Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1198

ตอนที่ 1198

ข้ามาจ่ายหนี้

“พอได้แล้ว!” ดวงตาปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกตกใจต่อพลังการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าว แต่ยังคงไม่เชื่อว่าตัวมันเองไม่อาจจะต่อสู้กับเขาได้ แต่มันก็ไม่คิดจะสังหารเมิ่งฮ่าวไป แค่ต้องการจะสอนบทเรียนให้กับเขาเท่านั้น เมื่อมันพูดจบก็ก้าวเดินตรงไป

ขณะที่เท้ามันเหยียบย่างลงไป ก็ยืดแขนออกเป็นวงกว้าง ทำให้เกิดเป็นลมพายุพุ่งขึ้นมา ภูเขาไฟทั้งหมดในภูเขาไท่หยางสั่นสะเทือน และกลุ่มควันสีดำในท้องฟ้าก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน ขณะที่ลมพายุและกลุ่มควันเหล่านั้นรวมตัวกันพุ่งตรงมาที่มัน แม้แต่ลาวาที่ปกคลุมอยู่บนพื้นดินก็เริ่มพุ่งขึ้นไปในอากาศ และรวมตัวเข้าด้วยกัน

ในชั่วพริบตา เครื่องหมายผนึกขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นมา!

เครื่องหมายผนึกนั้นมีสีแดงจ้า และเต็มไปด้วยพลังแก่นแท้อาณาจักรเต๋า ซึ่งแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้สวรรค์ต้องแตกกระจายปฐพีต้องแหลกสลายลงไป มีความกว้างถึงหนึ่งร้อยจ้าง ลอยอยู่ที่นั่นตรงเบื้องหน้าของปรมาจารย์อาณาจักรเต๋า ซึ่งจากนั้นมันก็โบกสะบัดมือออกไป ส่งผลให้เครื่องหมายผนึกพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

“ข้าจะกักขังเจ้าไว้ในที่แห่งนี้ จากนั้นค่อยเรียกผู้ใหญ่จากตระกูลเจ้ามารับกลับไป!” มันกล่าวเสียงราบเรียบ เครื่องหมายผนึกขนาดใหญ่ส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งฝ่าอากาศมา ระเบิดเป็นพลังแห่งแก่นแท้ออกไป

“ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าหนึ่งแก่นแท้อันกระจ้อยร่อยเช่นเจ้า บังอาจจะมากักขังข้าไว้ในที่แห่งนี้!?” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบด้วยเสียงเยือกเย็น เขาคู่ควรที่จะกล่าวเช่นนี้อย่างแท้จริง ถ้าเขาปลดปล่อยอาวุธสงครามออกมา ก็สามารถจะกำจัดบุรุษผู้นี้ไปได้อย่างแน่นอน

 

 

แต่เขามายังที่แห่งนี้เพื่อทวงหนี้ ถึงแม้ว่าปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าผู้นี้จะมาขัดขวาง แต่หลังจากที่ครุ่นคิดแล้ว เมิ่งฮ่าวก็ตระหนักว่าเขาน่าจะทำให้ภูเขาไท่หยางรับรู้ถึงส่วนได้ส่วนเสียของเรื่องนี้

“ถึงข้าจะไม่มีเครื่องหมายผนึก แต่ข้าก็มี…ของสิ่งนี้!” เมิ่งฮ่าวมองไปยังเครื่องหมายผนึกที่ใกล้เข้ามา ยกมือขวาขึ้นทำท่าคว้าจับออกไป สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และอากาศตรงหน้าก็พังทลายลงไป ขณะที่ดินแดนขนาดใหญ่พุ่งออกไปจากฝ่ามือ

ชิ้นส่วนของพื้นดินนั้นเริ่มต้นจากส่วนที่เล็กเป็นอย่างมาก แต่ในเวลาต่อมา ก็เริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนถึงหนึ่งหมื่นจ้าง บดบังไปทั่วทั้งท้องฟ้าและทำให้ทุกสรรพสิ่งตกอยู่ภายใต้เงามืดของมัน

กลิ่นอายเก่าแก่โบราณอันไร้ขอบเขตกระจายออกมาจากดินแดนขนาดใหญ่นั้น ราวกับว่ามันได้คงอยู่มานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน เห็นได้ชัดว่าดินแดนขนาดใหญ่นี้คงอยู่มาหลายชั่วกัลป์ และดูเหมือนว่าจะประกอบไปด้วยเจตจำนงแห่งผู้ยิ่งใหญ่!!

