Skip to content

ใต้ม่านรัตติกาล 170


บทที่ 170 ลูกของข้า

หลังจากมาถึงวังอวี้หลิงแล้ว ฮ่องเต้ไม่ได้ให้คนรายงาน เขาพาอวี่มั่วเข้าไปเงียบๆ ก่อนที่จะก้าวผ่านประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงพูดคุยจากภายใน

“เหนียงเหนียงเพคะ เหตุใดพระองค์ถึงทรงพระกันแสงขึ้นมาเล่าเพคะ”

“เฮ้อ เห็นองค์ชายองค์หญิงเหล่านั้นภายในวังหลวง ก็คิดถึงลูกที่มีชีวิตรันทดของข้า เจ้าว่าตอนนั้นเหตุใดลูกข้าถึงได้มีชีวิตที่น่ารันทดเช่นนั้น เพิ่งเกิดมายังไม่ได้เรียกเสด็จแม่สักคำก็จากไปเสียแล้ว”

“หากว่าองค์ชายยังมีพระชนม์ชีพ เกรงว่าคงแต่งพระชายาแล้ว ไม่แน่ว่าพระองค์คงได้อุ้มพระนัดดาแล้วด้วยเพคะ”

“เฮ้อออ” พระชายาหลิ่วถอนหายใจยาง ฮ่องเต้พาอวี่มั่วบุกเข้าไปข้างใน

“หลิงเอ๋อร์ มาดูซิว่าใครมา”

“ฮ่องเต้!” พระชายาหลิ่วรีบเช็ดน้ำตาตรงหางตา

“ฮ่องเต้ทรงพระเจริญ” ฮ่องเต้ไม่สนใจข้ารับใช้ข้างกายพระชายาหลิ่ว ข้ารับใช้ย่อมถอยออกไปเอง

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าดูเร็ว นี่คือลูกของเราใช่หรือไม่ เขายังไม่ตาย”

“นี่เกิดอะไรขึ้นเพคะ” พระชายาหลิ่วตอบออกมาด้วยความตกใจ

ฮ่องเต้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนออกว่าราชการเช้าวันนี้ให้นางฟัง พระชายาหลิ่วมองอวี่มั่วอย่างไม่คิดเชื่อ

“เจ้าเป็นลูกข้าจริงหรือ” พระชายาหลิ่วลูบใบหน้าอวี่มั่วด้วยอาการสั่นสะท้าน

“ลูกเข้าเฝ้าเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ” อวี่มั่วคุกเข่าข้างเดียวลงบนพื้น ก้มหัวต่ำ น้ำตาคลอ

“ลูก ลูกของข้า แม่คิดถึงเจ้าเหลือหลาย ทำไมเจ้าถึงเพิ่งกลับมา มาให้แม่ดูเจ้าดีๆ เสียหน่อย” พระชายาหลิ่วคุกเข่าลงกอดอวี่มั่วร้องไห้เสียงดัง

“เสด็จแม่ ลูกมาช้าเกินไป” รอจนทั้งสองคนสงบลงแล้ว ฮ่องเต้ พระชายาหลิ่ว และอวี่มั่วจึงนั่งลงอย่างพร้อมหน้า พระชายาหลิ่วถามคำถามอวี่มั่วไม่หยุด อวี่มั่วเองก็ตีสีใส่ไข่ตอบนาง

“เหตุใดจึงต้องทำเช่นนี้กับลูกข้า หลายปีมานี้กลับต้องมาเจอกับความลำบากมากมายเช่นนี้ ล้วนเป็นเพราะตอนนั้นแม่ไม่ดีเอง ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้”

“ต้องโทษข้าด้วย หากไม่ใช่เพราะข้าใจกว้างต่อฮองเฮามากเกินไป นางเองคงไม่กล้าทำเรื่องเลวทรามอย่างอาจหาญเหิมเกริมเช่นนี้”

“ฮ่องเต้คิดจะจัดการกับฮองเฮาอย่างไรเพคะ”

“แต่เดิมข้าคิดจะลดชั้นนางเหลือเป็นชาวบ้าน แต่อย่างไรนางก็เป็นคนตระกูลเยี่ย ข้าจัดการกับหัวหน้าแม่ทัพไปแล้ว หากว่าไปยุ่งกับนางอีก ตระกูลเยี่ยจะต้องไม่ยอมให้เรื่องจบเป็นแน่” ฮ่องเต้มีสีหน้ากลัดกลุ้ม

“ฮ่องเต้เพคะ หรือพระองค์อยากโดนตระกูลเยี่ยควบคุมเช่นนี้อยู่ไปตลอดเพคะ หลายปีมานี้หม่อมฉันเห็นพระองค์วุ่นวายเพราะเรื่องตระกูลเยี่ยอยู่ทุกวัน หม่อมฉันทนเห็นไม่ไหวเพคะ”

“ใช่พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ เหตุใดจึงไม่ฉวยโอกาสนี้จัดการขับไล่คนตระกูลเยี่ยทั้งหมดลงไปเล่าเพคะ เช่นนี้ก็จะไม่ถูกตระกูลเยี่ยควบคุมอีก” อวี่มั่วที่นั่งอยู่อีกฝั่งพูดสมทบ

“ข้าจะเอาไปคิด” พระชายาหลิ่วเห็นฮ่องเต้มีท่าทีเช่นนี้ ก็ส่ายหน้าออกมาด้วยความผิดหวัง ฮ่องเต้ประเภทนี้ ตระกูลเยี่ยช่างเลือกคนเป็นเสียจริง ตอนนี้มีโอกาสอันดี ก็ยังไม่กล้าลงมือง่ายๆ ดูท่าทางคงเหมือนกับที่ท่านประมุขตระกูลพูด คนในวังจินหลวนแห่งราชสำนักจำต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงแล้ว

พระชายาหลิ่วมองฮ่องเต้ แล้วมองอวี่มั่ว ยิ่งรู้สึกได้ว่าอวี่มั่วมีท่าทางเป็นผู้นำมากกว่า แต่ตอนแรกที่ส่งเขาออกไปก็เพื่อที่จะไม่ให้เขาเข้ามายุ่งกับเรื่องในราชสำนัก ตอนนี้เมื่อดูแล้วไม่รู้ว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องหรือไม่

เวลากลางวันได้คุยกับเทียนซีไปแล้ว เด็กคนนั้นเข้าใจเรื่องราว และสนับสนุนอวี่มั่วเป็นอย่างมาก เป็นเด็กที่ดีจริง หากไม่ใช่เพศชายก็คงจะสมบูรณ์มากกว่านี้ ตอนนี้มาพูดเรื่องเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ดูท่าทางคงจะไม่ได้อุ้มหลานแล้ว

“หลิงเอ๋อร์ เหนื่อยมาแล้วทั้งวัน มั่วเอ๋อร์เองก็เหนื่อย ให้เขาไปพักก่อนดีกว่า” ฮ่องเต้เอ่ยปาก

“ฮ่องเต้ตรัสถูกต้องแล้วเพคะ ฮ่องเต้เองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว หม่อมฉันปรนนิบัติพระองค์พักผ่อนก็แล้วกันเพคะ”

“ลูกขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”

หลังจากรอจนอวี่มั่วจากไป หลานเยี่ยที่อยู่ชั้นใต้วังอวี้หลิงก็เริ่มลงมือ

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version