Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 406

№ 406 กองทหารรักษาพระองค์เคลื่อนพล!

เมื่อเอ่ยออกไป เห็นใบหน้าบวมช้ำนั้นเงยขึ้นมา ร่างกายเขาก็แข็งเกร็ง เบิกตาโตด้วยความตกตะลึง อ้าปากกว้างทั้งสีหน้ายากจะเชื่อ “ใคร ใครบังอาจทำร้ายองค์รัชทายาทจนเป็นเช่นนี้?”

นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเขาถึงถูกทำร้ายเสียจนมีสภาพนี้ นะ ในแคว้นแสงสุริยันที่ใหญ่โตนี้ ใครกันจะกล้าทำร้ายเขา?

จู่ๆ ก็นึกถึงคนตระกูลเฟิ่งอย่างที่อธิบายไม่ได้ ผิวหนังเขาเกร็งแน่น ถามเสียงสั่นเครือว่า “ฝ่าบาท เป็นฝีมือคนจวนตระกูลเฟิ่งหรือ?”

เนี่ยเถิงชำเลืองมองเขา หมุนตัวออกไปโดยไม่พูดอะไรเลย เพียงทิ้งให้ผู้ครองแคว้นที่โกรธระคนตกใจยืนอยู่ที่เดิม

จนกระทั่งมองไม่เห็นร่างเนี่ยเถิง ผู้ครองแคว้นพลันได้สติกลับมา ตะโกนใส่ทหารอารักขาข้างๆ “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ จงบอกข้าให้ชัดเจน!”

ทหารอารักขาคนนั้นคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ กล่าวเสียงสั่นว่า “ระ รัชทายาทแคว้นเหินเวหาบุกรุกจวนยามวิกาล คนจวนตระกูลเฟิ่งคิดว่าเป็นมือสังหารจึงจับตัวมาขอรับ”

“จวนตระกูลเฟิ่งนี่ช่างบังอาจนัก!”

เขาตะโกนลั่นอย่างโกรธเกรี้ยว “ทหาร! ไปจับคนที่ทำร้ายรัชทายาทแคว้นเหินเวหาจากจวนตระกูลเฟิ่งมา!”

ผู้ครองแคว้นโกรธจัด สั่งให้ทหารรักษาพระองค์ไปจวนตระกูลเฟิ่งแล้วจับคนมา หนึ่งคือเพื่อให้รัชทายาทแคว้นเหินเวหาเห็นท่าทีเขาและมอบหมายงานให้ สองคือให้คนของตระกูลเฟิ่งเห็นชัดเจนว่าเวลานี้พวกเขาไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว! หากยังกล้ากำเริบเสิบสานเช่นนี้อีก เขาจำต้องถอนรากถอนโคนตระกูลเฟิ่งเสีย!

เพราะมีบัญชานี้ลงมา ท่ามกลางค่ำคืน กองทหารรักษาพระองค์จำนวนมากจึงออกจากพระราชวังไปยังจวนตระกูลเฟิ่งอย่างรวดเร็ว เมื่อทหารหลายกองที่สวมชุดเครื่องแบบทหารรักษาพระองค์เหมือนๆ กันเร่งฝีเท้ามุ่งไปยังทิศทางจวนตระกูลเฟิ่ง แน่นอนว่ากลุ่มอำนาจแต่ละฝ่ายในเมืองย่อมตื่นตกใจ

แต่ละตระกูลได้ยินเรื่องนี้ต่างพากันประหลาดใจและรู้สึกตะลึง มีเรื่องอะไรถึงต้องรีบจัดการในคืนเดียว? ซ้ำยังสั่งให้ทหารมากมายไปจวนตระกูลเฟิ่งกลางค่ำกลางคืนอีก? จะทำอะไรกัน?

แม้บอกว่าตระกูลไม่น้อยในเมืองกำลังเฝ้าชมเรื่องสนุก รอที่จะเห็นตระกูลเฟิ่งล่มสลาย แต่ยังมีตระกูลที่เที่ยงธรรมอีกไม่น้อยรับไม่ได้กับวิธีการของราชวงศ์ คนตระกูลเฟิ่งเป็นเช่นไรพูดได้เลยว่าคนทั้งเมืองอวิ๋นเยวี่ยไปจนถึงทั่วแคว้นแสงสุริยันต่างรู้ดี

นั่นคือวงศ์ตระกูลที่ปกปักแคว้นนี้ด้วยความจงรักภักดี ไม่ว่าผู้เฒ่าเฟิ่งหรือเฟิ่งเซียวล้วนเป็นนักรบที่ซื่อสัตย์ อาจหาญกล้าตาย!

พวกเขาพาองครักษ์ตระกูลเฟิ่งออกไปคุ้มกันแคว้นแสงสุริยันจากอันตรายมาเท่าไหร่ ในใจพวกเขารู้ดีอย่างยิ่ง

หากไม่มีพวกเขาคอยพิทักษ์ แสงสุริยันแคว้นเล็กระดับเก้านี้คงโดนแคว้นอื่นยึดไปนานแล้ว ตอนนี้ไหนเลยจะยอมให้มู่หรงป๋อกลั่นแกล้งคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งที่ยามนี้เหลือตัวคนเดียว?

ตระกูลเกิ่งหนึ่งในตระกูลใหญ่เมืองอวิ๋นเยวี่ยกำลังพูดคุยกันในห้องโถงใหญ่ แม้เป็นกลางดึก ยามนี้กลับมีคนนั่งเต็มไปหมด

วันนี้ผู้เฒ่าเกิ่งเพิ่งออกจากการเก็บตัวฝึกบำเพ็ญ แต่หลังจากได้ยินเรื่องราวช่วงนี้ก็เรียกทุกคนในตระกูลมาคุยกันที่นี่ ตอนนี้ได้ยินเรื่องคืนนี้แล้ว มือใหญ่ตบลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง เกิดเสียงดังสนั่น ผู้คนในห้องโถงสะดุ้งเสียจนใจหล่นวูบ ต่างมองไปยังคนตรงตำแหน่งผู้อาวุโส

เห็นแต่ใบหน้าชราที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของผู้เฒ่าเกิ่งยามนี้มีแต่ไฟโทสะ แม้เสียงจะแหบแห้งกลับมีอารมณ์อยู่เต็มเปี่ยม ไม่เข้ากับอายุเขาเลยสักนิด

“มู่หรงป๋อคนนี้จะรังแกกันเกินไปแล้ว! ยามนี้ยังไม่รู้เบาะแสผู้เฒ่าเฟิ่ง เฟิ่งเซียวหมดสติไม่ฟื้น เหลือเพียงแม่หนูตระกูลเฟิ่งคนเดียว แต่มู่หรงป๋อตัวเป็นผู้ครองแคว้น ไม่ปกป้องกลับเหยียบซ้ำ นี่เป็นการกระทำเยี่ยงคนพาลชัดๆ!”

ทุกคนเบื้องล่างไม่กล้าปริปาก เพราะในเวลานี้ตระกูลเกิ่งพวกเขาก็เฝ้ามองโดยรักษาท่าทีของผู้ชมมาโดยตลอด ยามนี้ได้ยินคำพูดท่านผู้เฒ่า เหมือนว่า…อยากจะเข้าไปยุ่งเรื่องวุ่นวายของตระกูลเฟิ่งกับราชวงศ์ด้วย?

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version