Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1318

ตอนที่ 1318

ต่อสู้กับจักรพรรดิเต๋า

ไม่ว่าเมิ่งฮ่าวจะต่อสู้อยู่กับใคร เมื่อไหร่ที่เขาได้เปรียบ แน่นอนว่าคู่ต่อสู้ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมาอย่างสูงลิ่ว

เช่นเดียวกับไป๋จู่ และคนทั้งหมดที่เมิ่งฮ่าวเคยต่อสู้ด้วยมาก่อน

คนที่พอจะรู้เรื่องนี้บ้างเล็กน้อยก็จะต้องระมัดระวังตัว และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียความได้เปรียบ…แม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่ได้!

แม้ในขณะที่จักรพรรดิเต๋านอกคอกในชุดเกราะสีทองมีโทสะพุ่งขึ้นมา และเตรียมตัวจะตอบโต้กลับไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น และชี้นิ้วเพื่อปลดปล่อยเวทผนึกอสูรรุ่นแปดออกไป!

ถึงแม้ว่าการใช้เวทผนึกนี้ไปบนร่างใครบางคนที่มีพื้นฐานฝึกตนสูงกว่าตนเอง จะทำให้เกิดเป็นพลังสะท้อนกลับอันแข็งแกร่ง แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่สนใจโลหิตที่ไหลซึมออกมาจากมุมปาก และปลดปล่อยมันออกไป ทำให้จักรพรรดิเต๋านอกคอกในชุดเกราะสีทองต้องหยุดชะงักนิ่งในกลางอากาศด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที!

จากนั้นพลังของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นมา และกระจกทองแดงแวบขึ้นกลายเป็นอาวุธสงคราม ที่เมิ่งฮ่าวกรีดเฉือนออกไปอย่างดุร้าย!

ขณะที่เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น จักรพรรดิเต๋านอกคอกรู้สึกได้ถึงวิกฤตอันร้ายแรงที่พุ่งขึ้นมาในจิตใจ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นจักรพรรดิเต๋า แต่ก็ยังคงรับรู้ได้ว่าห่างจากความตายแค่ไม่กี่ชุ่นเท่านั้น

มันเตรียมตัวรับมือกับสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว โดยการสะกดข่มไว้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าความสามารถของเมิ่งฮ่าวจะรวมถึงสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย!

ระดับการโจมตีมาในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะน่าตกใจราวกับเป็นสายฟ้าที่ฟาดลงมาจากสวรรค์

“บัดซบ!!” จักรพรรดิเต๋านอกคอกในชุดเกราะสีทองร้องตวาดขึ้น ไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่สนใจความเจ็บปวดจากอวัยวะภายในที่กำลังถูกบดขยี้ และเส้นลมปราณที่กำลังแตกกระจายไป ระเบิดเป็นพลังออกไป เพื่อพุ่งถอยไปทางด้านหลังหนึ่งจ้างอย่างฉับพลัน!

จากนั้นประกายอันเจิดจ้าจากคมมีดก็พุ่งผ่านร่างมันไป!

เวลาเดียวกันนั้น ตรงจุดสูงสุดของขุนเขาที่แปด การต่อสู้ที่น่าตกใจอีกแห่งกำลังเริ่มขึ้น ภาพลวงตาร่างหนึ่งพุ่งผ่านสระสวรรค์ไป ขณะที่เป็นเช่นนั้นมันก็ก้มมองลงไปยังเต่าเสวียนอู่ ยิ้มอย่างเย็นชาออกมา และโบกสะบัดมือออกไป ทันใดนั้นเต่าเสวียนอู่ก็กู่ร้องจนทำให้ขุนเขาที่แปดต้องสั่นสะเทือนขึ้นมาในทันที

ม่านตาของเงาร่างนั้นหรี่ลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงพุ่งผ่านสระสวรรค์ มุ่งหน้าตรงไปยังวิหาร ขณะที่มันเข้าไปใกล้ประตู และเตรียมตัวที่จะพังเข้าไป แต่แทบจะทันใดนั้นก็ต้องพุ่งถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

ในตอนนั้นเองที่ประตูได้ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับเป็นใบมีดอันคมกริบนับไม่ถ้วนหมุนวนออกไป จนกลายเป็นพายุฝนที่พุ่งตรงไปยังเงาร่างภาพลวงตานั้น

ต่อมาชายชราร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะนักรบอันน่าทึ่ง ก็โผล่ออกมาจากเศษชิ้นประตูวิหารที่แตกกระจายออกไป ในทันทีที่ปรากฏกายขึ้น ท่านก็ต่อยหมัดที่ทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือนออกไป ความว่างเปล่าในบริเวณนั้นเริ่มแข็งตัวในทันที บังคับให้เงาร่างภาพลวงตาปรากฏเป็นตัวบุคคลขึ้นมาจริงๆ ซึ่งก็คือจักรพรรดิเต๋านอกคอกที่แยกร่างตัวเองออกมาเป็นห้าร่างจำแลง

คนที่บังคับให้มันต้องปรากฏตัวขึ้นก็คือไว่กงของเมิ่งฮ่าวนั่นเอง ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปด!

“ผู้อาวุโสคนนอกนั้นไม่ได้หลอกลวงเหล่าฟูจริงๆ วันที่ไว่ซุน (หลานชาย) มาถึง จะทำให้เหล่าฟูตื่นขึ้นมา และเป็นวันเดียวกับที่…ท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องแตกกระจายไป และสวรรค์ชั้นแรกตกลงมา” ไว่กงเมิ่งฮ่าวพึมพำ เห็นได้ชัดว่ากำลังพูดกับตนเอง

“ดูเหมือนว่านี่เป็นแผนการที่ท่านวางไว้ตั้งแต่ปีนั้น บางทีตระกูลฟางและเมิ่งก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในแผนการนี้เท่านั้น…” เมื่อท่านมองขึ้นไปยังคนนอกคอก ดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร และเริ่มวิ่งตรงไป

“นั่นเป็นชุดเกราะอะไรกัน? บัดซบ…ชุดเกราะนั่น…มีปัญหา!!” คนนอกคอกกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าสลดลง อีกครั้งที่มันล่าถอยไปทางด้านหลัง แต่ก็ยังไม่รวดเร็วเท่ากับไว่กงเมิ่ง ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปดพุ่งตรงไปพร้อมกับต่อยหมัดออกมา!

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่คนนอกคอกลอยละลิ่วออกไปราวกับเป็นว่าวที่ถูกตัดสายป่าน โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก ลอยไปทางด้านหลังอย่างน้อยก็หมื่นหลี่ ก่อนจะหยุดชะงักลงในที่สุด สีหน้าเปลี่ยนไปด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่ไว่กงเมิ่งปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้ามันอีกครั้ง

“บัดซบ! เจ้าคิดว่าข้าจะหวาดกลัวเจ้าจริงๆ?” จักรพรรดิเต๋านอกคอกแผดร้องคำรามออกมาผ่านร่องฟัน ทันใดนั้นก็มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน ในชั่วพริบตาก็มีความสูงถึงหนึ่งร้อยจ้าง พร้อมกับหางที่ยาวจนสามารถจะทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องแตกกระจายออกไปได้ ขณะที่มันสะบัดหางตรงไปยังราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปด

การต่อสู้เช่นเดียวกันนี้เริ่มเกิดขึ้นในขุนเขาที่หนึ่ง, สอง, สามและเก้า เมื่อเทียบกับการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นในขุนเขาทั้งสามอันดับแรกแล้ว การต่อสู้ในขุนเขาที่เก้ามีความแปลกประหลาดเป็นพิเศษกว่าที่แห่งอื่น

ร่างจำแลงของคนนอกคอกกำลังลอยตัวอยู่เหนือขุนเขา ไม่ขยับตัวเคลื่อนไหว ที่เบื้องหน้ามันมีดวงตาขนาดใหญ่ลอยอยู่หนึ่งดวง ทั้งสองกำลังจ้องมองซึ่งกันและกัน ขณะที่ต่อสู้กันด้วยเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์!

ยิ่งไปกว่านั้น…ก็ดูเหมือนว่าราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า, จี้เทียนจริงๆ แล้วก็กำลังพยายาม…จะครอบครองร่างจำแลงของจักรพรรดิเต๋านอกคอกอยู่!

เวลาเดียวกันนั้น การต่อสู้นับไม่ถ้วนก็เกิดขึ้นมาในขุนเขาทะเลที่เก้า ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังต่อสู้กลับไปยังกลุ่มคนนอกคอกอย่างดุร้าย นักสู้อาณาจักรเต๋าได้ปรากฏตัวขึ้นมาทั้งหมดอย่างแท้จริง และเสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังเต็มไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล ตอนนี้อาณาจักรทั้งหมดแทบจะกลายเป็นสนามรบไป!

เจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลยังคงบดขยี้ลงไปยังกลุ่มคนนอกคอกด้วยพลังอันแข็งแกร่ง เวลาเดียวกันนั้นก็รักษาเกราะป้องกันที่แยกส่วนสวรรค์ทั้งสามสิบสองชั้นออกไปจากสวรรค์ชั้นแรกอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้สวรรค์ชั้นแรกตกอยู่ในวงล้อม ไม่อาจจะได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มคนนอกคอกอื่นๆ

มันยังได้รักษาแรงกดดันที่ปกคลุมไปทั่วอาณาจักรขุนเขาทะเลไว้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าคนนอกคอกใดๆ ก็ตามที่อยู่ต่ำกว่าจักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้จะอ่อนแอลงไปอย่างเห็นได้ชัด!

การสู้รบที่เกิดขึ้นอยู่นี้ ทำให้เกิดเป็นเสียงตวาดและแผดร้องดังก้องออกไปทั่ว

ย้อนกลับไปยังขุนเขาทะเลที่แปด อาวุธสงครามของเมิ่งฮ่าวสาดประกายเจิดจ้าคล้ายกับเป็นดวงตะวันและจันทรา ขณะที่กรีดเฉือนตรงไปยังจักรพรรดิเต๋านอกคอกในชุดเกราะสีทอง

โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากมัน ขณะที่ชุดเกราะซึ่งปกคลุมอยู่ตรงหน้าอกแตกกระจายไป เกิดเป็นบาดแผลขนาดใหญ่ขึ้น เจตจำนงแห่งการทำลายล้างไหลซึมเข้าไปในร่างมัน ทำให้ต้องแผดร้องด้วยโทสะออกมา แต่ความหวาดกลัวก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ ถ้ามันไม่จ่ายค่าตอบแทนอย่างสูงลิ่วออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีเมื่อครู่นี้ ด้วยการสูญเสียความได้เปรียบไปเช่นนี้ก็ทำให้มันต้องถูกสังหารไปอย่างแน่นอน

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว จากนั้นก็โบกสะบัดมือออกไป ทำให้ภูเขาจำนวนมากปรากฏขึ้น เกิดเป็นรอยแตกฉีกขาดออกในความว่างเปล่า และอสูรโลหิตก็โผล่ออกมาพร้อมกับเสียงแผดร้องคำราม แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์รวมตัวกันและพุ่งตรงไปยังคนนอกคอก

แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่สิ่งรบกวนจิตใจเท่านั้น การสังหารที่แท้จริงกำลังพุ่งออกมาจากมือซ้ายของเมิ่งฮ่าว ระเบิดเป็นพลังแห่งขุนเขาทะเลออกไป!

เขาคือราชันในอนาคตของอาณาจักรขุนเขาทะเล และในตอนนี้เศษพลังแห่งขุนเขาทะเลก็ตกลงมาที่เบื้องหน้า กลายเป็นหัตถ์ยักษ์ทำท่าคว้าจับตรงไปยังจักรพรรดิเต๋านอกคอก

จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นลำแสง กวัดแกว่งอาวุธสงครามโจมตีไปอีกครั้ง ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับวิธีการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าว…ที่มักจะเป็นฝ่ายโจมตีไปอยู่ตลอดเวลา!

ขณะที่หัตถ์ยักษ์ซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากพลังแห่งขุนเขาทะเลตกลงไปยังจักรพรรดิเต๋านอกคอก ดวงตามันก็เบิกกว้างขึ้น ทันใดนั้นเกล็ดทั้งหมดบนร่างมันก็พุ่งขึ้นไป และมันก็ส่งเสียงกู่ร้อง จากนั้นเกล็ดทั้งหมดก็แตกกระจายไป กลายเป็นลมพายุที่เต็มไปด้วยพลังหกแก่นแท้ ระเบิดตรงไปยังพลังแห่งขุนเขาทะเล

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่เวทกลืนภูเขา อสูรโลหิต และแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ต่างก็พุ่งตรงไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร ชี้นิ้วมือข้างซ้ายออกไป

เวทผนึกอสูรรุ่นเจ็ด!

ทันใดนั้นเส้นใยกรรมก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบนศีรษะของคนนอกคอกชุดเกราะสีทอง พวกมันก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเครื่องหมายผนึก จากนั้นก็บดขยี้ลงไปบนร่างมัน ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวขยับมือร่ายเวทขึ้นอีกครั้ง ปลดปล่อยเวทผนึกรุ่นหกออกไป

เวทรุ่นหกคือเวทเป็นตาย ทำให้สัญลักษณ์เวทสีเทาปรากฏขึ้นบนหน้าผากของคนนอกคอก จากนั้นสัญลักษณ์เวทก็ระเบิดขึ้น ส่งผลให้โลหิตพุ่งกระจายออกมาจากหน้าผากของมัน แต่เวลาเดียวกันนั้นแสงอันโหดเหี้ยมก็ปรากฏขึ้นอยู่ในแววตาของคนนอกคอก

แววตานั้นทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องเปลี่ยนไปด้วยความหวาดกลัว เวลาเดียวกันนั้นจักรพรรดิเต๋านอกคอกก็พูดออกมาอย่างดุร้ายสี่คำ!

“แก่นแท้ชีวิต!” แทบจะทันใดนั้น กระแสพลังแก่นแท้ทั้งหกที่อยู่ภายในลมพายุก็หลอมรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นทะเลแห่งเปลวไฟสีดำ ส่งเสียงกระหึ่มพุ่งออกไปในทั่วทุกทิศทาง

เศษพลังจากอาณาจักรขุนเขาทะเลจางหายไปในทะเลแห่งเปลวไฟสีดำ ภูเขาหลอมละลาย อสูรโลหิตกระจัดกระจายออกไป จากนั้นเปลวไฟสีดำก็เปลี่ยนร่างเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกิ้งก่า ส่งเสียงแผดร้องคำรามขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

ในช่วงวิกฤตอันตรายนี้ เมิ่งฮ่าวโจมตีไปยังกิ้งก่าเปลวไฟด้วยอาวุธสงครามจนเกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้น เมิ่งฮ่าวดูคล้ายกับเป็นแมลงเมื่อเทียบกับคู่ต่อสู้ที่มีรูปร่างใหญ่ยักษ์ แต่อาวุธสงครามที่ทรงพลังก็กรีดเฉือนลงไปยังศีรษะของมันจนแยกออกในทันที!

เสียงแผดร้องโหยหวนดังก้องขึ้น แต่กิ้งก่าเปลวไฟสีดำตัวนี้ก็ก่อตัวขึ้นมาจากแก่นแท้ชีวิต และแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งจึงได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเท่านั้น ไม่อาจจะสังหารมันไปได้

กิ้งก่าเปลวไฟสีดำแผดร้องคำรามออกมา ไม่สนใจความเจ็บปวดใดๆ รู้สึกว่าต้องพยายามกลืนกินเมิ่งฮ่าวลงไปให้ได้เท่านั้น

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น และอาวุธสงครามก็หายไป

ถูกแทนที่ด้วยเยาปิงฮวงจ่งที่ปรากฏขึ้นมา และเขาก็ขว้างออกไปอย่างสุดแรง จนกลายเป็นลำแสงอสูรแทงตรงเข้าไปยังร่างของกิ้งก่าเปลวไฟสีดำ

กิ้งก่าสั่นสะท้าน จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวชั่วขณะก่อนที่จะระเบิดขึ้นในทันที แต่แรงระเบิดนั้นทำให้ภูเขาแห่งเปลวไฟสีดำพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นอาชาหมื่นตัว ปกคลุมร่างเขาไว้ในทันที

ขณะที่เปลวไฟเหล่านั้นห่อหุ้มร่าง ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบประกายขึ้น จากความรู้สึกถึงวิกฤตอย่างน่ากลัว ในตอนนั้นเองที่กระถางสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นมาเหนือศีรษะในทันที ประจุไฟฟ้าเต้นไปมา และเมิ่งฮ่าวก็สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกับคนนอกคอกห้าแก่นแท้ ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนักอย่างฉับพลัน

