บทที่ 1095 แสงของวิเศษ แสงดาบ แสงกระบี่
ในการรวมแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ให้เป็นหนึ่งของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว บทบาทของมหาจักรพรรดิวิชาเซียนนั้นพิเศษยิ่ง
วิชาเซียนที่เขาสร้างขึ้นทำให้กำลังรบของผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว พลังการสังการทำลายล้างมหาศาล อีกทั้งยังแปลกประหลาดยิ่งนัก
ในนั้นมีวิชาที่โหดร้ายไร้ความปราณีไม่น้อย
ทำให้เผ่าพันธุ์อื่นๆ ในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ที่เป็นศัตรูกับจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวในยุคนั้น เกลียดชังเป็นที่สุด แต่ก็อับจนปัญหาไร้ทางต่อกร
ทว่าหลังจากรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งแล้ว ด้วยเหตุผลว่าวิชาเซียนนั้นทำลายคุณธรรมแห่งสวรรค์ ด้วยเหตุนี้ วิชาเซียนทั้งหมดจึงถูกผนึกไว้ ไม่ถ่ายทอดส่งต่อออกไปอีก
ส่วนตัวมหาจักรพรรดิวิชาเซียนเองก็ด้วยเหตุผลนานัปการ สุดท้ายก็ถูกประวัติศาสตร์บดบังไป
กลายเป็นมหาจักรพรรดิเพียงคนเดียวที่ชนรุ่นหลังน้อยคนนักจะรู้จัก
ส่วนวิชาเซียนเหล่านั้น ในยุคหลังเนื่องจากการมาถึงของเสี้ยวหน้า และการลงมาเยือนของเทพเจ้า เผ่าพันธุ์ทั้งหลายส่วนใหญ่ล้วนจากไป ก่อตั้งเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงได้มีการแพร่หลายอีกครั้ง
และวิชาเซียนของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ก็เนื่องจากค้นพบตำหนักวิชาเซียนมากมาย ด้วยเหตุนี้เผ่าพันธุ์ทั้งหลายถึงศึกษาเรียนรู้กันอย่างอ้อมๆ
แต่ในระบบดาวที่ 5 นี่คือการแสดงวิชาเซียนเป็นครั้งแรก
เมื่ออยู่ในการรับรู้ของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ จิตใจของเขาย่อมสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จากการสำรวจของเขา ไม่ว่าจะเป็นมหาสมุทรแห่งปรารถนาที่ปกคลุมปีศาจทั้ง 9 หรือคลื่นวนที่ปรากฏขึ้นในทะเลแห่งความรู้สึกของเขาในตอนนี้ ล้วนทำให้ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ สายตาเคร่งเครียด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างหลัง ความเย็นยะเยือกที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำโดยไม่ถูกตรวจพบ และต่อมาเส้นผมสีขาวกลายเป็นคลื่นวน แปรเปลี่ยนเป็นประตูและพุ่งออกมานั้น ล้วนเผยให้เห็นถึงความยากที่จะรับมือของวิชาเซียน
ความรู้สึกอันตรายรุนแรงกลุ่มหนึ่งก็พลันปะทุขึ้นในร่างของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ดุจกระแสน้ำเชี่ยว คล้ายจะท่วมจมทุกสิ่ง กระทั่งว่าความทรงจำของเขาก็เกิดสัญญาณที่ไม่ใช่ของตนเอง
ราวกับว่าทุกสิ่งในความทรงจำ ณ ขณะนี้ ล้วนกลายเป็นศัตรูของตัวเองทั้งสิ้น
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่ลังเลแม้แต่น้อย 2 มือพลันยกขึ้น มือหนึ่งแตะไปที่หว่างคิ้ว อีกมือแตะไปบนหน้าอก กดลงพร้อมกัน
เสียงระเบิดดังกังวาน อาศัยพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่งมหาศาล มือที่แตะบนหว่างคิ้วส่งผลกระทบต่อวิญญาณและความทรงจำ ทำให้การเปลี่ยนแปลงอันแปลกประหลาดในความทรงจำหยุดชะงักลง
มือที่แตะบนหน้าอก ผนึกทะเลความรู้สึกของตนเอง ทำให้การปะทุภายในถูกบังคับสะกดลงอย่างแข็งกร้าว
เมื่อทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ดวงตาของเขาก็พลันส่องประกายแดงก่ำ เปิดปากกว้างอย่างรวดเร็ว แล้วสูดลมหายใจเข้าอย่างฉับพลัน
