอกด่านไม่กี่คนที่โดดเดี่ยวเดียวดายมุ่งเข้าหากองกำลังหู่เวย พอเข้ามาใกล้ระยะหลายสิบก้าว เสียงปืนไฟดังขึ้น สังหารเรียบตามคาด
“หู่เวย!! หู่เวย!! หู่เวย!!”
พลทวนยาวกองกำลังหู่เวย ทุกก้าวที่ก้าวไปข้างหน้าก็จะตะโกนขึ้น ก้าวไปข้างหน้าด้วยความฮึกเหิม พลปืนไปค่อยๆ หลบออกสองข้างทางแล้วตามไป
ปืนใหญ่ 15 กระบอก สองข้างปืนใหญ่มีทหารสิบกว่านาย ร่วมกันร้องตะโกนพร้อมกับผลักดันปืนใหญ่ให้เดินหน้าไป ปืนประสุนเก้าชั่งถูกนำขึ้นรถใหญ่ผลักดันไปด้านหน้า
เห็นทหารราบกองกำลังหู่เวยค่อยรุกหน้ามา เมื่อครู่ทหารม้าพวกนอกด่านที่ยังไม่ได้เข้ามารับศึก กลับเริ่มไม่สงบนิ่ง ขบวนทัพเริ่มไม่เป็นขบวน
‘ตึง ตึง ตึง’ เสียงกลองหนังวัวดังขึ้น ใต้ธงเหลืองมีทหารม้า 10 กว่านายวิ่งออกมา มีบางคนถือธนูทองไว้ในมือ บางคนถือธง
“บุกขึ้นหน้าไป กำจัดปืนใหญ่ทหารหมิง พวกมันไม่อาจยิงระลอกสองได้ในเวลาอันสั้นนี้!!”
ทหารถ่ายทอดคำสั่งรีบตะโกนสุดเสียง นายกองร้อยและนายกองพันพวกนอกด่านก็ตะโกนตาม แยกย้ายกันไปสั่งการ เคลื่อนทหารม้าขึ้นหน้า อานุภาพปืนใหญ่พวกเขารู้ดี แต่ขอเพียงตีกองกำลังปืนใหญ่แตกพ่ายได้ ทหารหมิงก็ไม่อาจใช้วิธีนี้รบต่อได้อีก
เห็นนายกองพันภายใต้เสื้อคลุมตัวนอกเป็นเกราะออกมาตั้งแถวรบ โบกสะบัดดาบยาวในมือ มีหัวหน้านายทัพนำกำลังเช่นนี้ ทำให้ทหารม้าพวกนอกด่านที่ตกใจและเสียขวัญเริ่มฮึกเหิมอีกครั้ง
ทหารม้ามารวมตัวกัน แบ่งกำลังเป็นหลายกอง เริ่มมุ่งไปยังสองหน่วยกองกำลังหู่เวยและกองปืนใหญ่ เดินไป 50 ก้าว ทหารราบหยุดเดิน พลปืนใหญ่ที่ห่างออกไป 10 กว่าก้าวก็เริ่มตามมาทัน
เห็นทหารม้าที่กรูกันมาด้านหน้า หวังทงตะโกนสั่งการดัง
“หน่วยที่ 1 คุ้มกันปืนใหญ่ หน่วยที่ 2 เดินหน้าต่อไป!!”
ทหารถ่ายทอดคำสั่งลงไป หลี่หู่โถวหัวหน้าหน่วยที่ 1 ก็ออกคำสั่ง สะบัดธงไปมา เสียงคำสั่งและเสียงกลองถ่ายทอดไปยังทหารทุกนาย
พลปืนไฟกับพลทวนยาวหน่วยที่ 1 ขวาหันพร้อมเพรียง มาบังหน้าปืนใหญ่ จากนั้นก็ซ้ายหันไปเผชิญกับสนามรบอีกครั้ง ทหารม้ามุ่งมาด้านข้าง
ทหารม้าพวกนอกด่านล้วนรู้ว่านี่คือโอกาส โจมตีกองกำลังปีกข้างเป็นมุมโจมตีที่เหมาะที่สุด แต่ทหารม้าทุกคนต่างพากันผ่อนความเร็วม้าไม่ทันรู้ตัว
สามารถมาอยู่ในสถานการณ์เบื้องหน้าเช่นนี้ มาอยู่บนสนามรบที่เคร่งเครียดเช่นนี้ ตั้งรูปทัพเช่นนี้ได้ และยังเรียบร้อยเป็นระเบียบยิ่ง ไม่เห็นความลนลานหรือชุลมุนแม้แต่น้อย นี่มันกองกำลังอะไรกัน แกะตัวน้อยๆ บนแผ่นดินหมิงเปลี่ยนไปเมื่อใดกัน หากผ่อนความเร็วก็ผ่อนความเร็วไป อย่างไรก็ยังคงเดินหน้า มุ่งเข้าสู่รัศมียิงของปืนไฟ
“ยิง!”
