ตอนที่ 1319
กองหนุนแห่งขุนเขาทะเล
การต่อสู้ระหว่างสวรรค์ชั้นแรก และอาณาจักรขุนเขาทะเลในตอนนี้กำลังเกิดขึ้นอย่างเต็มกำลัง ไม่มีสนามแห่งดวงดาวที่ยืดยาวออกไปเหนือศีรษะของผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลอีกต่อไปแล้ว
แต่กลับถูกแทนที่ด้วยดินแดนอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งดูคล้ายกับเป็นหลังคาของกลุ่มเมฆสีดำที่ปกคลุมทุกสรรพสิ่งเอาไว้ ในบางพื้นที่ก็มองเห็นสายฟ้ากำลังเต้นไปมา และเสียงฟ้าร้องคำรามก็ดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทางอยู่เป็นระยะ ดินแดนอันกว้างใหญ่นั้นยืดยาวปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล กระจายเป็นแรงกดดันอันเข้มข้นกดทับลงไป
ผู้ยิ่งใหญ่กำลังต่อสู้กันอยู่!
ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งแยกสวรรค์ชั้นแรกและอาณาจักรขุนเขาทะเลออกมา ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ชั้นแรกกำลังต่อสู้อย่างเป็นตายกับไห่เมิ่งจื้อจุนจนสวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องแตกกระจายไป
ไห่เมิ่งจื้อจุนต้องการจะต่อสู้ไปยังสวรรค์ชั้นแรก ในขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกต้องการจะโจมตีมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล การต่อสู้อย่างดุร้ายของคนทั้งสอง ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องแตกกระจายออกไป เกิดเป็นสายลมขนาดใหญ่ม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งความว่างเปล่า
เต๋าแตกกระจาย และกฎธรรมชาติก็ถูกทำลายไป!
ที่รองลงมาจากการต่อสู้ของผู้ยิ่งใหญ่ก็คือ การต่อสู้ในขุนเขาทะเลที่สี่ ที่ซึ่งตี้จ้างกำลังต่อสู้กับราชันจักรพรรดินอกคอกม่านตี้หลัว ขุนเขาทะเลที่สี่คล้ายกับเป็นทะเลแห่งเปลวไฟ ขณะที่เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากวิหารหลักยินหลัว และเปลวไฟสีดำของคนนอกคอก หลังจากที่ตี้จ้างถูกปกคลุมด้วยพลังเปลวธูปอันไร้ขอบเขต ก็มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับราชันจักรพรรดินอกคอก!
สี่ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งมากที่สุดจากสวรรค์ชั้นแรก สองคนถูกตรึงไว้เรียบร้อยแล้ว อีกสองคนที่เป็นจักรพรรดิเต๋า หนึ่งคนแยกตัวออกเป็นห้าร่างจำแลง เพื่อไปสังหารราชันแห่งขุนเขาทะเล แต่เหตุการณ์ก็ตรงกันข้ามกับสิ่งที่มันมุ่งหวัง คาดไม่ถึงว่าจะถูกตรึงไว้จนยากที่จะเอาชนะได้
อีกคนคือจักรพรรดิเต๋าในชุดเกราะสีทอง ที่กำลังต่อสู้กับเมิ่งฮ่าวจนกลายเป็นการต่อสู้ที่สำคัญอีกแห่งในอาณาจักรขุนเขาทะเล
เวลาเดียวกันนั้นผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าอื่นๆ จากสวรรค์ชั้นแรก กำลังต่อสู้อยู่กับปรมาจารย์จากสำนักและตระกูลต่างๆ แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล เกิดเป็นการต่อสู้กันอย่างดุร้ายอยู่ทั่วทุกที่ และสนามรบก็ยืดยาวออกไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด ยิ่งไปกว่านั้นผู้ถูกเลือกนอกคอกก็มาเข้าร่วมในการต่อสู้นี้ด้วยเช่นกัน พวกมันยิ้มอย่างโหดเหี้ยมขณะที่ทำการต่อสู้ จนดูเหมือนว่าไม่มีใครสามารถจะต่อต้านพวกมันได้
แต่จากนั้นผู้ถูกเลือกจากสำนักและตระกูลต่างๆ แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็เข้าร่วมด้วยเพื่อต่อสู้กลับไป
เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น ขุนเขาทะเลทั้งหมดสั่นสะเทือนไปทั่ว
ในขุนเขาทะเลที่หนึ่ง การต่อสู้ของอาณาจักรเต๋ากำลังเกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกที่ เวลาเดียวกันนั้นกลุ่มคนนอกคอกและผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเล ที่มีพื้นฐานฝึกตนอยู่ในอาณาจักรต่างๆ ก็เข้าร่วมกับการต่อสู้นี้ทั้งหมด ผู้ฝึกตนนอกคอกในสนามรบแห่งหนึ่งซึ่งสวมใส่ชุดสีดำ ทั่วลำตัวปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำ แต่บนหน้าผากมีเกล็ดสีขาวอยู่หนึ่งจุด มีพื้นฐานฝึกตนอยู่ในอาณาจักรโบราณ แต่พลังการต่อสู้กลับสูงมากไปกว่านั้น
“อาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่? แค่โจมตีไปเพียงครั้งเดียวพวกมันก็ไม่อาจจะต่อต้านได้ ไม่จำเป็นต้องบุกมาทั้งสามสิบสามสวรรค์ แค่สวรรค์ชั้นแรกก็กวาดล้างพวกมันได้แล้ว ตอนนี้ในท่ามกลางเจ็ดสายโลหิตแห่งชนเผ่าหลงอี้ สายโลหิตที่สาม, หลงซาน (มังกรภูเขา) ของข้าจะต้องสังหารได้มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน!”
