Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1472

ตอนที่ 1472

ชิ้นส่วนกระจกไม่ได้ใช้เช่นนั้น

แผนการนับไม่ถ้วนของเซียนไป๋อู้เฉิน ไม่ได้รวมถึงความหวาดกลัวที่จินหยุนซานมีต่อเมิ่งฮ่าว จนถึงระดับที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูดออกมาได้

ลึกลงไปในจิตใจ มันไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความคิด ที่จะไปตอแยความบ้าคลั่งของเมิ่งฮ่าว

ดังเช่นที่มันได้กล่าวไป ถ้าไป๋อู้เฉินมอบผลเก้าแก่นแท้บริสุทธิ์มาให้จริงๆ มันอาจจะช่วยนางในทันที แต่นี่เป็นเพียงแค่ข้อมูลเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางทำให้มันต้องไปตอแยเมิ่งฮ่าวได้

ก่อนหน้านี้มันรู้สึกลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่ความเยือกเย็นโดยสิ้นเชิงของเมิ่งฮ่าว หลังจากที่ทะเลแห่งภูตผีหยุดชะงักนิ่งไป ก็ทำให้จินหยุนซานรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กัดฟันแน่น เชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนเองที่เกี่ยวข้องกับเมิ่งฮ่าว และรีบเปลี่ยนข้างในทันที

ไม่มีใครแม้แต่เซียนไป๋อู้เฉินก็ตามที จะคาดเดาได้ว่าเมิ่งฮ่าวจะทำให้จินหยุนซานรู้สึกหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ จนกระทำเรื่องเช่นนี้ออกมา แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังต้องมองไปยังมันด้วยความประหลาดใจอย่างช่วยไม่ได้

จินหยุนซานมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความสงสัยและกล่าวว่า “มองอะไร? หรือว่าเมิ่งเต้าโหย่ว (สหายเต๋าเมิ่ง) คิดว่าจินโหม่วเป็นผู้กลับกลอกไร้ซึ่งคุณธรรม? พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ต่อสู้กันอีก และคำพูดของจินโหม่วก็มีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้ ไม่กลับคำตามอำเภอใจ เมื่อพูดออกไป ก็ต้องทำตามนั้นให้จงได้”

ดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างยิ่ง ไม่ยอมปกปิดความรู้สึกดูถูกที่ซึมซับอยู่ในน้ำเสียงแม้แต่น้อย

ใบหน้าเซียนไป๋อู้เฉินหมองคล้ำลง และซาจิ่วตงก็ถอนหายใจออกมา เจ้าสำนักยิ้มอย่างแห้งแล้งขณะที่มองไปยังจินหยุนซาน

จินหยุนซานกระแอมไอ มองไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างต่อเนื่อง

“เมิ่งเต้าโหย่ว ถ้าท่านต้องการความช่วยเหลือจากจินโหม่ว พวกเราสามารถพูดคุยกันได้ ตอนนี้ข้าจะไม่รบกวนทุกท่านแล้ว” จินหยุนซานหัวเราะเป็นเสียงดัง จากนั้นก็บินออกไปด้านข้าง แสดงท่าทีว่าจะยอมไม่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

มันเลือกที่จะเปลี่ยนข้าง แต่ก็มีวิธีการเปลี่ยนข้างที่แตกต่างกันออกไป ตราบเท่าที่มันไม่ช่วยเมิ่งฮ่าวต่อสู้ ไป๋อู้เฉินและเจ้าสำนัก หรือแม้แต่ซาจิ่วตง ก็ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้

เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้มันมีความสำคัญต่อเมิ่งฮ่าวมากขึ้นกว่าเดิม และอาจจะเป็นตัวตัดสินด้วยว่า เมิ่งฮ่าวจะมีชีวิตรอดจากหายนะที่เกิดขึ้นนี้หรือไม่ แน่นอนว่าเมิ่งฮ่าวจะต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมาบ้าง นอกจากนี้ถ้าไป๋อู้เฉินต้องการที่จะหลีกเลี่ยงความล้มเหลวในแผนการของตนเอง นางก็จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมาด้วยเช่นกัน

จากการคิดคำนวณของจินหยุนซาน ต่อให้ในที่สุดมันไม่ได้ช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลย ก็ยังคงได้ผลประโยชน์อยู่บ้างถึงแม้ว่าจะไม่มากนักก็ตาม สิ่งที่ดีที่สุดก็คือไม่ต้องไปตอแยเมิ่งฮ่าว

เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนี้ จินหยุนซานก็ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจออกมา

เซียนไป๋อู้เฉินแค่นเสียงเย็นชา ไม่สนใจจินหยุนซาน หันหน้าไปยังเจ้าสำนักและซาจิ่วตง

“สหายเต๋าทั้งสอง เรื่องที่ไป๋โหม่วสัญญา ขอสาบานด้วยเต๋าว่าเป็นความจริงทั้งสิ้น!” ในทันทีที่นางพูดจบ เจ้าสำนักก็พยักหน้า และดวงตาของซาจิ่วตงก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงสีแดง

จากนั้นคนทั้งสามก็โจมตีไปอีกครั้ง พวกมันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว โดยมีไป๋อู้เฉินเป็นผู้นำ พร้อมกับอีกสองคนที่มาจากด้านข้าง ตรึงเมิ่งฮ่าวไว้โดยสิ้นเชิง

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่ง มองไปยังคนทั้งสาม ในขณะที่พวกมันพุ่งตรงมา เขาก็ผลักฝ่ามือออกไป และภูเขาจำนวนมากก็ตกลงมา เมื่อภูเขาเหล่านี้ปิดกั้นคนทั้งสามไว้ สองมือเมิ่งฮ่าวก็ขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว เวทผนึกรุ่นแปดปรากฏขึ้น จากนั้นก็รุ่นเจ็ด และรุ่นหก พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วติดต่อกัน ขณะที่ไป๋อู้เฉินและอีกสองคนมัวแต่จัดการกับภูเขา เมิ่งฮ่าวก็ปลดปล่อยเวทผนึกทั้งหมดออกไปจนกระทั่งถึงเวทรุ่นแรก

“แปดเวทผนึก หลอมรวม!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับดวงตาที่แวบประกาย ขยับร่ายเวทและฟาดฝ่ามือทั้งสองออกไปที่เบื้องหน้า ทันใดนั้นเวทผนึกทั้งแปดก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน เปลี่ยนเป็นเส้นใยนับไม่ถ้วน และจากนั้นก็กลายเป็นร่างแหขนาดใหญ่ พุ่งตรงไปยังกลุ่มคนทั้งสาม

เจ้าสำนักขมวดคิ้ว ขยับสองมือร่ายเวทจนทำให้ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวลงไป เวลาเดียวกันนั้นยอดเขาอันน่าตกใจก็ปรากฏขึ้น ตกลงมาจากสวรรค์มาลอยอยู่เหนือศีรษะของเจ้าสำนัก

“เวทภูเขากระถาง!” มันกล่าวขึ้นด้วยเสียงที่เก่าแก่โบราณ โบกสะบัดมือออกไป ทำให้ภูเขาเริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งดูเหมือนว่าสามารถจะแทนที่ฟ้าดิน พร้อมกับพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวในทันที

เวลาเดียวกันนั้นซาจิ่วตงก็เริ่มหมุนคว้าง กลายร่างเป็นพายุทรายอันกราดเกรี้ยว ภายในพายุทรายนั้นมองเห็นศีรษะที่มีสองเขา ดวงตาเป็นสีแดงเข้ม และส่งเสียงกรีดร้องแหลมเล็กขณะที่พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ดวงตาเซียนไป๋อู้เฉินแวบประกายขึ้น ขยับมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว พลังแก่นแท้ปะทุออกไป ทำให้สีสันในโลกแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกที่แผ่กระจายออกไป

กลุ่มหมอกอันไร้ขอบเขตไร้จุดสิ้นสุด ปกคลุมโลกแห่งนี้ไปโดยสิ้นเชิง พยายามที่จะเจาะเข้าไปในรูขุมขนภายในร่างเมิ่งฮ่าวทั้งหมด

ผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดเก้าแก่นแท้ทั้งสามต่างก็โจมตีไปโดยพร้อมเพรียงกัน ภาพอันยิ่งใหญ่นี้ทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง ถึงเมิ่งฮ่าวจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่อาจจะเทียบกับผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดเก้าแก่นแท้ทั้งสามได้ ทำให้โลหิตต้องไหลซึมออกมาจากมุมปาก ขณะที่ถอยโซเซไปทางด้านหลัง แววตาเซียนไป๋อู้เฉินสาดประกายรังสีสังหารขึ้นมา ขณะที่จู่ๆ ก็ขยับร่ายเวททำให้เศษชิ้นส่วนของกระจากปรากฏขึ้น

