ตอนที่ 1311
บดขยี้
เมิ่งฮ่าวโผล่ออกมาจากรอยแตกก่อนไป๋จู่ประมาณสิบอึดใจ ทำให้ชายชราผมแดง, ผู้ติดตามของมัน และผู้ฝึกตนอื่นๆ แห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด ซึ่งอยู่ห่างออกไปไกล ต่างก็ถูกม้วนกวาดออกไปโดยสายลมอันรุนแรงในทันทีที่เขาปรากฏกายขึ้น ส่งร่างพวกมันให้ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง โดยที่ไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงเมิ่งฮ่าวแม้แต่น้อย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“นี่…นี่…” ชายชราผมแดงและผู้ติดตามของมัน ต่างก็มีสีหน้าตื่นตระหนก ขณะที่ถูกพัดไปทางด้านหลัง เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากภายในรอยแตก และทันใดนั้น…ก็ดูเหมือนว่ารอยแตกแทบจะพังทลายลงไปโดยสิ้นเชิง
เกิดเป็นรอยแตกร้าวพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง เริ่มแยกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้คนทั้งหมดในบริเวณนั้นต่างก็ประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา ก็ทำให้จิตใจของผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดทั้งหมดต้องเต้นรัวขึ้น แต่ละคนมองไปขณะที่ราชันแห่งขุนเขาทะเลของพวกมัน, ไป๋จู่…ลอยออกมาจากรอยแตกที่กำลังพังทลายลงไปนั้น
ก่อนที่คนทั้งหมดจะรู้สึกตื่นเต้น ก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นั่นเป็นเพราะว่าพวกมันต่างก็มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไป๋จู่…ไม่ได้บินออกมาจากรอยแตกด้วยตนเอง แต่กำลังดิ้นรนและร้องตะโกนออกมา และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตกใจ
จากที่เห็น…มันกำลังถูกลากออกมาโดยหัตถ์ยักษ์ที่มองไม่เห็น!
“นี่…” ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดต่างก็มองไปด้วยความตกตะลึงโดยสิ้นเชิง
ไป๋จู่กำลังแผดร้องออกมาด้วยโทสะ แต่ลึกลงไปในจิตใจกลับตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่มันดิ้นรนอยู่นั้น ก็แผดร้องเป็นเสียงดังก้องออกมาจนได้ยินไปทั่ว
“คือผู้ยิ่งใหญ่ท่านใด? ไห่เมิ่งจื้อจุน ต้องเป็นท่าน!!”
ขณะที่ไป๋จู่ร้องตะโกนขึ้น ทันใดนั้นเสียงอันเยือกเย็นก็ดังก้องออกไป
“ไม่ใช่ไห่เมิ่งจื้อจุน ข้าเอง!”
ระลอกคลื่นกระจายออกมาจากรอยแตกที่กำลังพังทลายลงไป และเมิ่งฮ่าวก็ปรากฏตัวขึ้นให้ทุกคนได้เห็น
“เมิ่งฮ่าว!!”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นมัน! นี่…มัน…”
“ไม่เห็นแค่หนึ่งเดือน คาดไม่ถึงว่ามันจะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม!!” ชายชราผมแดงและผู้ติดตามอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง และม่านตาของไป๋จู่ก็หดเล็กลง มันแทบไม่อยากจะเชื่อต่อสิ่งที่กำลังมองเห็นอยู่นี้
“เป็นไปไม่ได้!” ไป๋จู่สั่นสะท้านไปทั้งร่าง หัตถ์ยักษ์ที่เพิ่งจะคว้าจับตัวมันไว้หายไป และตอนนี้ก็สามารถจะเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องขบคิดใดๆ มันรีบถอยไปทางด้านหลัง มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความไม่อยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิง
“ไป๋จู่ พวกเราพบกันอีกแล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวพร้อมกับยิ้มน้อยๆ มองไปยังไป๋จู่ด้วยความเยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา “เจ้ามาช้าไป ข้าไม่อาจจะทนรอได้ จึงช่วยให้เร็วขึ้นบ้าง”
ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ทำให้ไป๋จู่ต้องรู้สึกว่าหนังศีรษะแทบจะระเบิดออกไป ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงพุ่งขึ้นมาในจิตใจ เป็นความรู้สึกอันเข้มข้นอย่างที่มันไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต และทั้งหมดนี้ก็เนื่องมาจากเมิ่งฮ่าวเท่านั้น!
ไป๋จู่ยังคงไม่อยากจะเชื่อว่าเมิ่งฮ่าวที่เคยเผชิญหน้ากันเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ผู้ที่เคยทำให้ตนเองรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ไม่รู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงนั้นจะเป็นคนๆ เดียวกันกับตอนนี้ ราวกับว่าเขาได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ไป๋จู่รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังฝันไป ราวกับว่าเหตุการณ์ที่เบื้องหน้านี้เกิดขึ้นมาจากอุปทานของตนเอง
“เป็นไปไม่ได้…” ดูเหมือนมันจะพูดได้แต่คำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ ครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันรู้สึกตื่นตระหนกมากแค่ไหน เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงนี้แทบไม่อาจจะเกิดขึ้นแม้แต่ในความฝัน เมิ่งฮ่าวไปมีประสบการณ์ที่ทำให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างน่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?
