Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1072

ตอนที่ 1072

ความอับยศของโลกฝึกตนกายเนื้อ!

ผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำ รู้สึกหวาดกลัวจนแทบจะเสียสติไป หลังจากที่ถูกเมิ่งฮ่าวจับตัวไว้ มันไม่อาจจะทำอะไรได้โดยสิ้นเชิง และจากนั้นก็ถูกยกมาบังอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขาพุ่งตรงไปยังปูทะเลยักษ์

โดยที่ไม่แม้แต่จะขบคิดถึงเรื่องนี้ บุรุษผู้นั้นก็เริ่มด่าทอขึ้น

“เจ้าช่างไร้ยางอายนัก! เจ้าคือความอัปยศของโลกแห่งการฝึกตนกายเนื้อ! เจ้าคนไร้ยางอาย!!”

เมิ่งฮ่าวไม่สนใจมันโดยสิ้นเชิง และความจริงแล้วก็พุ่งตรงไปเร็วมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย มังกรทะเลทั้งแปดออกมาจากด้านหลังของปูทะเล ส่งเสียงแผดร้องคำรามขึ้นขณะที่พวกมันปลดปล่อยวิชาเวทออกมาเป็นจำนวนมาก แต่เมิ่งฮ่าวก็จับตัวผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำมาปิดบังไว้ที่เบื้องหน้า ใช้มันเหมือนกับเป็นเกราะป้องกัน เพื่อปิดกั้นวิชาเวททั้งหมดไป

จนเกิดเป็นเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจขึ้น บุรุษร่างกำยำสั่นสะท้าน แผ่นหลังของมันฉีกขาดเต็มไปด้วยโลหิต จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดกลัวและเริ่มก่นด่าต่อไป

“เจ้าต้องไม่ตายดีอย่างแน่นอน! บัดซบ! ไม่มีใครไร้ยางอายเท่ากับเจ้าอีกแล้ว!!”

“ท่านย่ามันเถอะ! ข้าเคยทำอะไรให้เจ้า, หือ? ข้าต่อสู้กับเจ้าอย่างเปิดเผยและยุติธรรม แต่เจ้าก็ยังมาใช้เล่ห์เหลี่ยมกับข้า!

ที่ข้าใช้ออกไปนั่นไม่ใช่วิชาเวท แค่เป็นการบอกกับเจ้าว่ามันคือส่วนหนึ่งของผู้ฝึกตนกายเนื้อเช่นพวกเราที่จะใช้เวทมนตร์ได้!”

ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวได้ยกร่างของมันให้ไปปิดกั้นลำแสง จนลำแสงนั้นกระแทกลงไปที่แผ่นหลังของมัน

มันส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา และแรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่าง ขณะที่โลหิตพุ่งออกมาจากบาดแผลซึ่งเต็มไปทั้งร่างของมัน

“ข้าขอวิงวอน ให้ปล่อยข้าไปเถอะ! ข้าทนต่อไปไม่ได้จริงๆ…”

บุรุษร่างกำยำร้องไห้คร่ำครวญออกมา นี่เป็นผู้ฝึกตนอสูรคนแรกที่เขาได้เห็นมันอ้อนวอนขอร้อง ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องจ้องมองไปด้วยความตกตะลึงขึ้นในทันที

“ไม่ได้” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบ ส่ายหน้าไปมา เขาไม่ค่อยยินดีนักที่จะเป็นส่วนหนึ่งกับเกราะป้องกันที่มีชีวิตเช่นนี้ จับมือลงไปบนร่างของมันแน่นขึ้น พุ่งตรงไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เข้าไปใกล้ปูทะเล ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทส่องแสงระยิบระยับ ในรูปแบบของเสาแห่งแสงจำนวนมาก หลอมรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นการโจมตีที่ดุร้าย

ทันใดนั้นทั่วทั้งสนามรบก็เต็มไปด้วยเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจของผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำ มันไม่เคยพบเจอกับความเจ็บปวดที่สุดจะทานทนได้เช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกถึงอันตรายอันร้ายแรงเต็มอยู่ในจิตใจ จนทำให้มันเชื่อว่าถ้ายังคงเป็นเช่นนี้อีกต่อไป มันก็คงจะต้องถูกสังหารไปอย่างแน่นอน