ทันใดนั้น ปีศาจทั้ง 9 ที่ถูกมหาสมุทรแห่ง 6 ปรารถนาโอบล้อม ก็ต่างคำรามขึ้น ร่างกายพังทลายกลายเป็นไอปีศาจเข้มข้น หอบม้วนกลับมา พุ่งเข้าสู่ปากที่อ้ากว้างของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นั้นเ ไหลทะลักเข้าไป
เขากลืนกินมันลงไปทั้งหมด
ร่างกายของเขาในชั่วขณะนี้ ส่งเสียงดุจสายฟ้าฟาด รูปร่างที่ผอมแห้งแต่เดิมในเสี้ยวพริบตาต่อมาพลันขยายใหญ่ขึ้น ในเลือดเนื้อพองโต ผิวเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร่างทั้งร่างจากความสูงปกติก็พลันกลายเป็นยักษ์สูงร้อยจั้ง
บนร่างมีจิตสังหารท่วมท้น ยิ่งมีเปลวเพลิงปีศาจแผ่ออกมาจากเท้า ปกคลุมไปทั่วทุกทิศ ขณะเดียวกันก็มีความบ้าคลั่งสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ปะทุขึ้นบนร่างของเขาอย่างกึกก้อง
ใช้จิตสังหารนี้ ผสานความบ้าคลั่งของตนเอง กวาดโหมไปทั่วร่าง ค้นหาส่วนที่ถูกวิชาเซียนรุกราน แล้วฉีกกระชากออกอย่างแรง!
นี่คือหนึ่งในไพ่ตายของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ มารพิฆาตเยือนโลกา
ในความรางเลือนราวกับมีเสียงแตกเปรี๊ยะๆ ดังมา สีหน้าของสวี่ชิงเคร่งขรึม เขารับรู้ได้ว่าวิชาเซียนของตนถูกฝืนบังคับฉีกขาด และสิ่งที่ถูกฉีกขาดไปพร้อมกันยังมีความทรงจำส่วนที่ถูกวิชาเซียนรุกรานด้วย
ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ฉีกออกอย่างรุนแรง
เมื่อทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้ที่แปลงเป็นมารพิฆาต ในดวงตาสีแดงก่ำทั้งสองข้างฉายแววบ้าคลั่ง ร่างกายไหววูบ พุ่งตรงไปหาสวี่ชิง
พายุแผ่ซ่าน รัศมีอำนาจท่วมฟ้า สวี่ชิงเพียงแค่สัมผัสเล็กน้อย เลือดเนื้อของเขาก็เจ็บปวดไปหมด
และผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวคนนั้นเรวดเร็วยิ่งนัก แปรเปลี่ยนเป็นรอยเงา ชั่วพริบตาเดียวก็ประชิดเข้ามาใกล้ ฝ่ามือหนึ่งก็ตบลงมา
ปฏิกิริยาตอบสนองของสวี่ชิงก็รวดเร็วเช่นกัน พลังบำเพ็ญทั้งหมดปะทุขึ้น ร่างกายถอยร่นไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็โดนพลังฝ่ามือนั้นกระทบอยู่ดี ร่างสั่นสะท้าน กระดูกทั้งร่างส่งเสียงแตกหัก เลือดสดๆ กระอักออกมาอย่างบ้าคลั่ง
พลังของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว น่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน
หากเปลี่ยนเป็นผู้บำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะคนอื่น เกรงว่าตอนนี้ที่แตกหักคงไม่ไม่ใช่แค่กระดูก แต่คงกายและจิตแหลกสลายไปแล้ว
แต่ร่างเซียนสุดยอดของสวี่ชิงมีจุดที่ไม่ธรรมดา ตอนนี้แม้จะบาดเจ็บ แต่อาศัยพลังจากฝ่ามือ ความเร็วของเขาได้รับการเพิ่มพลัง ขณะตีลังกาถอยร่นก็สร้างระยะห่าง
ไม่ได้เลือกที่จะหลบหนีต่อ แต่เมื่อทิ้งระยะห่างแล้ว อีกทั้งผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวคนนั้นภายใต้การปะทุลังอย่างบ้าคลั่งก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง ดวงตาของสวี่ชิงก็พลันฉายประกายเย็นเยือก
ยกมือขวาขึ้น แล้วพลันซัดไปทางผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคน
ธาตุทองต่างคมดาบ ธาตุดินเป็นแท่นวิถี ธาตุไม้เป็นร่องดาบ ธาตุน้ำเป็นแกนเชื่อม ธาตุไฟเป็นพลังสังหาร
นี่คือ แท่นประหารเทพเจ้าที่สวี่ชิงสร้างขึ้นใหม่ด้วยธาตุทั้ง 5 ของตนเอง!
