Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1176

ตอนที่ 1176

วงจรอันยิ่งใหญ่แห่งกายเนื้อ

ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงเจิดจ้า และเสื้อผ้ากำลังลุกไหม้ขึ้นมา เผยให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแกร่ง เขากำลังจมอยู่ในการชำระล้างของเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ และถูกห้อมล้อมด้วยทะเลแห่งเปลวไฟอันไร้ขอบเขต

ทะเลแห่งเปลวไฟส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงมา ไหลซึมเข้าไปในดวงตา, หู, จมูกและปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความดุร้ายขณะที่โคจรหมุนวนพื้นฐานฝึกตน เพื่อปิดกั้นทวารทั้งหมดภายในร่าง แม้แต่รูขุมขนที่อยู่บนผิวหนัง

“เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อาจจะแข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่ว่าจะทำลายไม่ได้ ข้าจะใช้เปลวไฟนี้มากลั่นสกัดร่างกาย ทำให้มันก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับ!” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือออกไปทั้งสองข้าง ทำให้ตะเกียงวิญญาณกายเนื้ออาณาจักรโบราณปรากฏขึ้นมาในทันที

เขามีทั้งหมดเก้าดวง แต่มีแค่สองดวงเท่านั้นที่จุดติดอยู่ในตอนนี้ อีกเจ็ดดวงยังคงมืดสนิทอยู่

กายเนื้ออาณาจักรโบราณของเมิ่งฮ่าวเป็นสิ่งที่ยากจะพบเห็น และอยู่ในอาณาจักรที่ต่อต้านโบราณอย่างแท้จริง ตะเกียงวิญญาณกายเนื้ออาณาจักรโบราณของเมิ่งฮ่าวเริ่มต้นจากดับอยู่ และจากนั้นค่อยลุกเป็นไฟขึ้นมา!

ขณะที่กายเนื้อของเขาเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้น และขณะที่เขาฝึกฝนพลังการฝึกตน ก็จะสามารถจุดตะเกียงวิญญาณกายเนื้ออาณาจักรโบราณขึ้นมาได้ทีละดวง!

“กลั่นสกัด!!” เมิ่งฮ่าวแผดร้องคำราม ทำให้เปลวไฟเริ่มหมุนวนอยู่รอบๆ ตัว พวกมันไม่อาจจะผ่านเข้าไปในร่างได้ แต่เริ่มเผาไหม้ร่างเขาจากด้านนอก

เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน รีบขยับสองมือร่ายเวทขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ใช้เวทกลั่นสกัดร่างกายออกมา แต่…ใช้วิชาการปรุงเม็ดยา!

เต๋าแห่งการปรุงยาของเมิ่งฮ่าว ทำให้เขาสามารถจะใช้ฟ้าดินเป็นเหมือนกับกระถางปรุงยา และร่างกายเป็นเหมือนกับเม็ดยา! ด้วยเช่นนั้นจึงสามารถใช้วิชาการปรุงยามากลั่นสกัดร่างกายของตนเองได้ แต่สิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ เขาไม่ได้ใช้ฟ้าดินเป็นเหมือนกับกระถางปรุงยา เขากลับใช้…ร่างกายของตนเองแทน! ร่างกายเมิ่งฮ่าวเป็นทั้งกระถางปรุงยาและเม็ดยา ขณะที่เขาพยายามใช้พลังของเปลวไฟที่อยู่รอบๆ ตัว ทำให้ร่างกายตนเองแข็งแกร่งมากขึ้น!

เสียงกระหึ่มอย่างน่าตกใจดังก้องออกมา ดวงตาเมิ่งฮ่าวปิดสนิท และร่างกายก็เป็นสีแดงเจิดจ้า ขณะที่ใช้สองมือขยับร่ายเวทเพื่อปิดผนึกไปอย่างต่อเนื่อง มือของเขาเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นภาพอันเลือนราง แทนที่จะร่ายเวทไปยังรอบๆ บริเวณนั้นแต่กลับร่ายเวทไปบนร่างของตนเองแทน

แม้แต่ผู้พิทักษ์ของสถานที่แห่งนี้ ที่ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ก็ยังต้องตกตะลึง แต่ก็เริ่มหัวเราะเป็นเสียงเย็นชาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีใครสามารถทำได้สำเร็จ ด้วยคำสาปแช่งของเต้าฟางต้าเหรินในสถานที่แห่งนี้ ไม่มีใครในอาณาจักรขุนเขาทะเล จะสามารถหลอมรวมเข้ากับประกายเปลวไฟของผู้ทรยศหั่วเหยียนจื่อได้!”

