Skip to content

A Will Eternal 978

บทที่ 978 กระจกทลายร่วงไปพร้อมกัน

“สมควรตายนัก ยังเหลืออีกตั้งยี่สิบชั่วลมหายใจเชียวนะ!”

ป๋ายเสี่ยวฉุนหงุดหงิด สีหน้าซีดขาว รีบถอยกรูดไปด้านหลัง เขารู้ดีว่าต่อให้ใบหน้าผีหัวเราะร้องไห้นี้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยก็มีพลังการต่อสู้ของครึ่งเทพ ไม่ใช่คนที่ตนจะต่อกรด้วยได้

และวินาทีที่ป๋ายเสี่ยวฉุนถอยไปด้านหลังนั้นเอง ใบหน้าผีหัวเราะร้องไห้ที่มีสีหน้าละโมบพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะชั่วร้ายก็บินพรวดจากทิศไกลพุ่งตัวเข้าไปยังจุดศูนย์กลางของน้ำวนกระจกโดยไม่แม้แต่จะเหลือบแลป๋ายเสี่ยวฉุน

“สมบัติแห่งโลก เป็นของข้าแล้ว!” ใบหน้าผีหัวเราะร้องไห้ทั้งตื่นเต้นทั้งห้าวเหิม กำลังจะขยับเข้าไปใกล้ทุกทีแล้ว

ดวงตาของป๋ายเสี่ยวฉุนเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ต่อให้เขาจะไม่รู้ผลลัพธ์ที่แน่นอนหากทารกหญิงถูกขัดจังหวะ แต่ต่อให้ใช้หัวแม่เท้าคิดก็ยังคิดออกว่าผลลัพธ์นั่นต้องร้ายแรงมากแน่ๆ

“จะให้มันทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด!” ป๋ายเสี่ยวฉุนร้อนใจจนดวงตาแดงก่ำ

เขาตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าหากใบหน้าผีนี่ยึดครองสมบัติอาคมไปได้ สิ่งที่ตนและทารกหญิงทำมาล้วนเสียเปล่ายังถือเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญกว่าคืออาจต้องเอาชีวิตน้อยๆ มาทิ้งไว้ที่นี่ เพราะอย่างไรซะใบหน้าผีนี่ก็ไม่มีทางปล่อยให้ตนจากไป เสี่ยงให้ความลับที่มันช่วงชิงสมบัติล้ำค่ามาได้แพร่งพรายออกไปแน่นอน

ไม่มีเวลาให้คิดมาก แล้วก็ไม่คิดจะพิจารณาอะไรให้มากความ ป๋ายเสี่ยวฉุนคำรามดังลั่น พลันร่ายใช้คาถาบรรพจารย์แปรเปลี่ยน ท่ามกลางเสียงตูมตามดังกึกก้อง เท้าของเขาก้าวยาวๆ เข้าหาใบหน้าผี ร่างก็ขยายใหญ่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งก้าวร่างก็ยิ่งใหญ่ เดินไปได้สามก้าว ร่างของเขาก็ร่ายคาถาบรรพจารย์แปรเปลี่ยนไปถึงกระบวนท่าที่ห้า!

เงาดวงจันทร์ในตาข้างซ้ายส่องประกายเจิดจ้า เทียบเคียงได้กับพลังที่บ้าระห่ำของบรรพจารย์แปดแปรเปลี่ยน เมื่อรวมเข้ากับคาถาคนขุนเขา กายเนื้อและตบะผสานรวมเป็นหนึ่ง ทำให้ในเวลาสั้นๆ นี้ป๋ายเสี่ยวฉุนสามารถระเบิดพลังการต่อสู้ที่เทียบเคียงได้กับคนฟ้าช่วงท้ายขั้นสูงสุด!