ไม่ว่าผู้ถูกเลือกนอกคอกนี้จะพุ่งผ่านไปยังที่แห่งใดในสนามรบ ก็ไม่มีใครจะสามารถต่อสู้กลับมาได้ ทำให้มันต้องพูดจาเยาะเย้ยด้วยความเย่อหยิ่งเป็นเสียงดังขึ้น แต่ในตอนนี้เองที่ลำแสงสีขาวได้พุ่งตรงมาจากที่ห่างไกล
“ช่างโอ้อวดอย่างไร้ยางอายนัก!” เสียงร้องตะโกนดังก้องออกมาจากภายในลำแสง พร้อมกับเสียงแค่นเย็นชาขณะที่บุรุษหนุ่มในชุดสีขาวปรากฏกายขึ้น ซึ่งก็คือผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาแรก เต้าเทียน เมื่อใกล้เข้ามามันก็ระเบิดเป็นพลังโจมตีออกไป ทำให้สีหน้าของผู้ถูกเลือกนอกคอกต้องเปลี่ยนไป และจากนั้นก็กลายเป็นเคร่งเครียดขึ้นโดยสิ้นเชิง
ในขุนเขาที่สอง, สามและสี่…อันที่จริงก็ทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง ต่างก็เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้
ในขุนเขาที่สี่ ระลอกคลื่นอันน่าตกใจระเบิดขึ้นมาจากการต่อสู้ของตี้จ้างและราชันจักรพรรดินอกคอก จนกระจายออกไปเป็นวงกว้าง แต่กลุ่มคนนอกคอกก็ยังคงหลั่งไหลเข้ามาต่อสู้กับผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาที่สี่อย่างต่อเนื่อง
ในท่ามกลางกองกำลังของผู้ฝึกตนจากขุนเขาทะเลที่สี่ เป็นหญิงสาวผู้หนึ่งยืนสงบนิ่งอยู่ที่นั่น ถูกห้อมล้อมด้วยผู้คุ้มกันมากมายเพื่อคอยเฝ้าพิทักษ์ปกป้องนาง นางไม่ใช่หญิงสาวที่งดงามอย่างโดดเด่น แต่มีท่าทางโศกเศร้าและเย็นชา อย่างไรก็ตามดวงตานางก็เปล่งประกายสดใสราวกับดวงดาว ขณะที่ออกคำสั่งไปอย่างต่อเนื่องยังกองกำลังทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบแห่งขุนเขาทะเลที่สี่ นางคือผู้ควบคุมการต่อสู้ทั้งสี่ทิศแปดทางเพียงคนเดียว เพื่อให้ขุนเขาทะเลที่สี่สามารถโจมตีออกไปได้ด้วยพลังที่แข็งแกร่งอย่างสูงสุด
หญิงสาวที่กำลังดำเนินกลยุทธ์การต่อสู้อยู่นี้ก็คือ…สวี่ชิง!
