บทที่ 1096 สังหารผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว เมื่อลงมือแล้วต้องสังหาร!
ระบบดาวที่ 5 คุกเทพเจ้า
พลังวิเศษและวิชาเวทกำลังส่งเสียงกึกก้องดังลั่น
ไกลออกไป เจ้าเงาที่แปลงร่างเป็นต้นไม้ใหญ่กำลังพันรัดกันอยู่กับต้นไม้วิเศษกระจกแก้วต้นนั้น ต่างฝ่ายต่างพันรัดซึ่งกัน ต่างฝ่ายต่างปรารถนาจะกำราบอีกฝ่าย
เจ้าเงาที่อยู่ในนั้น ก็ปรากฏร่างออกมาและกำลังต่อสู้กับร่างที่เดินออกมาจากต้นไม้วิเศษ
เสียงดังต่อเนื่อง สายฟ้าฟาดไม่หยุดหย่อน
ใกล้เข้ามา ในค่ายกลผนึก 33 พลังอำนาจแห่งการลบเลือนปะทุขึ้น แสงของวิเศษที่แปรเปลี่ยนมาจากโล่ของสวี่ชิงพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อปิดกั้นประตูผีบนผืนนภา
โล่นี้ได้มาจากมหาจักรพรรดิหมิงเหยียน แฝงไว้ซึ่งพลังของดอกบัวดำ ในขณะที่แผ่เปลวเพลิงนรกออกมา ตัวมันเองก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า สูงเท่ากับประตูผี แล้วพุ่งเข้าปะทะอย่างกึกก้อง
ต่างฝ่ายต่างสั่นสะเทือน
ด้านล่าง แสงที่เกิดจากกรรไกรมหาจักรพรรดิ แฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายมหาจักรพรรดิ ส่องประกายเจิดจ้าอย่างบาดตา ตัดลงไปอย่างเต็มแรง ตัดขาดซึ่งผลกรรมเวรของธูปคร่าชีวิต
สุดท้าย…คือสวี่ชิงที่มือถือกระบี่จักรพรรดิ แสงกระบี่พุ่งทะยานดุจสายรุ้ง
เงาร่างที่เขาพุ่งทะยานไป คล้ายว่าตัดฟ้าเบิกแผ่นดินได้ แผ่พลังอำนาจสะท้านฟ้า กลายเป็นจิตสังหารท่วมฟ้า พลันพุ่งสังหารไปยังผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนในทันที
ในเสี้ยวขณะนี้ ถ้อยคำที่มหาจักรพรรดิผู้ถือกระบี่ เคยสั่งสอน ก็ดังก้องอยู่ในสมองของสวี่ชิง
“สมบัติปฐพีที่กล่าวคือเพลงกระบี่ ที่ข้าสร้างขึ้นในตอนนั้นเพื่อสังหารฆาตกรชั่วช้าที่เชี่ยวชาญวิถีธาตุดิน วิชาดาบนี้เน้นการกระตุ้นพลังแห่งปฐพี ใช้จิตแห่งกระบี่แทนเจตจำนงแห่งปฐพี เปลี่ยนพลังแห่งปฐพีให้เป็นปราณกระบี่”
“เมื่อรวมเข้าด้วยกัน ก็จะก่อเกิดเป็นกระบี่ปฐพี!”
