Skip to content

A Will Eternal 114

บทที่ 114 หลี่ชิงโหวเข้าใจแล้ว…

“เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง…” ป๋ายเสี่ยวฉุนใกล้จะร้องไห้เต็มแก่ ไม่มีอารมณ์จะเช็ดเหงื่อ ขณะที่ค่ายกลด้านนอกส่งเสียงดังเลื่อนลั่น เขาทำได้แค่กัดฟันหลอมยาต่อไป

เขาก็ไม่ได้อยากก่อเรื่องวุ่นวายเสียหน่อย ป๋ายเสี่ยวฉุนรู้สึกว่าตัวเองได้รับความเป็นไม่ธรรมอย่างยิ่ง ความตั้งใจแรกเริ่มเดิมทีของเขาก็แค่อยากให้งูพวกนั้นหุบปากก็เท่านั้นเอง…

เขารู้สึกว่านี่เป็นแค่ความคิดที่เรียบง่ายมากข้อหนึ่งเท่านั้น จะยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าแม้เขาจะทำให้งูพวกนี้หุบปากได้ แต่กลับทำให้พวกมันฉุนเฉียวขึ้นมาแทนเสียนี่

เห็นว่าสถานการณ์ท่าจะไม่ดี ความคิดแรกของเขาก็คืออยากแก้ไข ดังนั้นจึงหลอมยาแก้ขึ้นมาชั่วคราว เพื่อทำให้พวกมันกลับคืนไปอยู่ในสภาพเดิม ต่อให้งูพวกนั้นจะร้องขู่ไม่หยุดเขาก็ยอมแล้ว

สองวันต่อมา ค่ายกลของห้องหินที่ป๋ายเสี่ยวฉุนอยู่เกิดเสียงดังรุนแรง ท่ามกลางเสียงดังลั่นเปรี๊ยะๆ รอยปริแตกจำนวนไม่ถ้วนแผ่ไปรอบด้าน ถูกงูมากมายเกินจะนับพุ่งกระแทกจนใกล้จะประคองไม่ไหวอีกต่อไป ลมหายใจป๋ายเสี่ยวฉุนถี่กระชั้น พุ่งพรวดออกไปจากห้องหิน ในมือถือยาเอาไว้สองเม็ด

“ครั้งนี้ต้องช่วยจนสำเร็จให้ได้!! หุบเขาหมื่นอสรพิษ กลับคืนสู่สภาพปกติเถอะ!” ป๋ายเสี่ยวฉุนคำรามลั่น หลายวันมานี้เขากดดันมากเกินไป เวลานี้สีหน้าจึงดูเลื่อนลอยเล็กน้อย โยนยาในมือออกไปด้านนอกอย่างแรง ยาระเบิดออกพร้อมเสียงดังปังๆ กลายเป็นกลุ่มควันสีเขียวแพร่กระจายไปรอบด้านอย่างรวดเร็ว

งูเหล่านั้นที่อยู่รอบค่ายกลหลังจากที่สัมผัสกับหมอกควันนี้ร่างก็สั่นสะท้าน เมื่อเสียงตูมตามดังไปทั่วด้าน งูพวกนั้นก็ร่วงลงมาด้านล่างทันที แต่ละตัวนอนอยู่บนพื้น อ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว คล้ายว่าความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อหมอกควันฟุ้งกระจาย ไม่นานงูทุกตัวที่อยู่ในถ้ำก็เป็นเหมือนกันหมด งูเทพโลหิตหลายตัวก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน เห็นว่าสถานการณ์เหมือนจะควบคุมได้แล้ว ป๋ายเสี่ยวฉุนจึงผ่อนลมหายใจยาวอยู่ในใจ วิถีโอสถได้กลายมาเป็นสิ่งที่เขาทั้งเคารพและยำเกรงไปเสียแล้ว แต่ตอนนี้สิ่งที่มีมากกว่าคือความรู้สึกภาคภูมิใจที่สามารถควบคุมทุกอย่างไว้ในมือของตัวเองได้

“ในที่สุดก็…” ป๋ายเสี่ยวฉุนสูดลมหายใจเข้าลึก กำลังพูดพึมพำอยู่กับตัวเอง แต่เขายังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้นก็ต้องสะดุ้งโหยง ชี้ไปยังงูสามเหลี่ยมด้านหน้าตัวหนึ่ง ในตาปรากฏความตะลึงพรึงเพริดไม่อยากเชื่อ และยิ่งคาดไม่ถึง

“นี่…นี่…”

ชั่วขณะนี้ร่างของงูสามเหลี่ยมตัวนั้นชักกระตุกอย่างรุนแรง ตรงตำแหน่งหน้าผากพลันปูดพองขึ้น แล้วก็มีเขางอกทะลุออกมาอย่างเห็นได้ชัด!