ทันใดนั้นดวงตาเมิ่งฮ่าวก็ลืมขึ้นมาในทันที สาดประกายเป็นสีแดงจ้า จ้องมองขึ้นไปในท้องฟ้าที่ว่างเปล่า กล่าวว่า “หลังจากที่ข้าดูดซับเข้าไปแล้ว ก็ลองพูดมาอีกครั้ง!”

ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะมองไม่เห็นว่าใครกำลังพูดอยู่ แต่ผู้พิทักษ์นั้นก็ตกตะลึง ก่อนที่พลังจะพุ่งขึ้นมาจากร่างเมิ่งฮ่าว

เขาแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา เมื่อกายเนื้อตกอยู่ภายใต้การกลั่นสกัดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทะเลเปลวไฟที่อยู่รอบๆ ตัวพุ่งขึ้นไป ขณะที่แก่นแท้พุ่งมาโจมตี…ตะเกียงวิญญาณดวงที่สามของเขาก็ลุกโชนขึ้นมาในทันที!

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนั้น เสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมาจากภายในร่างเมิ่งฮ่าว ร่างกายเขาเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม พลังกายเนื้อของเขาทะลวงผ่านจากระดับก่อนหน้านี้ ทำให้มีความแข็งแกร่งกว่ามากนักในตอนนี้!!

ขณะที่กายเนื้อของเมิ่งฮ่าวแข็งแกร่งมากขึ้น ก็ทำให้เขาสามารถจะต่อต้านกับทะเลแห่งเปลวไฟได้เพิ่มขึ้น! แต่ตราบเท่าที่เขามีประกายเปลวไฟอยู่ภายในร่าง เปลวไฟที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็จะเผาไหม้เขาไปตลอดกาล จนกว่าเขาจะกลายเป็นเถ้าธุลีไป หรือ…สามารถดูดซับทะเลแห่งเปลวไฟเหล่านี้เข้าไปได้โดยสมบูรณ์

“กลั่นสกัดร่างกายคือก้าวแรก มีแต่ทำให้ร่างกายอยู่ในระดับที่เหมาะสม ข้าถึงจะสามารถดูดซับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เข้าไปได้สำเร็จ ร่างกายข้าเหมือนกับเป็นกระถางปรุงยา ถ้ามีความร้อนมากเกินไปมันก็จะระเบิดออก!”

เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่น สีหน้าบิดเบี้ยวไปมา โคจรพลังการฝึกตนอย่างเต็มกำลัง ต่อสู้กลับไปยังทะเลแห่งเปลวไฟซึ่งพยายามจะเจาะเข้ามาในร่าง และสร้างเป็นพลังเซียนขึ้นมาอยู่ภายในเลือดเนื้อเพื่อกลั่นสกัดร่างกายอีกครั้ง!

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไป ขณะที่ทะเลแห่งเปลวไฟปกคลุมไปรอบๆ ตัว แทบจะราวกับว่าเปลวไฟนั้นต้องการจะหลอมละลายเมิ่งฮ่าวให้กลายเป็นเม็ดยาไป!

อ๋าวเฉี่ยนส่งเสียงแผดร้องด้วยความกระวนกระวายใจออกมา แต่ก็ไม่อาจจะเข้ามาใกล้ได้ เขาถ่ายทอดคำสั่งออกไปแล้วว่าห้ามไม่ให้มันเข้ามาใกล้

ร่างกายเมิ่งฮ่าวแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อดูเหมือนว่าไม่อาจจะอดทนต่อไปได้อีก ก็ลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง แหงนหน้าขึ้นและแผดร้องออกมา ขณะที่ตะเกียงวิญญาณดวงที่สี่เริ่มส่องสว่างขึ้นมา

แสงของตะเกียงวิญญาณทำให้เขาสามารถหายใจคล่องขึ้น ร่างกายในตอนนี้แทบจะแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ถึงสองเท่า ดวงตาสาดประกายขึ้นขณะที่ใช้สองมือขยับร่ายเวทด้วยความรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม สร้างเป็นเครื่องหมายผนึกเพิ่มมากขึ้น

“มาอีก!” เขาร้องตะโกนขึ้น โบกสะบัดสองมือออกไป ปล่อยให้ทะเลแห่งเปลวไฟลุกโชนท่วมร่างตนเองอีกครั้ง…

ในที่สุดตะเกียงวิญญาณดวงที่ห้าก็ลุกไหม้ขึ้นมา!!

