Skip to content

A Will Eternal 606

บทที่ 606 ได้รับวิญญาณคนฟ้า

“ข้าไม่ยอม!! ป๋ายฮ่าว เจ้าเอาอะไรมาทัดเทียมกับข้า ตั้งแต่เด็กมาข้าก็แข็งแกร่งกว่าเจ้า ได้รับความสำคัญมากกว่าเจ้า ตบะสูงกว่าเจ้า ข้าไม่ยอม!!” ป๋ายฉีตะโกนโหยหวนเสียงหลง เสียงคำรามแหบแห้งของเขากลายมาเป็นความบ้าคลั่งครั้งสุดท้ายของชีวิตนี้ประหนึ่งดอกราตรีที่บานอยู่ชั่วแวบเดียวก่อนจะถูกทำลายไปท่ามกลางแสงสว่างพร่างพราว!

เสียงกัมปนาทดังสะเทือนเลือนลั่นเขย่าคลอนนภากาศของพื้นที่บรรพชน ขณะเดียวกันวินาทีที่ฝ่ามือของป๋ายเสี่ยวฉุนซึ่งราวกับสามารถผลาญทำลายทุกสรรพสิ่งได้สัมผัสโดนป๋ายฉี ทุกวิชาอภินิหาร ทุกเวทคาถาของป๋ายฉีล้วนแตกสลายไปในชั่วพริบตาราวเกล็ดหิมะที่ถูกน้ำร้อนเดือดพล่านสาดใส่…มิอาจสกัดกั้นอะไรได้แม้แต่น้อย!

แม้ว่าเขาจะเป็นรวมโอสถขั้นสมบูรณ์แบบ แม้ว่ามองดูแล้วจะห่างจากป๋ายเสี่ยวฉุนแค่ขั้นเดียว ทว่าเขากลับเทียบป๋ายเสี่ยวฉุนไม่ติดฝุ่น และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าคนที่กำลังจะฆ่าเขาผู้นี้ไม่ใช่ป๋ายฮ่าว แต่เป็น…คนที่เขาไม่ควรไปมีเรื่องด้วยอย่าง…ป๋ายเสี่ยวฉุน!

เขายิ่งไม่รู้ว่าระยะห่างระหว่างตัวเขาเองกับป๋ายเสี่ยวฉุนอยู่ตรงไหนกันแน่!

ความห่างนั้นประหนึ่งช่องว่างระหว่างฟ้ากับดิน ไม่มีอะไรให้เอามาเทียบกันได้ ป๋ายเสี่ยวฉุนคือสร้างฐานรากวิถีฟ้า ยาอายุวัฒนะวิถีฟ้า มาตอนนี้ก็ยิ่งได้ผสานรวมวิญญาณคนฟ้าสามดวง กลายมาเป็นร่างจำแลงคนฟ้าสามร่างใหญ่ ภายใต้การสั่งสมจากหลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ แม้จะยังไม่ถึงขั้นสั่งสมมานานจนเปี่ยมล้นเหลือใช้ ทว่าตอนนี้รากฐานของป๋ายเสี่ยวฉุนก็ลึกล้ำจนมากพอจะทำให้เขาหนีเอาชีวิตรอดมาจากเงื้อมมือคนฟ้าอย่างสตรีธุลีแดงได้ ทุกอย่างนี้…มีหรือที่รวมโอสถขั้นสมบูรณ์แบบคนอื่นๆ จะทำได้!

ป๋ายฉีผู้นี้ไม่มีทางทำได้อยู่แล้ว ดังนั้นความไม่ยินยอมของเขาก็เป็นเพียงแค่เรื่องตลกเรื่องหนึ่งเท่านั้น!

ท่ามกลางเสียงอึกทึก วินาทีที่วิชาอภินิหารของเขาพังทลาย มือทั้งคู่ของเขาที่ยกขึ้นก็ยิ่งปริแตกออกทีละชุ่น เสียงเปรี๊ยะๆ ดังลั่น ก่อนที่เลือดเนื้อของเขาจะปนกันจนแยกไม่ออก กระดูกแตกละเอียดไล่ไปตามโครงสร้างร่างกาย ท่ามกลางเลือดสดและชิ้นเนื้อที่สาดกระเซ็น แขนทั้งสองข้างของเขาก็ราวกับยื่นเข้าไปอยู่ในเครื่องโม่ที่กำลังหมุนวนจึงหายวับไปทันใด

ความเจ็บปวดมหาศาลนั้นกลายมาเป็นเสียงร้องแหลมเศร้ากำสรดที่ดังสะท้อน ขณะเดียวกันเมื่อฝ่ามือของป๋ายเสี่ยวฉุนร่วงลงมาอย่างเต็มที่ ป๋ายฉีก็กระอักเลือด หน้าอกยุบยวบเข้าไป เมื่อเสียงกัมปนาทสะท้านฟ้าเสียงหนึ่งดังขึ้น ศีรษะของเขา ลำคอของเขา เรือนกายช่วงบนของเขา ขาทั้งสองข้างของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาบัดนี้ล้วนแหลกสลาย…มลายสิ้น!!