แม้ว่าทหารม้าพวกนอกด่านฟังภาษาจีนไม่เข้าใจแต่ก็เข้าใจความหมาย คำนี้แสดงความหมายว่าสังหารและความตาย เสียงระเบิดดังติดๆ กัน แม้ว่าไม่ได้ดังเหมือนเมื่อครู่ แต่ก็ยังสังหารคนได้อยู่ดี
กองซากม้าและศพคนล้มลงเบื้องหน้า ม้าไม่อาจลุกขึ้นได้อีก ความเร็วม้าวิ่งเช่นนี้ไม่อาจทำอันใดพลปืนไฟได้ ต่อหน้าพลปืนไฟกองกำลังหู่เวยก็เป็นได้แต่เป้ายิงที่ส่งมาให้ยิงถึงที่เท่านั้น
ทหารม้ากับม้าส่งเสียงร้องก่อนล้มลงกลิ้งไปมากับพื้น แต่การบรรจุดินปืนและเชือกชนวนก็เป็นเรื่องยุ่งยาก การแบ่งยิงสองปีกก็ทำให้กำลังยิงปูพรมได้น้อยลง ทหารม้าพวกนอกด่านยังคงมุ่งเข้าใส่ทหารราบหน่วยที่ 1 พลทวนยาวยังคงยืนหยัด ไม่เปิดช่องว่างให้ทะลุผ่านไป
“พี่น้องหน่วยที่ 1 บังอยู่ด้านหน้าเราแล้ว พี่น้องเราเร่งมือบรรจุกระสุน สังหารศัตรูตีเมืองยังต้องพึ่งพาพี่น้องเรา เร่งมือหน่อย จะได้ให้พี่น้องหน่วยที่ 1 เราได้พักผ่อนสักครู่”
มู่เอินเร่งปืนใหญ่ไปก็ตะโกนดังไป ตอนนี้หน่วยที่ 2 ยังเดินหน้าต่อ หน่วยที่ 1 กับหน่วยที่ 2 เปิดช่องตรงกลาง หน่วยที่ 1 หันไปคุ้มกันปืนใหญ่ ปีกข้างหน่วยที่ 2 ก็เปิดพื้นที่ให้ศัตรูโจมตี แต่ทหารม้าหม่าซานเปียวก็เข้ามาเติมเต็มที่ว่างได้ทันเวลา
ทางค่ายรถศึกกองกำลังหู่เวยนั้น หวังทงไม่ได้มีเวลาสนใจแม้แต่น้อย พวกนอกด่านที่โจมตีค่ายรถศึกถูกปืนไฟกับปืนประสุนสามชั่งขับไล่ออกไปนอกระยะ 200 ก้าวแล้ว ไม่อาจเข้าใกล้ได้อีก
สนามรบแบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งทางกองกำลังหู่เวย อีกหนึ่งทางกองกำลังเมืองจี้โจว ต่อสู้กันดุเดือด สองทางล้วนถูกโจมตี แต่ก็ไม่อาจจัดกำลังมาโจมตีให้มากขึ้นอีกได้ เพราะกำลังพวกเขาเองก็ใช่ว่าไร้จำกัด
“จางอู่!!ปืนประสุนเก้าชั่งส่งไปทางเมืองจี้โจว เล็งยิงเครื่องดีดหินนั่น หม่าซานเปียวนำทหารม้าคุ้มกัน!!”
