Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 162

№ 162 ข้าจะถอนหมั้น!

เฟิ่งจิ่วยิ้มอย่างอดไม่ได้ สายตากวาดมองแปดคนนั้นที่มองมา แล้วเอ่ยว่า “หลานจะเก็บป้ายไว้ ส่วนพวกเขา รอหลานว่างๆ ค่อยว่ากัน” สิ้นสุดน้ำเสียง ก็เคลื่อนก้าวเดินออกไป

เธอที่กลับมาถึงจวนตระกูลเฟิ่งลงมือสะสางคนที่ซูรั่วอวิ๋งทิ้งไว้ เวลาสั้นๆ แค่สามวัน ก็จัดระเบียบภายในจวนทั้งหมดใหม่ และในเวลาสามวันนี้ ร่างกายเฟิ่งเซียวก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมา

เช้าตรู่วันนี้ เฟิ่งจิ่วรำไทเก๊กอยู่ในสวน เห็นเหลิ่งซวงเดินเข้ามา “นายท่าน ท่านอ๋องสามมาหา บอกว่าอยากพบท่าน ท่านผู้เฒ่าจึงให้ท่านไปพบเจ้าค่ะ!”

เธอเก็บมือลงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะบอกว่า “รู้แล้ว ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าค่อยออกไป” ระหว่างพูดก็เดินเข้าไปในห้อง ฝีเท้ากลับชะงัดลง ถามว่า “จริงด้วย หลายวันนี้พี่ชายข้าอยู่ตลาดมืดเป็นเช่นไรบ้าง?”

“คุณชายสบายดีเจ้าค่ะ นายท่านไม่ต้องกังวล ทางตลาดมืดด้านนั้นข้ากำชับไปแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม งั้นก็ดี” นางถึงจะพยักหน้า หลังจากเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดก็เดินออกมา พาเหลิ่งซวงไปยังห้องโถงด้านหน้า

ในห้องโถงด้านหน้า

“อี้เซวียนเอ๊ย! ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งกาจนัก และข้าก็พอใจเจ้ามาก แต่แม่หนูเฟิ่งพูดถึงเพียงนี้ ข้าเป็นแค่ปู่ ปกติก็พูดอะไรไม่ได้มาก ดังนั้น วันนี้ข้าจึงบอกเจ้าไว้ก่อนเสียหน่อย วันหน้าข้าจะเข้าวังไปกราบเรียนกับท่านเจ้าแคว้นว่าจะยกเลิกการแต่งงานของพวกเจ้า”

ได้ยินเช่นนี้ มู่หรงอี้เซวียนก็มองเขา กล่าวว่า “ท่านปู่เฟิ่งขอรับ ท่านอย่าเพิ่งเข้าวังไปก่อน รอข้าคุยกับชิงเกอแล้วค่อยว่ากันนะขอรับ!”

วันนั้นเป็นเขาที่อยากยกเลิกงานแต่ง ตอนนี้กลับเป็นนางที่อยากยกเลิก เพราะเขาจำนางไม่ได้ จึงโกรธเคืองเขารึ?

“ท่านปู่”

เสียงหนึ่งลอยเข้ามาจากด้านนอก มู่หรงอี้เซวียนหันกลับไปมอง พอเห็น สายตาก็หรี่ลงเล็กน้อย

สาวน้อยชุดขาวเดินย้อนแสงเข้ามา ท่วงท่าสละสลวย กลิ่นอายประกายสง่างามทำให้ทั่วร่างดูงดงามราวนางฟ้า แต่เมื่อเห็นใบหน้านั้น ความตื่นตาก่อนหน้านี้กลับสูญสลายตามไปอย่างไร้ร่องรอย

นั่นคือใบหน้าที่เต็มไปด้วยแผลเป็น มองรูปลักษณ์เดิมไม่ออก ผิวหนังบนใบหน้าแทบจะถูกทำลายสิ้น น่าสยดสยองยิ่งนัก ขนาดเขาเห็น หัวใจยังห่อเหี่ยวอย่างอดไม่ได้

มีทั้งความเจ็บปวด ความสงสาร ความตกใจและความตกตะลึง

เขาไม่เคยรู้ ว่าใบหน้านางจะเสียโฉมไปหมดเช่นนี้…

“แม่หนูเฟิ่ง เจ้ามาแล้วรึ?”

ท่านผู้เฒ่ามองนาง ดวงตาหรี่ลง เผยรอยยิ้มออกมา เขายืนตัวขึ้นมองไปที่มู่หรงอี้เซวียน เอ่ยว่า “พวกเจ้าสองคนลองคุยกันดีๆ เถิด!” ระหว่างที่พูด ก็เดินออกไปก่อน

“ชิงเกอ พวกเราแต่งงานกันเถอะ!” เขามองนาง พลางบอกเจตนารมณ์ออกมา

ฟังเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วก็เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง กล่าวว่า “หรือท่านปู่ยังไม่ได้บอกท่าน ว่าข้าต้องการถอนหมั้น?” เธอเดินมานั่งลงตรงตำแหน่งที่นั่งอาวุโส แล้วคนรับใช้ก็ยกน้ำชามาให้

“ข้าไม่สนใจที่ใบหน้าเจ้าเสียโฉม” เขานึกว่า เพราะใบหน้านางเสียโฉมถึงอยากถอนหมั้น อันที่จริง เมื่อก่อนนางเชื่อใจเขา ความรู้สึกเช่นนั้น แค่บอกจะตัดใจก็ตัดเลยได้อย่างไรเล่า?

ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งจิ่วก็ยิ้ม “ข้าว่าท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้จะถอนหมั้นเพราะใบหน้าเสียโฉม แต่เพราะข้าเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้รักท่าน ดังนั้นจึงอยากถอนหมั้น”

น้ำเสียงเธอเฉยเมย ท่าทางมีความสง่างามและเฉื่อยชา ไม่มีความกระวนกระวายและน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องเผยใบหน้าเสียโฉมต่อหน้าเขาเลยสักนิด

“ข้าไม่เชื่อ”

แววตาเขามองมั่นที่นาง “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าไม่รักข้า ความรู้สึกตั้งหลายปีนั้นของพวกเรา แค่บอกว่าไม่รักก็จะไม่รักกันได้อย่างไรเล่า?”

เฟิ่งจิ่วมองเขาแปลกๆ บอกว่า “เดิมทีท่านก็คิดจะถอนหมั้นไม่ใช่รึ? แล้วมันมีอะไรต่างกันรึ?”

………………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version