ตอนที่ 1320
กลับไปยังสามสิบสามนรก
สามสิบสามนรก!
สถานที่ที่เมิ่งฮ่าวต้องการจะไปก็คือ…สามสิบสามนรก!
หลังจากที่สวรรค์ชั้นแรกตกลงมา และอาณาจักรขุนเขาทะเลตกอยู่ในสภาวะสงคราม เขาก็ตระหนักว่าโลหิตผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในผลไม้เต๋ากำลังเดือดพล่าน ทำให้รู้สึกได้ว่าพื้นฐานฝึกตน, ความรู้แจ้ง และทุกสิ่งทุกอย่างของตนเอง…กำลังจะพุ่งทะยานขึ้นไปแล้ว!
อันที่จริงความรู้สึกนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เมิ่งฮ่าวเองเท่านั้น ผู้ฝึกตนทั้งหมดแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลต่างก็รับรู้ได้ในสิ่งเดียวกันนี้ ราวกับว่า…การเกิดสงครามขึ้นในอาณาจักรขุนเขาทะเล…จะเป็นการปลดปล่อยพลังสำรองที่ถูกสร้างขึ้นมานานหลายปี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับคนทั้งหมด
แต่ก็ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องจมดิ่งลงไปด้วยเช่นกัน เขารู้ดีว่าการที่อาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังทำเรื่องเช่นนี้ก็จะหมายความว่า…สงครามครั้งนี้ต้องยุ่งยากอย่างถึงที่สุด
“มีชีวิตอยู่เพื่อขุนเขาทะเล ตายไปเพื่อขุนเขาทะเล!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร และไม่รู้ด้วยเช่นกันว่าชีวิตของตนเองจะเป็นอย่างไรนับจากนี้เป็นต้นไป
ที่ไม่รู้มากไปกว่านั้นก็คือว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวและสหายของตนเอง ตลอดช่วงเวลาในการทำสงครามนี้ คนทั้งหมดจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่…?
เดิมทีเมิ่งฮ่าวไม่ใช่บุคคลที่ชอบการต่อสู้และเข่นฆ่า เขาแค่อยากได้เงินทองเป็นจำนวนมาก เพื่อให้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขกับครอบครัวและคนรักของตนเองเท่านั้น
มันเป็นความฝันที่เรียบง่าย แต่การทำให้กลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายดายเท่าใดนัก
เมิ่งฮ่าวเข้าใจตัวเอง และรู้ถึงความจริงที่ว่า…ไม่ใช่เป็นคนที่ทะเยอทะยานอย่างบ้าคลั่ง ความฝันของตนเองไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อม และไม่มีความต้องการที่จะทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือน
ทั้งเต๋าและจิตใจของเมิ่งฮ่าว ต่างก็มุ่งเน้นไปที่อิสรภาพและเสรีภาพ หลีกเลี่ยงจากการถูกจองจำหรือผูกมัดไว้
เขาไม่มีความกระหายอย่างไร้เงื่อนไขที่จะได้ครอบครองพื้นฐานฝึกตนที่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ ความจริงแล้วสิ่งที่เขามีซึ่งสามารถจะถือได้ว่าเป็นความมุ่งมั่นที่แท้จริง ก็อาจจะเป็นแค่ความต้องการเป็นผู้ร่ำรวยเท่านั้น
ในชีวิตนี้เมิ่งฮ่าวก็แค่ไหลไปตามกระแส และค้นหาความสุขของตนเองเท่านั้น เขารักการเอาเปรียบผู้คน และรักการสะสมตั๋วสัญญา…สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว นั่นคือความสุข แต่เมื่อสวรรค์ชั้นแรกตกลงมา ความใฝ่ฝันอันสวยงามเหล่านั้นก็สูญสลายหายไปทั้งหมด อันเนื่องมาจากกลุ่มคนนอกคอก เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลต่อสู้และตกตายไป จิตใจก็เริ่มมืดสลัวลงไปและนิ่งเงียบ
ความเจ็บปวดใจทั้งหมดที่เมิ่งฮ่าวกำลังพบเจออยู่นี้ ทำให้ความฝันของตนเองคล้ายกับเป็นแค่จินตนาการของเด็กน้อย ราวกับว่าเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา หรือบางที…ก็เติบใหญ่ขึ้นแล้ว
“ถ้าขุนเขาทะเลไม่คงอยู่แล้ว ข้าจะอยู่ไปคนเดียวเพื่ออะไร…?” ความมุ่งมั่นแวบขึ้นมาในแววตาเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นความมุ่งหวังที่จะมีพื้นฐานฝึกตนที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
ไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการที่จะกลายเป็นผู้ร่ำรวย และไม่ใช่เพราะว่าความฝันที่เรียบง่ายนั้น แต่เป็นเพราะว่า…บ้านของตนเอง!