แม้จะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ แต่ก็ใกล้เคียงมากแล้ว พายุที่ก่อตัวขึ้นระเบิดครืนครั่น ผนึกมิวางวายถูกร่ายใช้ตามมา พริบตาเดียวเขาก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าใบหน้าผีด้วยสีหน้าคลุ้มคลั่งพร้อมทุ่มสุดชีวิต ปากก็แผดเสียงร้องเดือดดาล

“กลับไปซะ!!” เสียงนี้ปานประหนึ่งอสนีบาตที่เขย่าคลอนชั้นฟ้า ดังออกมาพร้อมๆ กับที่ป๋ายเสี่ยวฉุนยกมือขวาขึ้น หมัดจักรพรรดิมิดับสูญเหวี่ยงตูมออกไป!

หมัดนี้ไม่มีกั๊กไว้แม้แต่น้อย พลังกล้ามเนื้อทั้งหมดล้วนถูกระบายพรั่งพรูออกมา ดวงตาของใบหน้าผีผู้แข็งแกร่งเปล่งแสงวาบ ทว่ามุมปากกลับยกยิ้มดูแคลน ถึงขั้นไม่คิดจะถอยหนี กลับพุ่งเข้าชนกับหมัดจักรพรรดิมิดับสูญของป๋ายเสี่ยวฉุนจังๆ

เสียงตูมตามดังก้องกังวานไปทั่วจุดลึกของใต้ดินในบัดดล

ป๋ายเสี่ยวฉุนกระอักเลือด ร่างกระเด็นละลิ่วไปด้านหลัง หมัดจักรพรรดิมิดับสูญหายไป คาถาคนขุนเขาพังทลาย บรรพจารย์แปรเปลี่ยนแตกทลายออกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งในและร่างนอกถูกแรงสะเทือนจนแทบจะแหลกสลาย

“ไม่เจียมตัว!” ใบหน้าผีหัวเราะร้องไห้แค่นเสียงเย็น ร่างของมันเพียงแค่ชะงักครู่เดียว ก่อนจะกระโจนเข้าหาจุดศูนย์กลางของน้ำวนอีกครั้ง และเวลานี้ความแข็งแกร่งของเลือดคงกระพันก็ได้สำแดงออกมา

เวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ป๋ายเสี่ยวฉุนที่บาดเจ็บสาหัสกลับฟื้นตัวไปแล้วเกินครึ่ง เมื่อเห็นว่าใบหน้าผีกำลังจะเข้ามาใกล้ ป๋ายเสี่ยวฉุนก็รู้สึกเพียงในสมองมีเสียงดังอื้ออึง เขาแผดเสียงคำรามแหบห้าวพลางร่ายใช้ชนาเขย่าภูเขา เสียงตูมๆๆ ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเขาที่พุ่งเข้าชนใบหน้าผี

เวลาเดียวกันนั้นมือทั้งคู่ของเขาที่ทำมุทราก็ได้ชักนำให้เขตแดนธาราเยื้องกรายลงมาเยือน ทั้งยังมีไอความเย็นที่แผ่อวลไปทั่วทิศ แล้วก่อตัวขึ้นเป็นเงาน้ำแข็งจำนวนไม่น้อยที่กระโจนเข้าหาใบหน้าผีจากสี่ทิศทาง

แต่เขายังรู้สึกว่าเพียงแค่นี้ยังไม่พอ ป๋ายเสี่ยวฉุนจึงตบถุงเก็บของแล้วหยิบไฟหลายสีออกมากำใหญ่ ครั้นจึงขว้างออกไปหมดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ตูมๆๆ!

