Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 163

№ 163 รับมือกับหมัด!

“นั่นไม่เหมือนกัน” แววตาที่เคลือบแฝงด้วยความรู้สึกลึกซึ้งมองนิ่งที่นาง “เพราะนั่นเป็นซูรั่วอวิ๋น ไม่ใช่เจ้า”

“หึ!”

เธอหลุดหัวเราะออกมา กระตุกปากพูดว่า “ผู้ชายคนไหนไม่รักความสวยงามเล่า? อย่าได้บอกข้า ว่าตอนที่เห็นข้าในป่าต้นท้อท่านไม่ตะลึง? ตอนที่พบข้าบนถนนท่านไม่ประหลาดใจ? หากคำพูดบุรุษน่าเชื่อถือ แม่หมูก็ปีนต้นไม้ได้”

“ชิงเกอ…”

หลังจากเธอดื่มน้ำชาก็ยืนขึ้น เดินมาตรงหน้าเขา เอ่ยว่า “เรื่องแต่งงานข้ายกเลิกแน่นอน ไม่ใช่เพื่อปรึกษา แต่เพื่อบอกกล่าว ให้ท่านได้เตรียมใจ” สิ้นสุดน้ำเสียง เธอก็เรียกขึ้น “คนรับใช้ ส่งแขก!”

คนรับใช้ด้านนอกเดินเข้ามา บอกกับมู่หรงอี้เซวียนว่า “ท่านอ๋องสาม เชิญขอรับ!”

มู่หรงอี้เซวียบเงียบไป หลังจากมองลึกที่นาง ก็เอ่ยว่า “ข้าจะ…ข้าจะตามหายามารักษาแผลเป็นเพื่อเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารู้ ว่าหัวใจที่ข้ามีให้เจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง” พูดจบ ถึงจะสาวก้าวเดินออกไป

เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า ถอนใจเบาๆ อยู่ในใจ ‘น่าเสียดาย เฟิ่งชิงเกอที่รักเขาคนนั้นตายไปแล้ว ต่อให้เขาทำอะไรมากมายไปก็เปล่าประโยชน์…’

จากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องโถงหน้า ไปยังเรือนด้านหลัง มาถึงลานเรือนเฟิ่งเซียว เห็นท่านผู้เฒ่ากับท่านพ่อกำลังจิบชาพูดคุยกัน จึงขานเรียก “ท่านปู่ ท่านพ่อ”

“ชิงเกอ ได้ยินว่าอี้เซวียนมา พวกเจ้าสองคนคุยกันเป็นเช่นไรบ้าง?” เฟิ่งเซียวถามอย่างเป็นห่วง เห็นใบหน้าลูกสาวถูกทำลาย หัวใจก็หดหู่เจ็บปวด

ลูกสาวเขา ใบหน้านั้นเสียโฉมเช่นนี้…

ล้วนเป็นการละเลยหน้าที่ของเขาในฐานะพ่อ ที่ไม่ได้ปกป้องลูกสาวให้ดี ถึงทำให้นางลำบากมากมายเพียงนั้น

“ไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านปู่ ท่านหาเวลาไปบอกกับท่านเจ้าแคว้นเสียหน่อย จากนั้นค่อยยกเลิกงานแต่งนี้” เธอเดินมานั่งลงข้างโต๊ะ มองที่เฟิ่งเซียว “ท่านพ่อ ร่างกายท่านยังไม่สบายอยู่หรือไม่เจ้าคะ?”

“ไม่เลย พ่อสบายดี ร่างกายฟื้นตัวเร็วมาก” เฟิ่งเซียวเผยรอยยิ้มพูดขึ้น ไม่ให้เธอต้องกังวล

“อืม ยาพวกนั้นยังต่อดื่มต่อนะเจ้าคะ” เธอบอกยิ้มๆ อยู่พูดคุย หยอกล้อเป็นเพื่อนสองท่านในสวน สักพักถึงจะกลับเรือนไป

กลับถึงเรือนไม่นาน เหลิ่งซวงก็เดินเข้ามา

“นายท่าน…” กำลังจะปริปาก เหลิ่งซวงก็เห็นชายหนุ่มชุดฟ้าเดินไปมาอยู่นอกเรือน จึงหยุดคำพูดลงชั่วคราว

เฟิ่งจิ่วในเรือนมองตามสายตานางไป เห็นชายหนุ่มชุดฟ้าชะโงกหัวด้อมๆ มองๆ อยู่ตรงนั้น เห็นเช่นนี้ ก็เลิกคิ้วขึ้น “เจ้าทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ?”

“แหะๆ แค่เดินเล่นว่างๆ ไม่มีอะไร” เขาคลี่ริมฝีปากยิ้ม สายตาจ้องมองตรงยังใบหน้านางที่ไม่มีอะไรปกปิด แปลกใจนิดหน่อย

ได้ยินว่าหลังคุณหนูใหญ่กลับมา ก็ปลดผ้าคลุมบนหน้าลงมา เผยให้เห็นใบหน้าเสียโฉม เดินไปมาอยู่ในเรือนทั้งวัน เดิมทียังไม่เชื่อ นึกไม่ถึงว่าเป็นเรื่องจริง

“ว่างไม่มีอะไรทำ?”

มุมปากเธอยกขึ้นน้อยๆ มองเขาเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “จะว่าไปแล้ว พวกเจ้ายังไม่ยอมรับข้าสินะ!”

“คุณหนูใหญ่หวังให้พวกเรายอมรับท่านเป็นผู้นำรึ? แหะๆ เดาว่าคงยากอยู่นิดหน่อย” เขาพูดตรงไปตรงมายิ่งนัก ไม่ไว้หน้าสักนิด

“นายท่าน” เหลิ่งซวงพูดเสียงเบาใกล้ๆ ข้างหูนางไม่กี่ประโยค จากนั้นจึงถอยออก

หลังฟังคำพูดเหลิ่งซวง ในดวงตาเฟิ่งจิ่วก็ฉายแววเป็นประกาย สายตาจับจ้องบนร่างชายหนุ่มชุดฟ้า ทว่าคำพูดกลับเอ่ยกับเหลิ่งซวง “อืม เจ้ากลับไปเถอะ บอกว่าข้าตกลง”

“เจ้าค่ะ” หลังเหลิ่งซวงขานรับก็เดินจากไป

เฟิ่งจิ่วสาวก้าวเดินไปด้านหน้า มาถึงเบื้องหน้าชายหนุ่มชุดฟ้า ก่อนจะชกหมัดออกไปอย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้า…

……………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version