อาณาจักรขุนเขาทะเลคือบ้านของเมิ่งฮ่าว…
บ้านของเขาถูกรุกราน และคนของตนเองก็กำลังต่อสู้และชุ่มโชกไปด้วยโลหิต เขาคือราชันในอนาคตแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล เป็นผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เก้า และเป็นผู้สืบทอดของจิ่วเฟิงจื้อจุน เขา…ต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้!
“แม้แต่การสังหารจักรพรรดิเต๋านอกคอก ข้าก็ยังไม่อาจจะทำได้…” เมิ่งฮ่าวคิดพร้อมกับดวงตาที่สาดประกายเย็นชาขึ้น โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาพุ่งตรงไปยังพันธมิตรเทพสวรรค์อย่างรวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวถูกสะกดข่มไว้ ทำให้ยากที่จะส่งออกไปข้างหน้าเพื่อค้นหาเป้าหมาย แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะมาขัดขวางไม่ให้เขาพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นสายฟ้า
ตูมมมมมมม…
เมิ่งฮ่าวกลายเป็นประกายแสงพุ่งตรงไป โดยมีทะเลแห่งเปลวไฟไล่ติดตามมาอย่างใกล้ชิด คนนอกคอกที่สูงหนึ่งพันจ้างก้าวเดินไล่ตามเขามาอย่างไม่ลดละ ด้วยศักดิ์ฐานะและพลังการต่อสู้ของมัน การที่ไม่อาจจะสังหารเมิ่งฮ่าวไปได้ทำให้รู้สึกอัปยศโดยสิ้นเชิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่า มันได้เห็นด้วยสองตาของตนเอง ในตอนที่เมิ่งฮ่าวกำจัดน้องชายร่วมชนเผ่าของมันไป เนื่องจากเช่นนั้นทำให้ความเกลียดชังของมันพุ่งทะยานขึ้นไปจนถึงสวรรค์
คนทั้งสองพุ่งผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทำให้ความว่างเปล่าแตกกระจายออกไป สถานที่แห่งใดก็ตามที่คนทั้งสองพุ่งผ่านไป ก็ทำให้กลุ่มคนนอกคอกและผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล ต้องตกตะลึงรีบเปิดทางให้ในทันที ไม่มีใครกล้าจะเข้าไปใกล้
เสียงระเบิดดังก้องขึ้น เมื่อยักษ์ที่สูงหนึ่งพันจ้างปลดปล่อยวิชาเวทที่แปลกๆ ออกมา ซึ่งแตกต่างไปจากสิ่งที่เคยเห็นมาในอาณาจักรขุนเขาทะเลโดยสิ้นเชิง มันกลายร่างเป็นสัตว์อสูรที่พุ่งกระโจนเข้าใส่เมิ่งฮ่าวเป็นระยะ กลืนกินทุกสรรพสิ่งที่มาขวางทางมัน หรือไม่ก็ใช้กรงเล็บอันแหลมคมราวใบมีดกรีดเฉือนตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ราวกับว่าจะสามารถปรากฏขึ้นมาจากอากาศที่ว่างเปล่าอย่างกะทันหัน
ที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือหางที่ยาวของมัน ซึ่งม้วนกวาดออกไปรอบๆ ด้วยท่าทางที่สะกดข่มโดยสิ้นเชิง ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแตกกระจายไป ส่งผลให้เกิดเป็นระลอกคลื่นอันน่าตกใจ จนเมิ่งฮ่าวต้องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากเมิ่งฮ่าว แต่ก็หลีกเลี่ยงการโจมตีเหล่านั้นได้อย่างว่องไว แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังรู้สึกว่าพื้นฐานฝึกตนของตัวเองกำลังไม่เสถียรมั่นคง
ที่มากไปกว่านั้น เมิ่งฮ่าวรู้สึกว่า…ช่องว่างระหว่างตนเองและจักรพรรดิเต๋าเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้รับรู้ได้ถึง…อันตรายอันร้ายแรง!