ตอนนี้ในเสี้ยวพริบตาที่มือขวาของเขากดลงไป แท่นประหารเทพเจ้า 5 ธาตุที่พลังมหาศาลสะท้านฟ้า ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าสวี่ชิง ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นั้น
หุ้มล้อมเขาไว้ภายใน
“ประหาร!” สวี่ชิงคำรามเสียงต่ำ
ทันใดนั้น แท่นประหารเทพเจ้าก็จับเป้าหมายพลัง ปิดกั้นทุกทิศทาง ประทับทุกเส้นทาง ภายใต้การปะทุอย่างบ้าคลั่งของพลังไฟ ภายใต้แสงดาบที่ส่องประกายวาววาม คมดาบก็พลันร่วงลงมา
เสียงฉับดังขึ้น!
คมดาบตกลงบนคอของร่างมารพิฆาตของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคน ทว่า แท่นประหารเทพเจ้าที่เคยไร้เทียมทาน กลับไม่สามารถแยกศีรษะออกจากร่างของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ได้
แต่กลับฟันลงไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง ก็ถูกพลังมหาศาลปะทะเข้าอย่างรุนแรง ถูกฝืนบังคับให้ค้างอยู่ตรงนั้น
ขณะที่เลือดสดๆ หลั่งไหล ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนก็ส่งเสียงคำรามก้องฟ้า ร่างกายของเขาก็พลันเกิดภาพซ้อน เป็นปีศาจยักษ์ทั้ง 9 ที่ถูกเขาสูบเข้าไปนั่นเอง
ปีศาจยักษ์ทั้ง 9 กึ่งโปร่งใส ราวกับเงาวิญญาณลอยขึ้นมาจากร่างของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว พุ่งไปยังแท่นประหารเทพเจ้า ในพริบตาที่สัมผัสกันก็พลันระเบิดออก
ใช้วิธีการระเบิดเช่นนี้ โจมตีแท่นประหารเทพเจ้า
ในพริบตาเดียว จากเสียงระเบิดที่ดังออกมา 9 ครั้ง แท่นประหารเทพเจ้าก็สั่นสะเทือนต่อเนื่อง สุดท้ายก็ไม่อาจต้านทานได้ แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ไปในฟ้าดิน
จิตใจของสวี่ชิงปั่นป่วน เลือดสดๆ กระอักออกมา ร่างกายถอยร่นอีกครั้ง
ส่วนผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวมารพิฆาตตนนั้น หลังจากแท่นประหารเทพเจ้าพังทลาย และปีศาจทั้ง 9 จากไปแล้ว กายเนื้อของเขาก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็กลับมาเป็นรูปลักษณ์วัยกลางคนดังเดิม
ที่คอมีรอยเลือดทางหนึ่ง มีเลือดสดๆ ไหลออกมา 2-3 หยด แต่บาดแผลนั้นก็กำลังสมานกันอย่างที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะฟ้าประทาน ด้วยพลังบำเพ็ญระดับเตรียมสู่เทวะ 7 โลก วิชาที่แสดงออกมาแต่ละวิชาล้วนแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ” เสียงของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนดังก้อง
ดูเหมือนเอ่ยปากพูดตามธรรมดา ถ้อยคำก็ปกติ แต่ในชั่วขณะที่ดังออกมา จิตใจของสวี่ชิงก็รู้สึกถึงวิกฤตอันตราย
เสี้ยวขณะถัดมา รอบกายของสวี่ชิง มิติพลันแผ่ระลอก ค่ายกลมากมายก็พลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ
เป็นค่ายกล 3,300 ค่ายกลก่อน จากนั้นก็เป็น 33,000 ค่ายกล แล้วตามมาด้วย 330,000 ค่ายกล!
