Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1051

ตอนที่ 1051

สิบคนแรก

ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปในถ้ำแห่งเซียนของเมิ่งฮ่าว เสียงกระหึ่มได้ยินออกมาจากภายในห้องศิลาอีกสองห้องซึ่งอยู่ในที่พักของเขา ไม่นานนักห้องศิลาทั้งสองก็พังทลายลงไป

ดวงตาปีศาจสองดวงฉับพลันนั้นก็โผล่ออกมาจากภายในกลุ่มฝุ่นควัน เมื่อมองเห็นซึ่งกันและกัน ประกายแห่งความเกลียดชังก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกมัน แต่แทนที่จะต่อสู้กันเอง พวกมันกลับลอยออกไปจากที่พัก เห็นได้ชัดว่าตั้งใจที่จะหลบหนีจากไป

อย่างไรก็ตาม ในทันทีที่พวกมันโผล่ออกมา ก็พบว่าตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับนกแก้ว ซึ่งอยู่ในท่ามกลางการสอนผู้ฝึกตนอสูรให้ขับร้องบทเพลง นกแก้วจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง และจากนั้นก็มีท่าทางไม่พอใจขึ้นอย่างรวดเร็ว

“พวกมันดูคุ้นตาจริงๆ แต่ก็นึกไม่ออก อย่างไรก็ตามทำไมขนของพวกมันถึงได้เบาบางนัก?”

“เจ้าโง่ พวกมันไม่มีขน เหล่านั้นคือหนวด!” ที่ด้านข้างออกไป ผีโต้งรีบฉวยโอกาสมาทับถมนกแก้ว ทันใดนั้นมันก็รู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ทำให้มันมีความรู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าและฉลาดกว่านกแก้ว

“ไม่ว่าจะเป็นขนหรือหนวด มันก็ยังไม่เพียงพอ! มา มา พวกเจ้าทั้งสอง ถึงเวลาที่ต้องมาเรียนรู้การร้องเพลงกับอู่เหยียแล้ว!” นกแก้วพูดขึ้นด้วยโทสะ บินตรงไปยังดวงตาปีศาจทั้งสองโดยไม่ลังเล

สองดวงตาปีศาจกระจายแสงอันลี้ลับออกมา และพวกมันก็พุ่งไปโจมตีนกแก้วโดยไม่ลังเล อย่างน่าตกใจยิ่งภูติทั้งสองตนที่อยู่ภายในดวงตา อ้าปากของพวกมันกว้างขึ้น ราวกับว่าต้องการจะกลืนร่างนกแก้วลงไป

พวกมันกระแทกเข้าหากัน และก็น่าประหลาดใจยิ่งที่นกแก้วไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่กลับกันภูติน้อยทั้งสองกลับส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา พวกมันรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันน่ากลัวบางอย่างที่อยู่ภายในร่างนกแก้ว และเริ่มจะหลบหนีจากไป ดวงตาปีศาจบินหนีไป เผยให้เห็นภูติทั้งสองที่กลายร่างเป็นฝักถั่วสีดำ ขณะที่พวกมันล่าถอยไปทางด้านหลัง

นกแก้วมีท่าทางภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างยิ่ง และกำลังจะเริ่มพูดอะไรออกมา แต่สองฝักถั่วสีดำก็ตวาดขึ้นมาในทันที “มีด!”

เป็นเสียงที่แหลมเล็ก เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ต่อมามีดสั้นสีดำสองเล่มก็พุ่งตรงไปยังนกแก้ว นกแก้วอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

“ฝักถั่วสีดำกลายเป็นมีดสั้น? มีดสั้นฝักถั่ว? ดูเหมือนว่าพวกมันจะคุ้นตานัก…”

ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปในประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองที่เก้า ฝักถั่วสีดำในรูปแบบของมีดสั้นได้แทงเข้าไปในร่างของผู้ฝึกตนชุดสีแดงเข้ม ทำให้ผู้ฝึกตนนั้นหายตัวไปในทันที คาดไม่ถึงว่ามันถูกมีดสั้นนั้น…ดูดซับกลืนกินเข้าไปโดยสิ้นเชิง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น และทำการต่อสู้ต่อไป เวลาผ่านไปไม่นานนักก่อนที่เขาจะสามารถกวาดล้างศัตรูที่ยังคงเหลืออยู่สองร้อยกว่าคนไปจนหมดสิ้น จากนั้นความว่างเปล่าที่เบื้องหน้าก็กระเพื่อมเป็นระลอกคลื่นออกมาอีกครั้ง ผู้ฝึกตนกายเนื้อห้าร้อยสิบสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นมา

การสังหารรอบใหม่ได้เริ่มขึ้น ถ้าคิดว่าในตอนนี้เมิ่งฮ่าวกำลังต่อสู้อยู่กับผู้คนมากมายเท่าใด ก็ยากที่จะทำให้เขาสามารถรักษาความแหลมคมเหมือนกับก่อนหน้านี้ไว้ได้ เขาเริ่มถอยไปทางด้านหลัง แต่สีหน้าก็ยังคงสงบนิ่งเยือกเย็น ถึงแม้ว่าจะถูกบังคับให้ต้องถอยหลังออกไปก็ตามที เขามักจะมองไปยังภูติเกราะดำเป็นระยะ มันกำลังต่อสู้ด้วยความเก่งกล้ามากขึ้น

ขณะที่ทำการดูดซับผู้ฝึกตนกายเนื้อเข้าไปอย่างต่อเนื่อง มันเริ่มกระจายความรู้สึกของปราณและโลหิตออกมาทำให้ความรู้สึกตกใจของเมิ่งฮ่าวซึ่งมีต่อภูติน้อยมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น

ที่ด้านนอก ศิษย์มากกว่าหนึ่งหมื่นคนเริ่มตื่นตระหนกขึ้น ขณะที่นามของเมิ่งฮ่าวพุ่งทะยานจากลำดับที่หนึ่งร้อยหนึ่งไปยังเก้าสิบเจ็ด, แปดสิบห้า, เจ็ดสิบแปด, หกสิบสาม, ห้าสิบสี่…

ในที่สุด นามของเมิ่งฮ่าวก็ไปปรากฏขึ้นอยู่ในลำดับที่สี่สิบหก!

แสงสีทองซึ่งส่องประกายออกมาจากรายชื่อนั้น ทำให้คนทั้งหมดมองเห็นได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นในแง่ของระยะเวลา…เมิ่งฮ่าวบรรลุถึงลำดับนี้เพียงแค่หนึ่งชั่วยาม หลังจากที่เริ่มเข้าไปทดสอบในแท่นศิลาตัวอักษรเท่านั้น!

คนทั้งหมดต่างก็สะท้านใจไปโดยสิ้นเชิงกับเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นแสงสีทองที่ส่องประกายระยิบระยับ ได้พุ่งขึ้นมาจนไปดึงดูดความสนใจของศิษย์ที่อยู่ในบริเวณอื่นๆ ของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าอีกด้วย พวกมันพุ่งตรงมาและเริ่มสอบถามว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้น และต้องตกตะลึงเมื่อรับรู้ถึงเรื่องนี้

ผู้ฝึกตนอสูรได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไป พวกมันยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด และรังสีสังหารที่พลุ่งพล่านปั่นป่วน

สำหรับฝานตงเอ๋อร์ ใบหน้านางดูน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด และกำมือจนแน่น

“เมื่อพิจารณาถึงพลังแห่งกายเนื้อของมัน คงไม่มีปัญหาที่มันจะขึ้นไปอยู่ในลำดับที่สามสิบได้” นางคิดพร้อมกับกัดฟันแน่น “แต่…ทำไมมันถึงรวดเร็วเช่นนี้?!?!” นามของเมิ่งฮ่าวได้พุ่งผ่านนามของนางบนรายชื่อไปนานแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่พอจะคาดคิดได้ จากการคิดคำนวณของนาง

เมิ่งฮ่าวน่าจะต้องใช้เวลาหนึ่งวันต่อการที่จะมาถึงลำดับในตอนนี้ได้ แต่กลับกัน…เขาใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้น

