Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 758

№ 758 ช่วยด้วย

เหล่าไป๋เดินวนด้านในรอบหนึ่ง เอ่ยว่า “ทำอย่างไรดี? พวกเราติดอยู่ข้างในนี้นานมากแล้ว นายท่านคงไม่ตายไปแล้วจริงๆ หรอกกระมัง?”

“ฮึ! รู้จักเป็นห่วงด้วยหรือ”

อสูรกลืนเมฆาแค่นเสียงหยัน นอนอยู่บนหลังมันไม่ขยับเขยื้อน คิดๆ แล้วยังบอกอีกว่า “ข้ากับนายท่านมีพันธสัญญากัน หากนายท่านมีเรื่องอันตรายถึงชีวิตจะรู้สึกถึงได้ ตอนนี้ข้าไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น น่าจะไม่มีอันตรายถึงชีวิต

ยิ่งไปกว่านั้นนายท่านยังมีสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิต นั่นคือสัตว์เทวะโบราณ ต่อให้เกิดเรื่องขึ้นก็คงปกป้องนายท่านได้ ก่อนหน้านี้พวกเราออกมาก็กังวลกันเกินไป ควรจะถามเสียก่อน”

“เช่นนั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกัน รอคนมาช่วยหรือ? สถานที่บ้านี่ปกติอาจจะไม่มีคนเข้ามาเสียด้วยซ้ำ” เหล่าไป๋พูดพลางกระทืบกีบม้า

“ที่นี่วางค่ายกลไว้ หากเป็นเขตอาคมเราสองคนอาจยังร่วมแรงชนได้ แต่ค่ายกลนี้กลับชนไม่ได้ ต้องทำลายเท่านั้น จะทำลายค่ายกลต้องตามหาดวงตาค่ายกลพวกนั้นก่อน แต่ข้าไม่คุ้นเคยกับค่ายกล ไม่มีทางแก้จริงๆ”

“เช่นนั้นต้องรอหรือ?”

“รอเถอะ!”

“จะไม่ตะโกนขอความช่วยเหลือหน่อยรึ?” เหล่าไป๋แนะนำ คิดว่าน่าจะเอาอย่างพวกมนุษย์

“เรื่องขายหน้าเพียงนี้ จะตะโกนเจ้าก็ตะโกนไปเถอะ” อสูรกลืนเมฆาเบ้ปากแล้วหันหน้าไปอีกทาง

“ไม่รอดชีวิตสิถึงจะขายหน้า”

เหล่าไป๋พ่นลมหายใจ เดินวนไปมา ก่อนจะแหกปากตะโกนว่า “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! มีใครอยู่บ้าง? รีบมาช่วยเร็ว…”

เช้าตรู่วันต่อมา เพราะไม่เห็นสองสัตว์อสูรกลับมาเสียที กวนสีหลิ่นกับเยี่ยจิงจึงพานักเรียนสิบคนออกจากสำนักศึกษาไปถามในเมืองว่ามีใครเห็นร่องรอยสัตว์อสูรทั้งสองหรือไม่

ทว่าจนกระทั่งเที่ยงวันกลับมายังหาไม่เจอ ระหว่างทางกวนสีหลิ่นกระซิบบอกว่า “ในเมืองไม่มีใครเห็นพวกมัน หรือว่าพวกมันจะไม่ได้ไปในเมือง?”

“พวกมันออกจากสำนักศึกษาไป หรือว่า…”

เยี่ยจิงมองไปยังป่าฝั่งตะวันออกของสำนักศึกษา เอ่ยคล้ายกำลังครุ่นคิด “ป่าผืนตรงหน้าวางค่ายกลไว้ไม่น้อย พวกมันคงไม่ได้หลงเข้าไปด้านในกระมัง?”

“ไปดูหน่อยเถอะ”

“ด้านในมีค่ายกลไม่น้อย ตอนหาต้องระวังหน่อย อย่าติดกับอยู่ในนั้นเชียว” นางกล่าวเตือน

“ได้” กวนสีหลิ่นขานรับ แยกกับนางออกไปตามหาพลางตะโกน “เหล่าไป๋ อสูรกลืนเมฆา…”

สองสัตว์อสูรที่ติดอยู่ในป่าเดิมทีกำลังนอนหลับ เมื่อได้ยินเสียงเรียกดังขึ้นก็กระโดดผลุงขึ้นมาทันที

“เยี่ยจิงคนงาม” เหล่าไป๋ดวงตาเป็นประกาย เอ่ยด้วยความประหลาดใจ

“คล้ายจะยังมีพี่ชายของนายท่านด้วย” อสูรกลืนเมฆากล่าว

“ต้องมาตามหาพวกเราแน่ๆ” เหล่าไป๋เดินวนไปมาด้วยความระรื่น พลางแหกปากตะโกนว่า “พวกเราอยู่ที่นี่ พวกเราอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงคนงาม พวกเราอยู่ตรงนี้!”

เยี่ยจิงที่พานักเรียนสิบคนมาตามหาในป่าพลันได้ยินเสียงที่ทั้งแหบแห้งและตื่นเต้นดีใจ นางถามนักเรียนด้านหลังว่า “พวกเจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือไม่ ทำไมข้าได้ยินคล้ายว่ามีคนกำลังตะโกนเรียกข้า?”

“หรือจะเป็นนักเรียนสำนักศึกษาที่หลงเข้าค่ายกลมา?”

นักเรียนคนหนึ่งถาม ไม่ได้นึกเลยว่าจะเป็นสัตว์อสูรสองตัวนั้น ถึงอย่างไรสัตว์อสูรที่ระดับไม่ถึงสัตว์เทวะล้วนไม่เอ่ยปากพูดภาษามนุษย์ เหล่าไป๋เป็นเพียงม้าประหลาด เจ้าตัวเล็กนั่นก็ยังเป็นแค่สัตว์เลี้ยงตัวน้อย ไม่ว่าใครก็ไม่คิดไปทางนั้น

“ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ก็ต้องเข้าไปดูเสียหน่อย” เยี่ยจิงพูดจบก็ตามหาไปทางเสียงนั้น ยิ่งเข้าใกล้เสียงนั้นยิ่งชัดเจน

“เยี่ยจิงคนงาม เยี่ยจิงคนงาม ช่วยด้วย ช่วยด้วย เยี่ยจิงคนงาม…”

“เจ้าอย่าตะโกนได้หรือไม่ หนวกหูจะตายอยู่แล้ว”

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version