“ได้โปรด ข้าขอร้อง อย่าได้ทำเช่นนี้เลย! พวกเราต่างก็เป็นผู้ฝึกตนกายเนื้อเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเรามีโชคชะตาที่เชื่อมต่อกัน! ปล่อยข้าไป ได้หรือไม่!? ข้าขอรับรองว่าข้าจะจากไปในทันที ข้าให้สัญญา…”

ขณะที่ผู้ฝึกตนกายเนื้อกล่าวออกมา เสียงของมันก็เริ่มแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆ เปลวไฟแห่งพลังชีวิตของมันเริ่มสลัวเลือนรางลงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่ามันกำลังจะตกตายไป

เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปด้วยความตกตะลึงขึ้นอีกครั้ง เขามั่นใจว่าบุรุษผู้นี้ไม่ได้อ่อนแอเช่นนี้ ถึงแม้ว่าวิธีการนี้อาจจะโหดร้ายไปบ้าง

แต่มันก็ยังคงห่างไกลจากความตายมากนัก ซึ่งเมิ่งฮ่าวค่อนข้างจะมั่นใจว่า มันน่าจะทนทานได้จนกระทั่งเข้าไปถึงปูทะเล

ร่างเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นขณะที่หลบเลี่ยงวิชาเวท ทำให้ต้องเข้าไปใกล้กับผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำมากขึ้น ทันใดนั้นมันก็เงยหน้าขึ้น อ้าปากกว้าง และกัดลงไปที่ลำคอของเมิ่งฮ่าวอย่างดุร้าย

เมิ่งฮ่าวขยับมือ และบุรุษร่างกำยำก็แผดร้องออกมา ขณะที่เขาเบี่ยงคอหลบไป เสียงงับดังก้องออกมา ขณะที่ฟันของมันกัดลงไปในอากาศ ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความเย็นชา ขณะที่เขาเหวี่ยงร่างมันไปรอบๆ เพื่อดูดซับวิชาเวทที่พุ่งเข้ามา ก่อนจะในที่สุดก็ไปปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหน้าของปูทะเล จากนั้นเขาก็กวัดแกว่งบุรุษร่างกำยำราวกับเป็นอาวุธ ใช้ร่างกายมันโจมตีไปยังปูทะเล เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น

และปูทะเลก็สั่นไปมา ผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำแผดร้องขึ้น รู้สึกว่าร่างกายตนเองแทบจะพังทลายลงไป และวิญญาณก็เกือบจะกระจัดกระจายออกไป

“ข้าทนไม่ได้แล้ว! ข้าขอร้อง แม้…แม้แต่ช่วยเจ้าต่อสู้ ข้าก็สามารถทำได้! แค่ให้เม็ดยาข้าบ้างเพื่อฟื้นฟู จากนั้นข้าก็จะใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งนี้ช่วยปิดกั้นวิชาเวทให้กับเจ้าได้มากขึ้นอีก!”

แม้ในขณะที่มันพูดออกมา เมิ่งฮ่าวก็กวัดแกว่งมันอีกครั้ง กระแทกร่างมันเข้าไปยังปูทะเล แสงอันเจิดจ้าสาดประกายออกมาจากตัวปู ขณะที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมา เมิ่งฮ่าวยกบุรุษร่างกำยำขึ้นไปปิดกั้นไว้ในทันที

ในเวลาเดียวกันนั้น ก้ามปูหนึ่งข้างก็พุ่งลงมาโจมตี เมิ่งฮ่าวเพิ่งจะหลบหลีกไปได้ แต่ก้ามปูอีกข้างก็พุ่งตรงมาที่เขา

ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะสามารถทำอะไรได้ ผู้ฝึกตนกายเนื้อร่างกำยำก็แผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา ดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกวิตกกังวลใจมากกว่าเมิ่งฮ่าวเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้

“ไม่!!” มันรีบกัดปลายลิ้นอย่างรวดเร็ว และพ่นโลหิตบางส่วนออกมา ทำให้กลายเป็นเกราะป้องกันสีโลหิต ที่ดูคล้ายกับเป็นเกราะป้องกันแก้วผลึกอยู่บนแผ่นหลังของมัน ในเวลาเดียวกันนั้น เกราะป้องกันนั้นก็ขยายตัวออก ปกคลุมไปทั่วร่างของมัน

ขณะที่มันกระทำเรื่องราวเหล่านี้เสร็จสิ้น เมิ่งฮ่าวก็หยุดกวัดแกว่งมันไปรอบๆ เพื่อต่อต้านไปยังการโจมตีมาเป็นครั้งที่สองของก้ามปู ซึ่งได้คีบลงไปบนร่างของมัน

