Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1535

ตอนที่ 1535

นับจากนี้ไปข้าเมิ่งฮ่าว จะอยู่เหนือสูงสุด

ภายในชั่วพริบตาผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อยู่บนดินแดนกว้างใหญ่ ต่างก็นั่งลงขัดสมาธิและรวมสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าด้วยกันจนกลายเป็นคลื่นพลังขนาดใหญ่ คลื่นนั้นพุ่งออกไปคล้ายกับเป็นลมพายุที่บดขยี้ไปยังร่างของเจตจำนงแห่งหลัวเทียนซึ่งมีแปดแขนสี่เศียร

เจ้าใช้พลังชีวิตจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตทั้งปวง? ข้าก็จะใช้วิชาเวทกลับเข้าไปในอดีต และใช้พลังจากคนของข้าต่อสู้กลับไป!

นี่คือวิชาเวทที่เกินกว่าความเข้าใจของผู้ฝึกตนส่วนใหญ่

แต่จากอาณาจักรที่ชางหมางเหลาจู่บรรลุถึง ก็สามารถจะทำให้ห้วงเวลาและความว่างเปล่ากลายเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์และเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้

ร่างแปดแขนสี่เศียรของเจตจำนงแห่งหลัวเทียน จ้องมองมาด้วยดวงตาสีแดงเจิดจ้า จากนั้นก็กวาดแขนออกไป ปลดปล่อยคลื่นสายฟ้าเพื่อต่อสู้ไปยังลมพายุนั้น

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ เวลาเดียวกันนั้นเสียงกึกก้องก็กระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว ขณะที่พลังปะทุขึ้นไป ซึ่งเป็นผลมาจากขั้นตอนการหลอมรวมเวทผนึก!

“เวทรุ่นแรก!” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป เวทเริ่มต้นและจุดจบปรากฏขึ้น นี่คือจุดเริ่มต้นของเวทผนึกทั้งปวง และเป็นส่วนสุดท้ายที่เมิ่งฮ่าวรวบรวมมาได้ด้วยเช่นกัน เขาไม่ได้สร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง แต่ได้รับมาจากมรดกของสุ่ยตงหลิว ซึ่งท่านได้สร้างขึ้นมาจากเศษชิ้นส่วนเจตจำนงแห่งจิ่วเฟิงจื้อจุน (ผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึก)

หลังจากที่ดูดซับมันเข้าไป ก็กลายเป็นเวทรุ่นแรกของเมิ่งฮ่าว!

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขณะที่เวทผนึกปรากฏขึ้น เวลาเดียวกันนั้นจุดแสงก็เริ่มสาดประกายออกมาจากหน้าผาก ในทันทีที่เป็นเช่นนั้นสีแดงในดวงตาของร่างแห่งหลัวเทียนก็เริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น

จากนั้นดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้น ขณะที่ขยับมือร่ายเวทอีกครั้ง เขากำลังปลดปล่อย…

“เวทรุ่นสอง!”

เวทจริงเท็จ ค้นหาความจริงในความเท็จ ขจัดความเท็จและทำให้กลายเป็นความจริง จุดแสงที่สองปรากฏขึ้นมาบนหน้าผากเมิ่งฮ่าว แค่มองไปเพียงแวบแรกก็ดูเหมือนว่าเป็นภาพลวงตา แต่ถ้าลองตรวจสอบดูให้ละเอียดก็จะพบว่ามันมีตัวตนอยู่จริงๆ ราวกับว่าจะสามารถดูดกลืนจิตใจเข้าไปได้!

นี่คือเวทรุ่นสอง!

เมิ่งฮ่าวสูดหายใจเข้าไปลึกๆ ด้วยวิชาเวทของร่างจำแลงชางหมางเหลาจู่ ทำให้เมิ่งฮ่าวมาอยู่ในยุคสมัยโบราณอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าจะดูไม่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้มากนักก็ตาม ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า และพื้นดินก็ปกคลุมไปด้วยแผ่นหินปูนสีเขียว มีพลังลมปราณอยู่ในอากาศอย่างแน่นหนา

ถ้ามองมาจากที่ห่างไกล ก็จะเห็นสายรุ้งพาดผ่านท้องฟ้า

ร่างจำแลงชางหมางเหลาจู่กำลังรวบรวมสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จากผู้ฝึกตนทั้งหมดบนดินแดนของตัวเอง กระแทกเข้าไปยังร่างของเจตจำนงแห่งหลัวเทียน

“เวทรุ่นสาม!” สองมือเมิ่งฮ่าวขยับร่ายเวท และเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มไปทั่วทั้งฟ้าดิน