เดิมคิดว่าต้องใช้ปืนประสุนเก้าชั่งมายิงปืนใหญ่หุยหุย ตอนนี้ดูแล้วปืนประสุนหกชั่งก็พอ บนสนามรบนั้นแม่ทัพต้องปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์รบ
ทางนั้นรับคำสั่ง กำลังจัดสัตว์เข้าลากปืนไปเพิ่งเสร็จ ยังไม่ทันสั่งการให้เคลื่อนที่ ทัพม้าหม่าซานเปียวก็เปลี่ยนรูปทัพ ทหารม้า 400 คุ้มกันสองข้างปืนใหญ่
เครื่องดีดก้อนหินหลายเครื่องประกอบเสร็จแล้ว หวังทงกวาดตามองไป เห็นทางด้านหน้าของทัพเมืองจี้โจว มีสามเครื่องประกอบเสร็จแล้ว กระสุนหินกำลังค่อยๆ ยกสูงขึ้น แต่ทิศทางฝั่งกองกำลังหู่เวย อาจเป็นเพราะการต่อสู้ดุเดือดหรืออะไรก็ตาม หรือว่าการยิงปืนใหญ่ครั้งเมื่อครู่ ทำให้การประกอบเครื่องดีดก้อนหินช้าลง
หวังทงแอบสบถด่าในใจ ตะโกนไปว่า
“พลปืนใหญ่เร่งความเร็ว ปืนไฟหน่วยที่ 1 ระดมยิงเสร็จ วิ่งมาทางด้านซ้ายของกองปืนใหญ่!!”
คำสั่งลงไป พลปืนไฟแถวที่หนึ่งหยุดยิง แถวที่หนึ่งวิ่งกลับ แถวที่สองก็เข้าคุกเข่าแทนที่ แถวสามย่อตัว แถวสี่ยืดตัวตรง ปืนทั้งหมดเตรียมพร้อมยิง
ทหารม้าพวกนอกด่านบุกขึ้นหน้ามาตอนปืนไฟหยุดจังหวะแถวหนึ่ง จากนั้นพอได้ยินเสียงคำสั่ง ก็มีเสียงยิงดังสนั่นไม่หยุด หน่วยที่ 1 ปืนไฟ 600 ยิงพร้อมกัน
แม้อานุภาพไม่เท่าปืนใหญ่ แต่ก็อานุภาพก็ไม่น้อย ทหารม้าพวกนอกด่านที่เพิ่งกลับมาโจมตีถูกยิงกระหน่ำกันจนต้องหยุดบุกขึ้นหน้า ไม่ใช่ว่าทหารม้านอกด่านทุกคนจะไม่กลัวตาย กล้าจะบุกขึ้นหน้า มาถึงตอนนี้ กองพันที่กล้าหาญถูกยิงล้มไปหลายคน คนที่เหลือก็เริ่มลังเลไม่กล้าขึ้นหน้ามาต่อ
เห็นทหารหมิงที่เมื่อครู่ขวางตนเองอยู่เปิดทางออก ทหารม้าพวกนอกด่านก็ยังแปลกใจ ทันใดนั้นก็เห็นปืนใหญ่ด้านหลังทหารราบที่แหวกทางออก แม้พวกเขารู้ว่าการเตรียมปืนใหญ่ให้พร้อมยิงไม่น่าเร็วอย่างนั้น แต่ปากกระบอกทุกกระบอกก็เล็งมายังทหารม้าด้านหน้า ทุกคนจึงพากันแยกตัวออกไปยังสองข้าง
“ยิง!!”
ปืนใหญ่ทยอยยิงดัง เครื่องดีดก้อนหินในรัศมียิงถูกกระสุนปืนใหญ่ถล่ม ยิงล้มระเนระนาด ระยะห่างแค่นี้ ฐานกำลังพวกนอกด่านย่อมอยู่ในรัศมียิง
ทิศทางที่เมืองจี้โจวเผชิญนั้น เครื่องดีดก้อนหินที่ประกอบเสร็จถึงยอดแล้วก็กระดกไม้ขึ้น กระสุนหินบนปลายท่อนไม้ยิงเข้าใส่ค่ายรถศึกเมืองจี้โจว……