ทุกอย่างกลายมาเป็นเพียงก้อนเนื้อและเลือดสด ภายใต้ฝ่ามือนั้น ทุกอย่างพังราบเหลวแหลก แม้แต่จิตวิญญาณของเขา แม้แต่ยาที่รวมขึ้นในร่างของเขาก็ล้วนสลายสิ้นไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ!!

บัดนี้ทุกคนที่อยู่บนภูเขา ป๋ายเหลยก็ดี คุณหนูห้าก็ช่าง คนตระกูลป๋ายทั้งสายหลัก สายรอง แต่ละคนล้วนมองตาค้าง ในสมองของพวกเขาหมุนพลิกตลบ ร่างของพวกเขาสั่นเทิ้ม ลมหายใจหอบกระชั้น สิ่งที่เห็นอยู่ในคลองสายตาของพวกเขา…มีเพียงเงาร่างของป๋ายฉีที่กลายมาเป็นดอกราตรีสีเลือดดอกหนึ่งภายใต้ฝ่ามือสยบฟ้านั้น!

ความน่าตื่นตะลึงของภาพเหตุการณ์นี้ทำให้คนตระกูลป๋ายที่อยู่บนภูเขาลืมหายใจ ลืมส่งเสียงร้องฮือฮา ลืมร้องอุทาน…ทว่าคนตระกูลป๋ายที่อยู่นอกพื้นที่บรรพชนเนื่องจากไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง แม้ว่าจะสะท้านสะเทือนไม่ต่างกัน

แต่กลับตั้งตัวได้เร็วกว่าเล็กน้อย ไม่นานทุกคนของตระกูลป๋ายที่อยู่รอบประตูหินนอกพื้นที่บรรพชนก็พากันร้องอุทานเสียงหลง

“เขา…เขาสังหารป๋ายฉีจริงๆ หรือนี่!!”

“นั่นมันป๋ายฉีนะ บุตรกิเลนของตระกูลป๋ายเราเชียวนะ!!”

“สวรรค์ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เขายังใช่ป๋ายฮ่าวอยู่ไหม!!”

เสียงร้องอุทานตกใจที่ราวกับว่าต่อให้เห็นกับตาตัวเองก็ยังไม่กล้าเชื่อพลันระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังกระหึ่มราวสายฟ้าที่ฟาดผ่าอยู่บนนภากาศนอกพื้นที่บรรพชน

บัดนี้แทบทุกคนล้วนรู้สึกชาไปทั้งหนังศีรษะ เรื่องแบบนี้เหมือนว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ที่ตระกูลป๋ายรุ่งโรจน์มา!!

คนจำนวนนับไม่ถ้วนผุดลุกขึ้นยืน ทูตของอีกสองตระกูลใหญ่ต่างก็หอบลมหายใจเฮือกๆ ไม่หยุดแล้วก็ทะลึ่งพรวดขึ้นยืนเหมือนกัน และยังมีทูตของนครผียักษ์ที่ได้เป็นประจักษ์พยานเห็นภาพนี้กับตาของตัวเอง พวกเขาเองก็หน้าเปลี่ยนสี นัยน์ตาฉายแสงคมกล้าคลอเคล้าไปกับความไม่กล้าคาดคิด

ต่อให้…พวกเขาจะเตรียมใจมาตั้งแต่ตอนที่เห็นป๋ายเสี่ยวฉุนลงมือก่อนหน้านี้แล้ว แต่กระนั้นพอป๋ายเสี่ยวฉุนฆ่าป๋ายฉีจริงๆ หัวใจของพวกเขาก็ยังสั่นสะเทือนไม่หยุดอยู่ดี