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากของบุรุษร่างกำยำ มันแผดร้องออกมาแต่ก็เป็นเสียงที่แผ่วเบามากกว่าก่อนหน้านี้ แทบจะราวกับว่ามันไม่มีแรงที่จะแผดร้อง

“ช่วยข้าด้วย…มีใคร…พอจะช่วยข้าได้บ้าง…? ข้า…ข้ายังมีคุณค่าบางอย่าง…” มันร้องไห้ออกมา

ในทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น เมิ่งฮ่าวก็ตระหนักว่ามันสมเหตุสมผล ถ้าบุรุษร่างกำยำผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเขามากกว่า ดังนั้นจึงรีบโบกสะบัดมืออย่างรวดเร็ว ทำให้เม็ดยาบางส่วนลอยออกมาผ่านเข้าไปในปากของมัน ในทันทีที่เม็ดยาเหล่านั้นหลอมละลายไป ร่างของบุรุษผู้นั้นก็สั่นสะท้านขึ้น

ในตอนนี้เองที่ความหวังได้สาดประกายขึ้นมาในจิตใจของเขา

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็รวบรวมพลังปราณและโลหิตที่สามารถจะรวบรวมได้ทั้งหมดขึ้นมา จนทำให้เกิดเป็นสายลมขนาดใหญ่พุ่งออกไป ขณะที่พลังอันมหาศาลได้พุ่งขึ้นมาจากภายในร่างเขา

ผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง แต่ก็ต้องเริ่มแผดร้องออกมา เมื่อเมิ่งฮ่าวยกร่างมันให้สูงขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็ใช้พลังทั้งหมดเท่าที่จะรวบรวมขึ้นมาได้ ขว้างบุรุษร่างกำยำตรงไปยังปูทะเลอย่างดุร้าย!

“เมิ่งฮ่าว เจ้าบัดซบสารเลว! เจ้าคนไร้ยางอาย! เจ้าตัวอัปยศของโลกแห่งการฝึกตนกายเนื้อ! เจ้าต้องไม่ตายดีอย่างแน่นอน!!”

บุรุษร่างกำยำแผดร้องออกมา ขณะที่ร่างมันกลายดาวตก พลังของร่างกายมันรวมเข้ากับพลังของเมิ่งฮ่าว ทำให้ร่างมันคล้ายกับเป็นหอกยาวที่พุ่งฝ่าอากาศ และกระแทกลงไปยังปูทะเล

ถ้านั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ไม่อาจจะถือได้ว่าเมิ่งฮ่าวไร้ยางอายเท่าใดนัก แต่จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็พุ่งติดตามไปทางด้านหลังบุรุษร่างกำยำ หลบซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังของมัน ขณะที่คนทั้งสองมุ่งหน้าตรงไปยังปูทะเล

ในชั่วพริบตาบุรุษผู้นั้นก็พุ่งไปอยู่ที่ด้านหน้าของปูทะเล แสงระยิบระยับสาดประกายขึ้นมา ราวกับว่ามีเกราะป้องกันอยู่ในบริเวณนั้น แต่มันก็แตกกระจายออกไป และบุรุษร่างกำยำก็แทงทะลุเข้าไปในร่างของปูทะเล

ค่ายกลเวทที่ถูกสร้างขึ้นเป็นปูทะเลสั่นไปมา ราวกับว่ากำลังปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นเมิ่งฮ่าวที่ติดตามบุรุษผู้นั้นมา ก็แทงทะลุเข้าไปในร่างของปูทะเลด้วยเช่นกัน ประจุไฟฟ้าปะทุขึ้นมาอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขาเริ่มสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกับผู้ฝึกตนอสูรที่ถูกสังหารไปรอบๆ ตัวเขา

เสียงร้องด้วยความหวาดกลัวดังก้องอยู่ที่ด้านในของปูทะเล ช่วงเวลาเพียงแค่สิบลมหายใจ เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไป และร่างของปูทะเลยักษ์เกินกว่าครึ่งถูกทำลายไป จากนั้นมันก็ระเบิดขึ้น

ผู้ฝึกตนอสูรนับร้อยบินออกไปพร้อมกับรังสีสังหารที่พุ่งขึ้นมา พวกมันไม่ได้หลบหนีจากไปแต่กลับพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยความเย็นชา แค่นเสียงขึ้นขณะที่โบกสะบัดมือไป ทำให้ศีรษะอสูรโลหิตก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และเริ่มทำการสังหารผู้ฝึกตนอสูรไป

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น และพิรุณโลหิตก็ตกลงมาจากท้องฟ้า

ทุกครั้งที่เมิ่งฮ่าวสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งด้วยกระถางสายฟ้า

ผู้ฝึกตนอสูรก็จะตายไปมากขึ้น เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนก่อนตายไปของพวกมัน ค่อยๆ รวมเข้าด้วยกันจนดังระงมไปทั่ว ทำให้ผู้ฝึกตนอสูรทั้งหมดเริ่มสั่นสะท้าน ไม่ว่าพวกมันจะมีโทสะมากแค่ไหนก็ตามที

ผู้ฝึกตนอสูรมังกรทะเลทั้งแปดคนคือเป้าหมายหลักของการโจมตีในครั้งนี้ เขาจัดการไปหนึ่งคน, สองคน, สามคน…ราวกับเป็นเทพแห่งการสังหาร และใครก็ตามที่มาเผชิญหน้ากับเขา จะต้องถูกบดขยี้ไปอย่างง่ายดายราวกับเป็นกิ่งไม้ที่เน่าเปื่อยผุพัง

ในที่สุด มือขวาของเมิ่งฮ่าวก็ยื่นออกไปคว้าจับร่างของมังกรทะเลตัวที่เจ็ดไว้ เขาแทงเข้าไปที่หน้าอก และบดขยี้หัวใจของมันไป จากนั้นก็หมุนตัว มองไปยังผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำผู้นั้น

มันได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่ก็มีท่าทางคลุ้มคลั่งเหมือนเช่นเคย ดวงตาดูเหมือนว่าจะไม่มีความหวาดกลัวต่อความตายแม้แต่น้อย ราวกับว่าไม่ว่ามันจะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ตามที มันก็ยังคงต้องการจะต่อสู้ด้วย ถึงแม้ว่าร่างกายมันจะถูกบดขยี้จนกลายเป็นเลือดเนื้อไป มันก็ยังคงจะต่อสู้!

“สังหารมัน! พวกเราเหล่าผู้ฝึกตนอสูรยอมที่จะไร้ศีรษะ ยินยอมให้ชีวิตถูกปลิดปลง แต่ต้องสังหารมันไปให้จงได้!”

“สังหารมัน! พี่น้องทั้งหลาย ลุกขึ้นมา! สังหารคนผู้นี้!!”

มันแผดร้องตะโกนออกมาด้วยโทสะ จนเกิดเป็นเสียงดังก้องออกไปทั่วทั้งกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร ขณะที่มันวิ่งเข้ามา ดูเหมือนว่าแทบจะเข้ามาโจมตียังเมิ่งฮ่าวแล้ว

ซึ่งกำลังแค่นเสียงอย่างเย็นชาออกมา และเตรียมตัวที่จะโจมตีกลับไป แต่จากนั้นจู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็ต้องอ้าปากค้าง

ไม่บ่อยครั้งนักที่เมิ่งฮ่าวจะตกตะลึงจนต้องหยุดชะงักนิ่งไปในสนามรบ แต่ในตอนนี้เขากลับอึ้งไปอย่างแท้จริง และแทบไม่อยากจะเชื่อต่อสายตาของตนเอง ขณะที่จ้องมองไปยังผู้ฝึกตนกายเนื้อร่างกำยำผู้นั้น

มันแผดร้องข่มขู่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับไม่หวาดกลัวต่อความตายใดๆ แต่…มันไม่ได้พุ่งตรงเข้ามาต่อสู้ด้วยจริงๆ กลับถอยไปทางด้านหลัง…ถึงแม้จะดูเหมือนว่ามันกำลังวิ่งตรงมา และร้องตะโกนออกมาเป็นเสียงดังเพื่อโจมตี แต่จริงๆ แล้วมันได้เริ่มล่าถอยออกไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด…

มันเป็นสิ่งที่ถ้าไม่เพ่งดูให้ละเอียด ก็จะไม่มีทางสังเกตเห็นได้…

สีหน้าแปลกๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว ผู้ที่มีนิสัยไร้ยางอายเช่นนี้ จากประสบการณ์ของเมิ่งฮ่าวแล้ว คงต้องยกให้มันอยู่ในระดับเดียวกับนกแก้วและผีโต้ง

เขามองไปยังบุรุษร่างกำยำด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง จากนั้นก็มองไปทางอื่น และโบกสะบัดมือเพื่อเรียกภูเขานับร้อยนับพันออกมา