ต่อให้เป็นความสามารถในการบรรลุ สัมผัสรับรู้อันน่าตื่นตะลึงของสวี่ชิงที่ทำให้กระทั่งนายท่านเจ็ดและรัฐทายาทต้องตกตะลึงงงงัน ทว่าในตอนนี้เขาก็เพียงแค่บรรลุได้ถึงกระบี่แรกของมหาจักรพรรดิครองกระบี่เท่านั้น ส่วนท่ากระบี่อื่นๆ ยังไม่เชี่ยวชาญ
ตอนนี้อยู่ในระบบดาวที่ 5 ที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้ เผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวที่สุขุมเยือกเย็นเช่นนี้ การลงมือของสวี่ชิงไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
จากการฉายประกายวาววามของกระบี่จักรพรรดิ จากพลังของสมบัติปฐพีแผ่ซ่านออกไป ทั่วทั้ง 8 ทิศก็สั่นสะเทือน
หนองน้ำโดยรอบทั้งหมดล้วนสั่นสะเทือน โลกใบเล็กฟองอากาศบนหนองน้ำก็เป็นเช่นนั้น
ควันเป็นกลุ่มๆ พวยพุ่งขึ้นจากพื้นดิน จากโลกใบเล็ก
ควันเหล่านี้ ไม่ได้มาจากสารอาหารของโลกใบเล็ก แต่เป็นพลังพลังปฐพีที่ได้รับการกระตุ้นพลังจากสมบัติปฐพีกระบวนท่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เพียงพริบตา หนองน้ำเดือดพล่าน โลกใบเล็กฟองอากาศเหล่านั้น ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
แผ่ควันนับไม่ถ้วน พุ่งตรงเข้าหาสวี่ชิง
ทั้งหมดนี้ฟังดูยาวนาน แต่ในความเป็นจริงแล้วเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น แทบจะในพริบตาเดียวที่สวี่ชิงมือถือกระบี่จักรพรรดิพุ่งออกมา ควันนับไม่ถ้วนก็รวมตัวกันมาจากทุกทิศทาง
แล้วพลันก่อเป็นกระบี่ขนาดมหึมาสะท้านฟ้านอกร่างสวี่ชิง!
ปกคลุมสวี่ชิงไว้ภายใน!
ราวว่าตัวสวี่ชิงเองได้กลายเป็นกระบี่เล่มนี้!
พลังกระบี่โหมกวาด ท้องฟ้าปั่นป่วน พื้นดินคำรามลั่น คุกเทพเจ้าต่างแผ่ระลอกดุจคลื่นทะเล
จากนั้น ท่ามกลางจิตใจที่สั่นสะท้านและร่างที่ถอยไปอย่างรวดเร็วของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนนั้น กระบี่ที่เกิดจากพลังแห่งปฐพี มาด้วยพลังอำนาจอันสะท้านฟ้าสะเทือนดิน มาด้วยความเร็วที่หาใดเปรียบ!
พุ่งตรงไปยังผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคน!
ทำลายล้างทุกสิ่ง!
“กระบี่เล่มนี้ ข้าขอรับเอาไปแล้ว!”
ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนรูม่านตาหดเล็ก ประโยคนี้ไม่ได้เอ่ยออกมา แต่เป็นความโลภที่เกิดขึ้นในใจ และในตอนนี้ก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป ตาซ้ายของเขาก็พลันเกิดคลื่นวนปรากฏขึ้น
รอยเต๋าปรากฏออกมา อำนาจในที่สุดก็ปะทุ!
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเป็นอันดับแรกคือ แม่น้ำหมอกสีแดงที่ไหลเวียนอยู่รอบร่างของเขาตลอดเวลา
แม่น้ำหมอกสายนี้คือสิ่งที่เกิดจากอำนาจของเขา ในตอนนี้จากการโคจรของรอยเต๋ามันก็พลันไหววูบ แล้วพลันแผ่กระจายออกไปทั่วทุกทิศจากรอบกายเขา
เสี้ยวขณะถัดมา…
สวี่ชิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดิน
อากาศเบื้องหน้าเขาราวกับมีแรงต้าน แรงต้านนี้พลันเพิ่มขึ้นในพริบตาอย่างมหาศาล ทำให้ความเร็วของเขาต้องลดลง แม้กระบี่สมบัติปฐพียังคงแผ่พลังทะลวงทำลายล้างออกมา…
ทว่าแรงต้านก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง
กระทั่งว่าเมื่อความเข้มข้นถึงระดับหนึ่ง มันก็กลายเป็นการป้องกันของอีกฝ่าย!