พลังเมิ่งฮ่าวพุ่งทะยานขึ้นไปจนถึงระดับที่น่ากลัว ไม่ใช่เนื่องมาจากพื้นฐานฝึกตนของเขา แต่มาจาก…ปราณและโลหิตอันน่ากลัวของกายเนื้อ!

พลังที่ปรากฏขึ้นมานี้ทำให้สีหน้าของผู้พิทักษ์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ต้องสลดลง ทันใดนั้นมันก็ปรากฏกายขึ้นมา เป็นบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมใส่ชุดเกราะนักรบสีทอง ดูคล้ายกับเป็นนักรบเซียน และตอนนี้สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจโดยสิ้นเชิง

มันไม่เคยคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวจะสามารถอดทนได้นานเช่นนี้อย่างแท้จริง ในอดีตที่ผ่านมา ไม่มีใครสามารถอดทนได้นานเกินกว่าสิบลมหายใจก่อนที่จะถูกสังหารไป

“ประกายเปลวไฟคือความเป็นนิรันดร์” ผู้พิทักษ์กล่าวเสียงเย็นชา มองไปยังเมิ่งฮ่าวราวกับว่าเขาคือคนที่ตายไปแล้ว “เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่ไร้ขอบเขต ต่อให้เจ้าสามารถอดทนได้นานไปกว่านี้ ก็แค่หมายความว่าความเจ็บปวดที่เจ้าได้รับจะต้องเพิ่มมากขึ้น”

แทบจะในทันทีที่มันกล่าวจบ ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็ลืมขึ้นมาอีกครั้ง มองผ่านทะเลแห่งเปลวไฟไปยังผู้พิทักษ์และยิ้มน้อยๆ ออกมา เนื่องจากความเจ็บปวดที่เขากำลังอดทนอยู่ในตอนนี้ ทำให้รอยยิ้มนั้นดูเหมือนว่าจะดุร้ายมากเป็นพิเศษ

“ถ้าข้าคาดเดาไม่ผิด เจ้าไม่อาจจะทำอะไรข้าได้ ในขณะที่ข้ากำลังดูดซับประกายเปลวไฟ ถ้าเช่นนั้น…ทำไมเจ้าถึงไม่คอยดูว่าข้า…จะใช้เปลวไฟนี้ได้อย่างไร ดูว่าข้า…จะดูดซับทะเลเปลวไฟในสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร ข้าจะดูดมันทั้งหมดเข้าไป หลังจากนั้น…ก็ดูว่าข้าจะจัดการเจ้าไปอย่างไร!?”

น้ำเสียงที่แน่วแน่เด็ดขาดของเมิ่งฮ่าว ทำให้สีหน้าของผู้พิทักษ์ต้องเปลี่ยนไป สิ่งที่เมิ่งฮ่าวกล่าวมาคือเรื่องจริง มันไม่อาจจะเข้ามาขัดขวางขั้นตอนการดูดซับนี้ได้ เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่ในขั้นตอนที่พลุ่งพล่านปั่นป่วน โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งที่เมิ่งฮ่าวกำลังทำอยู่ ถ้ามันเข้ามาใกล้มากเกินไป เปลวไฟก็จะยิ่งบ้าคลั่งไปมากขึ้น

นอกจากนี้ประกายเปลวไฟนั้นยังประกอบไปด้วยเจตจำนงของหั่วเหยียนจื่อ โดยปกติแล้วมันจะอยู่ในขั้นที่ถูกสะกดข่มไว้ แต่เมื่อถึงตอนที่มันส่งมอบมรดกเซียน ก็จะปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

เป็นความจริงที่ผู้พิทักษ์…ไม่กล้าจะเข้ามาใกล้เกินไปนัก ได้แต่รอคอยจนกระทั่งเมิ่งฮ่าวตายไปในท่ามกลางการรับมอบมรดกนี้

สีหน้ามันเปลี่ยนไปขณะที่เสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว ซึ่งตอนนี้กำลังแห้งเหี่ยวลงไปมากขึ้น ปราณและโลหิตแทบจะถูกเผาไหม้ไปทั้งหมด แต่ในตอนนี้เองที่ตะเกียงวิญญาณดวงที่หกของเขาลุกไหม้ขึ้นมา!!