ตี้จ้างไม่เพียงแต่จะมีพื้นฐานฝึกตนที่ลึกล้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นอาจารย์ที่เลิศล้ำอีกด้วย หลังจากที่รับสวี่ชิงเข้าเป็นศิษย์ ท่านก็สั่งสอนนางเป็นอย่างดี และพื้นฐานฝึกตนของนางก็ก้าวกระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นนางก็มีพรสวรรค์เกี่ยวกับการวางแผนสู้รบอีกด้วย
ในขุนเขาที่เจ็ด ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ติดตามไป๋จู่ไปรุกรานขุนเขาทะเลที่แปด แต่ก็มีผู้ถูกเลือกบางคนที่เลือกจะไม่ไปเข้าร่วมด้วย และในท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้นก็คือผู้ฝึกตนลำดับขั้นอวี่เหวินเจียน!
ตอนนี้อวี่เหวินเจียนกำลังแผดร้องคำรามออกมา ขณะที่ต่อสู้อย่างดุร้ายกับผู้ถูกเลือกนอกคอก ที่บุกรุกเข้ามาในขุนเขาที่เจ็ด
ในขุนเขาทะเลที่เก้า ตระกูลฟาง ตระกูลหลี่ พร้อมทั้งสำนักใหญ่และตระกูลอื่นๆ ต่างก็รวมกำลังกันต่อสู้ ซุนไห่และฟางอวี๋ พร้อมทั้งผู้ถูกเลือกที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ทั้งหมด ต่างก็เปียกชุ่มไปด้วยโลหิตขณะที่ทำการต่อสู้อย่างดุร้าย
ในตอนนี้พลังของผู้ถูกเลือกเหล่านี้คือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ในอาณาจักรขุนเขาทะเล รองลงมาจากอาณาจักรเต๋าเหล่านั้น
บิดาเมิ่งฮ่าวเป็นผู้นำตระกูลฟาง แต่ก็ไม่อาจจะออกไปจากดาวหนานเทียนได้ อย่างไรก็ตามค่ายกลเวทดาวหนานเทียนก็ทำงานอย่างเต็มกำลัง คนนอกคอกใดๆ ก็ตามที่กล้าบุกรุกเข้าไปในเขตพื้นที่แห่งนั้นก็จะถูกทำลายไป
สงครามไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่ผู้คนมากมายในอาณาจักรขุนเขาทะเลเคยคาดคิดไว้ เมื่อระเบิดเป็นการโจมตีออกไปในตอนแรก และเรื่องราวก็ไม่ได้ราบลื่นเหมือนกับที่สวรรค์ชั้นแรกคาดคิดไว้ พลังที่อาณาจักรขุนเขาทะเลโจมตีกลับมา ทำให้กลุ่มคนนอกคอกต้องตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง
แต่นี่ก็เป็นแค่การมองโลกในแง่ดีอย่างชั่วคราวเท่านั้น นอกจากนี้…ก็มีทั้งหมดสามสิบสามสวรรค์ และนี่ก็เป็นแค่กองกำลังจากสวรรค์ชั้นแรกเท่านั้น แน่นอนว่าสวรรค์ชั้นแรกก็มีความแข็งแกร่งอยู่ในท่ามกลางสามสิบสามสวรรค์เหล่านั้น เมื่อรวมเข้ากับผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดในสามสิบสามสวรรค์แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น แต่ก็ทำให้สามสิบสามสวรรค์ทรงพลังอย่างน่าตกใจยิ่ง
ที่สำคัญมากที่สุดก็คือว่า ถึงแม้จะมีเพียงแค่ห้าผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เมื่อรวมเข้ากับผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าและอาณาณาจักรโบราณแล้ว สามสิบสามสวรรค์ก็มีผู้แข็งแกร่งมากกว่าอาณาจักรขุนเขาทะเลหลายเท่าตัว ทำให้พวกมันยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
อย่างไรก็ตามกองหนุนสำรองที่มีอยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่สิ่งที่มองเห็นได้ในตอนนี้ นอกจากนั้นเจตจำนงแห่งขุนเขาทะเล รวมทั้งไห่เมิ่งจื้อจุน ต่างก็ตระหนักดีมานานแล้วว่า…การทำสงครามกับสามสิบสามสวรรค์…เป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้!
แล้วพวกท่านจะไม่เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าได้อย่างไร!?
เมื่อเกิดการต่อสู้กันขึ้น ระลอกคลื่นอันแข็งแกร่งก็เริ่มกระจายออกมาจากสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งขุนเขาทะเลที่เก้า ขณะที่พวกมันเริ่มก่อตัวเป็นพลังขึ้นมา!
นอกเหนือจากทั้งหมดนั้นแล้ว ในท่ามกลางสามสิบสามสวรรค์ ก็มีอาณาจักรแห่งหนึ่งที่เตรียมพร้อมไว้อยู่ก่อนแล้ว และถูกมองว่าเป็น…สวรรค์ที่สามสิบสี่ ซึ่งก็คือ….อาณาจักรสายลม!
หลังจากที่แยกตัวออกไปจากอาณาจักรขุนเขาทะเล หลุดพ้นเป็นอิสระจากผนึกและเวทป้องกันในที่แห่งนั้น
ราชันจักรพรรดิสายลมซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เคยต่อสู้กับไห่เมิ่งเมื่อปีนั้น ในที่สุดก็กลายเป็น…ผู้ยิ่งใหญ่!
ขณะที่เหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นมา ในขุนเขาที่หนึ่ง, สามและห้า มีสถานที่อยู่สามแห่งซึ่งค่อนข้างจะแยกตัวออกมาจากการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่รอบๆ บริเวณนั้น วิหารโบราณทั้งสามลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงแผ่นป้ายเหนือประตูหลักของวิหารแต่ละแห่ง มองเห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ที่ดูเก่าแก่โบราณราวกับเป็นหงส์ร่อนมังกรร่าย
ไท่หลิงเตี้ยน! (วิหารสุดยอดวิญญาณ)
เต้าเสินเตี้ยน! (วิหารเต๋าศักดิ์สิทธิ์)
จ่านเทียนเตี้ยน! (วิหารตัดสวรรค์)
ภายในวิหารทั้งสามนั่งไว้ด้วยชายชราและบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง!
ชายชราดูคล้ายกับเป็นรูปปั้น และบุรุษหนุ่มก็ดูคล้ายกับผู้ถูกเลือก!
ภายในวิหารทั้งสามเหล่านั้น ดูเหมือนว่าบุรุษหนุ่มแต่ละคนกำลังเริ่มโขกศีรษะให้กับชายชรา และจากนั้นก็กล่าวขึ้นว่า
“ขุนเขาทะเลตกอยู่ในความวุ่นวาย โปรดให้ข้าไปสู้ด้วย!”
“ซือจุน (อาจารย์) ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกตนลำดับขั้นรุ่นแรก ข้าถูกผนึกไว้จนกระทั่งถึงตอนนี้ ขอให้ซือจุนโปรดช่วยคลายผนึกและอนุญาตให้ข้าไปต่อสู้ด้วย!”
“วิหารตัดสวรรค์ของพวกเราคงอยู่มาก็เพื่อต่อสู้ในสงครามครั้งนี้ ขอให้ท่านบรรพจารย์โปรดคลายผนึกให้กับข้าด้วย!”
สามชายชราไม่กล่าวตอบ ราวกับว่าพวกท่าน…กำลังเฝ้ารอคำสั่งอยู่
ภายในขุนเขาทะเลที่เก้า บนดาวหนานเทียน ค่ายกลเวทตระกูลหลี่ส่งระลอกคลื่นอันทรงพลังออกไปในทั่วทุกทิศทาง เวลาเดียวกันนั้นบนยอดเขาที่อยู่ห่างไกลแห่งหนึ่ง ชายชราในชุดขาวผู้หนึ่งยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ มองขึ้นไปในท้องฟ้ายังดินแดนอันกว้างใหญ่ ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นแรก แสงแปลกๆ สาดประกายขึ้นมาในแววตา
“สงครามครั้งนี้ เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น…” ท่านพึมพำ ชายชราผู้นี้ก็คือสุ่ยตงหลิว
เสียงกระหึ่มดังก้องออกไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่แปด ขณะที่เมิ่งฮ่าวพุ่งออกไปคล้ายกับสายฟ้า กระถางสายฟ้าลอยอยู่เหนือศีรษะ เต้นไปมาด้วยประจุไฟฟ้า ขณะที่เขาสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกับคนนอกคอก
ด้านหลังเป็นจักรพรรดิเต๋าในชุดเกราะสีทองที่เต็มไปด้วยโทสะ ดวงตามันกลายเป็นสีแดงก่ำ โดยปกติแล้วมันน่าจะมีความรวดเร็วมากพอที่จะคว้าจับเมิ่งฮ่าวไว้ได้ แต่เมิ่งฮ่าวกำลังใช้วิธีการสลับร่างย้ายตำแหน่ง ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นอันทรงพลังระเบิดออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความปั่นป่วนไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อเขาแม้แต่น้อย
อันที่จริง…สนามรบที่ปั่นป่วนวุ่นวายนี้ คือสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับเมิ่งฮ่าว ทำให้สามารถจะเคลื่อนย้ายตำแหน่งออกไปราวกับเป็นภูติผี!
