№ 41 กะเทาะเปลือกออก
เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย รู้สึกถึงน้ำเย็นในบ่อที่ซึมเข้ากระดูก และความเจ็บแปลบๆ ที่แล่นมาจากบาดแผล ทว่าหลังจากความเจ็บผ่านไปเธอกลับสบายตัวมาก ราวกับมีกระแสธารอุ่นชำระผ่านบนเรือนร่าง
กระแสธารอุ่น?
เธอลืมตาขึ้นทันที แล้วมองร่างกายที่แช่อยู่ในน้ำ ตอนนี้เธอสังเกตเห็นกลิ่นอายพลังจางๆ พรั่งพรูออกมาบนผิวน้ำ
ไม่ใช่พลังเร้นลับ แต่เป็นพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์!
พอเห็นในบ่อน้ำลึกมีกลิ่นอายพลังวิญญาณจางๆ กระจายตัวอยู่ เฟิ่งจิ่วก็นึกถึงหนูดำดินกลายพันธุ์พวกนั้น เพราะพลังวิญญาณในบ่อน้ำนี้ พวกมันถึงได้ตัวอ้วนพีขนาดนั้นหรือ?
แต่ทำไมที่นี่ถึงมีกลิ่นอายพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์เช่นนี้ได้?
ขณะกำลังครุ่นคิด ไข่สีทองใบนั้นที่วางอยู่ด้านบนก็พลันขยับเล็กน้อย และกลิ้งลงไปในบ่ออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ตู้ม!”
เสียงตกน้ำดังขึ้นมา ไข่สีทองใบนั้นจมลงในน้ำอย่างรวดเร็ว เธอตกใจ หลังจากใช้มือหนึ่งดึงกริชและถุงฟ้าดินที่วางไว้ด้านบนมาก็ดำน้ำลงไปอย่างรวดเร็ว
ขณะลืมตาในน้ำเธอมองเห็นไข่สีทองใบนั้นกำลังค่อยๆ จมลงไป ทว่ายิ่งว่ายลงไป น้ำในบ่อที่ใสสะอาดก็ยิ่งมืดสลัว ราวกับเป็นหลุมลึกไร้ก้นบึ้งที่เต็มไปด้วยความพิศวง
เฟิ่งจิ่วกังวลว่าพอลงไปแล้วจะกลั้นหายใจได้ไม่ไหว และกังวลว่าถ้ายิ่งลึกลงไปอีกไม่รู้จะเจอกับอะไรที่ใต้น้ำนั้น จึงรีบเร่งดำลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เห็นว่าเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เธอเอื้อมมือออกไปโอบไข่สีทองใบนั้นมากอดไว้ทันที
แต่ระหว่างที่เธอกอดไข่ใบนั้นว่ายขึ้นไป กลับเหลือบเห็นบริเวณส่วนลึกด้านล่างเหมือนจะมีประตูหินบานหนึ่งที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำอยู่?
แม้จะฉงนสงสัย แต่ตอนนี้เธอไม่อยากรู้ เพราะเธอไม่อาจกลั้นหายใจได้ไหวแล้ว จึงใช้มือหนึ่งกอดไข่ ส่วนอีกมือตะกายว่ายขึ้นไป ทว่าในตอนนั้นเอง บานประตูด้านล่างพลันค่อยๆ เปิดออกเสียงดัง
แรงดูดมหาศาลลอยมาจากด้านในประตู ดูดทั้งน้ำและเธอเข้าไปในประตูบานนั้นราวกับมีกระแสน้ำวนหมุนขึ้นมาจากก้นบ่อ
“หืม!”
ภายใต้แรงดึงดูดอันทรงพลัง เธอที่อยู่ในน้ำไม่มีทางหลบเลี่ยงการถูกหมุนเข้าไปในน้ำวนนั้นได้ จึงถูกดูดเข้าไปด้านในบานประตู
แต่ภายใต้แรงดันในน้ำและการหมุนวนที่มีแรงดูด เฟิ่งจิ่วรู้สึกเพียงว่าเลือดในหัวใจปั่นป่วน จนกระอักเลือดออกมา เลือดหยดลงบนไข่สีทองที่เธอโอบไว้แน่นในอ้อมกอดพอดิบพอดี ทว่าเธอไม่เห็นว่าเลือดที่ตนกระอักออกมาถูกไข่สีทองดูดซับไป ภาพเบื้องหน้าก็มืดลง และเธอก็หมดสติไป…
ในตอนนี้เอง ไข่สีทองมีแสงทองลอยขึ้นมาเลือนราง ลวดลายซับซ้อนบนเปลือกไข่ที่เคยหายไปก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับแสงทองที่ค่อยๆ แผ่ออกมานอกเปลือกไข่
สิ่งที่ทำให้เหลือเชื่อที่สุดก็คือ ไข่สีทองที่เดิมทีมีขนาดแค่สองกำมือ ตอนนี้กลับค่อยๆ ใหญ่ขึ้นท่ามกลางแสงสีทอง มันยังคงถูกเฟิ่งจิ่วโอบไว้ในอ้อมกอด แค่ตอนนี้มีขนาดใหญ่เหมือนแตงโมลูกโต
ตรงหว่างคิ้วของเฟิ่งจิ่วมีลายรูปหงส์ไฟสีแดงฉานปรากฏขึ้นมา ขณะที่ลวดลายนั้นปรากฏ ทั่วทั้งร่างเธอถูกห้อมล้อมด้วยประกายแสงสีทอง บาดแผลบนตัวก็กำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า…
เสียงครืนดังขึ้น ทั้งร่างเฟิ่งจิ่วที่ถูกกระแสน้ำวนดูดเข้าไปด้านในกระแทกลงบนพื้น น้ำที่อยู่กลางกระแสน้ำวนก็ปะทะลงบนร่างเธอ แรงโน้มถ่วงและความเจ็บแสบที่ถาโถมมาทำให้เธอค่อยๆ ได้สติ ยามลืมตาอย่างช้าๆ กลับโดนแสงทองสะท้อนเข้าใส่
“แกร๊ก!”
เสียงแกร๊กที่ดังชัดเจนทำให้เธอนิ่งไปเล็กน้อย เห็นพอดีว่าไข่สีทองที่กลิ้งออกไปจากมือใหญ่เท่าลูกแตงโมแล้ว และบนผิวมันยังมีรอยแตกร้าวเส้นหนึ่ง
“แกร๊ก!”
เสียงแกร๊กดังออกมาอีกครั้ง บนไข่ทองมีรอยแตกเพิ่มมาอีกเส้น ทว่าหลังจากเห็นไข่ใบนั้นแหวกออกเป็นสองซีก เธอก็ต้องตะลึงงัน…
…………………………………….