เวทรุ่นสามคือเวทปัจจุบันและอดีต ในทันทีที่ปรากฏขึ้น ก็สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันของโลกแห่งนี้ พลังสะท้อนก่อตัวขึ้นมา ซึ่งสมเหตุสมผลเป็นอย่างดีเมื่อเมิ่งฮ่าวถูกห้อมล้อมด้วยยุคสมัยโบราณ ในขณะที่ตัวเองมาจากสมัยปัจจุบัน ช่วงสมัยปัจจุบันและอดีตปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน

ทำให้พลังแห่งกาลเวลาพุ่งกระจายออกไป พร้อมกับการปรากฏขึ้นมาของเวทปัจจุบันและอดีต เวลาเดียวกันนั้นจุดแสงที่สามก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากเมิ่งฮ่าว

สามจุดแสงเปล่งประกายระยิบระยับ และพลังของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย โบกสะบัดสองมือออกไปที่เบื้องหน้า

“เวทรุ่นสี่!”

เวทรุ่นสี่เป็นเวทที่ทรงพลังมากที่สุดในท่ามกลางแปดเวทผนึกแรก ถูกเรียกว่าเวทผนึกตนเอง สามารถสร้างเป็นร่างจำแลงได้อย่างไร้ขีดจำกัด จนเพียงพอที่จะเต็มไปทั่วทั้งโลก ในทันทีที่ปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวก็ถูกห้อมล้อมด้วยตัวเองที่แตกต่างกันออกไปนับไม่ถ้วน

หนึ่งในเงาร่างเหล่านั้น ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องหมุนคว้างขึ้นมาในทันทีที่มองเห็น ซึ่งก็คือเสียวเป่า…

น่าเสียดายที่ในตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะใคร่ครวญถึงเรื่องนี้ เมิ่งฮ่าวละสายตากลับมาในทันที และเตรียมขยับมือร่ายเวทเพื่อปลดปล่อยเวทรุ่นห้าออกมา แต่ในตอนนี้เองที่พลังอันมหาศาลก็พุ่งขึ้นมาต่อต้าน ทำให้ต้องสั่นสะท้านไปทั้งร่างและโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง

เวลาเดียวกันนั้นร่างจำแลงชางหมางเหลาจู่ก็ระเบิดขึ้น ขณะที่มันกำลังจะก่อตัวกลับเข้ามาใหม่ ร่างสี่เศียรแปดแขนของเจตจำนงแห่งหลัวเทียนก็โบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป ทำให้ขั้นตอนนั้นเชื่องช้าลงไปในทันที ร่างหลัวเทียนเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย จนดูคล้ายกับเป็นก้อนเนื้อและโลหิต แต่ก็ยังคงพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างรวดเร็ว

แทบจะในทันทีที่มันขยับตัวเคลื่อนไหว สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่บนดินแดนกว้างใหญ่ก็รวมตัวกันเป็นเกราะป้องกัน ทำให้ร่างหลัวเทียนไม่อาจจะบรรลุถึงเมิ่งฮ่าวได้อีกครั้ง

“ไสหัวไป!” มันแผดร้องคำรามออกมา ฟาดแขนออกไปเพื่อปลดปล่อยพลังอันมหาศาลโจมตีไปยังเกราะป้องกัน ซึ่งเริ่มพังทลายลงไปทีละชั้นติดต่อกัน

ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงก่ำ ขณะที่ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง แต่ก็ขยับมือร่ายเวทอีกครั้ง

“เวทรุ่นห้า!”

เวทรุ่นห้าคือเวทด้านในด้านนอก ในทันทีที่ปรากฏขึ้น พลังขับไล่ก็ปะทุออกไป สร้างเป็นหลุมดำอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว หลุมดำนั้นหมุนวนไปมาอย่างรวดเร็ว หดตัวเล็กลงไปจนกลายเป็นจุดแสงที่ห้าอยู่บนหน้าผากเมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้ร่างหลัวเทียนแทบจะทำลายเกราะป้องกันมาได้โดยสิ้นเชิง กระแสแห่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนตกอยู่ในท่ามกลางการพังทลายลงไป

เมิ่งฮ่าวยังคงลอยละลิ่วไปทางด้านหลังอย่างต่อเนื่อง

“เวทรุ่นหก!”

เวทเป็นตาย!

“เวทรุ่นเจ็ด!”

เวทผนึกกรรม!

“เวทรุ่นแปด!”

เวทผนึกร่างกายและจิตใจ!

เมื่อเวทผนึกทั้งสามปรากฏขึ้นมาจากมือเมิ่งฮ่าว สีสันอันเจิดจ้าก็แวบขึ้นไปในฟ้าดิน สายลมกรีดร้องระงม ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ร่างหลัวเทียนกวาดล้างสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในโลกแห่งนี้ออกไปได้ทั้งหมด จากนั้นก็พุ่งตรงมาปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว

ขณะที่มันยื่นมือออกมาเพื่อจะกวาดล้างเมิ่งฮ่าวออกไป แรงกดดันที่กระจายออกมาจากร่างมันก็ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องหมุนคว้างไปมา แต่ขณะที่แรงกดดันนั้นบดขยี้ลงมา ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น และปลดปล่อยเวทรุ่นเก้าออกไป!

