Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 173

№ 173 เจ้าทำอะไร!

พินิจมองภูตหมอที่สวมหน้ากากอยู่ตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายอย่างอดไม่ได้ เพราะเห็นใบหน้าได้ไม่ชัดเจน ดังนั้นจากคำพูดท่าทาง เดายังไงก็อายุยี่สิบห้าได้! แต่ใครจะรู้ เขาเพิ่งบอกว่าตัวเองอายุสิบ สิบห้ารึ?

เวลานี้ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัย ถูกต้องแล้วจริงๆ หรือที่จะฝากชื่อเสียงของตลาดมืดปีนี้ไว้กับตัวเขา?

ขณะที่ประมุขเคอกำลังเช็ดปาดเหงื่อที่ไหลบนหน้าผาก หลิงโม่หานก็มองลึกไปที่เฟิ่งจิ่ว เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจำเขาได้ และรู้ว่าเขาคือคนชุดดำที่บุกเข้าบ่อน้ำพุร้อนในคืนนั้น

ชายวัยกลางคนท่านหนึ่งสาวก้าวย่างเดินเข้ามา สายตากวาดมองเฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงอย่างดูถูก จากนั้น ค่อยมองไปทางประมุขเคอพร้อมยกยิ้ม “สิบห้ารึ?”

“เหอะๆ ท่านประมุขเคอ ท่านไปหาเจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่มาจากที่ใดรึ? หรือว่าตลาดมืดพวกท่านไม่มีคนแล้ว? ถึงได้เชิญเด็กน้อยเช่นนี้มาเข้าร่วมงานแข่งปรุงยาทิพย์? ไม่กลัวว่าถึงเวลาจะทำเสียหน้าตลาดมืดรึ?”

ประมุขเคอฟังคำพูดนี้ แววตาแหลมคมที่มีอำนาจก็กวาดมองไปทางชายวัยกลางคนผู้นั้น เอ่ยอย่างไม่ไว้หน้าว่า “เรื่องของตลาดมือเรา เหมือนจะยังให้ใต้เท้ามาวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้กระมัง!”

“เหอะๆ ตลาดมืดพวกท่านแพ้ติดต่อกันสามปีแล้ว อารมณ์ท่านประมุขเคอข้าเข้าใจได้”

ชายวัยกลางคนมองยุแหย่เขา จากนั้นค่อยดึงตัวชายหนุ่มอายุราวสิบแปดสิบเก้าทางด้านหลังมา พลางยิ้มให้หลิงโม่หานอย่างเอาใจ กล่าวว่า “ท่านอาจารย์หลิง นี่คือลูกชาย…”

คำเขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกตัดบทเสียแล้ว

หลิงโม่หานเห็นแล้วก็ไม่มองพ่อลูกคู่นั้น เพียงวางสายตาไว้บนร่างเฟิ่งจิ่ว เอ่ยว่า “น้องชาย งานแข่งปรุงยาทิพย์ยังไม่เริ่ม ไม่สู้เดินเป็นเพื่อนข้าหน่อยไม่ดีกว่ารึ?”

“ได้ขอรับ” เธอยกมุมปากขึ้นยิ้ม บอกกับประมูขเคอว่า “ประเดี๋ยวการแข่งเริ่มข้าจะกลับมา”

ประมุขเคอมองหลิงโม่หานอย่างประหลาดใจ แล้วมองๆ เฟิ่งจิ่ว ถึงจะตอบรับ “ได้ขอรับๆๆ พวกท่านไปกันเถิด!”

มองพวกเขาสองคนหนึ่งแดงหนึ่งดำเดินไปทางภูเขาด้านนั้น ก็สงสัยในใจ หรือว่าสองคนนี้รู้จักกัน?

“เจ้ากับตลาดมืดมีความสัมพันธ์อะไรกันรึ?”

หลิงโม่หานถาม มองหนุ่มน้อยชุดแดงที่เตี้ยกว่าเขาท่อนหนึ่ง ขมวดคิ้ว มิน่าถึงได้เรียกเขาท่านอา พอยืนอยู่ด้วยกัน ช่างคล้ายเด็กน้อยที่ยังไม่โตจริงๆ ด้วย

“ก็อย่างที่ท่านเห็น พวกเขาเชิญข้ามาช่วยงาน เพื่อช่วยพวกเขาชิงที่หนึ่งกลับมาขอรับ” เธอกล่าวอย่างไม่สนใจใยดี แล้วหาหินก้อนหนึ่งนั่งลง

แววตาลึกล้ำราวบ่อน้ำเก่าแก่จ้องสำรวจมองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “ข้าเคยพบเจ้ามาก่อนหรือไม่?”

ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งจิ่วก็มองไปทางเขา แววตาอมยิ้มกริ่มมีความเย้าหยอกบางส่วน “ท่านอาขอรับ ตอนนี้ท่านยังสวมกางเกงชั้นในสีแดงอยู่หรือไม่เล่า?”

สิ้นสุดน้ำเสียง สองตาฉายประกายราวหมาป่าจ้องมองเขาอย่างแปลกๆ กล่าวยิ้มๆ ว่า “อันที่จริงข้าก็ชอบสีแดง ท่านดูสิ ทั้งตัวข้าล้วนเป็นสีแดงนะขอรับ”

ฟังคำพูดนี้ หลิงโม่หานเพียงรู้สึกหนาวเย็น โดยเฉพาะที่อีกฝ่ายใช้สายตาเปล่าราวหมาป่าจ้องมองเขา ยิ่งทำให้กระวนกระวายไปทั้งร่าง

ในใจแอบคิดว่า ‘เด็กหนุ่มผู้นี้คงไม่มีความชอบแปลกๆ ทำนองนั้นหรอกกระมัง?’

“ท่านอาหลิง? เป็นอะไรไปขอรับ?”

เฟิ่งจิ่วที่ลุกขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่รู้โน้มตัวมาตรงหน้า แทบจะแนบไปกับแผ่นอกเขาพลางเอ่ยถาม

“เจ้าทำอะไรน่ะ!”

หลิงโม่หานสีหน้าเยือกเย็นลง พลันถอยออกไปหลายก้าว

“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะขอรับ!” เธอพูดอย่างบริสุทธิ์ใจยิ่งนัก

เขาดึงหน้าจ้องมองเฟิ่งจิ่ว สอนสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีความเย็นชา “บุรุษก็ควรมีท่าทางเช่นชายชาตรี เหมือนเจ้าเช่นนี้ จะเรียกว่าอะไรได้!”

………………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version