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้เมิ่งฮ่าวก็เริ่มหอบหายใจอย่างเร่งร้อนขึ้น การที่ตะเกียงวิญญาณดวงที่หกลุกไหม้ขึ้นมา ก็หมายความว่าเวลาที่เขาสามารถจะต่อต้านกับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ยืดขยายออกไป แต่เขาก็ยังคงบังคับให้มันกลั่นสกัดร่างกายที่ภายนอก ไม่กล้าที่จะดูดซับมันเข้ามาข้างใน ถ้าเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมาทั้งภายในและภายนอกโดยพร้อมเพรียงกันในขั้นตอนนี้ เขาก็จะตกตายไปโดยที่ไม่ต้องสงสัยใดๆ

“ข้าต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ กลั่นสกัด!!” เมิ่งอ่าวขยับมือร่ายเวทเร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อกลั่นสกัดกายเนื้อให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น เขายังได้กระตุ้นประกายเปลวไฟที่อยู่ภายในร่างขึ้นมาอีกด้วย ทำให้ทะเลแห่งเปลวไฟที่อยู่รอบๆ ตัวมีความเข้มข้นมากขึ้น เปลวไฟอันไร้ขอบเขตลุกโชนอยู่รอบๆ ตัว ทำให้ทั้งอ๋าวเฉี่ยนและผู้พิทักษ์ต้องถอยไปทางด้านหลัง

เมิ่งฮ่าวดูคล้ายกับเป็นถุงหนังห่อหุ้มกระดูกมากยิ่งขึ้น แต่ดวงตากลับสาดประกายเจิดจ้าขึ้น ขณะที่ตะเกียงวิญญาณดวงที่เจ็ดลุกไหม้ขึ้นมาอย่างฉับพลัน

ในทันทีที่ตะเกียงวิญญาณดวงที่เจ็ดลุกไหม้ขึ้นมา กายเนื้อเมิ่งฮ่าวก็มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เสียงเต้นหัวใจของเขาดังก้องออกมาราวกับเป็นเสียงฟ้าร้อง ตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว มากจนกระทั่งถ้าเขาไปต่อสู้กับผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาแรก, เต้าเทียนในตอนนี้ เพียงแค่หมัดเดียวก็ทำให้มันต้องกระอักโลหิตออกมา…

ตอนนี้กายเนื้อของเขามีความแข็งแกร่งจนถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ และกำลังแข็งแกร่งมากขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้วโลกแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์นี้ คือสถานที่สำหรับโชควาสนาอันน่าเหลือเชื่อสำหรับกายเนื้อของตนเอง!

แน่นอนว่า นั่นต้องเป็นตอนที่หลังจากเมิ่งฮ่าวสามารถจะดูดซับแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เข้าไปได้โดยสมบูรณ์ ถ้าไม่สามารถ…ไม่ว่าเขาจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน มันก็คงจะสูญเปล่าไปโดยสิ้นเชิง!

“ข้าสามารถจุดตะเกียงวิญญาณเพิ่มได้อีก!” เมิ่งฮ่าวกล่าว ร่างกายแทบจะแห้งเหี่ยวลงไปโดยสิ้นเชิง และกำลังหอบหายใจออกมา ถึงแม้ว่ากายเนื้อของเขาจะอยู่ในขั้นที่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่เปลวไฟแห่งพลังชีวิตของเขาอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก ทะเลแห่งเปลวไฟยังคงกลั่นสกัดกายเนื้ออยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ก็กำลังกลืนกินพลังชีวิตของเขาไปด้วยในเวลาเดียวกัน

การเพิ่มความแข็งแกร่งให้กายเนื้อไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลังชีวิตต้องหมดลงไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่พลังการฟื้นฟูจากอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ ก็ยังไม่อาจจะต่อสู้กับพลังทำลายล้างของแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ได้ ในขณะที่ม่านตาเมิ่งฮ่าวเริ่มพร่าเลือนไป เขาใช้ฝ่ามือฟาดลงไปที่หน้าอกเพื่อกระตุ้นหัวใจตนเอง ทำให้พลังพุ่งขึ้นมา ปราณและโลหิตไหลเวียนอยู่ภายในร่างรวดเร็วขึ้น ทำให้กายเนื้อระเบิดเป็นพลังออกไป

ตูมมมมมมม!