เศษชิ้นส่วนนั้นแวบประกายระยิบระยับ และทันใดนั้นก็มีลำแสงพุ่งออกมา ทะลวงผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมุ่งหน้าตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็เคลื่อนย้ายทางไกล ล่าถอยออกไปยังที่ห่างไกล จ้องมองกลับมาด้วยสายตาที่เย็นชา เวลาเดียวกันนั้นพื้นฐานฝึกตนของจินหยุนซานก็ปะทุเป็นพลังขึ้นมา ราวกับเป็นการย้ำเตือนเมิ่งฮ่าวถึงการคงอยู่ของมัน ตราบเท่าที่ทั้งสองฝ่ายมีพลังที่เท่าเทียมกัน ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับเขาที่จะมีตนเองเข้าร่วมด้วย

เมิ่งฮ่าวมองไปยังจินหยุนซานด้วยรอยยิ้มอันลี้ลับ จากนั้นก็หันหน้าไป จากการต่อสู้ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้มีท่าทางที่รีบร้อนแม้แต่น้อย ราวกับว่าไม่ค่อยได้ใส่ใจในการต่อสู้ครั้งนี้เท่าใดนัก

“นี่เป็นครั้งแรกที่เมิ่งโหม่วต่อสู้กับผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดเก้าแก่นแท้ทั้งสามพร้อมกัน ช่างเป็นโอกาสอันล้ำค่ายิ่ง แต่ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะจบเรื่องนี้แล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยนามตนเองออกมาโดยตรง

เมิ่งฮ่าวมองไปยังเจ้าสำนัก แววตาของมันไม่มีความต้องการสังหารแม้แต่น้อย สามารถบอกได้ว่ามันไม่ได้ทุ่มเทออกมาอย่างสุดกำลัง

แต่สำหรับซาจิ่วตง ก็ดูเหมือนว่ามันกำลังโจมตีมาด้วยความบ้าคลั่งเช่นเดียวกับเซียนไป๋อู้เฉิน แต่ภายในวิชาเวทของมันก็มีร่องรอยที่เป็นความคิดที่แท้จริงอยู่ด้วย

แม้แต่มันก็ไม่ต้องการจะทำจนเกินไปนักในตอนนี้

เซียนไป๋อู้เฉินหัวเราะเสียงเย็นชา “ช่างเย่อหยิ่งนัก! วันนี้ถ้าเจ้าไม่ส่งมอบชิ้นส่วนกระจกออกมา ก็คงจะต้องตายไปโดยไม่ต้องสงสัย!”

นางขยับมือขวาร่ายเวทอย่างรวดเร็ว และชิ้นส่วนกระจกก็สาดประกายขึ้นมาอีกครั้ง

“ชิ้นส่วนกระจกไม่ได้ใช้เช่นนั้น” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ นี่เป็นครั้งที่สองที่เขากล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมา ครั้งแรกเซียนไป๋อู้เฉินไม่ได้ให้ความสนใจ แต่เมื่อได้ยินเขากล่าวออกมาเป็นครั้งที่สอง ก็ทำให้จิตใจนางต้องเต้นรัวขึ้นมา

ไม่ใช่นางเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ทั้งเจ้าสำนักและซาจิ่วตง ต่างก็เริ่มสงสัยว่าทำไมเมิ่งฮ่าวถึงได้เยือกเย็นเมื่อต้องมาเผชิญหน้าต่อสู้กับคนทั้งสาม

แม้แต่จิตใจของจินหยุนซานก็เริ่มเต้นรัวขึ้นมา

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป และชิ้นส่วนกระจกของตนเองก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือ ลอยขึ้นไป เปล่งแสงระยิบระยับออกมา ราวกับว่าเป็นของวิเศษอันล้ำค่ามากที่สุดในโลกทั้งปวง “ข้าจะแสดงให้เจ้าดูถึงวิธีที่ถูกต้อง ในการใช้เศษชิ้นส่วนของกระจกทองแดง”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version