ในตอนนี้ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรโบราณมากมาย ได้รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองที่เก้า และกำลังส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์มาตรวจสอบดู

ที่ด้านในของแท่นศิลาตัวอักษร เมิ่งฮ่าวมองไปรอบๆ ยังผู้ฝึกตนชุดสีแดงเข้มนับร้อย ที่ห้อมล้อมตัวเขาอยู่ และถอนหายใจออกมา แม้จะมีความช่วยเหลือจากภูติเกราะดำ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปต่อต้านกับการรวมพลังกันของปราณและโลหิตของผู้ฝึกตนกายเนื้อเหล่านี้

“ข้าอยากรู้นักว่าจะอยู่สูงแค่ไหนในรายชื่อเหล่านั้น ต้องไม่ใช่อันดับหนึ่งอย่างแน่นอน กลุ่มคนจากอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าอยู่ในลำดับที่สูงเช่นนั้นได้อย่างไร? พวกมันฝึกฝนกายเนื้อได้แข็งแกร่งกว่าของข้าได้อย่างไรกัน?!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น

“บางทีมันต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนร่างกายของมันเอง หรือบางที…อาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้ามีผู้ฝึกตนกายเนื้อที่แท้จริง!” เขาอยู่ในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ก็มีความก้าวหน้าขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่เพียงแต่กายเนื้อของเขาจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ในตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงร่องรอยบางอย่างที่เกี่ยวกับเส้นทางแห่งการฝึกกายเนื้อ

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเช่นนั้น เขาก็คงจะบรรลุถึงขีดจำกัดของตนเองไปนานแล้ว แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าพลังของตัวเองยังคงขาดไปอยู่บ้าง

“แต่ข้ายังไม่บรรลุถึงจุดที่จำเป็นต้องใช้ของสิ่งนั้น กายเนื้อของข้า…ยังแข็งแกร่งได้มากกว่านี้” เมิ่งฮ่าวถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว ดวงตาสาดประกายขึ้น

“ถ้าเช่นนั้นก็มาดูกันว่า ผู้ฝึกตนกายเนื้อในการทดสอบนี้จะมีกายเนื้อเป็นแบบใดกัน!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ถึงแม้ว่าชีพจรเซียนของเขาจะถูกผนึกไว้ ทำให้ไม่อาจจะปลดปล่อยวิชาเวทออกมาได้ แต่ก่อนหน้านี้เขารู้สึกได้ว่าเวทลับของชีพจรเซียนยังคงจะสามารถใช้งานได้

กายเนื้อของเมิ่งฮ่าวถูกจำลองมาหลังจากที่หนึ่งในชีพจรเซียนทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดของเขาเปิดออก ดังนั้นเขาจึงน่าจะสามารถ…เปลี่ยนชีพจรเซียนทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดให้กลายเป็นพลังของกายเนื้อได้

เขาต้องการอยากรู้อย่างแท้จริงว่า จะมีความแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน เมื่อได้เปลี่ยนแปลงกายเนื้อด้วยการใช้เวทลับนั้น

เมิ่งฮ่าวหลับตาลง และผู้ฝึกตนกายเนื้อชุดสีแดงเข้มก็เข้ามาใกล้ เมื่อพวกมันแทบจะมาประชิดตัว ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็ลืมขึ้นมาในทันที และเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในร่างกาย ราวกับว่ามียักษ์ตนหนึ่งกำลังรัวกลองอยู่ จนเกิดเป็นเสียงดังก้องขึ้นทำให้ทั่วทั้งโลกแห่งนี้ต้องสั่นสะเทือนไป

ภายในร่างกายเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่าชีพจรเซียนหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดจะถูกผนึกไว้ และไม่อาจจะปลดปล่อยวิชาเวทออกมาได้ แต่ก็ไม่อาจจะป้องกันการเปลี่ยนแปลง ไม่ให้เข้าไปสู่พลังของกายเนื้อได้ เกิดเป็นเสียงกระหึ่มกึกก้องขึ้นขณะที่พลังของ

