Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 121

№ 121 ข้าจ่ายค่าเหล้าให้!

“ตาแก่นี่เป็นอะไรไป? ก็เอาเหล้าให้เจ้าแล้วไม่ใช่หรือ? ไยจึงเททิ้งเสียเล่า?”

เจ้าของร้านถลึงดวงตา แม้แต่น้ำเสียงยังตรงไปตรงมา สวรรค์รู้ดีว่าตาแก่นี่ที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนมานั่งตรงประตูร้านเขา ไม่ให้เหล้าก็ไม่ยอมไป พอเอาเหล้าให้ กลับเททิ้งอีก ทำเขาร้อนใจแทบตายเลยจริงๆ!

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งมุ่ยปาก เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ใครใช้ให้เจ้าไม่เอาเหล้าดีๆ มาให้ข้าเล่า? เหล้าพวกนี้จางราวกับน้ำเปล่า เจ้าอาจดื่มลง แต่ข้าดื่มไม่ลงหรอก!”

เจ้าของร้านโกรธเสียจนชี้นิ้วตะคอกเขาเสียงดัง “เจ้า เจ้าตาแก่นี่! เป็นคนบ้านใดกันแน่? ไยจึงไร้เหตุผลเช่นนี้? เจ้าไม่จ่ายเงินยังอยากดื่มเหล้าดีๆ อีกรึ? เจ้าควรดีใจที่ข้ายกเหล้าพวกนั้นให้ ก็ยังไม่รู้จักพอ! ข้าขอเตือนเจ้าไว้ หากยังไม่ไป ข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแน่!”

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งถือน้ำเต้าเหล้าเหวี่ยงเคาะไปบนหัวเจ้าของร้านทีหนึ่ง สั่งสอนด้วยน้ำเสียงเข้มงวด “หยาบคายยิ่งนัก หรือพ่อแม่เจ้าไม่เคยสั่งสอนว่าไม่ให้ชี้นิ้วใส่ผู้ใหญ่? ช่างเหิมเกริมเสียจริง บังอาจเกินไปแล้ว”

ผู้คนรอบด้านที่มองกันคึกคักฟังคำพูดนี้ ก็ส่งเสียงหัวเราะพรวดออกมาอย่างอดไม่ได้

เจ้าของร้านสีหน้าแดงก่ำ มีแม้แต่ใจจะร้องไห้คร่ำครวญ “ท่านผู้เฒ่า ข้าขอร้องท่านยังไม่พออีกรึ? ท่านทำตัวดีๆ แล้วรีบไปเสียเถิด! รีบกลับบ้านไปซะ อย่าได้ขวางข้าทำมาหากินเลย ธุรกิจข้าเล็กๆ เพียงนี้ ท่านมานั่งตรงประตู จะทำงานได้เช่นไรเล่า?”

“กลับบ้านรึ?” ชายชรากอดน้ำเต้าเอียงศีรษะเล็กน้อย ขมวดคิ้วคิดๆ ดู เอ่ยว่า “ข้าอยู่บ้านไหน? เหมือนจะลืมสิ้นเสียแล้ว”

ได้ยินคำพูดนี้ เจ้าของร้านก็คุกเข่าลงทันใด

เขาโผเข้าไปกอดขาท่านผู้เฒ่าเฟิ่งพลางร้องไห้อ้อนวอน “ท่านผู้เฒ่า ข้าขอร้องท่าน อย่าได้อยู่ถ่วงแข้งถ่วงขาตรงนี้เลย ขอขมาท่านด้วย ข้าไม่ควรขึ้นเสียงและหยาบคายกับท่าน ผู้ใหญ่อย่างท่านอย่าเอาเรื่องข้าน้อยเลยนะ รีบกลับบ้านไปเสียเถิด!”

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งสีหน้าดื้อรั้น กล่าวอย่างไม่ชอบใจ “น่าสมเพชจริงๆ! เรื่องเล็กแค่นี้ก็คุกเข่า? ซ้ำยังร้องไห้อีก? เจ้าไม่รู้จักคำว่าชายชาตรีหลั่งเลือดไม่หลั่งน้ำตารึ? ดูสิ เจ้ากลายเป็นอะไรไปแล้ว? ช่างดูไม่ได้เอาเสียเลย ข้าไม่มีหน้าจะมองเจ้าหรอก”

ระหว่างที่พูดก็ไม่ลืมตาขึ้นจริงๆ ไม่หันไปมองเขา แค่โยนน้ำเต้าเหล้าใส่อ้อมแขนเจ้าของร้าน “ไปซะ ชงเหล้าดีๆ มาให้ข้าสักครึ่งขวด ต้องเป็นเหล้าชั้นดี ต่ำกว่านั้นข้าไม่ดื่ม”

ผู้คนรอบๆ ต่างมองเจ้าของร้านอย่างเห็นใจอยู่บ้าง จึงมีคนตะโกนว่า “ข้าว่า เจ้ารินเหล้าดีๆ ให้ท่านผู้เฒ่าไปเถอะ! เห็นเสื้อผ้าที่สวมบนตัวแล้ว คงไม่ใช่ผู้อาวุโสธรรมดาๆ เป็นแน่ ยังกลัวเขาจะเบี้ยวค่าเหล้าเพียงเล็กน้อยนั่นอีกรึ”

“ก็ใช่ๆ ไม่เบี้ยวค่าเหล้าเจ้าหรอก”

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งหรี่ตายิ้มพยักหน้า พลางเร่งเร้า “เร็วหน่อย ข้าอยากเหล้าแทบคลั่งแล้ว”

เจ้าของร้านลังเลสักพัก ถึงจะถือน้ำเต้าเหล้าเข้าไปชงเหล้าด้านใน ด้วยกลัวว่าเขาจะเททิ้งอีก ดังนั้นรอบนี้จึงเป็นเหล้าดีชั้นหนึ่งจริงๆ

ขณะที่เติมเหล้าไปอย่างเจ็บใจ พลางคิดว่าสุดท้ายผู้เฒ่าท่านนั้นจะจ่ายเงินไหวหรือไม่? และเป็นคนบ้านไหนกันแน่?

พอเติมเหล้าเสร็จออกมา เจ้าของร้านก็ยื่นน้ำเต้าเหล้าให้เขาอย่างลังเล พลางเอ่ยถาม

“ท่านผู้เฒ่า ท่านเป็นคนบ้านไหนกันแน่น่ะ?”

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งฉวยน้ำเต้าเหล้ามา ยังไม่หันมองเขาแม้แต่แวบเดียว

“เมื่อครู่เพิ่งบอกไม่ใช่หรือ? ว่าอยู่บ้านไหนข้าก็ลืมไปแล้ว แต่วางใจเถอะ ข้าไม่เบี้ยวค่าเหล้าเจ้าหรอก”

ขณะที่พูดก็ลุกยืนขึ้นมา ปลดถอดเสื้อผ้าพลางเอ่ยว่า

“เสื้อผ้านี้มีราคา ข้าให้เจ้าเป็นค่าเหล้าแล้วกัน”

เจ้าของร้านร้องไห้หน้าบูดบึ้ง

“ข้าเอาเสื้อผ้าท่านไปก็เปล่าประโยชน์!”

“ข้าจ่ายค่าเหล้าเขาเอง”

………………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version