№ 298 กลั่นยาสำเร็จ!
“ใครเคาะประตู!”
น้ำเสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจเปล่งออกมาจากหลังประตู นั่นคือเสียงของเฟิ่งเซียวทั้งเข้มงวดและสง่างาม
“เฟิ่งเซียว เปิดประตูซะ”
เสียงทุ้มเข้มมีภูมิฐานของมู่หรงป๋อที่ยืนมือไพล่หลังอยู่ด้านนอกลอยตามมา น้ำเสียงเขามีท่าทีของผู้แข็งแกร่ง ท่วงทำนองเสียงที่เอ่ยปากยิ่งมีความหมายเป็นคำสั่งที่สมเหตุสมผล
ขณะได้ยินเสียงด้านนอกนั้นเฟิ่งเซียวที่มือถือดาบใหญ่นั่งเฝ้าอยู่หลังประตูอย่างสงบนิ่งมั่นคงก็ขมวดคิ้วเบาๆ ใบหน้าสง่าผ่าเผยถมึงทึงลงเล็กน้อย ลังเลไปบ้างพักหนึ่ง น้ำเสียงขึงขังเปล่งออกมาอย่างมีเจตนาขออภัย
“ขอประทานอภัยท่านผู้ครองแคว้นที่ไม่อาจทำตามคำสั่ง”
เมื่อมู่หรงป๋อหน้าประตูได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วน้อยๆ ด้วยความอับอายจนกลายเป็นความโกรธอยู่บ้าง ผู้นำแห่งแคว้นที่มีเกียรติเช่นเขามาเยือนด้วยตนเองกลับต้องพบกับประตูที่ปิดสนิทงั้นรึ?
ไม่เพียงมู่หรงป๋อที่อับอายไปบ้าง แม้แต่ผู้คนที่มุงดูอยู่ไม่ไกลโดยไม่เข้ามาต่างมีสีหน้าตื่นตะลึง
นึกไม่ถึงเลย!
นึกไม่ถึงว่าเฟิ่งเซียวคนนี้จะกล้าปฏิเสธผู้ครองแคว้นไว้หน้าประตู? ใจกล้าเกินไปหน่อยกระมัง? ต้องรู้ไว้ว่าจวนตระกูลเฟิ่งค่อนข้างแตกต่างกับวงศ์ตระกูลพวกเขา เฟิ่งเซียวนอกจากจะเป็นผู้นำตระกูลเฟิ่ง ยังเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้ทรงอำนาจแห่งแคว้นแสงสุริยันและเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของมู่หรงป๋อ การปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งจึงถือว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
“เฟิ่งเซียว! เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอะไรอยู่?” สีหน้ามู่หรงป๋อตึงเครียดขึ้น น้ำเสียงมีความเย็นชาและโกรธเคืองอยู่บางส่วน
ระหว่างที่บรรยากาศตรงประตูใหญ่จวนทั้งหนาวเย็น ตึงเครียดและอันตราย เฟิ่งจิ่วในห้องยากำลังเปิดเตากลั่นออก เมื่อเห็นยาอายุวัฒนะสีน้ำตาลแดงสามเม็ดด้านในนั้นก็ผุดรอยยิ้มตื่นเต้นมีความสุขออกมาจากหัวใจ
เธอทำสำเร็จแล้ว!
ไม่มีคนคอยชี้แนะเธออาศัยประสบการณ์และความเข้าใจที่มีต่อวิชาแพทย์ คิดค้นวิธีกลั่นยาเซียนเองด้วยขั้นตอนที่อธิบายไว้อย่างง่ายดายในตำรา ใช้เวลาสามวันสามคืนสิ้นเปลืองยาทิพย์ไปไม่น้อยในที่สุดก็สำเร็จ!
เธอหยิบยาอายุวัฒนะสามเม็ดนั้นออกมาวางลงบนโต๊ะข้างๆ แล้วมอง เห็นบนยามีพลังวิญญาณไหลพล่าน ลวดลายห้าสายปรากฏอยู่บนเม็ดยาเล็กๆ เห็นได้อย่างชัดเจน
“เป็นลวดลายห้าสายอย่างที่คิดไว้เลย มิน่าล่ะถึงสามารถล่อสายฟ้ามาหลอมเม็ดยาได้”
เธอเอ่ยอย่างกะทันหัน มองลวดลาดบนยาอายุวัฒนะนั้นในใจก็ประหลาดใจนิดหน่อย ไม่นึกเลยว่ายาเตาแรกที่กลั่นสำเร็จด้วยตัวเองจะมีระดับสูงเช่นนี้ ในตำราบันทึกไว้ว่ามีเพียงยาอายุวัฒนะที่มีลายห้าสายขึ้นไปถึงจะล่อสายฟ้ามาได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในแคว้นแสงสุริยันระดับเก้านี้ ต่อให้เป็นในแคว้นเหินเวหาระดับหกจะหายาที่มีลวดลายห้าสายก็ไม่ง่ายดายนัก
“รอบนี้ดีแล้ว เปลืองยาทิพย์ไปมากมายเพียงนั้นสุดท้ายก็ไม่ขาดทุน”
เธอหัวเราะเบาๆ พลางหยิบขวดออกมาแบ่งใส่ยาอายุวัฒนะทั้งสามเม็ดไว้ในขวดสามใบเก็บเข้าห้วงมิติแล้วค่อยเก็บเตากลั่นยาถึงจะเดินออกจากห้องยา
ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งที่มาเฝ้าอยู่นอกเรือนเห็นนางออกมา ถามทันทีว่า “แม่หนูเฟิ่ง? ยาอายุวัฒนะนั่นกลั่นสำเร็จรึยัง? สายฟ้าสามสายนั่นทำทุกคนแตกตื่นกันหมด แม้แต่ผู้ครองแคว้นยังมาด้วย พ่อหลานเฝ้าอยู่ตรงประตูใหญ่เกรงว่าจะรับมือได้ไม่นานนัก”
ได้ยินคำพูดนี้แววตาเฟิ่งจิ่วฉายแววน้อยๆ หลังเดินไปหาท่านผู้เฒ่าก็บอกกับเหลิ่งซวงว่า “ไปเก็บกวาดด้านในให้ที”
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงขานรับถึงจะเดินไปห้องยา
“ท่านปู่ ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลหรอกเจ้าค่ะ ด้วยชื่อเสียงของจวนตระกูลเฟิ่งเราไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาแน่”
เธอปลอบใจเสียงเบา มายังข้างกายเขาพูดพร้อมเผยรอยยิ้มออกมา “แม้จะเสียเวลาไปไม่น้อย แต่ยาอายุวัฒนะก็กลั่นสำเร็จแล้ว เรื่องนี้หลานคิดไม่รอบคอบไม่นึกว่ายาเตาแรกจะล่อสายฟ้ามาได้ ทำให้หลานตกใจจริงๆ”
…………………………..