№ 865 ใครจองโรงเตี๊ยม?
โรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งในเมืองหลวง นอกจากรูปแบบจะสะดวกสบายและมีระดับกว่าที่อื่น แน่นอนว่าราคาไม่ใช่ว่าคนธรรมดาจะพักได้ แทบพูดได้ว่าคนที่พักโรงเตี๊ยมนี้ไม่ร่ำรวยก็สูงศักดิ์
“เฒ่าแก่ ขอสามห้อง” เฟิ่งจิ่วเดินเข้าไป และมาบอกยังโต๊ะด้านหน้า
“เหอะๆ ขออภัยคุณชาย ห้องเต็มหมดแล้ว พวกท่านลองไปดูที่อื่นเถอะ!” เฒ่าแก่กล่าวอย่างขออภัย
“เช่นนี้เอง! เอาเถอะ! ไม่มีห้องก็ช่วยไม่ได้” เธอยักๆ ไหล่อย่างไม่สนใจ พาเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาสองคนจะออกไป ยามนี้กลับได้ยินเสียงหนึ่งลอยมา
“ขอคุณชายชุดแดงท่านนี้รอก่อน” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง พร้อมเรียกเฟิ่งจิ่วไว้
เฟิ่งจิ่วหันกลับไปมอง สายตาหยุดลงบนร่างชายวัยกลางคน ถามว่า “เรียกข้าหรือ?”
“ใช่ขอรับ” คนคนนั้นพยักหน้าขานรับ สายตาพินิจมองบนร่างเฟิ่งจิ่วพักหนึ่ง ยิ้มถามว่า “ขอบังอาจถามคุณชายแซ่เฟิ่ง? นามจิ่วใช่หรือไม่?
เธอได้ยินเช่นนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น ขานรับว่า “อืม”
“เหอะๆ เช่นนั้นก็ถูกต้องแล้ว” ชายวัยกลางคนยิ้มเอ่ย แนะนำตนเองพลางบอกว่า “ข้าเป็นเฒ่าแก่ใหญ่รองเตี๊ยมอันดับหนึ่ง หนึ่งเดือนก่อนหน้ามีคนช่วยคุณชายจองห้องไว้แล้วขอรับ”
“โอ้? ใครจองให้ข้ากัน?” ใครรู้ว่านางจะมาที่นี่? ซ้ำยังจองโรงเตี๊ยมด้วย?
“ข้าก็ไม่ทราบขอรับ เขาแค่ส่งคนเข้ามาบอกหน้าตาและชื่อแซ่คุณชาย ขณะเดียวกันยังช่วยคุณชายจองห้องเลขอักษรฟ้าไว้สองห้อง” ชายวัยกลางคนกล่าวยิ้มๆ มองไปยังเฒ่าแก่ข้างๆ ที่ยืนอึ้งตรงโต๊ะด้านหน้า สีหน้าคร่ำเครียดเล็กน้อย “เจ้าทำงานอย่างไร? เคยสั่งไว้ไม่ใช่หรือว่าห้องเลขอักษรฟ้าสองห้องเป็นของคุณชายชุดแดง? ทำไมแขกมายังไล่ออกไปอีก?”
เฒ่าแก่คนนั้นถูกสั่งสอนเสียจนตกใจอึ้ง ผ่านไปสักพักถึงจะได้สติกลับมา รีบร้อนเข้าไปบอกว่า “เฒ่าแก่ใหญ่ แต่ก่อนหน้านี้ข้ารับรองคุณชายชุดแดงท่านหนึ่งไปแล้ว! ข้าถามว่าเขาแซ่เฟิ่งนามจิ่วใช่หรือไม่ เขาบอกว่าใช่ จากนะ จากนั้นข้าก็พาเขาขึ้นไปด้วยตนเอง ดังนั้น…”
เขาไม่รู้ว่ามีคนนามว่าเฟิ่งจิ่วสองคน! หนึ่งเดือนก่อนมีคนช่วยคนนามเฟิ่งจิ่วจองห้องเลขอักษรฟ้าไว้สองห้อง บอกเอกลักษณ์พวกเขาไว้ ว่าเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกสิบเจ็ด หน้าตางดงามสวมชุดแดง นึกว่าเป็นคนก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงพาคนขึ้นไป
“อะไรนะ? เจ้ารับรองไปแล้วท่านหนึ่ง?” เฒ่าแก่ใหญ่ก็ตกใจ มองไปยังเฟิ่งจิ่วตามสัญชาตญาณ ลังเลพักหนึ่งก่อนจะถามว่า “คุณชายตอนนี้นามว่าเฟิ่งจิ่ว?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดทั้งสอง ก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ดังนั้นจึงพยักหน้า “อืม ข้าชื่อเฟิ่งจิ่ว แต่ไม่รู้ว่าใครช่วยข้าจองห้อง มีคนจองผิดหรือเปล่า?”
ที่นี่เธอไม่มีคนรู้จัก ใครจะรู้ว่าเธอมา? ซ้ำยังจัดเตรียมโรงเตี๊ยมให้อย่างดี? หนำซ้ำสิ่งที่ทำให้เธอสงสัย คือใครยังยอมรับทันทีว่าเป็นเฟิ่งจิ่วและเข้ามาพักในโรงเตี๊ยม?
อีกฝ่ายยังสวมชุดสีแดงเหมือนกันกับเธอ? ทำให้นึกถึงเรื่องภูตหมอตัวปลอมก่อนหน้านี้อย่างอดไม่ได้ แต่ที่นี่ไม่มีใครรู้ตัวตนเธอ เดาว่าแค่บังเอิญกระมัง!
“นี่…”
เฒ่าแก่ใหญ่สงสัย มองไปยังเฒ่าแก่พลางบอกว่า “เจ้าขึ้นไปเชิญแขกคนนั้นลงมาถามเสียหน่อย เรื่องรับแขกผิดคนเช่นนี้อาจจะเล็กหรือใหญ่ แต่อย่าขัดใจใครสุ่มสี่สุ่มห้า”
“ขอรับๆ” เฒ่าแก่ขานรับพลางเช็ดๆ เหงื่อ แล้วรีบเร่งขึ้นไปเชิญแขกห้องเลขอักษรฟ้ามา
ทว่าหลังเฒ่าแก่ขึ้นไปไม่นานนักกลับลงมาอีกครั้งอย่างลนลาน เอ่ยกับเฒ่าแก่ใหญ่ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก “ผู้ติดตามคุณชายท่านนั้นชั้นบนบอกว่านายท่านพวกเขาพักผ่อนแล้ว มะ ไม่ให้รบกวนขอรับ”
……………………