Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1396

ตอนที่ 1396

อาณาจักรมารโลกผีเสื้อ

ต่อมาลำแสงก็พุ่งออกมาจากขุนเขาที่สอง และเมื่อทะเลที่สองพลุ่งพล่านปั่นป่วน รถศึกหนึ่งคันก็ปรากฏขึ้น มีท่าทางดุร้ายโดยสิ้นเชิง และกระจายเป็นแสงที่ไร้ขอบเขตออกมา เช่นเดียวกับความเย็นเยียบราวภูตผี เห็นได้ชัดว่ารถศึกนี้สามารถจะพุ่งทะลวงวิญญาณของผู้ยิ่งใหญ่ได้

ในชั่วพริบตาขุนเขาที่สาม, สี่, ห้าและหก พร้อมทั้งทะเลของพวกมันตามลำดับ ต่างก็ปลดปล่อยทรัพยากรอันแข็งแกร่งทั้งหมดออกมา บ้างก็ออกมาจากภูเขา บ้างก็ออกมาจากดวงดาวของพวกมันเอง

อย่างน่าประหลาดใจยิ่ง แม่น้ำแห่งการเกิดใหม่เริ่มไหลออกมาจากขุนเขาที่สี่อย่างสมบูรณ์แบบ!

พลังพุ่งทะยานขึ้นไปและเสียงกระหึ่มนับไม่ถ้วนก็ดังก้องออกมาจากภายในอาณาจักรขุนเขาทะเล ทำให้ความตื่นตระหนกกระจายออกเป็นวงกว้างอยู่ในท่ามกลางกลุ่มคนนอกคอก เต่าเสวียนอู่ทั้งเก้าจากเก้าขุนเขากู่ร้องออกมา พลังพุ่งขึ้นไป ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะท้าน

ในตอนนี้เองด้วยเช่นกัน ที่ตรงด้านนอกของขุนเขาที่เก้า ดาวหนานเทียนเริ่มส่งเสียงดังกระหึ่มขึ้นมา

ดวงตาสุ่ยตงหลิวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า “และตอนนี้ แผนการในส่วนที่สามจะเริ่มขึ้นแล้ว ผีเสื้อที่อยู่ด้านล่างดาวหนานเทียน…จะถูกปลดปล่อยออกมา!”

สุ่ยตงหลิวใช้สองมือขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา

เมื่อเสียงนั้นดังก้องออกไป ก็ทำให้ดาวหนานเทียนสั่นสะเทือน มันแทบจะพังทลายลงไปแล้ว แต่ตอนนี้ก็แตกกระจายไปโดยสิ้นเชิง เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ได้ยินมา ขณะที่ดาวหนานเทียนพังทลายกลายเป็นเศษซากปรักหักพัง พุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง เผยให้เห็นถึงจุดแสงสีดำหนึ่งแสนจุดที่อยู่ด้านใน ทันใดนั้นพวกมันก็พุ่งออกมา พร้อมกับเสียงกู่ร้องอย่างดุร้ายและกระหายเลือด

ราวกับว่ากรงขังถูกเปิดออกมาแล้ว กำลังปลดปล่อยสัตว์ร้ายจำนวนมากออกมา จุดแสงเหล่านั้นจริงๆ แล้วก็คือมารที่น่ากลัวหนึ่งแสนตน! ในช่วงที่อาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ตกอยู่ในห้วงหายนะ พวกมันกลายเป็นเชลยสงคราม จากนั้นจิตใจก็ถูกแทนที่ และเต็มไปด้วยความเข้าใจอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น…สังหาร!

เสียงกู่ร้องอันน่ากลัวทั้งหนึ่งแสนเสียงดังก้องออกมา และสายตาหนึ่งแสนคู่ลุกโชนขึ้นด้วยแสงสีแดงเข้ม เดิมทีพวกมันไม่มีรูปแบบหรือลำดับที่ตายตัว แต่จากนั้นเจตจำนงแห่งขุนเขาทะเลก็เข้าไปควบคุม ส่งกลุ่มหนึ่งให้พุ่งตรงไปยังกองกำลังของกลุ่มคนนอกคอก และอีกกลุ่มให้ตรงไปยังจุดสูงสุดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวและอาณาจักรเทพ

แต่เรื่องราวก็ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ หลังจากที่มารหนึ่งแสนตนถูกปลดปล่อยออกมาจากภายในเศษซากดาวหนานเทียน ก็มีบางสิ่งอีกอย่างปรากฏขึ้นอยู่ภายในความมืดมิด ซึ่งก็คือ…ผีเสื้อ!!