ค่ายกลนับไม่ถ้วน พุ่งออกมาจากความว่างเปล่า มากมายมหาศาลปกคลุมทั่วฟ้าดิน ใช้ความเร็วที่น่าตื่นตะลึง พุ่งกดดันไปยังสวี่ชิงทางนั้น
นี่คือพลังวิเศษอีกอย่างหนึ่งของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคน!
ค่ายกลผนึก 33(อ่านว่าสามสามนะครับ ไม่ได้อ่านว่าสามสิบสาม)!
33 ที่ว่านั้น คือขอเพียงแค่คำพูดเขาเอ่ยออกมามีจำนวนพยางค์ตรงกับ 33 คำ เช่นนั้นเพียงเสี้ยวความคิดของเขาก็สามารถระเบิดพลังออกมาได้
พลังวิเศษนี้ซ่อนเร้น ผู้ที่ไม่รู้ยากที่จะรู้ได้ล่วงหน้า
สวี่ชิงเพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก ไม่อาจหลบหลีกได้เลย รอบด้านทั่วทุกสารทิศล้วนเต็มไปด้วยค่ายกล ในช่วงเวลาวิกฤติอันตราย ดวงตาขวาของเขาก็พลันส่องประกาย ภายในมีรอยเต๋าไหลเวียน
อำนาจแห่งการลบล้างพลันปะทุขึ้น
ลบเลือนค่ายกลทั้งหมดที่มองเห็น!
เสี้ยวขณะถัดมา ค่ายกลก็ยังคงดำเนินต่อไป และถูกลบล้างไปอีกจำนวนมาก เพียงพริบตาสวี่ชิงก็ถูกขังอยู่กับที่ รอบกายเขามีเสียงกึกก้องไม่หยุด ประกายแสงส่องวูบวาบ ระลอกคลื่นพลังรุนแรง
“ในที่สุดก็ทำให้เจ้าใช้อำนาจได้เสียที ข้าก่อนหน้านี้ก็คาดเดาไว้แล้วว่าเจ้าไม่น่าจะไม่มีพลังอำนาจ”
กลางท้องฟ้า ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนมองภาพฉากนี้ พลางเอ่ยเสียงเย็นชา
เขาไม่เคยประเมินสวี่ชิงต่ำ ไม่ว่าจะเมื่อครู่หรือตอนนี้
เขารู้ดีว่าผู้บำเพ็ญโดดเดี่ยวที่มาจากนอกระบบดาวเช่นนี้ ย่อมต้องมีไพ่ตายติดตัว
อีกทั้งวิเคราะห์จากความสงบนิ่งของอีกฝ่าย ไพ่ตายใบนี้มีแนวโน้มสูงว่าสามารถสร้างความบาดเจ็บเสียหายให้กับระดับขั้นเจ้าเหนือหัวได้
ดังนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาดูเหมือนจะลงมือ แต่ความจริงแล้วก็แบ่งสมาธิส่วนหนึ่งไว้เพื่อป้องกัน
แม้จะสู้กันมาจนถึงตอนนี้ อีกฝ่ายได้แสดงวิชาดาบสังหารที่ดูเหมือนเป็นไพ่ตายแล้ว อีกทั้งตนเองก็ได้ใช้ค่ายกลผนึก 33 แล้ว แต่ในใจของ ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนก็ยังไม่ประมาท แต่กลับดวงตาส่องประกาย
เขาจะบีบให้สวี่ชิงใช้ไพ่ตายออกมา
ดังนั้น ในขณะที่สวี่ชิงกำลังใช้พลังอำนาจลบเลือนเพื่อทำลายค่ายกล เขาก็พลันยกมือขึ้นสะบัด
เอาของวิเศษชิ้นหนึ่งออกมา
นั่นคือ เมล็ดพันธุ์เม็ดหนึ่ง
ในพริบตาที่ปรากฏขึ้น เมล็ดพันธุ์เม็ดนี้ก็พลันงอกออกมาเพียงอึดใจเดียวก็พลันขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นต้นกล้า กลายเป็น ต้นไม้ กลายเป็นต้นไม้ยักษ์!
สูง 49 จั้ง!
ทั้งต้นราวกับกระจกผลึกแก้ว ใสกระจ่างอย่างยิ่ง ใบไม้ที่ผลิออกมาก็เช่นกัน ดูแล้วแสงของวิเศษส่องประกายงดงามหาใดเปรียบ
ส่วนหน้าที่ของมันคือ ดูดซับ
มันสามารถดูดซับกลิ่นอายที่มาจากสวี่ชิงและร่องรอยวิชาที่สำแดงออกมารอบๆ สนามรบแห่งนี้ ใช้วิธีการที่เหลือเชื่อไปดูดซับไปทั้งหมด
จากนั้น บนลำต้นก็พลันเกิดรอยรอยประทับ 3 ตราปรากฏขึ้น
ตราหนึ่งคือมือวิถีสวรรค์ 5 ธาตุของสวี่ชิง
ตราหนึ่งคือวิชาเซียน
ตราหนึ่งคือแท่นประหารเทพเจ้าที่ใช้ไปเมื่อครู่
เมื่อตราประทับทั้ง 3 ดวงปรากฏขึ้น ก็พลันหลอมรวมกันและกันในชั่วเสี้ยวพริบตา ก่อเป็นเงาร่างมนุษย์ร่างหนึ่งบนลำต้น
เมื่อมองจากเค้าร่าง เงามนุษย์นี้… เหมือนกับสวี่ชิงทุกประการ
จิตสังหาร ปะทุออกมาจากเงาร่างมนุษย์ร่างนี้ จับเป้าหมายมายังสวี่ชิงที่อยู่ไกลออกไป
สวี่ชิงที่กำลังใช้พลังอำนาจลบเลือนทำลายค่ายกลอยู่ จิตใจก็พลันสั่นสะท้านไปทันที
“สมบัติ ชิ้นนี้…”
สมบัติชิ้นนี้ไม่เพียงแต่สามารถดูดซับได้เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างร่างที่สอดคล้องกันได้อีกด้วย
ในตอนนี้ร่างที่เหมือนกับสวี่ชิงทุกประการนี้ กำลังดิ้นรน จะพุ่งออกมาจากลำต้น ส่วนลำต้นก็กำลังฉีกขาด เงาร่างนี้กำลังจะปรากฏสู่โลกแล้วเต็มที
อันตรายยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น สวี่ชิงไม่ลังเล แผ่ความคิดออกไป “เจ้าเงา!”
ในเสี้ยวพริบตาที่ความคิดของเขาผุดขึ้น เงาที่อยู่ใต้เท้าของสวี่ชิงก็พลันปะทุขึ้น ราวกับความมืดมิดสุดขีด ปกคลุมไปทั่วทุกทิศทาง หลังจากเสียงหัวเราะชั่วร้ายดังก้อง ต้นไม้สีดำต้นหนึ่งก็พลันผุดขึ้นจากดิน
ยอดไม้สีดำ ลำต้นสีดำ ทั้งยังมีโลงศพสีดำที่ห้อยลงมาดุจลูกตุ้มนาฬิกา ตลอดจนดวงตาแปลกประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนที่เบิกโพลงพร้อมกัน จับเป้าหมายไปยังต้นไม้วิเศษกระจกแก้ว แล้วกระโจนเข้าใส่
“ยังไม่ใช้อีกหรือ…”
ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนหัวเราะเสียงเย็น ไม่ได้เข้าใกล้ แต่กลับยกมือขวาขึ้นกลางอากาศ แล้วคว้าไปยังม่านฟ้าอย่างแรง
“ประตูผีจงเปิด จิตอาฆาตแห่งสวรรค์จงมา!”
จากการคว้านี้ ฟ้าดินก็พลันมืดมิด ประตูกระดูกสีดำบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในฟ้าดิน
ประตูนี้เก่าแก่ ฉายภาพเงาออกมาด้วยวิชาเวท ในชั่วขณะที่ตั้งตระหง่าน เสียงคร่ำครวญและเสียงกรีดร้องอันน่าเวทนามากมายก็ดังออกมาจากภายในประตู
จากนั้น กรงเล็บกระดูกขนาดมหึมาก็ยื่นออกมาจากภายในประตู หลังจากที่คว้ากรอบประตูไว้ กลิ่นอายแห่งความตายก็ปะทุขึ้นอย่างกึกก้อง แปรเปลี่ยนวิญญาณร้ายนับไม่ถ้วน วนล้อมอยู่นอกประตู
และตัวตนน่าหวาดกลัวที่อยู่ภายในประตูก็กำลังคลานออกมา
ยังไม่จบแค่นั้น
ทั้งๆ ที่สำแดงค่ายกลผนึก 33 ขังสวี่ชิงไว้แล้ว ทั้งๆ ที่เปิด ประตูผี อัญเชิญจิตอาฆาตแห่งสวรรค์ที่ว่ามาแล้ว
แต่ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนผู้นี้ก็ยังดวงตาฉายแววเย็นเยือก ยกมือนำธูปสีม่วงออกมา 1 ดอก
“ธูปคร่าชีวิตจุดติด ผูกพันชะตากับเจ้า ธูปดับคนตาย!”
ทันทีที่เขาพูด ธูปดอกนี้ก็พลันจุดติดขึ้นมา
เสี้ยวขณะถัดมา สวี่ชิงราวกับต้องคำสาป ชีวิตพลันรั่วไหล
“ลืมบอกเจ้าไป ว่าข้าคนนี้เหตุที่ได้รับคำสั่งจากตระกูลให้เฝ้าเหมืองวิญญาณแห่งนี้ ไม่ใช่เพราะพลังบำเพ็ญของข้าคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด แต่เป็นเพราะข้าทำอะไรจะคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยเป็นอันดับแรกเสมอมา”
กลางท้องฟ้า ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว วัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ
“ดังนั้น หากเจ้ายังไม่เตรียมจะใช้ไพ่ตายของเจ้า เช่นนั้น… เจ้าก็จะไม่มีโอกาสแล้ว!”
ดวงตาของสวี่ชิงฉายแววเฉียบคม เสี้ยวขณะถัดมา บริเวณที่ค่ายกลปกคลุมก็พลันมีเสียงกังวานดังขึ้น เปลวเพลิงสีดุจดอกไม้เบ่งบาน วิหคทองตัวหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นจากในนั้น เผาผลาญกลิ่นอายแห่งความตายที่แผ่ลามเข้ามา และผีร้าย เหล่านั้น
ขณะเดียวกันก็มีแสง 3 ทางปะทุขึ้นในนั้น!
แสงทางที่ 1 คือโล่อันหนึ่ง พุ่งตรงไปยังประตูผีบนท้องฟ้า เป้าหมายคือจิตอาฆาตแห่งสวรรค์ที่กำลังคลานออกมาจากประตูในตอนนี้ ขณะเดียวกันมันก็ขยายใหญ่ขึ้น คล้ายว่าจะปิดกั้นประตูปิศาจไว้
แสงทางที่ 2 คือกรรไกรขนาดมหึมาเล่มหนึ่ง ปรากฏขึ้นในโลกนี้ แผ่กลิ่นอายมหาจักรพรรดิออกมา พุ่งตรงไปยังความว่างเปล่าระหว่างสวี่ชิงกับธูปที่กำลังจุดติดอยู่ แล้วตัดเต็มแรง!
ตัดซึ่งผลกรรมเวร!
แสงทางที่ 3 คือ แสงกระบี่
ไม่ใช่กระบี่ของปู่เก้า แต่เป็นกระบี่จักรพรรดิของสวี่ชิง!
เขามือกำกระบี่จักรพรรดิ ฟันฟาดฟ้าดิน ทำลายค่ายกลนับหมื่น เกิดเป็นกระบี่สมบัติปฐพี พุ่งตรงไปยังผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคน!
“กระบี่เล่มนี้ อีกทั้งกระบี่กระบวนท่านี้…”
ผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัววัยกลางคนรูม่านตาหดเล็ก ร่างกายพลันถอยหลังไป ขณะเดียวกันในใจก็เดือดพล่านขึ้นมา
“สมบัติสูงสุดของเผ่ามนุษย์!”
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