ไม่เพียงแต่ขัดขวางความเร็วของสวี่ชิง แต่ยิ่งต่อต้านปราณกระบี่ของเขาอีกด้วย
หากเป็นเพียงเท่านี้ก็คงช่างเถิด แต่อากาศในบริเวณนี้ เมื่อตกกระทบสวี่ชิงก็แปรเปลี่ยนเป็นแรงต้าน แต่เมื่อกระทบไปยังผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนคนนี้ กลับลดลง
ลดแรงต้านของอากาศทั้งหมด ลดการไหลของธาตุทั้งหมด
ภายใต้การหักล้างเช่นนี้ สิ่งที่แสดงออกมาภายนอกก็คือความเร็วของสวี่ชิงช้าลงเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวของเขาภายใต้แรงภายนอกก็ยิ่งเฉื่อยชา และทางผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนนั้น ความเร็วของเขาก็ไปถึงระดับที่น่าตกใจ
ความเร็วของเขารวดเร็วยิ่งนัก เพียงชั่วพริบตาก็หลบหลีกกระบี่สมบัติปฐพีของสวี่ชิงได้ มาถึงข้างกายสวี่ชิงทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความโลภรุนแรง ยกมือขวาขึ้น คว้าไปยังกระบี่จักรพรรดิในมือของสวี่ชิง
แม่นยำอย่างยิ่ง อีกทั้งการเลือกจังหวะก็เฉียบคมอย่างที่สุด
ไม่เปิดโอกาสให้สวี่ชิงโต้กลับแม้แต่น้อย
คว้เอาไว้!
แต่ยังไม่ทันที่ความตื่นเต้นในใจจะพุ่งสูงขึ้น กระบี่จักรพรรดิที่เขาคว้าไว้ กลับกลายเป็นภาพมายาทันที กระทั่งสวี่ชิงที่ถูกทำให้เชื่องช้าอยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นเพียงภาพลวงตาเช่นกัน
ภาพฉากนี้ ทำให้สีหน้าของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้เคร่งเครียด
“ความรู้ความเข้าใจถูกเปลี่ยนหรือ”
แทบจะในเสี้ยวพริบตาที่ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ตั้งสติขึ้นได้ ที่ไม่ไกลออกไป กระบี่สมบัติปฐพีที่แปลงมาจากสวี่ชิง ก็คว้าโอกาสนี้ปะทุพลังออกมาอย่างเต็มที่
ในเสี้ยวขณะนี้เมื่อครู่ เขาได้ใช้ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ที่รัฐทายาทมอบให้ ในช่วงที่สำคัญๆ อาศัยความโลภของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ที่มีต่อกระบี่จักรพรรดิ สุดท้ายทำให้การรับรู้ที่ยากจะสั่นคลอนของเขาคลาดเคลื่อนไปได้เล็กน้อย
ช่วงชิงโอกาสมาให้ตัวเองได้จากการนี้
เพียงแต่ว่าเวลาที่การรับรู้เปลี่ยนแปลงนั้นสั้นเกินไป อีกทั้งอำนาจของคนคนนี้ก็พิเศษ ดังนั้นสวี่ชิงจึงมีความคิดผุดขึ้นในชั่วขณะนั้น เขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ด้วยสมบัติปฐพี
ต่อให้สำแดงไพ่ตาย ด้วยปราณกระบี่ของท่านปู่เก้า สวี่ชิงก็ยังคงรู้สึกว่าบางทีอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้
เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายยังมีไพ่ตายและวิชาพิเศษอื่นอีกหรือไม่
เขาจำเป็นต้องแน่ใจ จำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขที่บีบให้อีกฝ่ายใช้ทุกวิชาออกมา
เหตุผลที่ทำเช่นนี้ก็เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือเมื่อโจมตีแล้วต้องสังหารให้สิ้นซากให้ได้!
ไม่ใช่แค่ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส
ยิ่งไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ สวี่ชิงจึงตัดสินใจในใจได้ในชั่วพริบตา
ดังนั้น การปะทุของกระบี่จักรพรรดิในตอนนี้ เป้าหมายจึงไม่ใช่ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคน แต่เป็นการใช้โอกาสอันสั้นนี้ เขาฟาดกระบี่สมบัติปฐพีไปยังพื้นดิน!
พูดให้ถูกคือฟันไปยัง… โลกใบเล็กฟองอากาศเหล่านั้น!
ในเมื่ออีกฝ่ายสุขุมเยือกเย็น เช่นนั้นก็ต้องทำให้จิตใจของอีกฝ่ายปั่นป่วนก่อน
มีเพียงทำให้จิตใจปั่นป่วนเท่านั้น จึงจะเกิดช่องโหว่ที่เมื่อลงมือแล้วจะต้องสังหารได้แน่ขึ้น
และสำหรับผู้พิทักษ์คนหนึ่งแล้ว วิธีการทำให้จิตใจปั่นป่วน ย่อมเป็นการพังทลายวงกว้างของสถานที่ที่ตนปกป้องคุ้มกันอยู่
ดังนั้น กระบี่นี้ของสวี่ชิง ดูเหมือนจะพุ่งเป้าไปที่ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือโลกใบเล็กฟองอากาศส่วนใหญ่ในที่แห่งนี้
ตอนนี้ปราณกระบี่ฟาดฟันลงมา ผืนแผ่นดินพังทลาย ในหนองน้ำทั้ง 8 ทิศ โลกใบเล็กฟองอากาศจำนวนมาก ราวกับถูกตัดขาดจากสวรรค์
ต่างส่งเสียงกึกก้อง ต่างพังทลายเป็นเสี่ยงๆ!
ผืนฟ้าของโลกใบเล็กเหล่านั้นส่วนใหญ่พังทลายลง ผู้แปลงพลังที่ยังไม่ทันฟื้นคืนชีวิต แต่ละคนต่างก็กายและจิตดับสูญท่ามกลางการหลับใหล
และเมื่อไม่มีเส้นขอบฟ้า สรรพชีวิตในโลกใบเล็กเหล่านี้ก็ดุจตื่นขึ้นจากห้วงฝัน แต่ละคนในขณะที่สับสนงุนงงและหวาดกลัว ก็ทำให้คุกเทพเจ้าแห่งนี้เข้าสู่ความโกลาหลครั้งใหญ่
การดูดซับพลังวิญญาณจึงลดลงอย่างมากในวงกว้างด้วยเหตุนี้
คลื่นวนที่ดูดซับพลังวิญญาณบนท้องฟ้า ในเสี้ยวขณะนี้ก็ไม่สามารถดูดซับได้มากขึ้นเช่นกัน
“เจ้ากล้านัก!!”
ภาพนี้ในที่สุดก็ทำให้จิตใจของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนคนนี้เกิดสายฟ้าฟาดผ่า สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มองคลื่นวนด้วยความหวั่นเกรงตามสัญชาตญาณ
เขาต้องการหยุดการลงมือของสวี่ชิง แต่ก็ไม่ทันแล้ว
และแต่เดิมภายใต้การควบคุมของเขาไม่มีทางเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นโอกาสที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เมื่อครู่
ในตอนนี้เห็นเหมืองวิญญาณพังทลาย พลังวิญญาณที่คลื่นวนดูดซับ ลดลงเป็นอย่างมาก จิตใจของเขาก็พลันปั่นป่วนรุนแรงอย่างห้ามไม่ได้
นี่คือเหมืองวิญญาณที่เขาดูแล แต่บัดนี้กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้ จิตสังหารในดวงตาของเขาก็รุนแรงยิ่งขึ้นในทันที ในตอนนี้ท่ามกลางเสียงคำรามต่ำ รอยเต๋าในดวงตาของเขาก็โคจรขึ้นอีกครั้ง
รอยเต๋าของเขานั้นพิเศษ มีพลังน่าหวาดหวั่นครั่นคร้าม แต่ติดที่ข้อจำกัดด้านพลังบำเพ็ญ การใช้แต่ละครั้งต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทน หากใช้ในวงกว้างหรือขั้นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น… ราคาค่าตอบแทนน่าตื่นตะลึงนัก
ดังนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากใช้มากเกินไป
แต่ในตอนนี้ ไม่ใช่ไม่ได้แล้ว
มือขวาของเขาพลันยกขึ้น กดลงบนพื้นดินด้านล่าง
ทันใดนั้น พลังแห่งอำนาจก็พุ่งลงมา กลายเป็นแรงต้านแล้วเข้มข้นขึ้นกลายเป็นเกราะป้องกัน แปรเปลี่ยนเป็นการสะกดควบคุม
ปกคลุมเหมืองวิญญาณที่พังทลายทั้งหมด ทำให้ความเร็วของการพังทลายเหมืองวิญญาณเหล่านั้นลดช้าลง หลังจากที่ปกคลุมอย่างต่อเนื่องใช้วิธีนี้เพื่อลดความเสียหายและมีความเป็นไปได้ที่จะกอบกู้คืน ร่างกายของเขาก็ยิ่งผอมแห้งลงไป ดวงตาฉายประกายเย็นเยือก
ในตอนนี้เขาก็ไม่สนเรื่องความสุขุมรอบคอบอีกต่อไปแล้ว เพราะการที่เขาอาศัยพลังแห่งอำนาจควบคุมเหมืองวิญญาณ ไม่อาจดำเนินไปได้นานเท่าใดนัก
เขาจะต้องรีบสู้รีบจบ แล้วซ่อมแซมโลกใบเล็กจากการนั้น ไม่เช่นนั้น หากคลื่นวนที่อยู่ด้านบนดูดซับได้ลดน้อยลงเป็นเวลานาน ผลที่ตามมาเขาแบกรับไม่ไหว
ดังนั้น เขาจึงกัดฟันกรอด ไม่เสียดายค่าตอบแทนของการใช้พลังอำนาจ ชี้ไปที่สวี่ชิง
พลังอำนาจ ปะทุขึ้นอีกครั้ง
สวี่ชิงร่างสะท้านเฮือก เขารู้สึกหายใจไม่ออก
พลังวิญญาณ อากาศ…ทุกอย่างที่เป็นธาตุอากาศในบริเวณรอบตัวเขาถูกดึงออกไปทันที ในชั่วขณะเดียวกับที่ก่อเป็นแรงบีบอัด แม้แต่ในร่างของเขาก็เป็นเช่นเดียวกัน
ตุ่มบวมแดงมากมายปูดนูนผุดขึ้นบนร่างของเขาทันที ดูน่าสยดสยองขนลุกขนพองนัก
ยิ่งมีเสียงระเบิดกำลังจะปะทุขึ้น
แต่ใจของสวี่ชิงกลับไม่ตื่นตระหนก
“โอกาสที่ข้ารอคอยกำลังจะมาถึงแล้ว”
สวี่ชิงมองไปยังผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนคนนี้ มือขวาพลันยกขึ้น มิติสูงสุดในร่างก็พลันโคจรขึ้นดังกึกก้องเลื่อนลั่น
ในวันเวลาในโลกใบเล็กช่วงนั้น สวี่ชิงได้นึกย้อนถึงคลื่นวนที่เขาเห็นเมื่อเดินทางผ่านห้วงสมุทรบรรพกาลอยู่ตลอด ในนั้นมีการใช้มิติ คนอื่นได้เจอบางทีอาจสัมผัสไม่ได้มากเท่าไร
แต่สำหรับเขาผู้มีพลังมิติ ภาพคลื่นวนนั้นราวกับอาจารย์ที่กำลังถ่ายทอดวิชา
กำลังบอกเขาว่า มิติ ควรใช้เช่นไร
ดังนั้น ในเสี้ยวขณะถัดมา จากมิติสูงสุดในร่างของสวี่ชิงแผ่ออกไป บริเวณที่เขาอยู่ก็พลันบิดเบี้ยว ราวกับถูกยืดออก กลายเป็นอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต
จากนั้นก็ตัดเฉือนและสกัดกั้น!