มันไม่ได้เป็นเจตจำนงที่เฉพาะเจาะจงของผู้ยิ่งใหญ่คนเดียวเท่านั้น แต่มันคือ…เจตจำนงอันสูงสุดของดินแดนขนาดใหญ่นั้นเอง!

พื้นดินที่ยืดยาวออกไปหนึ่งหมื่นจ้างนี้ก็คือ…ชิ้นส่วนของเศษซากเซียน มีน้ำหนักมากเป็นอย่างยิ่ง และตอนนี้กำลังถูกเมิ่งฮ่าวกวัดแกว่งไปมาราวกับเป็นอาวุธเวท ทันใดนั้นเขาก็ส่งมันให้พุ่งออกไปปะทะกับเครื่องหมายผนึกที่ใกล้เข้ามานั้น

เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรในสวรรค์และปฐพีแห่งนี้, ไม่มีอะไรในอาณาจักรขุนเขาทะเล, ไม่มีของวิเศษอันล้ำค่าใดๆ จะสามารถคงอยู่อย่างเสถียรมั่นคงต่อหน้าดินแดนขนาดใหญ่นี้ และถึงแม้ว่าจะมี แต่เครื่องหมายผนึกนี้ก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้น!

สีหน้าปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าสลดลง ขณะที่มองเห็นชิ้นส่วนของเศษซากเซียนตกลงมา “นั่นคือ…ส่วนหนึ่งของเศษซากเซียน! เป็นไปไม่ได้!! เจ้า…เจ้ามีชิ้นส่วนของเศษซากเซียนอยู่จริงๆ!!”

เป็นภาพที่พิเศษเฉพาะจนทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง เมื่อดินแดนขนาดใหญ่นั้นกระแทกเข้าไปในเครื่องหมายผนึก เครื่องหมายนั้นสั่นสะท้าน ไม่อาจจะต่อต้านกับพลังการโจมตีนี้ได้ พังทลายลงไป และชิ้นส่วนของเศษซากเซียนก็พุ่งฝ่าอากาศไปอย่างต่อเนื่อง และจากนั้นก็กระแทกลงไปบนพื้น

ถ้ามันบดขยี้ลงไปบนพื้น พื้นดินส่วนใหญ่ของที่แห่งนี้ต้องพังทลายลงไปอย่างแน่นอน คงเกิดเป็นแผ่นดินไหวขึ้นมา จนทำให้ภูเขาไฟทั้งหมดต้องปะทุขึ้น

เรื่องทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ทำให้ปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าต้องหอบหายใจออกมา มันจะคาดคิดได้อย่างไรว่าเมิ่งฮ่าวจะมีชิ้นส่วนของเศษซากเซียนอยู่? เรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้มันต้องประหลาดใจเพิ่มขึ้นเท่านั้น ยังทำให้จิตใจของมันต้องเริ่มเต้นรัวด้วยความตกใจขึ้นอีกด้วย

ในตอนนี้เองที่เสียงเก่าแก่โบราณก็ดังก้องออกมาจากภูเขาไฟที่อยู่ห่างไกลออกไป เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามีชิ้นส่วนของเศษซากเซียนอยู่จริงๆ!”

ในชั่วพริบตาชายชราผู้หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นอยู่ที่ด้านล่างของเศษซากเซียน หลังจากที่ยกมือขึ้นผลักไปยังดินแดนขนาดใหญ่ที่กำลังตกลงมา มันก็พุ่งลงไปด้านล่างหลายร้อยจ้างก่อนที่จะหยุดลง

มันสามารถจะต่อต้านกับเศษซากเซียนด้วยพลังของตนเองเพียงลำพัง!!

กลิ่นอายที่ระเบิดออกมาของชายชราผู้นี้ ประกอบด้วยพลังแก่นแท้ที่หมุนวนไปมา ไม่ใช่แก่นแท้เพียงแค่หนึ่งเดียว แต่มีถึงสาม!

อย่างน่าตกใจยิ่ง ชายชราผู้นี้คือ…ราชันเต๋าสามแก่นแท้!

 

หลังจากที่รวบรวมพลังของสามแก่นแท้ที่แตกต่างกันได้สำเร็จ คนผู้นั้นก็จะถูกถือว่าเป็นราชันเต๋า!