เสียงกัมปนาทสะเทือนฟ้าดิน ผนังน้ำแข็งที่อยู่รอบๆ เกิดรอยปริร้าว ยิ่งการระเบิดของไฟหลายสีก็ยิ่งทำให้ถ้ำน้ำแข็งกลายมาเป็นทะเลเพลิง ซึ่งต่อให้ใบหน้าผีหัวเราะร้องไห้จะมีพลังการสู้ของครึ่งเทพ บัดนี้ก็ยังต้องขมวดคิ้ว

หากเปลี่ยนมาเป็นที่อื่น มันคิดจะทำลายอาคมพวกนี้ทิ้งก็เรียกได้ว่าง่ายเพียงพลิกฝ่ามือ แม้แต่การสังหารป๋ายเสี่ยวฉุนก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ตอนนี้อยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ด้านหนึ่งมันกังวลว่าหากความเคลื่อนไหวรุนแรงเกินไปจะทำให้คนข้างนอกจับได้ อีกด้านก็เพราะ…มันมองออกว่าในน้ำวนนั้นมีจิตสำนึกขุมหนึ่งที่กำลังทำการผสานรวมขั้นต้นกับสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้อยู่

มันไม่มีเวลาและไม่มีอารมณ์มาโรมรันอยู่กับป๋ายเสี่ยวฉุนจริงๆ ตอนนี้สิ่งที่มันต้องการทำมากที่สุดก็คือบุกเข้าไปด้านในขณะที่การผสานรวมนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จากนั้นก็กลืนกินจิตสำนักนั่นซะ ตนจะได้เข้าไปผสานรวมกับสมบัติอาคมแทนที่อีกฝ่าย

“อีกเดี๋ยวค่อยมาจัดการเจ้า!” ใบหน้าผีแค่นเสียงเย็น ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เปล่งเสียงสาปแช่งแปร่งหูออกมา เสียงนั้นไม่เหมือนภาษาของแผ่นดินใหญ่ทงเทียน เมื่อดังก้องไปสี่ทิศ ร่างของใบหน้าผีก็แผ่ควันสีดำออกมา ควันดำกลายมาเป็นอักขระเก้าตัวที่ล้อมวนอยู่นอกกายของใบหน้าผีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าอักขระตัวใดที่หากระเบิดออกก็ล้วนมีพลังที่ทำให้ป๋ายเสี่ยวฉุนหวาดผวาได้

และเห็นได้ชัดว่าวิชาอภินิหารจากอักขระเก้าตัวนี้เหมือนจะเป็นพลังต้นกำเนิดของใบหน้าผี พอร่ายออกมามันจึงดูอ่อนแอกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด ทว่าอักขระเก้าตัวกลับเปล่งประกายเจิดจ้าบาดตาอย่างถึงที่สุด

อาศัยอักขระเก้าตัวนี้ ใบหน้าผีพุ่งไปเบื้องหน้าอย่างไม่หยุดชะงัก

มองเมินชนาเขย่าภูเขา เขตแดนธาราและทะเลเพลิงน่าครั่นคร้ามของป๋ายเสี่ยวฉุน ท่ามกลางเสียงเกริกก้อง อักขระนอกร่างของมันหมุนคว้างไม่หยุดนิ่ง ที่น่าเหลือเชื่อคือมันสามารถลอดทะลวงผ่านทุกวิชาอภินิหารของป๋ายเสี่ยวฉุนมาได้ พอปรากฏตัวอีกครั้งก็อยู่ข้างกายป๋ายเสี่ยวฉุนแล้ว ทันใดนั้นอักขระก็พลันกระจายตัวออกมาชนเข้ากับร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างจัง

ป๋ายเสี่ยวฉุนสั่นเทิ้มไปทั้งกาย หน้าอกยุบยวบลงไป เลือดสดๆ ทะลักทลายออกมาจากปากคำแล้วคำเล่า พริบตาเดียวอาการบาดเจ็บก็สาหัสถึงขีดสุด เบื้องหน้าเริ่มพร่าเลือน ร่างกระเด็นไปด้านหลังอย่างแรง

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว หลังจากที่กระแทกร่างป๋ายเสี่ยวฉุนให้ตลบไปด้านหลังได้แล้ว ดวงตาของใบหน้าผีก็เผยความกระหายถึงขีดสุด ปรากฏตัวอีกครั้งก็มาอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของน้ำวน และทำท่าจะพุ่งตัวเข้าไปข้างใน