ตัดมิติที่อยู่ สกัดกั้นพลังอำนาจแห่งธาตุ ทำให้บริเวณ 10 ลี้รอบตัวสวี่ชิงมีขอบเขต
กลายเป็นช่องตารางช่องหนึ่ง!
ช่องตารางนี้ดำรงอยู่เป็นอิสระ อยู่ภายใต้การควบคุมมิติสูงสุดของสวี่ชิง
และยังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงพริบตาก็กลายเป็นร้อยกว่าช่อง มากมายเต็มไปหมด ปกคลุมสวี่ชิงไว้ในนั้นด้วยรูปร่างที่ไม่สม่ำเสมอ
แม้ธาตุอากาศทุกอย่างล้วนกำลังถูกดึงออกไป…แต่ มิติหลายร้อยทุกครั้งที่มีชั้นที่เพิ่มขึ้น ก็เท่ากับว่ามีโลกเพิ่มขึ้นอีกโลกหนึ่ง
สุดท้ายคือ การย้อนทวน
สวี่ชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคน เสี้ยวขณะถัดมาเสียงที่ราวกับกระจกแตก ก็ดังก้องไปทั่วทุกทิศทาง
“พลังอำนาจแห่งธาตุอากาศของเจ้า มีพลังระเบิด แต่ไม่ว่าจะระเบิดอย่างไร ก็ยังไม่เทียบเท่าการพังทลายของมิติ” สวี่ชิงเอ่ยอย่างสงบนิ่ง
ในชั่วพริบตา ช่องตารางนับร้อยก็แตกสลายทั้งหมด ภายใต้เสียงที่ดังต่อเนื่อง พายุแห่งมิติหอบม้วนมาด้วยเศษมิตินับไม่ถ้วน ก็ปะทุขึ้นจากร่างของสวี่ชิงอย่างกึกก้อง
ส่วนหนึ่งพัดกวาดไปทั่วทุกทิศ ทำให้การกู้สถานการณ์เหมืองวิญญาณของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวล้มเหลว ทำให้เขายิ่งทวีความร้อนรนและโกรธเกรี้ยว จิตใจปั่นป่วนต่อเนื่อง
อีกส่วนหนึ่งก็พุ่งตรงเข้าใส่ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว
ภาพนี้ทำให้ แสงรอยเต๋าในดวงตาของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ส่องประกายเจิดจ้าวาววาม
“เป็นวิถีแห่งมิติอย่างนั้นหรือ!”
จิตใจของเขาสั่นสะเทือน ยกมือขวาขึ้นชี้ไปที่ท้องฟ้า
ฟ้าดินเกิดความร้อนและเย็นขึ้น!
นั่นคือความร้อนและความเย็นที่เกิดจากอากาศ และการปะทะกันของทั้ง 2 ก็กลายเป็นลมกระโชกแรงที่พัดกึกก้องไปทั่วบริเวณนี้
ลมนี้ส่งเสียงกึกก้องเลื่อนลั่น กระทั่งว่าเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เมื่อรวมกันแล้วก็ราวกับพลังอำนาจแห่งสวรรค์ พุ่งเข้าปะทะกับพายุแห่งมิติ
เสียงกึกก้องสะท้านฟ้าปะทุขึ้นอย่างท่วมท้น
หลังจากปะทะกันแล้ว ฟ้าดินก็โกลาหล มิติแตกสลายและพลังอำนาจแห่งสวรรค์ ก็สอดประสานซึ่งกันและกัน กลายเป็นความปั่นป่วน ทำให้ทุกสิ่งพร่าเลือน
ในความพร่าเลือนนั้น ลมกำลังพัดกรรโชก
ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนที่มุมปากมีเลือดสดๆ ไหลออกมา หลังจากที่เขาปะทุพลังอำนาจรอยเต๋าเช่นนี้ ค่าตอบแทนของมันก็มาถึงในที่สุด แต่จิตสังหารในดวงตาไม่ลดลงแม้แต่น้อย
และในสายลมกระโชก สวี่ชิงก็ย่ำแย่ไปเช่นกัน เลือดเนื้อของเขากำลังหลุดลอก ร่างกายเลือดเนื้อที่เหวอะหวะเละเทะไปทันที
แต่แววตาของเขาก็ยังคงเฉียบคม
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ เวลาสูงสุดในร่างของเขาก็พลันปะทุขึ้น
พลังแห่งกาลเวลาปะทุพวยพุ่งขึ้นจากร่างของเขา แปรเปลี่ยนนาฬิกาแดดอันยิ่งใหญ่มหาศาลเรือนหนึ่ง จับเป้าหมายไปยังผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว หมุนย้อนเวลา ทำให้ภาพฉากที่มุมปากของเขามีเลือดสดๆ ไหลถูกตรึงไว้!