มันไม่เคยลืมความรู้สึกสิ้นหวังและตกใจ เมื่อถูกหัตถ์ยักษ์คว้าจับไว้แม้แต่น้อย นั่นเป็นสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งสูงเกินกว่าตนเองมากนัก ก่อนหน้านี้มันคิดว่าแผนการเดิมของตนเองคงจะต้องล้มเหลวไป เมื่อไห่เมิ่งจื้อจุนปรากฏตัวขึ้น แต่ตอนนี้เมื่อตระหนักว่าความรู้สึกถึงวิกฤตนี้เกิดขึ้นมาจากเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้มันปรารถนาว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น มันคงจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าผู้มาเป็นไห่เมิ่งจื้อจุนจริงๆ
ความเชื่อมั่นของมันในตอนนี้พังทลายลงไปโดยสิ้นเชิง การเตรียมตัวมาทั้งหมดของมันต่างก็ไร้ประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
ที่เลวร้ายมากไปกว่านั้นก็คือว่า รอยแตกที่ด้านหลังมันกำลังแตกกระจายออกไป ทำให้ต้องหอบหายใจออกมา เห็นได้ชัดว่าแผนการของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ จากการที่เขาตัดเส้นทางการหลบหนีของมันไป ก็เพื่อที่จะ…กำจัดไป๋จู่ไปโดยสิ้นเชิง!
นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเมิ่งฮ่าวถึงต้องเข้าไปในรอยแตกตั้งแต่ตอนแรก!
ด้วยการทำลายรอยแตกไป ทำให้ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดไม่อาจจะหลบหนีจากไปได้ กักตัวมันไว้ในขุนเขาทะเลที่แปด ถ้ามันต้องการจะหลบหนีจากไป ก็ไม่มีที่แห่งใดให้มันหลบซ่อนตัวได้ ขุนเขาทะเลที่แปดจะเป็นเหมือนกับสุสานให้มันพักผ่อนอย่างสงบในช่วงสุดท้ายของชีวิต!
ไป๋จู่เริ่มสั่นสะท้าน และความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงภายในใจก็เริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น จนกระทั่งรู้สึกเหมือนเป็นคลื่นแห่งโทสะกำลังบดขยี้ลงมาในจิตใจ โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ไป๋จู่กลายเป็นลำแสงสีขาวแวบตรงไปยังรอยแตกที่กำลังพังทลายลงไป
ถึงแม้ว่าการเข้าไปในรอยแตกนั้นจะทำให้มันมีโอกาสรอดชีวิตได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น แต่มันก็คิดว่ายังคงดีกว่าถูกสังหารไปในที่แห่งนี้!
มันสามารถทำนายได้เลยว่า ถ้าไม่ยอมฉวยโอกาสครึ่งเดียวนั้น สิ่งที่รอคอยตนเองอยู่มีอย่างเดียวเท่านั้นก็คือโอกาสที่เป็นศูนย์!
ตูม!
ในตอนที่ไป๋จู่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง เมิ่งฮ่าวก็แค่นเสียงเย็นชาและโบกสะบัดมือออกไป สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นไหวไปมา ขณะที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาพุ่งกระจายออกบดขยี้ลงไปบนร่างไป๋จู่
ไป๋จู่ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจ และโลหิตก็พุ่งกระจายออกไปทั่วทุกที่ จากนั้นรอยแตกที่ด้านหลังก็พังทลายลงไปโดยสิ้นเชิง แม้แต่โอกาสที่จะรอดชีวิตไปครึ่งหนึ่งของมันก็ถูกตัดขาดไปจนหมดสิ้น!
“เมิ่งฮ่าว เจ้ามันมากเกินไปแล้ว!!” ดวงตาไป๋จู่กลายเป็นสีแดงก่ำโดยสิ้นเชิง ขณะที่หมุนคว้างออกไป แหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา ขยับสองมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทำให้คัมภีร์โบราณเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอยู่ที่ด้านหลัง
“ขุนเขาประกอบด้วยสามเต๋า ขุนเขามนุษย์, ขุนเขาปฐพี, ขุนเขาสวรรค์!!” ไป๋จู่ทุ่มออกมาจนสุดตัว ขณะที่ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกไป เผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของมันในตอนนี้
ตูมมมมมมม…
สามขุนเขาที่สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือนปรากฏขึ้น
บดขยี้ลงมายังเมิ่งฮ่าว ก่อนที่เขาจะดับตะเกียงวิญญาณทั้งห้าดวงลงไป เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับวิชาเวทเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยุ่งยากเป็นอย่างมาก จนต้องพึ่งพาเต๋าเดิมแท้เวทอสูรไฟมอดไหม้เพื่อสร้างเป็นร่างจำแลงให้ตายแทน
แต่ตอนนี้ดวงตาเมิ่งฮ่าวกำลังสาดประกายขึ้นด้วยแสงเจิดจ้า และสีหน้าก็สงบนิ่งโดยสิ้นเชิง ชี้นิ้วออกไปจนทำให้ขุนเขามนุษย์แตกกระจาย และจากนั้นก็พังทลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป โดยไม่หยุดชะงักนิ่ง เมิ่งฮ่าวชี้นิ้วออกไปอีกครั้ง
ราวกับว่าเขาสามารถจะทำอะไรก็ได้ ราวกับว่า…ในห้วงสวรรค์และปฐพีแห่งนี้ เขาคือผู้ที่มีอำนาจสูงสุดเพียงผู้เดียว!
ตูมมมมมมม…
ขุนเขาปฐพีแตกกระจายไป และขุนเขาสวรรค์ก็พังทลายลงมา ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือนขณะที่เศษหินดินทรายพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากไป๋จู่ สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและบ้าคลั่ง
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ข้า” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ พุ่งตรงไปยังไป๋จู่ ขณะที่ทำเช่นนั้น แรงกดดันแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็เริ่มกดทับลงมา ราวกับว่าพลังแห่งขุนเขาทะเลเองคือกลิ่นอายของเมิ่งฮ่าว ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน และไป๋จู่ก็ลอยไปทางด้านหลัง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก