Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 743

№ 743 กลิ่นอายพลังวิญญาณเอ่อล้น

เฟิ่งจิ่วมองผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสี่คนตรงหน้านี้ ในดวงตามีความบ้าคลั่งที่จะสู้สุดชีวิต จิตวิญญาณต่อสู้ทั่วร่างถูกกระตุ้นออกมาในเวลานี้ กลิ่นอายพลังเร้นลับ กระแสลมพลังวิญญาณ ทั้งสองกระแสลมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว แล้วก่อตัวกลายเป็นกลิ่นอายมหาศาลที่น่าประหลาดใจและตกตะลึง จิตสังหารมืดฟ้ามัวดินกระจายจากร่าง บริเวณที่ห่างรอบกายออกไปไกลกว่าสามจั้ง กลิ่นอายในอากาศราวกับถูกเธอดูดเก็บไป ยามนี้บนร่างเธอมีอำนาจน่าหวาดกลัวที่สะเทือนฟ้าสะท้านดิน…

“ซี๊ด!”

“เป็นไปได้อย่างไร! เขาเป็นร่างเทพประทับ!”

“สวรรค์! ร่างเทพประทับ! เป็นร่างเทพประทับที่ยากจะเจอสักครั้งในรอบหมื่นปี!”

ยามนี้แม้แต่สี่ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณยังตื่นตะลึง เห็นกระแสลมทรงพลังนั้นที่พรั่งพรูขึ้นมาบนร่างเขา ในใจก็นึกถึงตำนานเกี่ยวกับร่างเทพประทับ

ความเร็วในการฝึกบำเพ็ญของร่างเทพประทับนับเป็นสิบเท่าของผู้ฝึกตนมากพรสวรรค์! ถึงขั้นไม่มีขีดจำกัด! ต้องรู้ว่าภายในแปดจักรวรรดิใหญ่ยังไม่เคยมีคนที่มีร่างเทพประทับ นึกไม่ถึงว่าในแคว้นระดับล่าง แคว้นระดับเก้าที่ต่ำที่สุดจะมีร่างเทพประทับอยู่!

มิน่าท่านผู้นั้นถึงสนใจเขา แม้ตอนนี้จะธรรมดาไม่โดดเด่น อีกไม่กี่ปีรัศมีและวรยุทธ์ก็จะเหนือกว่าทุกคน!

“จะปล่อยเขารอดไปไม่ได้! ฆ่าเขาซะ!”

คนเช่นนี้ครอบครองร่างเทพประทับไว้ เช่นนั้นยิ่งปล่อยเขารอดไปไม่ได้! แม้เบื้องบนจะสั่งให้พากลับไปหลังจากหาเจอ แต่ยามนี้พวกเขารู้อย่างลึกซึ้งว่าไม่อาจปล่อยให้คนคนนี้มีชีวิตต่อไปได้! มิเช่นนั้นตัวแปรมากเกินไป ภัยอันตรายจะยิ่งมาก!

“ฆ่าเขาซะ!”

สิ้นเสียงดุร้ายกระหายเลือด สี่ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุดก็ออกจู่โจมพร้อมๆ กัน หากบอกว่าก่อนหน้านี้ยังมีช่องโหว่บางส่วน เพียงเพราะคิดจะจับไปเป็นๆ เช่นนั้นตอนนี้พวกเขาพูดได้เลยว่าจะไม่เหลือโอกาสให้รอดอีกต่อไป จะลงมือจัดการเขาให้ถึงที่ตาย!

“ไม่ปล่อยให้ข้ารอด ข้าก็จะฆ่าเจ้าเช่นกัน!”

เปลวไฟลุกโหมผุดขึ้นบนร่างเฟิ่งจิ่ว นั่นเป็นเปลวไฟชีวิตของสัตว์เทวะในตำนานที่มาจากภายใน บนกระบี่คมพยับ นอกจากประกายสีดำที่พุ่งพล่านยามนี้ยังมีเปลวไฟล้อมรอบ เป็นการปกป้องจากแรงกดดันสัตว์เทวะในตำนาน แรงกดดันของสี่ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณจึงไม่เป็นอันตรายต่อเธอ

จิตวิญญาณต่อสู้เดือดพล่าน เจตนาสังหารปรากฏ!

กระแสลมน่าสะพรึงกับแรงกดดันน่าหวาดกลัวแทบจะกระจายไปทั่วผืนป่าทึบในชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่พวกคนที่สู้กันห่างออกไปกว่าสามจั้ง ภายใต้กลิ่นอายแรงกดดันผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณทั้งสี่ รวมถึงกระแสลมทรงพลังที่พรั่งพรูออกมาจากเฟิ่งจิ่ว ก็ยังถูกกระแสลมที่เห็นได้ด้วยตาเปล่านั้นโจมตีกระเด็นออกไป

กระแสลมนั้นเป็นดั่งเกลียวคลื่นแต่ละชั้น หลั่งไหลปั่นป่วน หนึ่งชั้นโถมทับอีกชั้นจนปกคลุมป่าทึบทั้งหมด ไม่ว่าแผ่นดินหรือกลางเวหาล้วนล้นเปี่ยมไปด้วยกระแสลมกับแรงกดดันทรงพลังคล้ายลายน้ำนั้น…

“เปรี้ยง!”

“ฟิ้ว! สวบๆ!”

พวกคนที่ถูกโจมตีส่งออกไปชายขอบนอกป่าทึบติดๆ กัน นอกจากชายชราระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้น คนอื่นๆ ต่างกลิ้งล้มลงไปกับพื้นอย่างไม่อาจควบคุม เมื่อได้ยินเสียงดังสนั่นที่ลอยมาจากส่วนลึกของป่าทึบนั้น ชายชราคนนั้นไม่ได้สืบหาความ แต่อาศัยตอนที่ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคนถูกกระแสลมทำให้ปั่นป่วนจนเสียสมดุลและกำลังต่อสู้ เรียกกระบี่สั้นสองเล่มปรากฏขึ้นในมือและแทงไปตรงจุดตันเถียนด้วยท่าทีปานสายฟ้า ทำลายแก่นพลังสองคนนั้นไป

ทันใดนั้นได้ยินเพียงเสียงดังขึ้นสองเสียง ชายชุดดำระดับหลอมแก่นพลังสองคนที่ไม่ทันได้ตอบโต้ล้มลงพื้น จ้องมองชายชราระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นนิ่งๆ ด้วยความไม่ยอมแพ้และโกรธแค้น…

………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version