และหากมันบุกเข้าไปได้สำเร็จ ผลลัพธ์ที่ตามมาคงมิอาจจินตนาการได้

ป๋ายเสี่ยวฉุนคลั่งเต็มทีแล้ว เนตรทงเทียนกลางหว่างคิ้วของเขาพลันเบิกโพลง ปลดปล่อยแสงสีม่วงเส้นหนึ่งเข้าไปปกคลุมใบหน้าผี

แสงสีม่วงสาดออกไปในเสี้ยววินาที ร่างของใบหน้าผีที่ถูกแสงสีม่วงปกคลุมก็ชะงักกึก แต่แค่พริบตาเดียวมันก็กลับคืนมาเป็นปกติ แม้ในใจจะโมโหที่ป๋ายเสี่ยวฉุนตื้อจนน่ารำคาญ แต่กลับไม่มีเวลามาสนใจอีกฝ่าย มุ่นแต่จะพุ่งเข้าไปด้านในอย่างเดียว และตอนนี้มันก็พุ่งหัวเข้าไปในน้ำวนได้ครึ่งหนึ่งแล้ว อีกทั้งในสมองของป๋ายเสี่ยวฉุนก็มีจิตสำนึกที่แฝงไว้ด้วยความร้อนรนของทารกหญิงส่งมาถึงแล้วด้วย

“ยังเหลืออีกไม่กี่อึดใจก็จะสำเร็จแล้ว รีบขัดขวางมันเอาไว้!!”

ป๋ายเสี่ยวฉุนตาแดงฉาน แผดเสียงคำรามแหบแห้ง

“ใบหน้าผี เจ้าบังคับข้าเองนะ!!” ป๋ายเสี่ยวฉุนหมดหนทางแล้วจริงๆ เขาจึงบีบเลือดคงกระพันหยดหนึ่งของตนให้แตกออก เมื่อเลือดคงกระพันแตกกระจาย ปราณเลือดที่พวยพุ่งเทียมฟ้าพลันระเบิดออกมาจากในร่างของเขาแล้วแผ่ลามไปทั่วกาย ปกคลุมไปสี่ทิศ ดวงตาของเขาเองก็เปลี่ยนมาเป็นดุร้ายอย่างถึงที่สุด ก้าวพรวดออกไปพร้อมกับปราณเลือดที่ตลบอบอวลสะท้านฟ้าดิน

จิตสำนึกของป๋ายเสี่ยวฉุนพร่าเลือนไปแล้ว ตอนนี้ร่างของเขาเหมือนเป็นไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น ภายใต้การระเบิดของพิฆาตเทพ เขาก็พลันบังเกิดความกระหายอย่างรุนแรงที่จะกลืนกินทุกสิ่งมีชีวิตซึ่งอยู่รอบด้าน

และในถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ ที่อยู่ใกล้กับป๋ายเสี่ยวฉุนมากที่สุดก็มีเพียงใบหน้าผีนั่นเท่านั้น เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ เมื่อปราณเลือดของพิฆาตเทพซัดตลบอบอวลไปอย่างรวดเร็ว ร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนที่คล้ายแหวกความว่างเปล่าก็มาปรากฏอยู่ข้างกายใบหน้าผีโดยตรง ปราณเลือดพลันปกคลุมใบหน้าผีไว้ข้างใน ก่อนที่ป๋ายเสี่ยวฉุนจะยกมือขวาขึ้นคว้าร่างใบหน้าผีอย่างแรง

ใบหน้าผีที่หัวมุดเข้าในจุดศูนย์กลางของน้ำวนได้แล้วครึ่งหนึ่งพลันสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง วิกฤตอันตรายขุมหนึ่งที่ต่อให้เป็นมันก็ยังหวาดหวั่นผุดขึ้นมากลางใจทันควัน