“เปลวไฟปฐพีหลงอี้ ลืมเลือนสวรรค์!” เมื่อเห็นว่าการโจมตีไปเหล่านั้น ไม่อาจแม้แต่จะไปสัมผัสโดนตัวเมิ่งฮ่าวได้ ดวงตาคนนอกคอกที่สูงหนึ่งพันจ้างก็แวบขึ้นเป็นสีแดงก่ำ ขณะที่มันแผดร้องคำราม ขยับร่ายเวทพร้อมกันทั้งสองมือ ทำให้ทะเลแห่งเปลวไฟที่อยู่ด้านล่างเท้าของมันส่งเสียงดังกระหึ่ม พุ่งขึ้นมาและกลายเป็นกิ้งก่าเปลวไฟปฐพี อ้าปากกว้างขึ้นและพ่นเปลวไฟตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
เปลวไฟนั้นเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างที่ยากจะอธิบาย
พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวในทันที ขณะที่โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว ผีโต้งก็ปรากฏตัวขึ้น
มันส่งเสียงก่นด่าสาปแช่งออกมา ขณะที่กลายร่างเป็นเกราะป้องกันเพื่อช่วยปกป้องเมิ่งฮ่าวจากการถูกเปลวไฟแผดเผา
ถึงแม้ว่ามันแทบจะหลอมละลายไปก็ตาม แต่ก็ยังคงยืนหยัดจนกระทั่งสิ้นสุดการโจมตี หลังจากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ส่งผีโต้งกลับเข้าไปในถุงสมบัติด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นก็กัดฟันแน่นและมุ่งหน้าต่อไป
“บัดซบ, บัดซบ, บัดซบ!!”
คนนอกคอกแผดร้องออกมา ไล่ติดตามเมิ่งฮ่าวไปอย่างไม่ลดละ
พร้อมกับเสียงร้องตะโกนด้วยโทสะที่ดังก้องอยู่ด้านหลังตลอดเวลา
ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็บรรลุถึงอาณาเขตที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตรเทพสวรรค์ หลังจากที่เร่งความเร็วมาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเขาก็บรรลุถึงตำแหน่งปากทางเข้าของสามสิบสามนรก
มันเป็นอาณาเขตที่มืดสนิท ซึ่งดูเหมือนว่าจะสามารถดูดกลืนทุกสรรพสิ่งเข้าไปได้ เป็นอาณาเขตที่กระจายเป็นกลิ่นอายของความเน่าเปื่อย จนทำให้ดวงตาของจักรพรรดิเต๋านอกคอกต้องสาดประกายขึ้น
“กลิ่นอายนี้…” มันครุ่นคิดด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน
เมิ่งฮ่าวไม่ลังเลแม้แต่น้อยก่อนที่จะพุ่งเข้าไป ถึงแม้ว่าสามสิบสามนรกจะยังไม่เปิดออกอย่างแท้จริง แต่ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น แก่นแท้พลังชีวิตของตันหลางก็พลุ่งพล่านปั่นป่วนขึ้นมา และเริ่มพุ่งกระจายออกไป
ทันใดนั้นระลอกคลื่นอันแข็งแกร่งก็ปะทุขึ้นมาในความว่างเปล่า ทำให้ทุกสรรพสิ่งบิดเบี้ยวไปมา ราวกับว่าการเปิดออกเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็หยุดชะงักนิ่ง หมุนตัวไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เย็นชา มองไปยังจักรพรรดิเต๋านอกคอกที่อยู่ตรงเขตด้านนอกของความมืดมิด
“เจ้าไล่ตามข้ามานานมากพอแล้ว ถ้าต้องการต่อสู้ เจ้ากับข้า…ก็มาสู้กันในที่แห่งนี้!” เสียงเมิ่งฮ่าวดังก้องขึ้น เต็มไปด้วยความเป็นปรปักษ์อย่างน่ากลัว จากนั้นก็ปาดเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก และแสงอันน่ากลัวที่สาดประกายอยู่ในแววตาก็ยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น
