Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 605

№ 605 ทำไมไม่ลงมือ?

เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วก็ยิ้มๆ บอกว่า “ดี หากต้องการหยุดการฝึกซ้อม แค่เอ่ยปากยอมแพ้เป็นพอ”

“ยอมแพ้? เหอะๆ องค์หญิงช่างตลกจริงๆ” องค์ชายผู้นั้นยิ้มเย็น ประสานมือคารวะไปทางนางอย่างนึกสนุก “เชิญ” กล่าวจบก็ไม่มีมารยาทเช่นสุภาพชนใดๆ อีก ลงมือโจมตีไปทางเฟิ่งจิ่วทันที

มุมปากเฟิ่งจิ่วยกขึ้นเล็กน้อย สำหรับเธอความเร็วในการจู่โจมของศัตรูช้าเกินไป การโจมตียังเต็มไปด้วยจุดอ่อน หากไม่คิดจะใช้โอกาสนี้จัดการพวกเขาเสียก็คร้านจะลงมือด้วยตัวเองจริงๆ

เบื้องหน้ามีฝ่ามือลมสะบัดมาหา ฝีเท้าเธอเคลื่อนเล็กน้อยพร้อมเอี้ยวตัวหลบ สองมือไม่ขยับ เพียงยกขาเตะไปตรงหลังเข่าศัตรูด้วยความว่องไว องค์ชายคนนั้นที่ช่วงล่างไม่มั่นคงสูดลมหายใจเฮือกอย่างเจ็บปวด หลังเข่ารับแรงไม่ไหวจึงโค้งงอจนร่างพลาดโผไปข้างหน้า และแทบจะล้มลงพื้นอย่างน่าอับอาย

เขาหันกลับไปมอง เห็นนางใช้แค่ขาโดยไม่แม้แต่จะขยับมือ ไฟโทสะก็ลุกโชนขึ้นอย่างกลั้นไม่อยู่ รู้สึกว่าถูกทำให้เสียเกียรติ จึงถามอย่างเกรี้ยวกราด “ทำไมท่านไม่ลงมือ?”

เฟิ่งจิ่วกะพริบตา วางสีหน้ามีเจตนาดี ทว่าคำพูดที่เอ่ยออกมากลับทำให้เขาโมโหเสียจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง

“ข้าคิดว่าใช้แค่ขาก็พอ ลงมือไปเกรงว่าองค์ชายจะรับไม่ไหว”

“เจ้า!”

ความโกรธเคืองยิ่งมากขึ้น เขาไม่เห็นนางเป็นผู้หญิงอีกแล้ว ฝ่ามือพลังเร้นลับเคลื่อนโถมไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน ฝ่ามือลมรุนแรงตัดไปตรงคอนางจากบนลงล่าง กลับนึกไม่ถึงว่าเฟิ่งจิ่วจะยกขาขึ้นเตะ ปลายเท้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังเร้นลับที่ดูเหมือนไร้เรี่ยวแรงทว่ามีพลังลับแฝงไว้เตะเข้าตรงง่ามระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ขณะที่ง่ามนิ้วเขาเกิดอาการชา ฝ่ามือพลังเร้นลับพลันเปลี่ยนไป ก็เห็นเพียงนางลอยตัวหมุนมาเตะบนร่างเขาหลายครั้งติดต่อกัน

“อ๊าก!” เขาร้องอย่างเจ็บปวด ร่างกายเสียสมดุล เท้าก้าวถอยหลังไป

คนอื่นด้านล่างเห็นเช่นนั้น จิตใจก็สั่นไหวเล็กน้อย อีกคนหนึ่งจึงกระโดดขึ้นมา “ข้าขอประชันฝีมือกับองค์หญิง!”

สิ้นเสียง องค์ชายคนนั้นกระโจนขึ้นกลางอากาศสะบัดขากวาดออกไปด้วยพลังที่กวาดล้างศัตรู ทว่าเมื่อถูกเฟิ่งจิ่วถีบเข้าเส้นลมปราณตรงข้างต้นขา ความรู้สึกชาก็ถาโถมเข้ามาอย่างยากจะทน จากนั้นร่วงลงบนเวทีทันทีอย่างน่าอาย

สองขาหนีบกันแน่น อยากจะยื่นมือไปนวดจุดที่ด้านชา แต่ยังฝืนทนเพราะมันใกล้กับตรงเป้าและไม่อยากเสียมารยาทต่อหน้าคนอื่น เวลานั้นเห็นเพียงว่าเขาบิดซ้ายบิดขวาพลางลอบสูดหายใจ แม้แต่สีหน้ายังแปลกพิลึก

“องค์ชายท่านนี้ ท่านยังดีอยู่หรือไม่?” เฟิ่งจิ่วเผยสีหน้าเป็นกังวล เอ่ยถามด้วยเจตนาดี คิดๆ แล้วจึงบอกอีกว่า “อันที่จริงลูกเตะนั่นข้าใช้แรงไปไม่เท่าไร คงไม่เจ็บมากนักหรอก”

องค์ชายคนนั้นใบหน้าแดงก่ำพลางกลั้นหายใจ แม้แต่คำพูดยังพูดไม่ออก

ไม่ได้เจ็บ แต่ความรู้สึกด้านชาเช่นนั้นเหมือนมีมดแมลงนับพันกำลังกัดแทะ ชาจนเข้ากระดูก เขาอดทนจนขนลุกไปหมดทั้งร่าง ทำให้เขาทรมานยิ่งกว่าความเจ็บปวดเสียอีก

เห็นสองคนที่ขึ้นเวทีตามกันไปพ่ายแพ้ในหนึ่งกระบวนท่า สีหน้าคนอื่นด้านล่างก็ดูไม่ได้อยู่บ้าง คิดแค่ว่าองค์ชายสองแคว้นนั้นฝีมือและกำลังอ่อนแอเกินไป นึกไม่ถึงว่ากระบวนท่าเช่นนั้นยังรับไว้ไม่ได้ น่าขายหน้าพวกเขาจริงๆ

คนอื่นที่เหลือมองหน้ากัน จากนั้นบอกว่า “องค์หญิงฝีมือไม่ธรรมดาดังคาด เพื่อไม่ให้พวกเราตกอยู่ในสภาพเช่นองค์ชายสองท่านนั้น พวกเราจะไม่เกรงใจ”

กล่าวจบพวกเขาก็กระโดดขึ้นเวที แยกกันยืนรอบๆ เฟิ่งจิ่ว ล้อมนางไว้ตรงกลาง

“องค์หญิง หากรับกระบวนท่าไม่ไหวต้องตะโกนยอมแพ้ พวกเราจะหยุดทันทีแน่นอน”

……………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version