“ป๋ายฮ่าว!! หากข้าผู้อาวุโสไม่ฆ่าเจ้า ข้าก็ไม่ขอเป็นคนอีกต่อไป!!!” ขณะที่จิตใจของทุกคนสั่นไหวอย่างรุนแรง ประมุขตระกูลป๋ายผมเผ้ายุ่งเหยิง แหงนหน้าแผดเสียงคำรามที่เศร้ารันทดถึงขีดสุด

ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มไม่หยุด มือทั้งคู่ของเขาสั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้ ดวงตาของเขาแดงฉานทั้งยังมีน้ำตาเป็นเลือดหลั่งลงมาเป็นสาย นั่นคือลูกชายของเขา บุตรกิเลนที่เขาให้ความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งยังเป็นคนที่เขามองว่าคืออนาคตของตระกูลป๋าย!

ทว่าตอนนี้…ทุกอย่างหายไปหมดแล้ว

ก้อนเลือดเนื้อที่เป็นดั่งดอกราตรีสีเลือดนั้นทำให้ประมุขตระกูลป๋ายผู้นี้บ้าคลั่ง เขาโจมตีประตูหินอย่างไม่ลืมหูลืมตา หมายจะเปิดมันออกให้ได้ ทว่าผนึกของประตูหินแห่งนี้ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะแตกออก ยังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่งถึงจะเปิดได้

พวกผู้อาวุโสที่อยู่โดยรอบก็หอบหายใจกันอย่างหนักหน่วง เดิมทีในใจของพวกเขาก็ไม่สงบนิ่งอยู่แล้ว ต่อให้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ฝ่ายกฎหมายก็ยังอึ้งค้าง นัยน์ตาฉายความเสียดายลึกล้ำ

เมื่อเทียบกับพวกเขาหรือแม้แต่ประมุขตระกูลป๋ายเองก็ตาม ในด้านความบ้าคลั่งนั้น ไม่มีใครเทียบเคียงคนผู้หนึ่งได้ คนผู้นี้…ก็คือฮูหยินไช่

“ป๋ายฮ่าวเจ้าเศษสวะระยำ เจ้าต้องไม่ตายดี ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า!! ฉีเอ๋อร์ ฉีเอ๋อร์ของข้า…นี่ไม่ใช่เรื่องจริง นี่ไม่ใช่เรื่องจริง…ป๋ายฮ่าว!!!” เสียงของฮูหยินไช่ราวกับเสียงสัตว์ที่ร้องคำราม ในความแหลมดังมีความคลุ้มคลั่งแฝงเร้นอยู่ทำให้นางในยามนี้เหมือนกลายมาเป็นผีร้าย นางสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดรวดร้าวจนแทบจะขาดใจ

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นข้างนอกนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนมองไม่เห็น แต่เขาก็พอจะนึกภาพออกว่านาทีที่ป๋ายฉีตาย เกรงว่าตระกูลป๋ายที่อยู่ด้านนอกต้องสะเทือนขวัญกันจนถึงระดับฟ้าถล่มดินทลายเลยทีเดียว

มองดูเหมือนป๋ายเสี่ยวฉุนเต็มไปด้วยไอสังหารบ้าคลั่ง ทว่าในใจเขาก็เต้นกระหน่ำรัวเร็วเหมือนกัน การปลิดชีพป๋ายฉีอย่างเหี้ยมหาญแม้จะทำให้เขากระวนกระวายใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้เขามามัวคิดมาก

หลังจากสะกดกลั้นความตื่นเต้นและความหวาดหวั่นลงไปได้ สิ่งที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ก็คือต้องช่วงชิงเวลาทุกนาทีเพื่อหนีออกไปจากตระกูลป๋าย!

ป๋ายเสี่ยวฉุนสูดลมหายใจเข้าลึก พลังอำนาจพวยพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง และชั่วขณะที่ร่างของป๋ายฉีพังทลาย เลือดและเนื้อปลิวกระจาย ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ยกมือขวาขึ้นแล้วคว้าผ่านอากาศอย่างไร้ความลังเล เก็บเอาถุงเก็บของของป๋ายฉีมาก่อนเป็นอันดับแรก

จากนั้นพายุหมุนลูกหนึ่งก็หมุนคว้างตูมตามอยู่เบื้องหน้าเขา พัดหอบเอาเลือดเนื้อของป๋ายฉีให้พุ่งไปยังตราผนึกบนยอดเขา ก่อนที่เลือดและเนื้อนั้นจะนาบประทับลงไปทันที!