เมิ่งฮ่าวระเบิดขึ้นไป พลังปราณและโลหิตพุ่งขึ้นทำให้พลังอันมหาศาลระเบิดออกมา

ตูมมมมมมม…

ผู้ฝึกตนกายเนื้อชุดสีแดงเข้มที่เข้ามาใกล้ ถูกบดขยี้จนกลายเป็นชิ้นๆ ในทันทีด้วยพลังที่ระเบิดออกมานี้ พวกมันกลายเป็นเถ้าธุลีหมุนวนอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวในทันใด

ภูติเกราะดำส่งเสียงกรีดร้องและหลบเลี่ยงออกไปอย่างฉับพลัน มองกลับมายังเมิ่งฮ่าวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างเข้มข้น

ผู้ฝึกตนกายเนื้อชุดสีแดงเข้มทั้งหมดถูกทำลายไปในทันที

เมิ่งฮ่าวกำหมัดจนแน่นและมองขึ้นไป ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า ที่ด้านนอกนามของเมิ่งฮ่าวพุ่งทะยานขึ้นจากอันดับที่สี่สิบไปอยู่ที่อันดับสิบเก้าในทันที!!

จากสมัยโบราณมาจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ มีเพียงแค่สิบแปดคนเท่านั้นที่เคยทำได้ดีกว่าเมิ่งฮ่าว และพวกมันทั้งหมดต่างก็เป็นผู้ฝึกตนในอาณาจักรโบราณ ซึ่งมีตะเกียงวิญญาณดับลงไปแล้วอย่างน้อยก็ห้าดวงขึ้นไป

ยิ่งไปกว่านั้นกายเนื้อของพวกมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเมิ่งฮ่าวมากนัก นอกจากนั้นเขายังได้กำจัดด่านนี้ไปได้ทั้งหมดในช่วงเวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น ในขณะที่คนอื่นๆ มากมายต้องถูกบังคับให้ทำการสังหารคู่ต่อสู้ไปอย่างช้าๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาเหมือนกัน แต่ขั้นตอนช่างแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

โลกที่ด้านนอกตกอยู่ในความปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ศิษย์ของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า แทบไม่อยากจะเชื่อในสายตนของตนเอง เมื่อได้เห็นนามของเขาพุ่งทะยานจากอันดับที่สี่สิบไปอยู่ในยี่สิบอันดับแรก

เมิ่งฮ่าว!

ดวงตาฝานตงเอ๋อร์เบิกกว้างขึ้น กำลังหอบหายใจออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อและตื่นตระหนก นางยังได้อ้าปากค้างขึ้นอีกด้วย

“ยี่สิบคนแรก!!”

“เมิ่งฮ่าวเข้าไปอยู่ในยี่สิบคนแรกแล้ว! แค่สองชั่วยามก็ไปอยู่ในยี่สิบคนแรก!”

“ยากที่จะบอกได้ว่า…มันสามารถจะเข้าไปอยู่ในสิบคนแรกได้หรือไม่!?”

แสงสีทองอันไร้ขอบเขตได้พุ่งขึ้นมาจากแท่นศิลาตัวอักษร ทำให้ตกเป็นเป้าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม ศิษย์อีกมากมายกำลังกลายเป็นลำแสงอันเจิดจ้าพุ่งเข้ามา

ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับเข้าไปในโลกแห่งแท่นศิลาตัวอักษร เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น ดูคล้ายกับเป็นเทพแห่งการต่อสู้ไปทุกแง่มุม มีพลังอย่างมากมายจนยากที่จะอธิบายออกมาได้

เขาคือเทพแห่งการต่อสู้ เป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรเซียน และตอนนี้กายเนื้อของเขาได้บรรลุถึงระดับของ…ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียนด้วยเช่นกัน

ภูติเกราะดำกำลังสั่นสะท้าน ขณะที่ความว่างเปล่าที่เบื้องหน้าบิดเบี้ยวไปมา ในที่สุดก็เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้น ขณะที่มองเห็นบุรุษในชุดสีดำโผล่ออกมาจากภายในอากาศที่บิดเบี้ยวนั้น เป็นบุรุษเพียงผู้เดียวเท่านั้น สวมใส่ชุดยาวสีดำพร้อมหน้ากาก แต่เมื่อมันปรากฏกายขึ้น พลังปราณและโลหิตก็ระเบิดออกมา ทำให้เกิดเป็นรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นในทั่วทุกที่!