“งูมีเขางอก!” ป๋ายเสี่ยวฉุนร้องเสียงหลง สมองเกิดเสียงดังอื้ออึง คลื่นลูกใหญ่โหมซัดสาดในชั่วพริบตา เวลานี้งูทุกตัวเริ่มชักกระตุกอย่างรุนแรง พอจะนึกภาพออกว่าหากพวกมันสามารถร้องคำรามได้ คงต้องร้องตกใจเสียงดังอย่างแน่นอน

ไม่นานงูทุกตัวที่อยู่รอบด้านก็ล้วนมีเขางอกขึ้นมาหมด งูพวกนี้พากันพลุ่งพล่านขึ้นมา เหมือนว่ายาที่สะกดความพลุ่งพล่านก่อนหน้านี้ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ทุกตัวชักกระตุ้นอย่างบ้าคลั่งติดต่อกันเป็นทอดๆ กระแทกเข้าไปที่ผนังหินรอบด้าน แล้วยังมีไม่น้อยที่พอเห็นรูก็มุดเข้าไป

หากรูนั้นเล็กเกิน พวกนั้นยังถึงขั้นทำให้ร่างกายหดเล็กลง

โดยเฉพาะงูเทพโลหิตหลายตัวนั้นยิ่งกำลังทำเช่นนั้น และยังมีงูหัวใหญ่ขนาดหนึ่งจั้งตัวนั้นอีกตัวที่เวลานี้กำลังส่ายสะบัดอย่างรุนแรง บนหัวมีเขาแท่งยาวงอกพรวดขึ้นมา แม้ว่าจะไม่แหลมคม แต่เมื่อเห็นงูมีเขางอกขึ้นเต็มไปหมดก็ทำให้ป๋ายเสี่ยวฉุนสำลักลมหายใจ ใกล้บ้าเต็มที ยิ่งกว่านั้นภายใต้การทดลองของเขา เขาค้นพบว่างูพวกนี้ฟันแทงไม่เข้า

ตลอดทั้งถ้ำ งูทุกตัวที่กำลังคลุ้มคลั่งกำลังกระแทกพุ่งชนลุกฮือบ้าคลั่งขึ้นมาพร้อมกัน แค่มองเห็นรูก็จะต้องมุดเข้าไป หากไม่มีรู เขาที่อยู่บนศีรษะของพวกมันคล้ายว่ามีพลังวิเศษบางอย่าง สามารถช่วยเปิดทางสัญจรทะลุจากหุบเขาหมื่นอสรพิษออกไปด้านนอกให้กับพวกมันได้!

แม้ว่าหุบเขาหมื่นอสรพิษจะอยู่ด้านหลังเขาเซียงอวิ๋น แต่เมื่องูพวกนี้กำลังงุ่นง่าน พวกมันจึงแยกย้ายกันออกไปรอบด้านอย่างไร้จุดหมาย มีไม่น้อยที่เจาะรูใต้ดินทะลุออกไปยังเขาจื่อติ่ง เขาชิงเฟิง

สามส่วนที่เหลือดิ่งทะยานไปยังเขาเซียงอวิ๋น

สามารถนึกภาพออกว่า เวลานี้ในเขาทั้งสามลูกกำลังมีงูจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกปิดปาก พุ่งถลาร้อนรนออกจากรูตามกำแพงหินอย่างบ้าคลั่งรวดเร็ว พอเห็นรูก็มุดเข้าไป กระจายกันไปทั่วทั้งสามเขาของชายฝั่งทิศใต้

พลั่ก!

