№ 361 หนีเร็ว!
“ฟิ้ว!”
“ฉับๆๆ!”
พลังกระบี่รุนแรงลอยออกไปตัดคำว่า ตาย ทั้งสามแตกด้วยหนึ่งกระบี่ เพียงเห็นคำเหล่านั้นแตกกระแสลมก็กระจายไปทั่วพื้นที่ทันใด เฟิ่งจิ่วปล่อยกลิ่นอายพลังวิญญาณลงไปบนกระบี่คมพยับแทบในเวลาเดียวกัน ก่อนที่พลังกระบี่จะโจมตีไปทางชายชราร่างผอมที่นั่งขัดสมาธิอยู่ทันที
“ไป!”
เธอตะโกนเบาๆ อย่างเย็นเยียบ มือหนึ่งฉุดหลัวอวี่ที่สีหน้าขาวซีดเลือดลมปั่นป่วนวิ่งไปตรงเขตอาคมที่ห่างกันเพียงห้าหกเมตร สายตาเย็นชาจ้องมองเขตอาคมสีเลือดที่เห็นได้ด้วยตาเปล่านั้น ฝีเท้าก้าวลงพุ่งไปโดยไม่คิดหยุดชะงัก
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่ที่นั่งอยู่บนพื้นไม่อาจลุกขึ้นต่างนิ่งอึ้งเพราะกำลังต่อสู้นางนานแล้ว เวลานี้เห็นนางโผไปตรงเขตอาคมโดยไม่หยุดฝีเท้าเหมือนมั่นใจเต็มร้อยว่าสามารถทำลายมันได้
อยากจะเตือนนางสักประโยคว่านั่นคือเขตอาคมที่หัวหน้าระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดวางไว้ ซ้ำยังมีเลือดเป็นเกราะป้องกัน ยากจะทำลายด้วยกำลังนาง ไม่สู้รีบมาช่วยพวกเขาแล้วรวมพลังกันสังหารหัวหน้าคนนั้นเพื่อเอาตัวรอดยังดีกว่า
แต่ใครจะรู้ว่ากลับเห็นมือที่ถือกระบี่คมพยับมีกลิ่นอายพลังวิญญาณที่คละคลุ้งและบริสุทธิ์พุ่งพล่านขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่กลิ่นอายพลังวิญญาณพรั่งพรูเปลวไฟสีแดงฉานก็แล่นไปบนกระบี่คมพยับในมือ พันรอบตัวกระบี่ราวกับมังกรเพลิง
“ทำลายมันซะ!”
เธอยกมือขึ้นพลางตะโกนเสียงเย็น ทันใดนั้นกระบี่คมพยับก็ระเบิดพลังกระบี่อันทรงพลังออกมาโจมตีไปยังเขตอาคมพร้อมกับเปลวไฟโชติช่วง
เห็นภาพเช่นนี้ผู้ฝึกตนทั้งสี่ต่างดวงตาเบิกกว้าง สูดหายใจอย่างเหลือเชื่อ หลังเห็นเธอหนึ่งกระบี่นั้นโจมตีไป เลือดที่ไหลพล่านอยู่ตรงเขตอาคมก็ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ทันที เขตอาคมนั้นจึงมีเสียงแตก
“แกร๊ก!”
พอเสียงนั้นดังขึ้น ภายใต้ประกายแสงสว่างไสวเขตอาคมที่มีกลิ่นอายแข็งแกร่งประดังอยู่ก็แตกออกทีละรอยๆ ด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าราวกับพื้นน้ำแข็งที่ถูกกระแทก รอยแตกกระจายออกไปรอบนอกจนกระทั่งเกิดเสียงดังสนั่น กลิ่นอายพลังวิญญาณที่เกาะกันเป็นเขตอาคมจึงกระจัดกระจายออกไปทันที
“ทำ ทำลายได้จริงๆ ด้วย…”
ผู้ฝึกตนทั้งสี่ต่างจ้องมอง ลืมไปแล้วว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนรวมถึงอันตรายของตนเอง กลับตะลึงกับภาพแต่ละภาพที่น่าเหลือเชื่อตรงหน้าเนิ่นนานไม่อาจคืนสติ…
ชายชราร่างผอมแห้งคล้ายจะผละออกจากที่ที่นั่งอยู่ไปไม่ได้ เห็นเขตอาคมถูกทำลายกลิ่นคาวเลือดด้านในและพลังชีวิตที่สั่งสมไว้กำลังกระจายออกด้านนอก เห็นสิ่งที่ทุ่มเททั้งกำลังและสติปัญญาถูกทำลายโดยแม่หนูน้อยที่ไม่รู้ว่าโผล่หัวมาจากไหน สองดวงตาก็มีประกายสีเลือดปะทุขึ้น ความโกรธล้นฟ้า จิตสังหารน่าตกตะลึง!
“อ๊าก!”
เสียงคำรามสะเทือนหูมีความเกลียดแค้นและไอสังหารมากล้น แรงกดดันมหาศาลที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงก่อตัวกลายเป็นเส้นๆ คล้ายลายน้ำ กวัดแกว่งออกไปทีละวงๆ กระเทือนเสียจนแผ่นดินสั่นไหวรุนแรง
เพียงได้ยินเสียงตู้มเหมือนมีภูเขาถล่ม เสียงนั้นดังสนั่นฟังชัดเป็นที่สุดในยามค่ำคืน
“เจ้าทำลายความตั้งใจข้า! ตัดทางรอดของข้า! ข้าจะทำให้เจ้าไม่ตายดี!”
ชายชราผู้ซูบผอมนั่งขัดสมาธิพลางแหงนหน้าแผดเสียง สองมือกลับร่างสัญลักษณ์แปลกๆ ขึ้นบนตัว น้ำเสียงหนาวเหน็บเปล่งออกไปกลางท้องฟ้ายามวิกาลพร้อมไอสังหารกระหายเลือด
“ค่ายกลวิญญาณโลหิต! จงเปิด!”
เฟิ่งจิ่วที่กำลังพาหลัวอวี่วิ่งหนีออกจากเขตอาคมพลันรู้สึกถึงอันตรายมหาศาล
หันกลับไปดูอย่างรวดเร็วแล้วดึงสายตากลับทันที ปล่อยกลิ่นอายพลังวิญญาณไปยังมือยันหลัวอวี่ไปข้างหน้าผลักส่งออกไปร้อยเมตร
“หนีเร็ว!”
………………………………….