เมื่อผีเสื้อบินออกมา ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก แต่ในชั่วพริบตาก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมีขนาดใหญ่โตเทียบเท่ากับดวงดาว และจากนั้นก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ถึงขีดจำกัดของมัน

ในทันทีที่ผีเสื้อปรากฎขึ้น กองกำลังกลุ่มคนนอกคอกก็ปะทุขึ้นด้วยความโกลาหลวุ่นวาย สีหน้าของผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้เต็มไปด้วยความสงสัย และเต้าฟางก็อ้าปากค้างขณะที่จิตใจราวกับถูกฟาดด้วยสายฟ้า

อาณาจักรเทพก็สั่นสะท้านด้วยเช่นกัน เมื่อผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังในที่แห่งนั้นมองเห็นผีเสื้อ ม่านตาพวกมันก็หรี่เล็กลง!

“มารผีเสื้อ!!”

“อาณาจักรมารโลกผีเสื้อ!!”

“เมื่ออาณาจักรมารมาถึงในปีนั้น โลกผีเสื้อหนึ่งแห่งของพวกมันถูกทำลายไป คาดไม่ถึงว่ามันจะยังไม่ตายไป แต่ถูกสะกดข่มไว้ ถูกลบความทรงจำไป กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเซียน!!”

“พวกมัน…พวกมันต้องการใช้โลกผีเสื้อนี้…หลบหนีออกไปจากสนามรบ!!”

“นี่เป็นไปไม่ได้! โลกผีเสื้อของอาณาจักรมารนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มีเพียงแค่เก้าแห่งเท่านั้น ถึงแม้ว่าโลกเซียนจะปราบพิชิตไปได้หนึ่งแห่ง แต่ก็ยากที่จะควบคุมได้อย่างถึงที่สุด!”

“พวกเจ้าลองดูให้ละเอียด อันที่จริงผีเสื้อนั้น…ตายไปแล้ว!!”

เสียงพูดคุยนับไม่ถ้วนดังก้องขึ้นมา ในตอนนี้ผู้คนสามารถจะคาดเดาแผนการที่แท้จริงของสุ่ยตงหลิวได้บ้างแล้ว ท่านวางแผนที่จะใช้โลกผีเสื้อนี้ในฐานะที่เป็นอาณาจักรขุนเขาทะเลแห่งใหม่ เพื่อพุ่งผ่านเข้าไปในอุโมงค์หลบหนีออกไปจากสนามรบ!

ถ้าทำได้สำเร็จ อาณาจักรขุนเขาทะเลก็จะไม่ชนะหรือว่าพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้ แต่จะมีโอกาสอยู่รอดเพื่อก้าวหน้าได้ต่อไป เพื่อเติบโตขึ้นอีกครั้ง!

ในทันทีที่ผีเสื้อปรากฏขึ้น ก็เห็นได้ชัดว่าเช่นเดียวกับที่ผู้คนได้พูดไว้ มัน…ตายไปแล้วจริงๆ ดวงตาว่างเปล่า และไม่มีสัญญาณแห่งพลังชีวิตอยู่บนร่างมันแม้แต่น้อย มันตายไปแล้วอย่างแท้จริง!

แต่จากนั้นปีกของผีเสื้อก็เริ่มเต็มไปด้วยพลังชีวิต เริ่มกระพือปีกลงไป และขยับขึ้นมาอย่างช้าๆ

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อ และดึงคนทั้งหมดออกมาจากดาวหนานเทียนที่กลายเป็นซากปรักหักพังมานานแล้ว ตอนนี้เขาลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กำลังมองลงไปยังซากปรักหักพังนั้น มีสีหน้าทั้งหัวเราะและร้องไห้เมื่อมองไปยังมารหนึ่งแสนตนที่กำลังพุ่งตรงไปยังสนามรบและผีเสื้อขนาดใหญ่ตัวนั้น

เมื่อสายตาตกกระทบไปยังผีเสื้อ จิตใจก็ดังกระหึ่มขึ้นมาในทันที หยุดหัวเราะ หยุดร้องไห้ แม้แต่สีแดงเจิดจ้าในดวงตาก็เปลี่ยนไป รู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นอายที่อยู่บนร่างผีเสื้อตัวนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองไม่มีทางจะลืมเลือนไปได้ตลอดชั่วชีวิตนี้

“นั่นคือ…” เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ห่างออกไปที่ด้านข้าง ดวงตาฟางอวี๋เบิกกว้างขึ้น ขณะที่จ้องมองไปยังผีเสื้อด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน

“เตีย…เหนียง!!” ขณะที่เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปยังผีเสื้อ ก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของบิดา, ฟางซิ่วเฟิง ซึ่งอยู่บนปีกด้านซ้ายของผีเสื้อได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นตรงปีกด้านขวาก็ประกอบไปด้วยพลังชีวิตของมารดา, เมิ่งลี่!

เหมือนกับที่สุ่ยตงหลิวได้กล่าวไว้ บิดามารดายังไม่ตายไปจริงๆ พวกท่านได้รับชีวิตใหม่ในฐานะที่เป็นปีกของผีเสื้อ ทุกครั้งที่ปีกนั้นกระพือขึ้นลง ก็เหมือนกับการโอบกอดกันของคนทั้งสอง

เมิ่งฮ่าวเริ่มมองเห็นภาพของบิดาและมารดากุมมือซึ่งกันและกันอย่างช้าๆ จากนั้นพวกท่านก็หันหน้ามามองตนเอง ด้วยสีหน้าที่อบอุ่นและอ่อนโยน พร้อมทั้งยิ้มให้อีกด้วย เป็นรอยยิ้มที่ทำให้หยดน้ำตาเริ่มเอ่อล้นอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว

เมื่อมาถึงจุดนี้เมิ่งฮ่าวก็ไร้ซึ่งความสงสัยใดๆ ตนเองกำลังรับรู้ถึงกลิ่นอายของบิดามารดาได้อย่างแท้จริง!

ในตอนนี้เองที่เสียงของสุ่ยตงหลิวก็ดังก้องขึ้นมาอีกครั้งด้วยเช่นกัน

“ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล ให้มายังผีเสื้อขุนเขาทะเลในทันที นับจากวันนี้เป็นต้นไป สมาชิกสายโลหิตตระกูลฟางจะเป็นผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาทะเล!” เมื่อเสียงของสุ่ยตงหลิวดังก้องออกมา ปีกของผีเสื้อก็แยกออกจากกัน ขณะที่แรงดึงดูดอันไร้ขอบเขตปะทุออกมา คว้าจับไปยังผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง

ในทันทีที่พลังนั้นห่อหุ้มไปรอบๆ ตัว คนทั้งหมดก็ถูกดึงให้ตรงมายังผีเสื้อจากทั่วทุกทิศทาง ในชั่วพริบตาพวกมันก็หายเข้าไปในปีกผีเสื้อ และเมื่อปรากฏกายขึ้นใหม่ก็ไปอยู่ในโลกแห่งใหม่

นี่คือโลกเซียนแห่งใหม่!

คนทั้งหมดที่กำลังยืนอยู่ข้างกายเมิ่งฮ่าว รวมทั้งสวี่ชิง, ตานกุ่ย, เจ้าอ้วน, ฟางอวี๋, ซุนไห่ และแม้แต่ปรมาจารย์เอกะเทวะ ต่างก็ถูกดูดเข้าไปในตัวผีเสื้ออย่างฉับพลัน ไปปรากฏกายขึ้นใหม่อยู่ภายในโลกแห่งใหม่

สำหรับเมิ่งฮ่าว เขาไม่ได้เข้าไปในตัวผีเสื้อ ยังคงอยู่ที่ด้านข้างเพื่อคอยเฝ้าคุ้มกัน เพื่อปกป้องโลกนี้ซึ่งประกอบไปด้วยคนรักของตนเอง, สหายทั้งหลาย และตระกูลฟาง

ผีเสื้อเริ่มเร่งความเร็วขึ้น ขณะที่พุ่งตรงไปยัง…อุโมงค์ที่อยู่ในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว!

สุ่ยตงหลิว, ไห่เมิ่ง, ตี้จ้าง, ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด และกองกำลังสำรองอื่นๆ ทั้งหมดของขุนเขาทะเล ลอยตัวอยู่รอบๆ ผีเสื้อในรูปแบบของค่ายกล เพื่อคุ้มครองมัน…ขณะที่พุ่งทะลวงตรงเข้าไปในอุโมงค์

ช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็มีเสียงแผดร้องคำรามดังก้องออกมาจากกองกำลังกลุ่มคนนอกคอก ขณะที่พวกมันเตรียมตัวมาขัดขวาง ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ก้าวเดินตรงมา และใบหน้าเต้าฟางก็ดุร้ายขึ้น เมื่อยกกกระบองขึ้นมาและเริ่มพุ่งตัวออกไป

แต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้เข้ามาใกล้ ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็หันหน้ามองไปยังพวกมัน และจากนั้นก็เลียริมฝีปากไปมา ทำให้ทั้งผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้และเต้าฟางต้องหยุดชะงักนิ่งในทันที

ตรงจุดสูงสุดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ส่วนที่เหลืออยู่ของอาณาจักรเทพเริ่มตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ดวงตะวันแผดร้องตรงมา พร้อมกับเงาร่างที่อยู่ด้านใน ขณะที่พุ่งตรงไปยังผีเสื้อ

ยังมีผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังอื่นๆ จากอาณาจักรเทพที่พุ่งตรงมาด้วยเช่นกัน มากมายจนไม่อาจจะนับได้

พวกมันไม่ยอมให้อาณาจักรขุนเขาทะเลฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้ พวกมันไม่ยอมให้อาณาจักรขุนเขาทะเลหลบหนีจากไปได้!

แต่จากนั้นสุ่ยตงหลิวก็โบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป และแสงแห่งความมุ่งมั่นก็ปรากฏขึ้นในดวงตา

“อยู่หรือตายจะถูกตัดสินในตอนนี้แล้ว!” สุ่ยตงหลิวแผดร้องคำรามออกมา เจตจำนงแห่งทะเลที่แปดปะทุออกไป ถูกเกื้อหนุนด้วยเต่าเสวียนอู่ เพื่อสร้างเป็นพลังอันน่าตกใจ จนทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องสั่นสะเทือน พร้อมกับความช่วยเหลือจากพลังแห่งเก้าขุนเขา และเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลเอง ค่ายกลเวทขนาดใหญ่ก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาจนกลายเป็น!

โล่ยิ่งใหญ่แห่งขุนเขาทะเล!

ในทันทีที่ประกายแสงระยิบระยับพุ่งขึ้นมา พลังเกื้อหนุนของอาณาจักรขุนเขาทะเลก็เริ่มเดือดพล่านขึ้น เพื่อเตรียมตัวจะต่อสู้กับศัตรูที่มาขัดขวาง เพื่อปกป้องผีเสื้อขณะที่มันพุ่งตรงไปยังอุโมงค์

เมื่อกองกำลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน เสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังก้องออกไป และการต่อสู้อันดุเดือดก็เริ่มขึ้น ผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังจากอาณาจักรเทพมีพลังที่สามารถจะทำลายสวรรค์หั่นปฐพีให้แหลกสลายลงไป พวกมันปลดปล่อยพลังนั้นออกไปอย่างเต็มกำลัง พุ่งตรงไปยังกองหนุนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล

แต่ต่อมาจากภายในเศษซากปรักหักพังของดาวหนานเทียน เสียงหัวเราะแหบแห้งก็ดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง และทะเลแห่งเปลวไฟอันไร้ขอบเขตจู่ๆ ก็พุ่งขึ้นมาจากความมืดมิด ตรงขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

ภายในทะเลแห่งเปลวไฟนั้นเป็นใบหน้าใบหนึ่ง เป็นใบหน้าที่เมิ่งฮ่าวไม่รู้จัก แต่ก็จดจำดวงตาของมันได้…ซึ่งก็คือ…แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถูกสะกดข่มอยู่ใต้พื้นผิวของดาวหนานเทียน!

“เต้าฟาง เจ้าต้องตาย!!” ใบหน้านั้นแผดร้องออกมา ตอนนี้เมื่อมันได้รับอิสระแล้ว เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็ทำให้ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นสั่นสะเทือน ขณะที่มันพุ่งตรงไปยังเต้าฟางอย่างดุร้าย

โล่ยิ่งใหญ่แห่งขุนเขาทะเลก่อตัวขึ้นมาจากการรวมกันของเจตจำนงต่างๆ มากมาย กลายเป็นรูปแบบอันซับซ้อน ที่พยายามจะสังหารผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพหรือคนนอกคอกใดๆ ก็ตามที่พยายามจะทะลวงผ่านเข้ามา

ขุนเขาทะเลติดตามไปพร้อมกับผีเสื้อ ภายในอาณาเขตของค่ายกลเวท เมิ่งฮ่าวและผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังอื่นๆ แห่งขุนเขาทะเลต่างก็ช่วยกันปกป้องผีเสื้อซึ่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนทั้งหมด

การรวมพลังกันของอาณาจักรขุนเขาทะเล ได้มุ่งเน้นไปที่การปกป้องผีเสื้อและช่วยให้มันผ่านเข้าไปในอุโมงค์

อย่างไรก็ตามอันตรายที่แท้จริงสำหรับคนทั้งหมด ไม่ได้มาจากกองกำลังกลุ่มคนนอกคอก นอกจากนี้จากแผนการอันโหดร้ายของสุ่ยตงหลิว ก็ทำให้ดูเหมือนว่ากองกำลังกลุ่มคนนอกคอกเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ความจริงก็คือในขณะที่ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลสูญเสียชีวิตไป กองหนุนสำรองและพลังที่แท้จริงของขุนเขาทะเล ยังไม่ถูกใช้ออกมา

ถึงแม้จะโหดร้าย แต่คนทั้งหมดก็ถูกใช้ออกมาจากแผนการของสุ่ยตงหลิว เนื่องจากเช่นนั้น ทำให้กองกำลังกลุ่มคนนอกคอกไม่อาจจะเข้ามาใกล้โล่ยิ่งใหญ่แห่งขุนเขาทะเล โดยที่ไม่ถูกกำจัดไปได้

อันตรายที่แท้จริง, เหตุผลที่แท้จริงที่ทำไมสุ่ยตงหลิวถึงยินดีที่จะเสียสละคนทั้งหมด เพื่อให้กองหนุนสำรองที่แท้จริงปลอดภัย…ก็คืออาณาจักรเทพ

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ดวงตะวันสี่ดวงของพวกมัน ปลดปล่อยแรงกดดันอันไร้ขอบเขตให้บดขยี้ลงมา ภายในดวงตะวันเหล่านั้นเป็นสี่เงาร่าง แต่ละเงาร่างเหล่านั้นระเบิดเป็นพลังที่เทียบเท่ากับผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ออกมา

ด้านหลังพวกมันเป็นผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรเทพนับไม่ถ้วน กำลังปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่กลุ่มคนในอาณาจักรขุนเขาทะเลไม่เคยพบเห็นมาก่อน นอกจากนี้พวกมันยังประกอบไปด้วยรังสีสังหารและความอหังการอย่างไร้ที่เปรียบอีกด้วย

ในชั่วพริบตาการต่อสู้ก็เดือดพล่านขึ้นมา เวลาเดียวกันนั้นเสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ก็ได้ยินออกมาจากโล่ยิ่งใหญ่ ขณะที่มันโคจรหมุนวนอย่างเต็มกำลัง เจตจำนงแห่งขุนเขาทะเลพุ่งขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่าถึงแม้ค่ายกลเวทจะถูกทำลายไป แต่ก็จะได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผีเสื้อบินเข้าไปใกล้อุโมงค์อย่างต่อเนื่อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version