ป๋ายเสี่ยวฉุนนั่งแปะลงไปบนพื้น มองความว่างเปล่าเบื้องหน้า

“คราวนี้…จบเห่แล้ว…”

ไม่นานงูพวกนี้ก็มุดออกมาจากรอยแยกทุกเส้นของผนังหิน ไปยังรอยแตกทุกเส้นบนพื้นดินของทั้งสามเขาชายฝั่งทิศใต้ บนหัวของงูแต่ละตัวล้วนมีเขา ดวงตาปูดโปน ชักกระตุกอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อเห็นรูที่ไหนก็จะมุดเข้าไปที่นั่น ทำให้ลูกศิษย์ทุกคนของสามเขาชายฝั่งทิศใต้อึ้งงันกันไปทันที ตลอดทั้งชายฝั่งทิศใต้ที่สงบสุขมาหลายปี ในที่สุดวันนี้ก็ระเบิดเสียงตื่นตะลึงและฮือฮาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานาน ที่มากไปกว่านั้นคือเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้น

บนเขาชิงเฟิง นอกหอกระบี่วิเศษ เวลานี้มีเสียงไชโยโห่ร้องของลูกศิษย์นับพันที่ล้อมมองดูการต่อสู้ด้วยอาคมบนเวทีประลองเล็กของลูกศิษย์สองคน เห็นว่าคนหนึ่งในนั้นกำลังได้เปรียบ ใกล้จะคว้าชัยชนะมาได้ แต่เวลานี้เอง ทันใดนั้นบนพื้นของเวทีประลองพลันมีเขาหนึ่งโผล่ขึ้นมา งูตามัวตัวหนึ่งมุดลอดตามมา ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงอยู่นั้น งูตามัวที่ไม่สามารถอ้าปากได้ตัวนี้ก็พลันมุดเข้าไปในกางเกงของลูกศิษย์คนที่กำลังได้เปรียบ

ลูกศิษย์คนนี้กรีดร้องเสียงแหลม กระโดดเหยงขึ้นทันที ทันใดนั้นบริเวณรอบด้านก็มีคนไม่น้อยที่กรีดร้องขึ้นมาเช่นกัน ท่ามกลางเสียงฮือฮา งูมีเขาจำนวนมากมุดออกมาจากพื้นดินอย่างรวดเร็ว เห็นรู…ก็มุดเข้าหา

“นี่มันอะไรกัน!! ฟันแทงไม่เข้าด้วย!”

“สวรรค์ งูพวกนี้…งูพวกนี้มาจากไหน แถมยังมีเขางอกขึ้นมาด้วย!!”

“สมควรตาย นี่มันเรื่องอะไรกัน นี่มันเรื่องอะไรกัน!! ทำไมอาวุธวิเศษของข้าถึงทำลายการคุ้มกันของงูพวกนี้ไม่ได้!”

เวลาเดียวกันนั้นในถ้ำแห่งหนึ่งของลูกศิษย์ฝ่ายในบนยอดเขาชิงเฟิง มีลูกศิษย์ฝ่ายในอาวุโสผู้หนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็พลันเบิกโพลง ใบหน้าเผยความไม่อยากเชื่อ ตามมาด้วย…เสียงร้องโหยหวน

“อ๊าก นี่มันอะไรกัน!!”

“งู!! งูมุดออกมาจากพื้น!!”

เสียงร้องโหยหวนเช่นนี้ดังออกมาเป็นทอดๆ จากถ้ำจำนวนไม่น้อย ในถ้ำของซ่างกวานเทียนโย่วก็มีเสียงร้องโหยหวนดังออกมาเช่นกัน ที่มากกว่านั้นคือความบ้าคลั่ง ราวกับว่าไปกระตุ้นโดนบาดแผลบางอย่างในจิตใจเขา เสียงร้องคำรามในเวลานี้จึงดุเดือดอย่างถึงที่สุด

ส่วนทางด้านของลูกศิษย์ฝ่ายนอก เวลานี้คนจำนวนไม่น้อยล้วนตะลึงพรึงเพริด ร้องเสียงหลงให้กับพวกงูรอบด้านที่เห็นรูเมื่อไหร่ก็มุดเข้าไปเมื่อนั้น ขนาดผู้อาวุโสของเขาชิงเฟิงเองก็ตะลึงไปเช่นกัน แม้แต่ผู้เฒ่าที่เป็นผู้นำของเขาชิงเฟิงในเวลานี้ก็ยังบินออกมาพร้อมความตื่นตะลึง มองงูมีเขาที่ปรากฏอยู่ทั่วเขาชิงเฟิง

เขาจื่อติ่งก็ไม่ต่างกัน ลูกศิษย์จำนวนมากคำรามอย่างเดือดดาล แสงอาคมแผ่ไปทั่วทิศ แต่งูพวกนั้นไม่สนใจแม้แต่นิด ยังคงมุดเข้าไปในรูเช่นเดิม…

สายฟ้าอบอวลไปทั่วร่างของหลู่เทียนเหลย ขณะเดียวกันกับที่ตะโกนแค้นเคือง มือก็คว้าหมับเขาที่งูมีเขาตัวหนึ่งซึ่งมุดเข้ามาในกางเกง คิดจะบีบมันให้แหลกละเอียด แต่กลับพบว่าตัวเองทำไม่ได้

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น สมควรตาย งูพวกนี้ทำไมถึงได้เยอะขนาดนี้!”

“ไม่ใช่แล้ว แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว!!”

เสียงแผดคำรามของเขาจื่อติ่งสะท้านฟ้าสะเทือนดินอย่างรวดเร็ว เขาชิงเฟิงก็ไม่ต่างกัน ไฟโทสะของสวีเหม่ยเซียงตลบอบอวลไปทั่ว เสียงตวาดดุดันดังไปทั่วทิศ

“สืบ สืบให้รู้แน่ชัดเดี๋ยวนี้ว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”

บนเขาเซียงอวิ๋นก็เช่นเดียวกัน เวลานี้เสียงคำรามแหบแห้งดังสะเทือนฟ้า สวีเป่าไฉร้องโหยหวน ห้อตะบึงอย่างรวดเร็ว โจวซินฉีเบิกตากว้าง สีหน้าตะลึงพรึงเพริด รีบบินขึ้นสูง ใจก็ยังผวาไม่หาย

โหวเสี่ยวเม่ยและโหวอวิ๋นเฟยก็หนีออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ยังมีลูกศิษย์อีกมากที่ในเวลานี้เดือดดาลจนไม่อาจบรรยายได้ คาถาดุเดือดรุนแรงแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ แต่ยังดีที่เขาเซียงอวิ๋นมีชื่อเสียงด้านพืชหญ้า เวลานี้มีลูกศิษย์ไม่น้อยหยิบเอายาออกมา แม้ว่ายาพวกนี้จะมีสรรพคุณธรรมดา แต่กลับทำให้งูมีเขาพวกนั้นหลบเลี่ยงออกไปได้บ้าง

ดังนั้นงูมีเขาส่วนมากที่พอหลบเลี่ยงออกไปแล้วก็ขุดรูมุดไปยังเขาชิงเฟิง เขาจื่อติ่ง…

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้!!”

“นี่เกิดจากภัยธรรมชาติหรือภัยจากคนกันแน่ ชายฝั่งทิศใต้ของเรา ตั้งแต่ที่ป๋ายเสี่ยวฉุนถูกลงโทษให้ไปหุบเขาหมื่นอสรพิษก็สงบสุขมาโดยตลอด ทำไมถึง…เอ๋? หุบเขาหมื่นอสรพิษ!! ป๋ายเสี่ยวฉุนอยู่ที่หุบเขาหมื่นอสรพิษ!!”

พริบตาที่คนไม่น้อยค่อยๆ มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมานั้นเอง ทันใดนั้นกระต่ายตัวหนึ่งที่ไม่รู้ว่าวิ่งหูตั้งออกมาจากตรงไหน แต่ท่าทางดูเหมือนว่าจะคอยฟังอยู่นานแล้ว เวลานี้กำลังตะเบ็งเสียง วิ่งไปทั่วระหว่างสามเขาของชายฝั่งทิศใต้ แถมเสียงยังดังอย่างยิ่ง ดังไปทั่วสี่ทิศ

“สวรรค์ ก้นของข้า!”

“สมควรตายเอ๊ย ข้าจะตีเจ้างูตัวนี้ให้ตายเลย!!”

“อ๊าๆๆ ต่อไปข้าสวีเป่าไฉจะมีหน้าไปพบผู้คนได้ยังไง!!”