คนนอกคอกที่สูงหนึ่งพันจ้างมองไปด้วยแววตาที่วาววับ จากนั้นก็แค่นเสียงเย็นชา กลิ่นอายในบริเวณนี้แปลกประหลาด แต่เมื่อคิดว่าตนเองมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ในระดับนี้ จึงไม่ลังเลที่จะก้าวเดินตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวยื่นมือขวาออกไป และเยาปิงฮวงจ่งก็ปรากฏขึ้น โดยไม่ลังเลใดๆ ยกเลิกความคิดที่จะหลบหนีทั้งหมดไป พุ่งตรงไปและเริ่มต่อสู้กับยักษ์หนึ่งพันจ้าง
เสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่คนทั้งสองปะทะกันไปมานับพันครั้งในชั่วพริบตา เมิ่งฮ่าวเรียกภูเขาออกมาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอสูรโลหิต อ๋าวเฉี่ยน และสุดยอดสะพาน
เยาปิงฮวงจ่งกรีดร้องเป็นเสียงแหลมเล็ก ขณะที่พุ่งฝ่าอากาศออกไป
และเมิ่งฮ่าวก็ต่อยออกไปสามหมัด แต่ละหมัดก็น่ากลัวมากขึ้นไปเรื่อยๆ
คนนอกคอกขยับมือร่ายเวทด้วยเช่นกัน ทำให้เกล็ดของมันลุกขึ้นตั้งชี้ชัน และลมพายุก็พุ่งขึ้นมา พลังแก่นแท้ระเบิดออกไป กลายเป็นแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อ เปลวไฟสีดำก่อตัวเป็นกิ้งก่าเปลวไฟ แผดร้องคำรามออกมาขณะที่พยายามจะกลืนกินเมิ่งฮ่าวเข้าไป
เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว ขณะที่ถูกโจมตีจนต้องถอยร่นไปทางด้านหลังอยู่ตลอดเวลา สำหรับจักรพรรดิเต๋านอกคอก สีหน้ามันเปลี่ยนไปขณะที่เยาปิงฮวงจ่งแทงเข้ามายังหน้าอก
ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสมากขึ้น แต่บาดแผลก็ถูกรักษาอย่างรวดเร็ว ซึ่งจริงๆ แล้วก็เร็วขึ้นมากกว่าเดิม ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงแห่งดวงดาว ขณะที่กลายร่างเป็นอุกกาบาต พุ่งฝ่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวไปด้วยแสงอันเจิดจ้า ขณะที่เข้าไปใกล้ คนนอกคอกก็ขยับสองมือร่ายเวท จากนั้นก็โบกสะบัดมือ ทำให้กิ้งก่าเปลวไฟสีดำพุ่งศีรษะของมันออกไปในทันที
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นเมื่ออุกกาบาตแตกกระจายไป แต่ขณะที่เกิดขึ้นเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นวิหคยักษ์สีฟ้าพุ่งออกไปราวกับเป็นสายฟ้า พุ่งผ่านกิ้งก่าไปปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าของจักรพรรดิเต๋านอกคอก
สีหน้าของจักรพรรดิเต๋านอกคอกเปลี่ยนไป เมื่อมันกำลังจะถอยไปทางด้านหลัง กรงเล็บสีฟ้าก็กรีดเฉือนออกไปด้วยความแข็งแกร่งที่ทำให้เหล็กและศิลาต้องแตกกระจายไป
“รนหาที่ตาย?!” จักรพรรดิเต๋านอกคอกกล่าวขึ้น ดวงตาสาดประกายด้วยความดุร้าย ปล่อยให้กรงเล็บนั้นเจาะดวงตาข้างขวาของตนเอง ไม่สนใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ขณะที่พุ่งมือขวาออกไปคว้าจับวิหคยักษ์ไว้อย่างดุร้าย
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น วิหคยักษ์สีฟ้าถูกบดขยี้ไป แต่ก็ไม่มีเลือดเนื้อระเบิดออกมา มีแต่จุดแสงระยิบระยับนับไม่ถ้วน เวลาเดียวกันนั้นเงาร่างๆ หนึ่งก็พุ่งออกไปยังที่ห่างไกล
“ตาย!” คนนอกคอกร้องตวาดขึ้น ขณะที่เมิ่งฮ่าวหลบหนีจากไป แสงสีโลหิตพุ่งขึ้นมาจากร่างคนนอกคอก เมื่อกลิ่นอายแห่งความตายอันไร้ขอบเขตพุ่งขึ้นมา นี่คือเวทคำสาปแช่งแห่งความตายอันน่าตกใจ!