ไม่ว่าเขาจะไปยังที่แห่งใด ก็จะมีสิ่งมีชีวิตถูกสับเปลี่ยนตำแหน่งด้วย ทำให้คนนอกคอกในชุดเกราะสีทองที่ไล่ตามมาต้องขุ่นเคืองใจโดยสิ้นเชิง
นอกจากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยังเจ้าเล่ห์เป็นอย่างยิ่ง เขาสามารถจะหลบหนีจากจักรพรรดิเต๋านอกคอกในชุดเกราะสีทองไปได้ไกล แต่กลับรักษาระยะห่างไว้ เมื่อให้มั่นใจว่ามันจะยังคงไล่ติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมให้คนนอกคอกผู้นี้เปลี่ยนความสนใจไปยังสนามรบแห่งอื่น
“เอาแต่หลบหนีเช่นนี้ ข้าจะดูว่าเจ้าจะหลบหนีไปได้อีกนานเท่าใด!”
กิ้งก่าเปลวไฟสีดำของจักรพรรดิเต๋านอกคอกส่งเสียงแผดร้องออกมาในทันที แตกกระจายออกไปกลายเป็นทะเลแห่งเปลวไฟ ม้วนกวาดตรงไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
ภายในทะเลแห่งเปลวไฟนั้นมีสัญลักษณ์เวทอยู่นับไม่ถ้วน สาดประกายขึ้นจนทำให้เปลวไฟมีความรวดเร็วเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า เมิ่งฮ่าวรีบเคลื่อนย้ายทางไกลออกไป หลบเลี่ยงจากเปลวไฟนั้นไปได้อย่างหวุดหวิด
ใบหน้าเมิ่งฮ่าวดูน่าเกลียดขึ้น พลังการต่อสู้ของจักรพรรดิเต๋าช่วยให้ตนเองมองเห็นได้ว่า มีจุดอ่อนอยู่ตรงไหนบ้าง
“น่าเสียดาย ถ้าข้าสามารถทะลวงผ่านกายเนื้อนี้ไปได้ พลังการต่อสู้ของข้าก็เพียงพอที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิเต๋าได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่ดับตะเกียงวิญญาณลงไปอีกก็ตาม” เมิ่งฮ่าวเคลื่อนย้ายทางไกลไปอีกครั้ง และเสียงหัวเราะอย่างเย็นชาก็ดังก้องออกมาจากภายในเปลวไฟ ทันใดนั้นจักรพรรดิเต๋านอกคอกก็ปรากฏกายขึ้นในเปลวไฟ ร่างกายมันขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมีความสูงถึงหนึ่งพันจ้าง ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
มันกระทืบเท้าลงไปในเปลวไฟ และสายฟ้าสีดำก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ อีกครั้งที่ทั่วทั้งร่างกายมันถูกปกคลุมเต็มไปด้วยเกล็ด และมีหางที่ยาวมากขึ้นกว่าเดิม มีเขาสองข้างงอกยาวออกมาจากด้านบนศีรษะ ความว่างเปล่ารอบๆ ตัวมันบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่แรงกดดันอันเข้มข้นพุ่งกระจายออกไป
“เจ้าสังหารน้องชายร่วมเผ่าของข้า ตอนนี้ข้าจะทำลายเจ้าไปทั้งร่างกายและวิญญาณ!” จักรพรรดิเต๋าในชุดเกราะสีทองแผดร้องคำรามออกมา เดินตรงไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์บางอย่างตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวถอยไปทางด้านหลัง และเสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมา ขณะที่คนทั้งสองพุ่งออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวในขุนเขาทะเลที่แปด
“ถ้าข้าไม่อาจจะกำจัดคนผู้นี้ไปได้ เมื่อไหร่ที่มันไปยังสนามรบแห่งอื่น…” เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว แอบถอนหายใจออกมา
“ข้าอาจจะไม่สามารถสังหารมันได้ แต่…อาจจะล่อให้มันติดกับหรือผนึกมันไว้ได้ ต้องมีวิธีสักอย่าง แต่จำเป็นต้องทำให้ถูกที่ถูกเวลา…”
“ที่นี่คือขุนเขาทะเลที่แปด พันธมิตรเทพสวรรค์…” ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้น ขณะที่จู่ๆ ก็คิดได้ถึงสถานที่แห่งหนึ่งแล้ว!