Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 399

№ 399 ความคิดเปล่าประโยชน์

ได้ยินเช่นนี้ มู่หรงอี้เซวียนเงยหน้ามองบิดาแวบหนึ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม “ใครก็เทียบนางไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!” กล่าวจบก็หมุนตัวเดินก้าวยาวออกไป

มู่หรงป๋อขมวดคิ้วมองบุตรชายที่เดินจากไป กังวลว่าเขาจะไปหารัชทายาทแคว้นเหินเวหา จึงเดินตามไปด้วยอย่างไม่วางใจนัก

ความสัมพันธ์ของเชื้อพระวงศ์บางราวกระดาษ แต่สำหรับบุตรชายคนนี้เขาให้ความสำคัญมากนัก ในหมู่บุตรมากมายของเขา มีเพียงพรสวรรค์ของมู่หรงอี้เซวียนที่ยอดเยี่ยมที่สุด เขายังหวังว่าบุตรชายจะได้ทำการใหญ่ในอนาคต ย่อมไม่หวังให้ความรักชายหนุ่มหญิงสาวมาฉุดรั้งเอาไว้

ไม่ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งคนนี้จะยอมหรือไม่ ก็ต้องกลายเป็นผู้หญิงของรัชทายาทแคว้นเหินเวหา! มีเพียงแบบนี้เท่านั้น อี้เซวียนถึงจะตัดใจจากนางและทุ่มเทกับการฝึกบำเพ็ญ!

เป็นดังที่มู่หรงป๋อกังวลไว้ มู่หรงอี้เซวียนมายังตำหนักที่รัชทายาทแคว้นเหินเวหาพักอยู่จริง แต่ด้านนอกตำหนักมีผู้ฝึกตนที่กำลังแข็งแกร่งคอยอารักขา คิดจะเข้าไปจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

“รบกวนไปเรียนที มู่หรงอี้เซวียนมาขอเข้าพบ”

เขามองผู้ฝึกตนชุดเทาที่ทั่วร่างมีกลิ่นอายทรงพลังกระจายอยู่ ในใจคร่ำเครียดเล็กน้อย เป็นคนจากแคว้นทรงอำนาจดังคาด วรยุทธ์เช่นนี้หากอยู่ในแคว้นแสงสุริยันของพวกเขา จะเป็นผู้นำตระกูลก็เหลือเฟือแล้ว

ชายวัยกลางคนชุดเทาคนนั้นเหลือบมองเขาจากบนลงล่าง เอ่ยเสียงเย็นว่า “องค์ชายรัชทายาทกำลังพักผ่อน ไม่พบหน้าใคร”

ได้ยินเช่นนี้ สีหน้ามู่หรงอี้เซวียนพลันถมึงทึง กำลังจะก้าวเข้าไป ไหล่ก็ถูกใครกดไว้ ครั้นหันไปมองเล็กน้อยถึงเห็นเสด็จพ่อกดเขาผลักไปด้านหลัง ยิ้มพลางพูดกับชายวัยกลางคนว่า “เหอะๆ บุตรชายข้าชื่นชมองค์รัชทายาทมานาน พอได้ยินว่าองค์รัชทายาทมาถึงในวังจึงอยากมาคารวะ เกือบจะรบกวนเวลาพักผ่อนขององค์ชายรัชทายาทแล้ว”

สิ้นเสียง เขาหันกลับไปมองมู่หรงอี้เซวียนที่หน้าดำคร่ำเครียด ตะโกนเสียงเข้มว่า “ยังไม่รีบกลับไปอีก!”

“ข้ามีเรื่องจะคุยกับองค์รัชทายาท ใต้เท้าโปรดไปแจ้งให้ที” มู่หรงอี้เซวียนไม่สนใจเขา แต่มองยังชายวัยกลางคนผู้นั้น เอ่ยอย่างไม่หยิ่งผยองแต่ก็ไม่ถ่อมตัว

ได้ยินเช่นนี้ หลังชายวัยกลางคนชุดเทาเหลือบเห็นมู่หรงป๋อข้างๆ มีสีหน้าดูไม่ได้แล้ว สายตาก็หยุดลงบนร่างมู่หรงอี้เซวียน พินิจมองแล้วกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “คืนนี้จัดงานเลี้ยงท่านจะได้พบเอง ถึงตอนนั้นมีสิ่งใดค่อยพูดคุยกัน ยามนี้รีบออกไปเสียเถอะ!”

“ทหาร! ส่งท่านอ๋องสามออกไปนอกวัง!”

มู่หรงป๋อแผดเสียงขึงขัง ทหารอารักขาจำนวนหนึ่งตรงเข้ามา กลับไม่กล้าลงไม้ลงมือกับเขา แต่พูดด้วยความเคารพ “ท่านอ๋องสาม เชิญพ่ะย่ะค่ะ!”

เห็นเช่นนี้ มู่หรงอี้เซวียนมีสีหน้าเคร่งเครียด จ้องมองไปด้านในแวบหนึ่งแล้วบอกเสียงเข้มว่า “ในเมื่อพบองค์รัชทายาทแคว้นเหินเวหาไม่ได้ เช่นนั้นไปแจ้งแทนข้าที เฟิ่งชิงเกอคุณหนูใหญ่แห่งจวนตระกูลเฟิ่งยังไม่เคยตอบรับการหมั้นหมายนี้ พวกท่านอย่าคิดทำอะไรไปเปล่าประโยชน์เลย!”

กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อหันกายก้าวยาวออกไป ไม่สนใจพระบิดาที่มีสีหน้าไม่น่ามองนัก

มู่หรงป๋อได้ยินแล้วรู้สึกเพียงมีไฟร้อนพุ่งจากหัวใจลามไปถึงยอดศีรษะ เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะผูกมิตรกับแคว้นเหินเวหา มู่หรงอี้เซวียนกลับยื้อขาไว้อยู่ด้านหลัง สม…สมควรตายจริงๆ!

“เหอะๆ อย่าไปฟังเขาพูดจาเลอะเทอะ ทูลองค์ชายรัชทายาทเถอะว่าการหมั้นหมายนี้ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาอะไร” หลังโปรยยิ้มให้เขาก็ก้าวยาวๆ จากไป

หลังจากทั้งสองคนไปแล้ว ชายวัยกลางคนชุดเทาเข้าไปด้านในรายงานเรื่องเมื่อครู่กับเนี่ยเถิงก่อนจะออกมา

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ชายวัยกลางคนชุดดำที่คอยรับใช้อยู่ข้างๆ เม้มริมฝีปากมองนายท่านที่ไม่พูดอะไร ลังเลอยู่พักหนึ่งจึงเอ่ย “แค่จวนตระกูลเฟิ่งเล็กๆ ไม่กล้าขัดแย้งกับแคว้นเหินเวหาเราหรอกขอรับ ยิ่งไปกว่านั้นการที่นายท่านโปรดนางถือเป็นวาสนาของนางแล้ว ไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ นางก็ต้องเป็นผู้หญิงของนายท่าน”

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version