Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 740

№ 740 เสียงระฆังกึกก้อง

“เจ้าค่ะ คนพวกนั้นปรากฏตัวบนถนนใหญ่ แรงกดดันแข็งแกร่งมาก หากเฟิ่งจิ่วไม่ใช้พลังส่งข้า ภายใต้แรงกดดันพวกเขาคงไม่มีทางหนีกลับมาขอความช่วยเหลือ ท่านเจ้าสำนัก ท่านรองเจ้าสำนัก พวกท่านได้โปรดช่วยเฟิ่งจิ่วด้วย หากพวกเราไม่ช่วย เขาต้องไม่รอดแน่…”

กำลังต่อสู้และผู้แข็งแกร่งเช่นนั้น ผู้ฝึกตนระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณเช่นนางจะรอดชีวิตจากเงื้อมมือพวกเขาได้อย่างไร?

เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าหนักใจขึ้นมาทันที โม่เฉินที่หนีบตัวหมากไว้ในมือยามนี้แววตาสั่นไหวเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววแปลกใจ

ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแปดคน ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณสี่คน ทำไมเขาถึงไปยั่วยุคนเช่นนั้นได้?

เวลานี้เองเจ้าสำนักก็สั่งการเสียงเข้ม “อาจารย์หลี่ว์ เจ้าไปเคาะระฆังใหญ่บนยอดเขาหลักเดี๋ยวนี้ เรียกประชุมอาจารย์จากสำนักพลังวิญญาณและสำนักพลังเร้นลับไปช่วยคนด้วยกันกับพวกข้า!”

“ขอรับ!”

อาจารย์หลี่ว์ขานรับแล้วออกไปเคาะระฆังใหญ่บนยอดเขาหลักอย่างรวดเร็ว เสียงระฆังแต่ละเสียงลอยออกไปจากยอดเขาหลัก ขณะที่กึกก้องไปแต่ละสำนัก หลังจากได้ยินเสียงระฆังพวกอาจารย์ก็พากันตกใจ วางเรื่องในมือลงและรีบไปยังยอดเขาหลักโดยเร็ว

ขณะเดียวกันเจ้าสำนักมองยังรองเจ้าสำนัก สั่งว่า “เหล่ากวน เจ้ารีบไปข้างนอก แล้วรวบรวมพวกอาจารย์ที่มีวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลังและระดับปราชญ์นักรบมาไว้ด้วยกัน”

“ขอรับ!” รองเจ้าสำนักขานรับก่อนจะออกไปโดยเร็ว เยี่ยจิงเห็นเช่นนี้จึงรีบเร่งตามไป นางก็ต้องไปช่วยกับพวกเขาด้วย!”

ยามนี้เจ้าสำนักถึงจะมองยังโม่เฉิน บอกว่า “นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเป็นนักเรียนสำนักศึกษา ยามนี้โดนผู้แข็งแกร่งไล่ล่า พวกเราจำต้องไปช่วย” กล่าวจบ หลังจากประสานมือคารวะถึงจะเร่งฝีเท้าวิ่งไปข้างนอก

เมื่อเนี่ยเถิงที่เร่งไปยังยอดเขาหลักได้ยินเสียงระฆังดังขึ้น ใจยิ่งตึงเครียด ในฐานะนักเรียนสำนักศึกษาย่อมรู้แน่นอนว่าเสียงระฆังนี้หมายถึงอะไร แต่นึกไม่ถึงว่าสถานการณ์จะร้ายแรงเช่นนี้ ทำให้เจ้าสำนักต้องลั่นระฆังเรียกประชุม

เห็นกลางอากาศมีพวกอาจารย์แต่ละสำนักร่อนกระบี่มุ่งไปยังยอดเขาหลัก เขายิ่งเร่งความเร็วขึ้น ขณะเดียวกันนี้กวนสีหลิ่นกับเซียวอี้หานที่ได้ยินข่าวก็รีบไปยังยอดเขาหลักเช่นกัน…

เวลาเดียวกันนี้เหล่าไป๋อาศัยตอนที่นายท่านไม่อยู่ออกไปเดินเล่น เดิมคิดจะไปแกล้งพวกนักเรียนหญิงเล่นในสถานที่ที่พวกนางรวมกลุ่มกันบ่อยๆ ใครจะรู้กลับได้ยินข่าวว่านายท่านเจออันตราย จึงเร่งกีบม้าวิ่งกลับอาศรมทันที

“อสูรกลืนเมฆา อสูรกลืนเมฆา!” ปากถูกมัดไว้ด้วยชิ้นผ้า คำพูดที่เอ่ยออกมาจึงงึมงำไม่ชัดเจน

อสูรกลืนเมฆาที่นอนใต้ต้นไม้ชำเลืองมองเหล่าไป๋ที่ตะโกนวิ่งแจ้นกลับมา ถามว่า “มีเรื่องอะไร? หรือว่าเจ้าไปแอบดูนักเรียนหญิงอาบน้ำตรงภูเขาด้านหลังยอดเขาสำนักยาแล้วโดนจับได้?”

“อู้ๆๆ…” เหล่าไป๋วิ่งกลับมา นอนลงบนพื้นแล้วใช้สองกีบม้าดึงผ้าตรงปาก แต่ยิ่งดึงยิ่งกลายเป็นเงื่อนตาย

อสูรกลืนเมฆาเห็นเช่นนั้น กรงเล็บก็ฉายแสงข่วนตัดชิ้นผ้านั้นไป ยังไม่ทันเอ่ยปากก็ได้ยินมันกล่าวอย่างลนลาน “แย่แล้วๆ เกิดเรื่องใหญ่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”

“เกิดเรื่องใหญ่อะไร?”

“ข้าได้ยินคนพวกนั้นบอกว่านายท่านอยู่ในอันตราย คนของสำนักศึกษาเคาะระฆังเรียกประชุมอาจารย์หลายคนเพื่อรีบไปช่วยนายท่าน! เหมือนจะมีปัญหาใหญ่มาก พวกเราก็ต้องไปช่วยด้วยสิ!”

เพียงได้ยินคำพูดนี้ อสูรกลืนเมฆาที่เดิมทีนอนอยู่พลันลุกขึ้นมา ท่าทางเกียจคร้านหายไป สิ่งที่ปรากฏคือความดุร้ายและกระหายเลือด มันกระโดดขึ้นบนหลังเหล่าไป๋ ตะโกนบอกว่า “รีบไป!”

เหล่าไป๋เร่งกีบม้าปรี่ไปยังประตูใหญ่สำนักศึกษา ความเร็วสูงราวกับสี่กีบบินสู่ท้องฟ้า ความว่องไวที่วิ่งถลาไปไม่ด้อยไปกว่าอาจารย์พวกนั้นที่ขี่กระบี่ไปแม้แต่น้อย พวกมันไม่ได้ไปที่ยอดเขาหลัก แต่วิ่งตรงออกจากประตูสำนักตามกลิ่นอายนายท่านไป…

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version