บทที่ 150 กลับไปยังหอต้วนอวิ๋นอีกครั้ง
ไม่ได้พูดไร้สาระกับอวี่มั่วมากมาย หลานเยี่ยคิดถึงจุดประสงค์ที่มาในวันนี้ นั่นคือหอต้วนอวิ๋น
“หอต้วนอวิ๋นเป็นของเจ้าหรือ”
“แน่นอน” อวี่มั่วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงบนโลกใบนี้ไม่มีข้าสู้ข้าได้ แต่กลับถูกเทียนซีบิดเนื้อขาจนต้องสูดปากด้วยความเจ็บ อวี่มั่วส่งสายตาน้อมรับความผิดให้กับเทียนซีอยู่ตลอด
“หอนางโลม?”
“แน่…” อวี่มั่วกำลังจะพูด แต่ก็ถูกเทียนซีบิดเนื้ออีกครั้ง
“เป็นหอนางโลมหรือไม่ ไปดูก็รู้เองไม่ใช่หรือ มาสองครั้งล้วนพอดีกับวันที่ครึกครื้น เจ้าช่างโชคดีเสียจริง”
“ยุ่งขนาดนี้ พวกเจ้าออกมาจะดีหรือ” จู่ๆ หลานเฟิงที่ดื่มเหล้าอยู่ข้างๆ มาตลอดเอ่ยขึ้นมาประโยคหนึ่ง นับตั้งแต่ติดนิสัยการดื่มเหล้าจากตอนอยู่ตระกูลเยี่ยมาแล้วนั้น หลานเฟิงก็เริ่มเรียนรู้วิธีละเลียดเหล้า แต่หลังจากที่หาหลานเยี่ยพบก็ไม่ได้เสพติดถึงเพียงนั้นแล้ว
“มีอวี่ซีอยู่ ไม่จำเป็นต้องกังวล” พูดจบอวี่มั่วก็หยิบขนมอบสับปะรดชิ้นหนึ่งขึ้นมากิน
“เจ้าสั่งอาหารหรือยัง”
“ข้ากินขนมสับปะรดเจ้าชิ้นหนึ่งเจ้ายังเจ็บใจ แม้ความทรงจำจะถูกผนึกไว้ แต่เจ้าก็ไม่อาจกลายเป็นคนขี้งกเช่นนี้ได้กระมัง”
“คนข้างนอกตามหาเจ้ากันจนเป็นบ้าแล้ว”
“?” อวี่มั่วเดินออกไป เห็นผู้คนสองสามคนกำลังตามหาเขาจริง
“คุณชาย ท่านไปที่ใดมา เมื่อครู่นี้แม่นางอวี่ซีบอกว่าทางนั้นเริ่มแล้ว มีสองคนทะเลาะเบาะแว้งกัน”
“…”
อวี่มั่วกลับไปยังห้องชุดของหลานเยี่ย หน้าดำคล้ำ เรียกพวกหลานเฟิงให้ไปพร้อมกัน
“เจ้าไม่ได้ทานอาหารหรอกหรือ ไม่ทานแล้วหรือ”
“…” อวี่มั่วหน้าดำคล้ำ
ในที่สุดก่อนที่อวี่มั่วจะลงมือ พวกเขาก็เริ่มออกเดินทาง
สำหรับหลานเยี่ยแล้ว ครั้งนี้ที่มาหอต้วนอวิ๋นที่จริงสามารถนับว่าเป็นครั้งแรกได้ ไม่มีความทรงจำใดหลงเหลือ จากสายตาแล้วรู้สึกว่านี่คือหอนางโลมแห่งหนึ่ง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
“จัดการดีเสียจริง หน้าประตูยังไม่มีการส่งคนมาคอยดึงแขกด้วย”
“…”
“เสี่ยวซี ข้าจัดการอัดเขาจนตายได้หรือไม่” อวี่มั่วมองหลานเยี่ยด้วยท่าทีเหี้ยมโหด
“ขอแค่เจ้าสู้ชนะหลานเฟิง ข้าเองก็ไร้ซึ่งความเห็น”
“…”
หลังจากเข้าไปแล้ว สถานการณ์นั้นไม่อาจควบคุม ทั้งสองคนแทบจะลงไม้ลงมือกันแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น” อวี่มั่วถามอวี้ซีที่อยู่อีกฝั่ง
“พวกเขาสองคนทะเลาะกันเพราะสตรีผู้หนึ่งเจ้าค่ะ” อวี่ซีชี้ไปยังพวกเขาสามคน อวี่มั่วเดินเข้าไป แยกทั้งสองคนออกจากกัน แต่เดิมเขาก็มีน้ำโหอยู่แล้ว มาถึงตอนนี้ยิ่งมากกว่าเดิม
“เจ้าสองคนเงียบปาก ให้แม่นางผู้นี้พูด นางอยากได้ใคร แม่นาง เจ้าพูดมา เจ้าเลือกผู้ใด ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะจัดการไม่ได้”
“ข้า… ข้า…” สตรีผู้นั้นพูดจาติดขัดพูดไม่ออก ทำให้อวี่มั่วร้อนใจนัก
“แม่นางเจ้าพูดออกมาซิ เจ้าเป็นเช่นนี้แล้วเมื่อไรจะจัดการปัญหาได้” อวี่มั่วใกล้จะระเบิดออกมาแล้ว เทียนซีรีบเข้าไปไกล่เกลี่ยสถานการณ์
“แม่นางผู้นี้อย่าได้ลำบากใจไป พูดถึงความลำบากของเจ้าได้หรือไม่”
“ข้า… ข้าไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร ก่อนนี้เพราะข้าตกหลังม้าไปครั้งหนึ่ง ทำให้สูญเสียความทรงจำ คุณชายด้านซ้ายผู้นั้นเป็นคนรักของข้าในอดีต ปฏิเสธเขาให้อยู่ห่างก็หลายครั้ง แต่ข้าก็ยังลืมเขา คุณชายด้านขวาผู้นั้นดูแลข้ามาโดยตลอด ตอนที่พวกเราใกล้จะหมั้นหมายกันนั้น ความทรงจำของข้าก็กลับมา ข้าไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไรจริงๆ ข้าไม่รู้” สตรีผู้นั้นพูดไปพูดมาก็ร้องไห้ออกมา ทำให้หลานเยี่ยที่ดูอยู่รู้สึกหนักใจนัก
ตนเองก็เป็นเช่นนี้เหมือนไม่ใช่หรือ หากตนเองสูญเสียความทรงจำจริง หากตนเองฟื้นฟูความทรงจำกลับมาได้ มู่หลีและหลานเฟิง เขาจะเลือกอย่างไร แล้วเขาควรทำเช่นไร
หลานเฟิงมองดูเหตุการณ์นี้ รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของหลานเยี่ย จึงจับมือของเขาเอาไว้อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ถ่ายทอดความรู้สึกปลอดภัยให้กับเขา หลานเยี่ยเหมือนกับฉวยฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ จับมือของหลานเฟิงแน่น