พลังของชายชราพุ่งทะยานขึ้นไป และเสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมาจากมือของมัน ขณะที่ลอยตัวขึ้นไป ผลักดันให้เศษซากเซียนลอยกลับขึ้นไปในอากาศ

“สหายน้อยเมิ่งฮ่าว โปรดเก็บของสิ่งนี้ไว้” ชายชรากล่าว ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความโศกเศร้า

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ถ้าในภูเขาไท่หยางไม่มีใครสามารถจะผลักดันเศษซากเซียนของเขาได้ พวกมันก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นหนึ่งในห้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นแต่เมิ่งฮ่าวก็เชื่อว่า ถ้าชิ้นส่วนเศษซากเซียนของเขามีขนาดใหญ่กว่านี้ แม้แต่ราชันเต๋าก็คงไม่อาจจะรับน้ำหนักมันได้!

เขาโบกสะบัดมือออกไป และดินแดนขนาดใหญ่ก็ลอยกลับเข้าไปในถุงสมบัติ เมิ่งฮ่าวมองไปยังชายชราและกล่าวว่า “ข้ามาที่นี่เพื่อทวงหนี้ ไม่ได้มาเพื่อประลองเวท”

ปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าวัยกลางคนดูเหมือนว่ากำลังจะกล่าวอะไรออกมา แต่ชายชราก็มองไปยังมันอย่างเงียบๆ บุรุษวัยกลางคนพยักหน้า และทันใดนั้นชายชราก็กล่าวว่า “ไท่หยางจื่อ!”

เสียงของมันดังก้องออกไปคล้ายกับเสียงฟ้าร้องคำราม ทำให้ไท่หยางจื่อรีบก้าวเดินตรงมาในทันทีและโค้งตัวลงอย่างรวดเร็ว

“ขอน้อมพบท่านปรมาจารย์!” มันกล่าวในขณะที่ก้มศีรษะอยู่ ภายในใจกำลังสั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง ถึงแม้มันจะรู้ว่าเมิ่งฮ่าวแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะแข็งแกร่งจนสามารถจะต่อสู้กับปรมาจารย์ภูเขาไท่หยางได้

อันที่จริงน่าจะเหมาะสมกว่าถ้าจะกล่าวว่าเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ สามารถจะทำให้ขุนเขาทะเลที่เก้าต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว ด้วยพื้นฐานฝึกตนเช่นนี้เมื่อเขามาทวงหนี้…ไท่หยางจื่อจึงไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากยิ้มอย่างขมขื่นออกมา จนไม่รู้ว่ามันรู้สึกเป็นเกียรติหรือว่าถอนหายใจอยู่กันแน่

“เจ้าเป็นหนี้สหายน้อยเมิ่งฮ่าวอยู่มากมายเท่าใด?” ชายชราร้องคำรามออกมา

“ข้า…” ไท่หยางจื่ออ้าปากขึ้น แต่ก็ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้ จิตใจเต็มไปด้วยความหดหู่อย่างลึกล้ำ และจริงๆ แล้วมันก็จำไม่ได้ว่าเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่ นอกจากนั้นมันก็ไม่เคยจะยอมรับว่าตนเองเป็นหนี้เมิ่งฮ่าวมาก่อน

เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ก็ไอแห้งๆ ออกมา ตบไปที่ถุงสมบัติ ทันใดนั้นตั๋วสัญญาปึกใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมา เขาเริ่มพลิกดูไปมา

“ไม่มาก ไม่มาก แค่หยกเซียนหนึ่งล้านชิ้นเท่านั้น” เมิ่งฮ่าวกล่าวเตือนไท่หยางจื่อขึ้นด้วยท่าทางใจดี

“มันไม่ได้มากมายเช่นนั้น!!” ไท่หยางจื่อโพล่งขึ้น สั่นสะท้านไปทั้งร่างขณะที่หันไปมองยังเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่าพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวจะสูงกว่ามันมากมายนัก แต่จำนวนหนี้ก้อนนี้ก็มากเกินไปจนมันไม่อาจจะทนทานรับได้