“เจ้างูน่าขยะแขยงจงออกมาเดี๋ยวนี้ ข้าคือลูกศิษย์ฝ่ายใน ข้าคือศิษย์แห่งความภาคภูมิใจของเขาชิงเฟิง วันนี้ข้าซ่างกวานเทียนโย่วไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า…”

“งูนี่ดีจัง หากข้าหลู่เทียนเหล่ยเปลี่ยนเป็นงูได้เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นข้าก็…ฮิๆ…”

“หลี่ชิงเสอ หลี่เฮยจื่อ เอานายท่านป๋ายของเจ้ามาโยนไว้ที่นี่ นึกจริงๆ หรือว่านายท่านป๋ายจะรับมืองูตัวน้อยพวกนี้ไม่ได้ รอยาวิเศษของข้าหลอมเสร็จเมื่อไหร่ ดูซิว่าข้าจะจัดการกับงูน้อยพวกนี้ยังไง หึๆ ไม่แน่ว่าต่อไปข้าป๋ายเสี่ยวฉุนอาจจะสามารถสั่งพวกงู เรียกลมเรียกฝนได้! ฮ่าๆๆ!” ปากของเจ้ากระต่ายตัวนี้เปล่งเสียงออกมาหลากหลาย วิ่งไปทั่วทั้งสามเขาด้วยความรวดเร็วอย่างถึงที่สุด ลูกศิษย์ทุกคนที่ได้ยินประโยคสุดท้ายล้วนบ้าคลั่งกันไปหมด

“ป๋ายเสี่ยวฉุน!”

“ป๋ายเสี่ยวฉุนตัวหายนะนี่เอง!”

“ที่แท้ก็เป็นฝีมือเขา เขาสั่งให้งูพวกนี้มาแก้แค้นพวกเรา!!”

โดยเฉพาะซ่างกวานเทียนโย่วและหลู่เทียนเหล่ยที่เวลานี้ต่างก็คำรามเสียงแหบแห้งดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ยามนี้คนทั้งสามเขาบ้าคลั่งกันไปหมด ทั้งยังอยู่ในระดับที่มากเกินกว่าตอนฝนกรดตกลงมา…

หลี่ชิงโหวมองทุกอย่างนี้ด้วยความตะลึงงัน นัยน์ตาเขาเผยความงงงัน ในสมองปรากฏแต่ละภาพเหตุการณ์หลังจากที่ป๋ายเสี่ยวฉุนเข้ามาอยู่ในสำนัก

ตอนที่เขายังเป็นนักการ ขายรายชื่อศิษย์ฝ่ายนอก ทำให้คนจำนวนมากเดือดดาล ฝ่ายนักการอลหม่านกันไปหมด ถูกเขาสร้างความหายนะให้

หลังจากที่เขากลายเป็นลูกศิษย์ฝ่ายนอก ไก่หางวิเศษก็ตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถ นกของผู้เฒ่าโจวอนาถ ลูกศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนก็อนาถ ตลอดทั้งเขาเซียงอวิ๋นถูกเขาสร้างความหายนะให้

หลังจากที่เขากลายเป็นลูกศิษย์ฝ่ายใน ฟ้าผ่าเสียงดังเลื่อนลั่น ทุกอย่างสับสนโกลาหล สัตว์เล็กสัตว์น้อยแปลกประหลาดจำนวนไม่น้อยวิ่งวุ่นไปทั่ว และยังมีฝนกรดนั่น…พูดได้ว่าทั้งสามเขาล้วนเกิดหายนะก็เพราะเขา

แต่ไม่ว่าอย่างไรหลี่ชิงโหวก็นึกไม่ถึงว่าการที่ตัวเองพาป๋ายเสี่ยวฉุนไปโยนไว้ที่หุบเขาหมื่นอสรพิษ ป๋ายเสี่ยวฉุนผู้นี้กลับยิ่งร้ายกาจเข้าไปใหญ่…แม้แต่งูเขาก็ไม่ยอมละเว้น ยังไปสร้างหายนะให้กับทั้งหุบเขาหมื่นอสรพิษจนลามมาถึงชายฝั่งทิศใต้เช่นนี้

อยู่ๆ หลี่ชิงโหวก็นึกถึงตอนที่พาป๋ายเสี่ยวฉุนขึ้นเขามาในปีนั้น ภาพที่ชาวบ้านมากมายในหมู่บ้านน้ำตาไหลพราก ไชโยโห่ร้องยกฆ้องยกกลองขึ้นมาตี…

เขาเข้าใจความตื่นเต้นของคนในหมู่บ้านขึ้นมาโดยพลัน…

———-

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version