Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 717

№ 717 ตกใจเมื่อได้รู้ เป็นเขานี่เอง!

บนภูเขาห่างจากที่นี่ไม่ไกล โม่เฉินที่เดิมทีออกไปจากห้องแนะแนวการสอนแล้วได้ยินว่าพวกอาจารย์หลี่ว์มาตามหาเฟิ่งจิ่วแต่ไม่ได้เจอ บอกว่าเขตอาคมถูกเสริมพลัง ซ้ำยังวางเขตอาคมกันเสียงไว้ ด้วยนึกประหลาดใจจึงเข้ามาดู

นึกไม่ถึงว่าจะเห็นเจ้าสำนักมาด้วย

ทำไมถึงต้องเป็นเด็กหนุ่มคนนั้น? หรือว่าเขารู้เรื่องการแพทย์?

สายตาเขาเคลื่อนไปหยุดลงบนร่างชายสวมเครื่องแบบสำนักพลังเร้นลับคนนั้น นี่ก็คือกวนสีหลิ่น พี่ชายร่วมสาบานของหนุ่มน้อยคนนั้นหรือ?

โม่เฉินได้ยินเจ้าสำนักเอ่ยถามจึงมองอยู่เงียบๆ ในเมื่อเป็นพี่ชายของหนุ่มน้อยคนนั้น เด็กหนุ่มจะรู้เรื่องการแพทย์หรือไม่เขาย่อมชัดเจนยิ่ง หากเขาบอกว่าเด็กหนุ่มไม่รู้ บางทีอาจจะไม่ต้องทำลายเขตอาคมนั้น

แต่แม้จะรู้เรื่องแพทย์ อาการของอาจารย์หลูคนนั้นก็หนักหนาเกินไป เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มจะช่วยได้อย่างไร?

ใต้ต้นไม้ เจ้าสำนักมองกวนสีหลิ่นอย่างไม่เร่งเร้าและสงบนิ่ง รอคอยคำตอบจากเขา

กวนสีหลิ่นมองอีกฝ่าย ครุ่นคิดเนิ่นนานถึงจะเอ่ยปากเสียงเข้ม “เทียบกับเรื่องที่เขามีทักษะการแพทย์หรือไม่ ข้าคิดว่าสิ่งที่ท่านเจ้าสำนักกังวลยิ่งกว่า…คือเขาจะช่วย? หรือไม่ช่วย?”

เจ้าสำนักได้ยินคำพูดนี้จิตใจก็สั่นสะท้าน ความหมายที่ซ่อนไว้ทำให้หัวใจเขามีคลื่นซัดโถม ตกใจไม่มีสิ้นสุด

คำพูดนี้เขาฟังเข้าใจ

หากถามว่าเฟิ่งจิ่วมีทักษะการแพทย์หรือไม่ สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วงยิ่งกว่าคือเฟิ่งจิ่วจะช่วยอาจารย์หลูหรือไม่? หากช่วย เช่นนั้นเขาก็มีทักษะการแพทย์ หากไม่อยากช่วยก็แค่ต้องบอกว่าเขาไม่มี…

ตั้งแต่ต้นจนจบมีใครบ้างไม่นึกถึงปัญหาข้อนี้ ตอนที่รู้เรื่องเฟิ่งจิ่วรู้ว่าร่างกายอาจารย์หลูมีปัญหาเมื่อสองวันก่อน พวกเขาส่งนักเรียนมาตามก่อน จากนั้นอาจารย์หลี่ว์เข้ามาอยากจะทำลายเขตอาคมเพื่อเรียกเฟิ่งจิ่วไป ยามนี้เขาถึงมาเรียกเฟิ่งจิ่วไปด้วยตัวเอง…

พวกเขาต่างคิดว่าทุกอย่างนี้เป็นเรื่องแน่นอน ควรจะเป็นเช่นนี้ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบ และเป็น…ขอแค่พวกเขาสั่งเพียงประโยคเดียว เฟิ่งจิ่วก็ไม่ปฏิบัติตามไม่ได้…

ทันใดนั้นเขาถึงได้เข้าใจ ระหว่างที่ตกใจยังตกตะลึง หากไม่ได้การกล่าวเตือนจากหนุ่มตรงหน้า เกรงว่าต่อให้พวกเขาทำลายเขตอาคมและปลุกเฟิ่งจิ่ว เฟิ่วจิ่วก็ไม่จำเป็นต้องออกหน้าช่วย

นึกถึงตรงนี้แล้ว เขามองลึกล้ำที่กวนสีหลิ่น แล้วประสานมือคำนับอย่างสุดซึ้ง “ขอบคุณมาก”

ขอบคุณมาก ขอบคุณคำเตือนจากเขา เป็นคำพูดเขานี่เองที่เตือนสติ

กวนสีหลิ่นมองเจ้าสำนัก โน้มตัวลงเล็กน้อยแค่รับการคารวะ ขณะเดียวกันยังคารวะกลับ “มิกล้า”

ทุกคนรอบข้างเห็นรองเจ้าสำนักคำนับคนหนุ่มใต้ต้นไม้คนนั้น ต่างพากันเบิกตาโตอย่างตกใจและมองภาพนี้ด้วยความเหลือเชื่อ คิดเพียงว่าภาพนี้ไม่ใช่เรื่องจริง

บนภูเขาบริเวณไม่ไกล โม่เฉินที่ได้ยินคำพูดทั้งสอง ยามนี้แววตาวูบไหวเล็กน้อยเช่นกัน เขาไม่ได้จากไปไหน เพียงยืนมองอาศรมอยู่ตรงนั้นเงียบๆ มองเจ้าสำนักที่ยืนใต้ต้นไม้และไม่คิดจะไปทำลายเขตอาคม

เวลาเดียวกันนี้ หลังจากรองเจ้าสำนักรีบกลับไปห้องแนะแนว และได้ยินคำพูดของอาจารย์หลี่ว์ ภายในห้วงความคิดก็มีแสงสว่างวาบ จิตใจสั่นสะท้าน จากนั้นนึกถึงข่าวลือภูตหมอจากภายนอกขึ้นมา

ภูตหมอสวมชุดสีแดง เป็นหนุ่มน้อยผู้งดงาม…

ก่อนจะนึกถึงคำพูดนั้นของหัวหน้าตลาดมืด ‘ช่วยคน ไยต้องทิ้งสิบเบี้ยใกล้มือ…’

รองเจ้าสำนักเพียงรู้สึกว่าในความคิดมีเสียงดังสนั่น ราวกับมีสายฟ้าระเบิดอยู่ภายใน ว่างเปล่าไปทันที

“เป็นเขา! เขานี่เอง! ที่แท้เป็นเขา!”

สีหน้าท่าทางเขาตื่นเต้น ร่างกายสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุม ได้ยินแต่เขาตะโกนยินดีอย่างประหลาดใจและตื่นเต้น ร่างพุ่งไปยังอาศรมของเฟิ่งจิ่วราวกับลำแสงในพริบตา………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version