พลังอันน่ากลัวพุ่งขึ้นมาจากภายในร่างมัน เป็นพลังขั้นสูงสุดของอาณาจักรเซียน เทียบเท่ากับพลังของเมิ่งฮ่าวก่อนที่เขาจะใช้เวทลับของชีพจรเซียนออกมา แต่เมื่อเทียบกับพลังของเขาในตอนนี้แล้ว…พลังของบุรุษผู้นี้ก็ยังอ่อนแอกว่ามากนัก

เมิ่งฮ่าวเดินไปข้างหน้า ยื่นมือออกไป แต่ไม่ได้ใช้หมัด เพียงแค่สะบัดแขนไปเท่านั้น พลังกายเนื้อของเขาทำให้กฎธรรมชาติในบริเวณนั้นต้องสั่นสะท้าน เกิดเป็นลมพายุขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วร่างของบุรุษชุดดำในทันที

“ทำลาย” เขากล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา ขณะที่บุรุษชุดดำแตกกระจายไป ต่อมาบุรุษอีกสองคนก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็สี่, แปด…จนกระทั่งมองเห็นเป็นบุรุษชุดดำห้าร้อยสิบสองคน แต่ละคนถูกเมิ่งฮ่าวบดขยี้ไปอย่างง่ายดาย

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และโจมตีไปด้วยความรวดเร็วราวกับเป็นสายฟ้า พลังกายเนื้อของเมิ่งฮ่าวได้บรรลุถึงขีดสูงสุดของอาณาจักรเซียน และยังได้เกินกว่าผู้แข็งแกร่งในอาณาจักรโบราณอีกด้วย แต่เมิ่งฮ่าวก็รู้ว่านี่ยังไม่ใช่ระดับที่แข็งแกร่งมากที่สุดของตนเอง

ระดับที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ ควรจะเป็นตอนที่เขาสามารถจะดูดซับผลเนี่ยผานเข้าไปได้ทั้งสี่ผลโดยสมบูรณ์

ในช่วงเวลาก่อนที่เขาจะผ่านเข้าไปในอาณาจักรโบราณ เขาจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งมากที่สุด เท่าที่อาณาจักรเซียนเคยมีมานับตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้นั่นน่าจะเป็น…สิ่งที่อาจจะเกินไปกว่าจักรพรรดิแห่งอาณาจักรเซียนด้วยซ้ำไป!

บุรุษชุดดำห้าร้อยสิบสองคนถูกบดขยี้ไป ทำให้นามของเมิ่งฮ่าวกระโดดขึ้นมาจากอันดับที่สิบเก้าไปอยู่ตรงอันดับห้าบนแท่นศิลาตัวอักษร!!

ที่ด้านนอก กลุ่มฝูงชนกำลังเดือดพล่าน

“อันดับห้า! เมิ่งฮ่าวอยู่ในอันดับที่ห้าแล้ว! กลุ่มคนที่อยู่เหนือกว่ามันคือสี่นักรบเซียนในตำนานเท่านั้น!”

“จากในสมัยโบราณมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ จากการก่อตั้งอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าเป็นต้นมา สี่อันดับแรกของประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองทั้งเก้า ไม่เคยมีใครโค่นได้มาก่อน สี่นามเหล่านั้นมักจะอยู่ที่ด้านหน้าเสมอมา!”

“บุคคลทั้งสี่เหล่านั้น ไม่เหมือนกับผู้ถูกเลือกจากยุคสมัยของพวกเรา! พวกมันต่างก็อยู่ในยุคเดียวกัน! สถิติของพวกมันไม่เคยถูกใครทำลายได้มาก่อน!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version