“ยังมีดอกเบี้ยด้วย แต่ช่างมันเถอะ แค่มอบหยกเซียนให้ข้าหนึ่งล้านชิ้นก็พอ” เมิ่งฮ่าวไอแห้งๆ ออกมา มองไปยังไท่หยางจื่อด้วยความระมัดระวังตัว

ไท่หยางจื่ออยากจะร้องไห้แต่ก็ไร้น้ำตา “เจ้า…”

มันกำลังจะกล่าวต่อไป แต่ชายชราก็โบกสะบัดมือ ทำให้ถุงสมบัติลอยตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวรับมันไว้ ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบดู ที่ด้านในมีหยกเซียนอยู่หนึ่งล้านชิ้น ถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย

เมิ่งฮ่าวมีท่าทางดีใจขึ้นมาในทันที เก็บถุงสมบัติไว้อย่างรวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ประสานมือให้กับชายชราด้วยความเคารพ

“ขอบคุณมากผู้อาวุโสที่มาช่วยผดุงความเป็นธรรม ถ้า…ไม่มีเรื่องอื่นอีก ข้าก็จะไปแล้ว ยังมีอีกหลายที่ที่ข้าต้องไปทวงหนี้ คิดว่าพวกมันคงเตรียมพร้อมไว้แล้ว การทวงหนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากจริงๆ” ด้วยเช่นนั้นเขาก็หันหลังกลายเป็นลำแสงพุ่งกลับไปยังประตูเคลื่อนย้ายทางไกล จากนั้นก็หายตัวไปในทันที

คนทั้งหมดในภูเขาไท่หยางต่างก็ตกอยู่ในความเงียบ มองเห็นสีหน้าแปลกๆ อยู่มากมาย เมื่อเมิ่งฮ่าวหายตัวไป จิตใจพวกมันหลายคนก็ยังคงเต็มไปด้วยโทสะด้วยความอัปยศที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้

ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าวัยกลางคนเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น มันจ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาที่เย็นชาอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเขาหายลับตาไป ในที่สุดมันก็หันหน้าไปมองชายชรา

“ศิษย์พี่ ทำไมถึงปล่อยให้เจ้าสารเลวน้อยนั่นมาเอาเปรียบ? เมื่อไหร่ที่เรื่องนี้กระจายออกไป ภูเขาไท่หยางจะรักษาหน้าไว้ได้อย่างไร?”

ชายชราขมวดคิ้ว มองกลับไปยังบุรุษวัยกลางคน ถอนหายใจและกล่าวว่า “อย่าไปหาเรื่องมัน มันคือ…บุคคลที่พวกเราไม่อาจจะไปตอแยด้วยได้”

บุรุษวัยกลางคนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่จู่ๆ ชายชราก็ส่งข้อความเข้าไปในจิตใจมัน

ในทันทีที่บุรุษวัยกลางคนได้ยิน สีหน้าก็สลดลง และเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ รวมทั้งความตกใจ กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “อะไรนะ?!?! นี่เป็นเรื่องจริง?”

“พื้นฐานฝึกตนของเจ้ายังไม่เพียงพอ แต่สำหรับข้า ข้าสามารถจะค้นพบร่องรอยบางอย่างได้ ไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว ดังนั้น…เจ้าต้องการจะไปตอแยบุคคลเช่นนั้นจริงๆ?” ชายชรากล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา

บุรุษวัยกลางคนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็หมุนตัวและกล่าวขึ้นเป็นเสียงดัง

“ศิษย์ภูเขาไท่หยาง นับจากวันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าใครที่ต้องติดต่อกับเมิ่งฮ่าว อย่าได้ไปก่อหนี้กับมันอีก และอย่าได้เป็นศัตรูกับมัน พวกเรา…ต้องรักษาระยะห่างจากเมิ่งฮ่าวด้วยความเคารพ!”