และตอนนี้ร่างของมันก็ถูกปราณเลือดของป๋ายเสี่ยวฉุนคว้าเอาไว้แล้วกระชากออกมาจากจุดศูนย์กลางของน้ำวน

“สมควรตายนัก นี่มัน…เลือดอาคม?!” ใบหน้าผีคำรามเกรี้ยวกราด

หันขวับกลับมาก็เห็นป๋ายเสี่ยวฉุนที่ร่างปกคลุมไปด้วยปราณเลือด ยิ่งปราณเลือดของป๋ายเสี่ยวฉุนถึงขั้นทำให้มันบาดเจ็บได้ นี่จึงทำให้ใบหน้าผีใจสั่นเยือก

และเวลานี้เอง เมื่อใบหน้าผีถูกป๋ายเสี่ยวฉุนกระชากออกมา การผสานรวมร้อยชั่วลมหายใจของทารกหญิงก็เสร็จสิ้น น้ำวนทั้งลูกพลันระเบิดแรงดึงดูดมหาศาลออกมากระชากรั้งทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบด้านให้จมหายเข้าไปในน้ำวน!

ป๋ายเสี่ยวฉุนและใบหน้าผีก็ยิ่งถูกแรงดึงดูดนั้นม้วนร่างให้ตรงดิ่งเข้าหาน้ำวนอย่างที่มิอาจควบคุม

“พลาดโอกาสครั้งแรกไปแล้ว ก็ได้แต่เข้าไปด้านในสมบัติอาคม แล้วค่อยหาโอกาสช่วงชิงอำนาจในการควบคุมมา!” ใบหน้าผีเคียดแค้นอย่างถึงที่สุด ดวงตาของมันเปล่งแสงวาบ มองออกว่าป๋ายเสี่ยวฉุนผิดปกติ

“วิญญาณของคนผู้นี้อ่อนแอ เมื่อร่ายใช้เลือดอาคมจึงยากที่จะผสานรวมกับวิญญาณของตัวเองได้ หาไม่แล้วคงรับมือได้ยากยิ่งนัก!” ใบหน้าผีแค่นเสียงเย็น ขณะที่ร่างถูกน้ำวนม้วนหอบเอาไป อักขระเก้าตัวที่อยู่นอกร่างของมันก็เปล่งประกายวิบวับแล้วตรงดิ่งเข้าหาป๋ายเสี่ยวฉุน

“กล้าขัดขวางเรื่องดีๆ ของข้า วิธีการที่ดีที่สุดในการรับมือกับคาถาเลือดที่ทำให้ร่างไร้จิตสำนึก มีเพียงสัญชาตญาณนี้ก็คือ…ผนึก!”

ดวงตาของใบหน้าผีฉายประกายดำมืดน่าขนลุก พอมันเอ่ยจบ อักขระทั้งเก้าก็ทะยานไปปกคลุมร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนไว้ภายใน แสงสว่างเจิดจ้าบาดตา อักขระทั้งเก้าทับซ้อนเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเงาซ้อนหลายชั้น พลังอำนาจนั้นช่างน่าครั่นคร้าม ครั้นจึงกลายมาเป็นผนึกชั้นแล้วชั้นเล่าที่ตรงเข้าปกคลุมร่างของป๋ายเสี่ยวฉุน

ทว่าวินาทีที่ตราผนึกร่วงลงไปนั้นเอง เสียงตูมพลันระเบิดออกมาจากในน้ำวนอย่างที่ไม่มีลางบอกเหตุ เสียงกัมปนาทดังสะเทือนแปดทิศ แรงดึงดูดในน้ำวนไต่ทะยานขึ้นสูงถึงขีดสุด ดูดเอาป๋ายเสี่ยวฉุน ใบหน้าผี และทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ให้พุ่งสวบเข้าไปกลางน้ำวน!

หลังจากพวกเขาถูกดูดเข้าไป น้ำวนพลันพังทลาย กระจกปริแตก ถ้ำน้ำแข็งพังถล่ม!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version