№ 606 ไม่ตายก็เจ็บหนัก
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วหัวเราะ สายตามองผ่านบนร่างพวกเขา “ดี หากข้าสู้ไม่ไหวจะเอ่ยปากยอมแพ้แน่นอน แต่พวกท่านต้องระวังด้วย”
เธอกล่าวจบร่างพลันพุ่งออกไป มือกำหมัดโจมตีไปทางองค์ชายคนหนึ่งเบื้องหน้า ความเร็วที่ว่องไวทำให้องค์ชายคนนั้นไม่ทันได้หลบออกก็ถูกหมัดนั้นชกเข้าเบ้าตา
“ผัวะ!”
“อั่ก!”
องค์ชายคนนั้นสูดหายใจ โดนหมัดชกจนถอยหลังไปทันที ความเจ็บที่แล่นมาตรงเบ้าตาทำให้แม้แต่ลืมตายังทำไม่ได้ รู้สึกเพียงเจ็บร้อนผ่าวๆ
“เคลื่อนไหวเร็วมาก! พวกเราจะไม่เกรงใจเช่นกัน!”
เสียงจากคนหนึ่งเปล่งออกมา เห็นร่างมากมายพลันลงมือจู่โจมไปทางเฟิ่งจิ่ว การล้อมโจมตีมาจากทุกทิศทาง ทุกกระบวนท่าล้วนโหดเหี้ยม ไม่คิดจะเหลือทางรอดให้สักนิด พวกเขาเพียงคิดจะสั่งสอนองค์หญิงราชวงศ์เฟิ่งหวงผู้หยิ่งผยองคนนี้เสียหน่อย!
ทว่าเมื่อเห็นพวกเขาลงมือ มุมปากเฟิ่งจิ่วยกยิ้ม ก่อนจะรวบรวมกลิ่นอายพลังเร้นลับบนร่างขึ้นมา ร่างสีขาวพุ่งไปหาพวกเขาด้วยความเร็วที่มากกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า ได้ยินเพียงเสียงหมัดกระทบตามด้วยกรีดร้องเจ็บปวดแต่ละเสียงดังขึ้นรางๆ
“อึก!”
“อ๊าก!”
“อั่ก! ตาข้า…”
ได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดที่ลอยมาจากบนเวที เหล่าทหารอารักขาที่เฝ้าอยู่ลานฝึกประลองยุทธ์จึงหันมองไปบนเวทีเงียบๆ เมื่อเห็นคนเจ็ดแปดคนบนเวทีล้อมโจมตีองค์หญิงพวกเขา แต่ละคนต่างแอบส่ายหน้า
นั่นเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์เฟิ่งหวง และเป็นนายแห่งองครักษ์ตระกูลเฟิ่ง ไม่ต้องพูดถึงว่าแค่มีคนเจ็ดแปดคนล้อมโจมตีเลย พวกเขาอยู่ที่นี่เคยเห็นคนเป็นสิบล้อมโจมตียังทำร้ายนายท่านไม่ได้แม้แต่น้อย ตรงกันข้าม สุดท้ายทุกคนก็ถูกจัดการอย่างป่าเถื่อน
องค์ชายพวกนั้นช่างกล้านัก คิดจะสู้กับนายท่านพวกเขากลับไม่สอบถามเสียหน่อย น่ากวนใจจริงๆ
เมื่อเห็นภาพเช่นนั้นบนเวที ด้านล่าง หงส์ไฟน้อยหยิบโสมชิ้นหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ กัดไปพลางชมไปพลาง ถามว่า “เจ้าว่าพวกเขาจะบาดเจ็บหนักหรือเปล่า?”
เหลิ่งซวงก้มหน้าลงมองเขาเล็กน้อย บอกว่า “ถึงไม่ตายก็ต้องเจ็บหนัก”
หากพวกเขาไม่ใช่องค์ชายต่างแคว้นที่มาเข้าร่วมงานแต่งท่านผู้เฒ่า แค่พวกเขากล้าใช้สายตาแทะโลมเช่นนั้นจ้องมองนายท่านก็มากพอจะให้พวกเขาตายสักร้อยครั้งแล้ว
“อืม ข้าก็คิดเช่นนั้น หนำซ้ำยังถูกซ้อมไปเสียเปล่าอีก” เด็กน้อยพยักหน้า มองคนพวกนั้นด้วยสีหน้าเห็นใจ คิดว่าคนพวกนี้โง่เขลาจนทำให้เขาหมดคำพูดจริงๆ
คนเช่นนี้หรือเป็นองค์ชายของแคว้นได้? เห็นได้เลยว่าแคว้นพวกเขาแม้อยากจะพัฒนาอย่างไรก็ทำไม่ได้หรอก
สองคนดูอยู่ด้านล่าง เวลาแค่ครึ่งก้านธูป พวกเขาก็เห็นว่าบางคนจมูกช้ำหน้าบวมจนน่ากลัว พออ้าปากตะโกนคำว่าข้า ก็มีหมัดหนึ่งลอยมาชก ขัดจังหวะคำพูดยอมแพ้ที่เขาอยากจะพูดออกมา
“อ๊าก!”
เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้น องค์ชายคนนั้นปิดมุมปากไว้พลางจ้องมองเฟิ่งจิ่วที่มีสีหน้าใสซื่ออย่างตกตะลึง อ้าปากพะงาบๆ เนิ่นนานก็พูดอะไรออกมาไม่ได้ พอมองคนข้างกายก็เห็นว่าพวกเขาแต่ละคนต่างจมูกช้ำหน้าบวม เบ้าตามีรอยฟกช้ำ บ้างก็กุมท้องที่โดนเตะถอยไปข้างๆ
เห็นภาพเช่นนี้ องค์ชายคนนั้นกลืนน้ำลาย แล้วยื่นมือออกมา “ข้ายอม… แพ้…อั่ก!”
สิ้นเสียง ร่างเขาก็โดนถีบลงเวทีและสลบไปทันที คนพวกนั้นบนเวทีแต่ละคนเห็นแล้วอับอายจนกลายเป็นโกรธเคืองอย่างยิ่ง เดิมอยากเอ่ยปากยอมแพ้ แต่เห็นเช่นนี้แล้ว ทุกคนล้วนสู้สุดกำลัง รวบรวมกลิ่นอายพลังเร้นลับทั้งหมดขึ้นมาทันที
……………………………….