ไท่หยางจื่อจ้องมองไปด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่ามันจะไม่รู้ว่าระหว่างสองปรมาจารย์มีการส่งต่อข้อความลับให้แก่กัน แต่จากที่เห็นเมิ่งฮ่าวก็มีความลับอันน่าเหลือเชื่อบางอย่าง ซึ่งแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้สองปรมาจารย์ภูเขาไท่หยางต้องเกรงกลัวเขา

จิตใจไท่หยางจื่อเต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน อดที่จะคิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ถึงช่วงเวลาทั้งหมดที่มันเคยติดต่อกับเมิ่งฮ่าว จากตอนที่มันพบกับเขาบนดาวหนานเทียนจนกระทั่งถึงวันนี้ เมิ่งฮ่าวมักจะเป็นผู้ที่นำหน้าอยู่เสมอ และกลายเป็นภูเขาอันสูงใหญ่ที่มันไม่อาจจะก้าวผ่านไปได้

เขาก้าวล้ำนำหน้าไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ จนไท่หยางจื่อไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากต้องจ้องมองขึ้นไปจากด้านล่างเท่านั้น

หลายวันต่อมา สำนักและตระกูลทั้งหมดในขุนเขาทะเลที่เก้า ต่างก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายขนานใหญ่ พวกมันทั้งหมดได้ยินหรือพบเจอกับสิ่งที่เหมือนกัน…เมิ่งฮ่าวมาทวงหนี้

ผู้ถูกเลือกใดๆ ก็ตามที่มีตั๋วสัญญาอยู่ในมือเมิ่งฮ่าว ก็จะพบว่าเขามาถึงหน้าประตูบ้าน สอบถามเรื่องการชดใช้หนี้

สำนักและตระกูลทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้านขึ้นโดยเมิ่งฮ่าว และพลังที่เขาแสดงออกมา ผลลัพธ์ก็คือทำให้เขาทวงหนี้ได้อย่างราบรื่นไร้อุปสรรคใดๆ

นอกจากนี้เขายังไม่ใช่เด็กหนุ่มเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ตอนนี้เขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งจนสามารถจะทำให้ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าต้องสั่นสะเทือน ดังนั้นคนทั้งหมดจึงยินยอมพร้อมใจที่จะจ่ายหนี้อันเล็กน้อยนี้อย่างง่ายดาย

แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่เคยคาดคิดว่า การทวงหนี้ของตนเองจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในหมู่ผู้ฝึกตนทั้งหลายในขุนเขาทะเลที่เก้าได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาก้าวออกมาจากประตูเคลื่อนย้ายทางไกล คนทั้งหมดที่มองเห็นเขาก็จะตื่นเต้นขึ้นมาในทันที คำพูดถูกแพร่กระจายออกไป…และผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนก็มารวมตัวกัน เพื่อดูเขาทวงหนี้ด้วยสายตาของตนเอง

เนื่องจากเช่นนี้เมื่อเมิ่งฮ่าวก้าวเดินออกมาจากประตูเคลื่อนย้ายทางไกลตรงจุดหนึ่ง และถูกจดจำได้ในทันที ผู้คนก็เริ่มหยิบแผ่นหยกออกมา และส่งข้อความไปแจ้งเตือนสำนักของพวกมันถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้

“แปลกจริงๆ ไม่มีสำนักหรือตระกูลใดๆ อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับประตูเคลื่อนย้ายทางไกลนี้เลย สนามดวงดาวนี้เป็นแค่สถานีทางผ่านเท่านั้น!”

“ดูนั่น จุดหมายของมันจริงๆ แล้วก็อยู่ใกล้กับขุนเขาที่เก้า…”

กลุ่มคนมองดูด้วยความสับสนขณะที่เมิ่งฮ่าวหายตัวไป เมื่อเขาปรากฏกายขึ้นมาอีกครั้ง อย่างน่าตกใจยิ่งเขากำลังเดินออกมาจากประตูเคลื่อนย้ายทางไกลอีกแห่งหนึ่งในสนามดวงดาวอีกที่ มองออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวตรงด้านบนยัง…เศษศิลาที่ยืดยาวออกไป!

ชิ้นส่วนของเศษศิลาเหล่านั้นครั้งหนึ่งเคยสมบูรณ์มาก่อน และเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกมันได้ก่อตัวเป็น…สะพานแห่งหนึ่ง!

สะพานนั้นจริงๆ แล้วก็ถูกสร้างขึ้นมาอยู่ในสำนักเซียนอสูรโบราณ มันคือ…สะพานเซียนเดินหนอันแข็งแกร่ง!!

ในสถานที่แห่งนั้น เมิ่งฮ่าวได้ให้คำมั่นสัญญากับคนผู้หนึ่งไว้!

“พี่ใหญ่หานซาน…ข้ามาตอบแทนความเมตตาของท่านแล้ว!” เขากล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา ขยับร่างพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอย่างรวดเร็ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version