คนนอกคอกห้าแก่นแท้ไปปรากฏกายขึ้นตรงตำแหน่งที่เมิ่งฮ่าวเคยอยู่ในทันที ก่อนที่มันจะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ ทะเลแห่งเปลวไฟสีดำก็กลืนกินมันไปทั้งร่าง เสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวลอยขึ้นไปในอากาศ ขณะที่ร่างมันถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง

เวลาเดียวกันนั้นจักรพรรดิเต๋านอกคอกก็กระอักโลหิตออกมาหนึ่งคำขณะที่เวทรุ่นหกและเวทรุ่นเจ็ดของเมิ่งฮ่าวสร้างความเสียหายให้กับมันมากขึ้น

“บัดซบ!!” มันแผดร้องออกมาด้วยความขุ่นเคืองเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าตนเองมีความแข็งแกร่งกว่าเมิ่งฮ่าวมากนัก แต่หลังจากที่สูญเสียความได้เปรียบไป ก็ต้องพบเจอกับความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ขณะที่มันแผดร้องออกมาก็ขยับตัวเคลื่อนไหว ทะเลแห่งเปลวไฟสีดำหดตัวลงไป กลายเป็นกิ้งก่าขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ดูอ่อนแอกว่าครั้งที่แล้วมากนัก

กิ้งก่าเปลวไฟสีดำผงกศีรษะขึ้นและกู่ร้องออกมา จากนั้นก็มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาอันน่ากลัว ขณะที่พุ่งตรงไปโจมตี

เมิ่งฮ่าวแอบถอนหายใจ รู้ว่าตนเองสูญเสียความได้เปรียบไปแล้ว

โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาพุ่งถอยไปทางด้านหลัง ไม่ต้องการจะต่อสู้กับจักรพรรดิเต๋านอกคอกผู้นี้อีกต่อไป จากระดับพื้นฐานฝึกตนของเขาในตอนนี้ ทำให้โอกาสที่จะเอาชนะได้ในการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก

ถึงแม้ว่าเวทผนึกจะสามารถสะกดข่มฝ่ายตรงข้ามได้ชั่วคราว แต่ตอนนี้ก็สามารถจะคาดคิดได้ว่าเวทผนึกคงจะช่วยได้ไม่มากนัก วิธีใช้เวทผนึกที่ดีที่สุดก็คือโจมตีไปอย่างคาดไม่ถึง นอกจากนี้พลังสะท้อนกลับที่ใช้ออกไปกับใครบางคนที่แข็งแกร่งเช่นนั้น ก็เป็นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวสามารถจะอดทนได้แค่หนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น ถ้ามากไปกว่านี้เขาคงต้องบาดเจ็บอย่างสาหัส

เมื่อเมิ่งฮ่าวล่าถอยออกไป จักรพรรดิเต๋านอกคอกก็แหงนหน้าขึ้นและส่งเสียงแผดร้องด้วยโทสะ รีบไล่ล่าติดตามมา มันต้องการสังหารเมิ่งฮ่าวมากกว่าครั้งใดๆ จากก่อนหน้านี้ ยิ่งไปกว่านั้นความอัปยศที่มันรู้สึกได้จากการที่เกือบตายไปเมื่อครู่นี้ ก็ทำให้มันไม่กล้าจะประเมินเมิ่งฮ่าวต่ำจนเกินไปอีกแล้ว

ความจริงแล้วก็ค่อนข้างจะตรงกันข้ามอยู่ไม่น้อย ตอนนี้มันระมัดระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม อาวุธเวทกำลังหมุนวนอยู่รอบๆ ตัว เพื่อป้องกันเมิ่งฮ่าวใช้เวทรุ่นแปดมาบนร่างมันอีกครั้ง

“คิดจะหนี?” จักรพรรดิเต๋านอกคอกร้องตวาดขึ้น ดวงตาสาดประกายด้วยรังสีสังหาร ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสองจักรพรรดิเต๋าแห่งสวรรค์ชั้นแรกทำให้มันมีตำแหน่งที่สูงส่งเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่สามารถสังหารเมิ่งฮ่าวได้ ก็ทำให้มันต้องรู้สึกละอายใจไปโดยสิ้นเชิง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version