จากนั้น จิตสังหารในดวงตาของสวี่ชิงก็ปะทุขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อโจมตีแล้วจะต้องสังหารได้แน่ มือขวาของเขายกขึ้น และพลังช้อนจันทราในบ่อน้ำก็พลันปะทุพวยพุ่งในเสี้ยวขณะนี้เช่นกัน
ท้องฟ้ากลายเป็นบ่อน้ำ โลกเกิดระลอกคลื่นน้ำขึ้น
ส่วนผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนยืนอยู่บนผิวน้ำ วิชาและร่างกายของเขาทุกอย่างสะท้อนอยู่ในน้ำ
นาฬิกาแดด ตรึงกาย
เงาจันทร์ในบ่อน้ำ ตรึงวิญญาณ
รวมกับการลงมือของสวี่ชิงที่ทำให้จิตใจของอีกฝ่ายปั่นป่วนก่อนหน้านี้…
ในขณะนี้ โอกาสที่สวี่ชิงรอคอย ก็มาถึงในที่สุด!
เสี้ยวขณะถัดมา ในร่างกายของเขาก็มีปราณกระบี่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน สั่นคลอนผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวกลุ่มหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นมา
นั่นเป็นปราณกระบี่ของปู่เก้า นั่นคือปราณกระบี่ที่สามารถสังหารผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวได้
ทันทีที่กระบี่เล่มนี้ปรากฏขึ้น ผืนนภาหมองหม่น ผืนดินส่งเสียงกึกก้องเลื่อนลั่น กระบี่จำนวนมหาศาลในโลกใบเล็กคุกเทพเจ้าแห่งนี้ต่างสั่นสะเทือน ต่างก็ส่งเสียงกึกก้องประสาน
ต่างปะทุพลังพร้อมกัน พุ่งออกมาจากเส้นขอบฟ้าที่พังทลาย รวมตัวกันอยู่ด้านนอก ปกคลุมไปยังความว่างเปล่าของที่แห่งนี้ ครอบครองพื้นที่ทั้งหมด สุดท้ายก็หลอมรวมเข้ากับปราณกระบี่ของท่านปู่เก้า ทำให้มันส่องประกายเจิดจ้าวาววับ พลังกระบี่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
สั่งสมพลังอย่างต่อเนื่อง
และพลังสังหารทำลายล้างสุดยอดที่แฝงอยู่ในปราาณกระบี่ ก็กำลังสั่งสมพลังเช่นกัน
หลังจากสั่งสมพลังอยู่หลายอึดใจ จิตสังหารสะท้านโลกก็พลันปะทุขึ้น ในขณะนี้ ฟ้าดินฉายประกาย มีเพียงกระบี่เท่านั้นที่สูงส่งทรงพลัง
พุ่งตรงไปยังผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนทางนั้น สวรรค์ร่วงลงมา กระบี่พุ่งลงมา จิตสังหารซัดลงมา
ด้วยท่าทีที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง เข้าแทนที่ทุกสิ่งในดวงตาและการรับรู้ของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนคนนี้อย่างแข็งกร้าวทรงอำนาจ
หลบไม่ได้ เลี่ยงไม่พ้น ขวางไม่ได้!
ปราณกระบี่ซัดมา ร่างและวิญญาณก็พังทลาย ทั้งกายและจิตดับสลาย!
เมื่อโจมตีแล้วจะต้องสังหารให้ได้!!
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