ตราประทับบนยอดเขานี้จำเป็นต้องใช้สายเลือดของตระกูลป๋ายเท่านั้นถึงจะเปิดได้ ก่อนหน้านั้นมีหยดเลือดของบุรพาจารย์คนฟ้าผสานรวมเข้าไปแล้ว ตอนนี้มามีเลือดเนื้อทั้งหมดของป๋ายฉีเพิ่มเข้าไปอีก นอกเสียจากจะมีคนตายเพิ่มขึ้น หาไม่แล้วก็ไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่าการใช้สายเลือดทำลายผนึกแบบนี้อีกแล้ว!

เมื่อทุกคนที่อยู่บนภูเขาเห็นว่าป๋ายเสี่ยวฉุนถึงกับใช้เลือดเนื้อของป๋ายฉีไปทำลายตราผนึกก็พากันตัวสั่น ในใจบังเกิดความหนาวสะท้านไร้ที่สิ้นสุด

นอกพื้นที่บรรพชนเองก็เป็นเช่นเดียวกัน เสียงร้องคร่ำครวญของฮูหยินไช่รวดร้าวแหบปร่า เสียงคำรามเดือดดาลของประมุขตระกูลป๋ายก็ยิ่งทำให้ตัวเขาเองถึงกับกระอักเลือดออกมาเพราะความคลั่งแค้นเศร้าอาดูร

“ข้าไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้าคนทรยศผู้นี้!!!”

ท่ามกลางเสียงกัมปนาท เมื่อเลือดเนื้อของป๋ายฉีนาบประทับลงไปบนค่ายกลเหนือยอดเขา ตราผนึกที่เดิมทีก็ง่อนแง่นใกล้จะพังทลายเพราะถูกป๋ายฉีฝ่าทำลายไว้ก่อนแล้ว มาบัดนี้กลับโยกไหวอย่างรุนแรง และมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามันกำลังสลายไปอย่างรวดเร็วราวกับหลอมละลาย!

เมื่อมันสลายไป วงแสงหนึ่งเดียวที่อยู่บนยอดเขาก็ดับแสงลง จากนั้นเวลาแค่ไม่กี่อึดใจ ท่ามกลางเสียงเปรี๊ยะๆ ดังลั่น ตราผนึกสายเลือดบนยอดเขา…ก็แตกออก!!

ชั่วขณะที่ผนึกแตกออก วงแสงบนยอดเขาก็หายวับไปราวกับถูกลบเลือน ไม่มีตราผนึก ไม่มีวงแสง วิญญาณคนฟ้าธาตุดินบนยอดเขาเผยตัวต่อสายตาของทุกคนอย่างชัดเจน

นาทีที่ทุกคนจ้องนิ่งไปตรงนั้น ป๋ายเสี่ยวฉุนก็เดินออกไปหนึ่งก้าวตรงดิ่งเข้าหาแท่นบูชา!

ความเร็วนั้นมีมากจนแค่พริบตาเดียวคนมากมายที่กำลังจดจ้องไม่ละสายตาก็เห็นว่าป๋ายเสี่ยวฉุนเดินไปถึงยอดเขา ก้าวขึ้นไปบนแท่นบูชา นัยน์ตาของเขาฉายแสงเจิดจ้า มือขวายกขึ้นแล้วเอื้อมคว้าไปยังวิญญาณดินคนฟ้าที่อยู่บนยอดเขาอย่างไร้ซึ่งความลังเล!

บัดนี้นภากาศคล้ายได้รับอิทธิพลจึงมีเสียงฟ้าร้องดังครืนครั่น และมือขวาของป๋ายเสี่ยวฉุนที่ตรงเข้าไปสัมผัสวิญญาณดินคนฟ้าก็กลายเป็นภาพติดตาทับซ้อนหลายชั้น ก่อนที่เขาจะ…คว้ามาไว้ในมือ!!

วินาทีที่คว้าวิญญาณดินคนฟ้านี้มาได้ พื้นดินในพื้นที่บรรพชนก็เคลื่อนขยับพร้อมเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นทันที อารมณ์ป๋ายเสี่ยวฉุนพุ่งขึ้นสูง เขาสัมผัสได้ว่าในวิญญาณดินนี้มีคลื่นคนฟ้าที่ผสานรวมกับนภากาศซ่อนแฝงอยู่

“เป็นวิญญาณคนฟ้าจริงๆ ด้วย!” ป๋ายเสี่ยวฉุนตื่นเต้น เขารอคอยวันนี้มานานเหลือเกินแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version