ดวงตะวันและจันทราก็ปรากฏขึ้นด้วยเช่นกัน ระเบิดออกไปด้วยพลังการโจมตีอันรุนแรง ทำการสังหารทุกสรรพสิ่งที่พวกมันไปแตะต้องสัมผัส

ในที่สุด ผู้ฝึกตนอสูรก็เริ่มแสดงความหวาดกลัวออกมา

ยากที่จะบอกได้ว่าในท่ามกลางการสั่นสะท้านของพวกมัน ใครเป็นคนแรกที่หลบหนีจากไป อย่างไรก็ตามแทบจะในช่วงเวลาเดียวกันนั้น

ผู้ฝึกตนอสูรทั้งหมดต่างก็กระจัดกระจายแยกย้ายกันออกไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวาย ผู้ฝึกตนอสูรร่างกำยำอยู่ในท่ามกลางพวกมัน ถึงแม้ว่ามันยังคงร้องตะโกนด้วยความกราดเกรี้ยวออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่จริงๆ แล้วมันกำลังวิ่งหลบหนีจากไปรวดเร็วกว่าผู้ใดทั้งหมด

สีหน้าของผู้ฝึกตนอสูรไม่ได้มีแต่ความเกลียดชังอีกต่อไป แต่เป็นความหวาดกลัวและสิ้นหวัง

“ท่านปรมาจารย์ ช่วยข้าด้วย!!”

“ท่านอยู่ที่ไหน ท่านปรมาจารย์! ผู้อาวุโสอาณาจักรโบราณอยู่ที่ไหน!?!?”

“กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรกำลังเผชิญกับหายนะแล้ว!!!”

“ทำไม!? ทำไมพวกเราถึงต้องถูกสังหารอยู่ภายในสำนักของตัวเอง!?!? ท่านปรมาจารย์ ท่านไปอยู่ที่ไหน!?!?”

เสียงร้องตะโกนดังก้องขึ้น เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ผู้ฝึกตนอสูรซึ่งอยู่ในที่ห่างไกลกำลังสั่นสะท้าน และไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้ไปกว่านั้น พื้นดินเปียกชุ่มไปด้วยโลหิตและชิ้นเนื้อ

มันคือโลหิตของผู้ฝึกตนอสูร ซึ่งเป็นตัวแทนของวิญญาณ และความสิ้นหวังของพวกมัน

แทบจะในทันทีที่เสียงร้องไห้เริ่มดังก้องออกมา ก็มองเห็นมังกรทะเลตัวสุดท้าย กำลังพุ่งออกไปอยู่ในท่ามกลางผู้ฝึกตนอสูรอื่นๆ อีกนับร้อย

“บัดซบ เมิ่งฮ่าวผู้นี้มีบางอย่างที่ต่อต้านมังกรทะเลเช่นพวกเรา!!” โชคชะตาของมังกรทะเลตัวอื่นๆ ทั้งหมด ทำให้มันรู้สึกหวาดกลัวและสั่นสะท้านขึ้นขณะที่หลบหนีจากไป แต่เมิ่งฮ่าวก็เคลื่อนย้ายทางไกลมาอยู่ที่ด้านข้างมันอย่างรวดเร็ว และจากนั้นก็ยื่นมือออกไป มองเห็นแสงสีโลหิตเจิดจ้าขึ้น และผู้ฝึกตนมังกรทะเลก็แผดร้องออกมา

ขณะที่ร่างกายมันถูกฉีกให้เปิดออก หัวใจมันลอยออกมาและถูกเมิ่งฮ่าวบดขยี้ไป เมื่อโลหิตสีขาวปรากฏขึ้น เขาก็เก็บมันไว้ จากนั้นก็หมุนตัวมองตรงไปยังสามภูเขาที่สามารถจะเห็นได้ตรงด้านล่าง

“หลงเทียนไห่ เจ้าจะออกมาหรือไม่? หรือจะให้ข้าแยกภูเขาให้เปิดออกเพื่อจับตัวเจ้า!?”

เมื่อเมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น ก็เกิดเป็นเสียงดังก้องออกไปคล้ายกับเป็นเสียงฟ้าร้องคำราม

ตรงจุดศูนย์กลางของภูเขาที่ด้านล่าง มีถ้ำแห่งเซียนอยู่ถ้ำหนึ่ง ภายในนั้นหลงเทียนไห่กำลังนั่งตัวสั่นสะท้าน จิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version