Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 300

№ 300 อธิบายอะไร?

แต่ลองคิดๆ แล้ว ตำแหน่งของจวนตระกูลเฟิ่งจะต่ำกว่าวงศ์ตระกูลชั้นสูงอื่นๆ ในเมืองอวิ๋นเยวี่ยได้อย่างไร?

นึกถึงความแข็งแกร่งเบื้องหลังจวน สองท่านที่เดิมทีในใจยังสะอึกอยู่นิดหน่อยก็ผ่อนคลายลง แม้แต่ผู้ครองแคว้นก่อนหน้านี้ยังถูกปฏิเสธให้อยู่ด้านนอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาหรอก ในเมื่อผู้ครองแคว้นเข้าไปแล้ว เป็นไปได้ว่าอะไรที่ล่อสายฟ้ามาพวกเขาคงจะรู้ได้ในไม่ช้า ด้วยเหตุนี้จึงไม่รีบร้อนเดี๋ยวนี้

และยามนี้ ในห้องโถงใหญ่จวนตระกูลเฟิ่งท่านผู้ครองแคว้นนั่งบนตำแหน่งอาวุโสด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แม้ไม่พูดอะไรแต่ความโกรธในท้องยังไม่สลายไปอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านผู้ครองแคว้น เชิญดื่มชาก่อน”

คนรับใช้ยกน้ำชาให้แล้วถอยหลังไป ผู้เฒ่าทำท่ามือเชื้อเชิญถึงจะนั่งลงตรงตำแหน่งที่นั่งรอง ส่วนเฟิ่งเซียวก็ยืนอยู่ข้างกายพร้อมก้มศรีษะลงเล็กน้อย

มู่หรงป๋อชำเลืองมองทั้งสองคนสีหน้าใจเย็นลง มือหนึ่งยกถ้วยชาอีกมือใช้ฝาถ้วยสะกิดใบชาเบาๆ หลังจิบไปหนึ่งทีก็เอ่ยเสียงเข้ม “ว่ามา! สายฟ้าสามสายนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง?”

ทว่าหลังเขาถามประโยคนี้ออกมาสิ่งที่ตอบเขากลับเป็นความเงียบเชียบชั่วขณะ เขาที่ดื่มชาอยู่ขมวดคิ้วน้อยๆ มองไปทางผู้เฒ่าเฟิ่ง ในดวงตามีความไม่พอใจอย่างชัดเจน “ทำไม? พูดไม่ได้รึ?”

ผู้เฒ่าเฟิ่งที่นั่งอยู่ถอนใจเบาๆ กล่าวอย่างขออภัย “ท่านผู้ครองแคว้น เรื่องนี้ยังพูดไม่ได้จริงๆ พะยะค่ะ เพราะกระหม่อมก็ไม่รู้จะเอ่ยปากเช่นไร”

ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้ามู่หรงป๋อที่เดิมเคยผ่อนคลายก็ถมึงทึงขึ้นอีกครั้ง แววตาที่เฉียบแหลมและแฝงด้วยแรงกดดันกวาดผ่านผู้เฒ่าเฟิ่งกับเฟิ่งเซียวไป

“หรือพวกเจ้าคิดว่าเรื่องที่สามารถกระตุ้นสายฟ้าได้เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ? ต่อให้นักรบผู้บำเพ็ญอยากจะดึงดูดสายฟ้า นั่นก็ต้องมีพลังถึงระดับจักรพรรดินักรบถึงจะทำได้ ตอนนี้ภายในจวนตระกูลเฟิ่งล่อสายฟ้ามาถึงสามสาย ทำเอาทั่วเมืองอวิ๋นเยวี่ยต่างแตกตื่น ไม่ควรอธิบายให้ข้าฟังหรืออย่างไร?”

“ไม่ทราบว่าท่านผู้ครองแคว้นต้องการคำอธิบายเช่นไรเพคะ?”

น้ำเสียงเนิบนาบที่มีความเฉยเมยบางส่วนลอยมาคลี่คลายซึ่งบรรยากาศหดหู่ในห้องโถงใหญ่

มู่หรงป๋อมองไปตามเสียงนั้น เพียงเห็นเฟิ่งชิงเกอในชุดสีขาวสาวย่างก้าวอันผ่าเผยเดินเข้ามา กลิ่นอายสง่างามรวดเร็วไร้ฝุ่น รูปโฉมงดงามเป็นเลิศ มิน่าล่ะถึงทำให้ลูกชายผู้โดดเด่นที่สุดทิ้งหัวใจไว้กับตัวนาง

ผู้เฒ่าเฟิ่งเห็นนางออกมาจึงไม่ปริปากอีก แต่หรี่ตาลงครึ่งหนึ่งนั่งดื่มชาอยู่ตรงนั้น คล้ายจะวางมือยกฉากหน้าให้นางไปจัดการเสียทั้งหมด

เฟิ่งเซียวเห็นท่าทางก็ขยับริมฝีปากแต่ไม่เอ่ยปากอะไร แสร้งทำไม่รู้ร้อนตามท่านผู้เฒ่าไปเช่นกัน

เมื่อเฟิ่งจิ่วที่ก้าวนวยนาดเดินเข้ามาถึงกลางห้องโถงใหญ่ หลังคารวะให้เล็กน้อยก็ยืนเงียบมองมู่หรงป๋อที่นั่งจับจองอยู่บนตำแหน่งอาวุโส

อาจเพราะอีกฝ่ายอยู่เหนือกว่ามายาวนาน จึงมีนิสัยเช่นผู้บงการที่เห็นจนชิน คุ้นเคยกับการใช้ทำนองเสียงเชิงออกคำสั่งมาสั่งการ

เช่นเดียวกับสายฟ้าสามสายนี้ที่เธอดึงดูดมา หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่มีใครกล้าถาม ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรี่องของจวนตระกูลเฟิ่ง หากพวกเขาไม่บอกใครจะทำอะไรได้?

หลังมู่หรงป๋อได้ยินคำพูดของนาง คิ้วก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย เอ่ยเสียงเข้ม

“นี่เจ้าหมายความว่ายังไง? ข้ามาเพราะสายฟ้าสามสายนั้น พวกเจ้าแค่ต้องบอกมาตามจริงว่าสายฟ้าพวกนั้นเกิดขึ้นได้เช่นไรก็พอ ไหนเลยต้องพูดจาไร้สาระมากมายเพียงนั้น!”

เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ถามว่า “ขอบังอาจถามท่านผู้ครองแคว้น ฟ้าผ่าสามครั้งกลางวันแสกๆ นี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ทำไมต้องทำราวกับเป็นเรื่องใหญ่โตด้วย? สายฟ้าสามสายนี้ไม่ได้ผ่าคนตาย และไม่ทำให้ภูเขาถล่มแผ่นดินแยก สายฟ้าพวกนั้นผ่าลงมาหลังเรือนในจวนตระกูลเฟิ่งเรา พวกหม่อมฉันต้องให้คำอธิบาย? แล้วจะให้อธิบายอะไรล่ะเพคะ?”

…………………………

จบเล่ม 3

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version