เสียงกระหึ่มดังก้องออกไป ขณะที่เครื่องหมายผนึกปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก ร่างถูกผลักไปทางด้านหลัง จนต้องกระอักโลหิตออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างที่ไม่อาจจะควบคุมตนเองได้
เมื่อหน้าอกเริ่มเน่าเปื่อยและพลังชีวิตก็จางหายไป กลิ่นอายแห่งความตายอันแข็งแกร่งเริ่มกลืนกินเมิ่งฮ่าวลงไป
“เจ้าเจาะดวงตาข้า สังหารน้องชายร่วมเผ่า แต่ไม่ต้องวิตกไป หลังจากที่สังหารเจ้าแล้ว ข้าก็จะกลั่นสกัดโลหิตเจ้าเพื่อค้นหาเครือญาติทั้งหมดของเจ้า และสังหารพวกมันไปทีละคน!” คนนอกคอกสูงหนึ่งพันจ้างขยับร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ยกมือขวาขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนทะเลแห่งเปลวไฟให้กลายเป็นรูปปั้นขนาดใหญ่ ที่ยื่นฝ่ามือของมันตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
ฝ่ามือนั้นทำให้กลิ่นอายแห่งความตายที่แทรกซึมไปทั่วบริเวณนั้นม้วนตัวไปมา และเกิดเป็นเสียงกระหึ่มกึกก้องขึ้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน และสวรรค์ก็เริ่มเลือนลางลงไป
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่ริมฝีปากของเมิ่งฮ่าวบิดขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เยาะเย้ย ทำให้คนนอกคอกรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างลึกล้ำในทันที แต่ก่อนที่มันจะทันได้กระทำสิ่งใดๆ รอยแตกขนาดใหญ่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าตรงด้านล่างเท้าของเมิ่งฮ่าว
ในทันทีที่รอยแตกนั้นปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวก็พุ่งเข้าไปด้านใน
ยักษ์หนึ่งพันจ้างสั่นสะท้านขึ้นด้วยความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรง ความรู้สึกนั้นออกมาจากภายในรอยแตก ซึ่งคนนอกคอกสามารถจะรับรู้ได้ถึง…ความผันผวนของกลิ่นอายอันน่าตกใจ
มันมีลางสังหรณ์ว่าถ้าผ่านเข้าไปในรอยแตกนั้น ก็คงต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันน่ากลัวบางอย่าง ทำให้ต้องหันหลังและจากไปโดยไม่ลังเลใดๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ในขณะที่มันกระทำเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็ยกมือขวาขึ้นมา ปลดปล่อยเวทปลิดดาวออกไป เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้นเมื่อจักรพรรดิเต๋านอกคอกถูกฉุดลากไปทางด้านหลังอย่างดุร้าย
ดวงตาของคนนอกคอกลุกโชนขึ้นด้วยโทสะ และรีบปลดปล่อยพลังการฝึกตนทั้งหมดเท่าที่สามารถจะรวบรวมได้ออกมา เพื่อหลบหนีจากไป แต่ในขณะที่มันเคลื่อนที่ย้อนกลับ กำลังจะหลุดออกมาจากเวทปลิดดาวของเมิ่งฮ่าว รอยยิ้มเยาะเย้ยของเมิ่งฮ่าวก็ยิ่งกว้างมากขึ้น
“สลับร่างย้ายตำแหน่ง!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อเมิ่งฮ่าวและจักรพรรดิเต๋านอกคอกสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกัน คนนอกคอกยังคงเคลื่อนที่ย้อนกลับ แต่ตอนนี้มันกำลังเคลื่อนที่ย้อนกลับอยู่ในรอยแตก ถึงแม้ว่าสีหน้ามันจะเปลี่ยนไป และหยุดชะงักนิ่งแทบจะในทันที แต่ก็ยังคงอยู่ห่างจากปากทางออกอยู่บ้าง!