ในช่วงวิกฤตนี้เอง ตะเกียงวิญญาณกายเนื้อดวงที่แปดก็ลุกโชนขึ้น!!

ทันใดนั้นพลังกายเนื้อของเมิ่งฮ่าวก็บรรลุถึงระดับที่สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน เข้าไปอยู่ในจุดสูงสุดของอาณาจักรโบราณ ห่างจากวงจรอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโบราณเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น

“ไร้ประโยชน์ สิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่นี้ เหมือนกับการดื่มยาพิษเพื่อดับกระหาย ทะเลแห่งเปลวไฟเป็นสิ่งที่ไร้ขอบเขต นับจากนี้เป็นต้นไป ข้าสามารถจะมองดูขณะที่เจ้าถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่านไป” ผู้พิทักษ์กล่าวขึ้น จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกตกตะลึงอยู่ภายในใจ แต่ยังคงเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครสามารถเอาชนะคำสาปแช่งของเต้าฟางต้าเหรินได้

เมิ่งฮ่าวมองผ่านเปลวไฟไปยังบุรุษผู้นั้น

“ถ้าเช่นนั้นก็ดูให้ดี” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง ทันใดนั้นก็ทำให้พื้นฐานฝึกตนหยุดการต่อต้านทะเลแห่งเปลวไฟ เปิดรูขุมขนและทวารทั้งเก้า ปล่อยให้ทะเลแห่งเปลวไฟพุ่งผ่านเข้ามาภายในร่างด้วยความบ้าคลั่งในทันที!

ความเจ็บปวดกระจายเต็มไปทั่วร่าง เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง กัดฟันแน่น ความเจ็บปวดนี้เกินกว่าความรู้สึกใดๆ ที่เขาเคยรู้สึกมาในช่วงของการกลั่นสกัดร่างกาย แต่โชคดีที่ร่างกายเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าก่อนหน้านี้ มิเช่นนั้นการโจมตีมาอย่างรวดเร็วนี้ คงทำให้เขากลายเป็นเถ้าธุลีไปภายในแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น

ประกายเปลวไฟที่อยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว ดูเหมือนกำลังร้องเรียกเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่ ทำให้มันพลุ่งพล่านปั่นป่วน เมิ่งฮ่าวกลายเป็นจุดศูนย์กลางของพวกมันทั้งหมด ราวกับว่าจู่ๆ เปลวไฟก็พบกับสถานที่ที่พวกมันกำลังค้นหามาอย่างยาวนาน

ขณะที่พวกมันไหลเข้าไปในร่างเขาโดยพร้อมเพรียงกัน พื้นฐานฝึกตนก็ปะทุขึ้นด้วยพลังของเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า แสงสีฟ้าสาดประกายออกมา และผลเนี่ยผานลูกที่สามก็ถูกดูดซับเข้าไปมากขึ้นกว่าเดิม!

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนั้น เขาก็กลายเป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้ามากขึ้นกว่าเดิมจากหกส่วนกลายเป็นเจ็ดส่วน ทะเลแห่งเปลวไฟที่อยู่รอบๆ ร่าง ม้วนตัวไปมาขณะที่ไหลเข้าไปภายในร่าง

อย่างน่าตกใจยิ่ง ตอนนี้เขากำลังใช้ประกายเปลวไฟ ทำการกลั่นสกัดผลเนี่ยผานลูกที่สามอยู่!

ตอนแรกเขากลั่นสกัดร่างกาย และจากนั้นก็กลั่นสกัดผลเนี่ยผาน นี่คือแผนการที่เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดขึ้นมาได้ ยืมพลังของแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ทำให้การดูดซับผลเนี่ยผานมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ!

“แสงสีฟ้านั่น…มันคือ…” ดวงตาบุรุษวัยกลางคนเบิกกว้างขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะมองเห็นสิ่งเดียวกันนี้มาก่อน แต่ก็ไม่เคยจะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ตอนนี้แสงสีฟ้าส่องประกายเจิดจ้าอยู่ภายในทะเลแห่งเปลวไฟ จนมันต้องให้ความสนใจอย่างเต็มที่ พร้อมกับสีหน้าสลดลง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version