“เวทรุ่นเก้า!”

เวทผนึกสวรรค์!

พลังอันยิ่งใหญ่ตกลงมา เป็นพลังสะกดข่มอย่างไร้ขอบเขต เป็นพลังที่สามารถจะกล่าวได้ว่า ถ้าข้าต้องการให้พวกเจ้าลืมตาขึ้นมา พวกเจ้าก็ไม่อาจจะหลับตาลงไปได้ ถ้าข้าต้องการให้หลับตาลงไป พวกเจ้าก็ไม่อาจจะลืมตาขึ้นมาได้!

สิ่งที่ข้าต้องการ สวรรค์ไม่อาจจะไม่มี! สิ่งที่ข้าไม่ต้องการ สวรรค์ก็ไม่อาจจะมี!

“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวร้องตวาด พลังที่ไม่ได้มาจากท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งหลัวเทียนปะทุออกมาจากเวทรุ่นเก้า เป็นสิ่งที่คล้ายกับสายลมอันบ้าคลั่งที่ระเบิดลงไปยังร่างของเจตจำนงแห่งหลัวเทียน

โลกสั่นสะเทือนขณะที่พลังนั้นกลายเป็นพลังโจมตีออกไป เมิ่งฮ่าวพุ่งถอยไปทางด้านหลัง เช่นเดียวกับร่างหลัวเทียนที่มีสีหน้าหวาดกลัว แต่ดวงตามันก็ยังคงเต็มไปด้วยความต้องการสังหารอย่างเต็มเปี่ยมด้วยเช่นกัน บังคับให้ตัวเองหยุดชะงักนิ่ง ทุ่มออกมาจนสุดตัวเพื่อต่อสู้กลับไป ร่างกายมันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง และทันใดนั้นศีรษะทั้งสองของมันก็ระเบิดขึ้น เช่นเดียวกับแขนอีกหลายข้าง แต่ก็ยังคงกัดฟันแน่นก้าวเดินตรงไป อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่ร่างจำแลงชางหมางเหลาจู่ ซึ่งเจตจำนงแห่งหลัวเทียนได้ทำลายไปก่อนหน้านี้ ก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่ เคลื่อนย้ายทางไกลตรงไปอยู่ที่เบื้องหน้าของร่างหลัวเทียนในทันที ขณะที่เปลวไฟปะทุออกมาจากร่างพร้อมกับกลิ่นอายอันน่ากลัว

ร่างจำแลงโบกสะบัดมือขวาออกไป ทำการปิดกั้นเส้นทางของร่างหลัวเทียนที่เสียหายอย่างร้ายแรงไว้อีกครั้ง

ร่างหลัวเทียนแผดร้องคำราม จากนั้นก็กลายเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วน พุ่งกระจายออกไป จุดแสงเหล่านั้นลอยขึ้นไปในท้องฟ้าเพื่อกลายเป็นดรรชนียักษ์!

ดรรชนีอันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ยืดยาวลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ส่งเสียงกระหึ่มตรงมายังเมิ่งฮ่าวและร่างจำแลงชางหมางเหลาจู่

ขณะที่ดรรชนีนั้นตกลงมา บุปผาสีดำนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของมัน เมื่อบุปผาเหล่านั้นบานสะพรั่ง สิ่งมีชีวิตอันดุร้ายก็ลอยออกมา ทั้งหมดนั้นมีสามเศียรหกแขน พลังของพวกมันพุ่งขึ้นไปขณะที่พุ่งตรงมาโจมตี

ในตอนนี้เองที่เวทรุ่นเก้าของเมิ่งฮ่าวถูกใช้ออกไปอย่างเต็มกำลัง จุดแสงจุดที่เก้าปรากฏขึ้นบนหน้าผาก ในขณะที่จุดแสงอื่นๆ หลอมรวมเข้าด้วยกันทั้งหมด เพื่อสร้างเป็นสิ่งที่ดูเหมือนกับดวงตะวัน

เก้าเวทผนึก หลอมรวม!

เมิ่งฮ่าวแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น พร้อมกับกลิ่นอายเหนือสูงสุด ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้าน จักรวาลสั่นสะเทือน หลังจากที่เวททั้งเก้าหลอมรวมเข้าด้วยกัน ทั้งหมดนั้นก็กลายเป็นแก่นแท้ ทำให้พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวเข้าไปสู่ระดับ…เก้าแก่นแท้อย่างแท้จริง!

หลังจากนั้นพลังการฝึกตนของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งทะยานขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นจนสามารถทะลวงผ่านเกราะป้องกันใดๆ ก็ตาม สายลมรอบๆ ตัวกรีดร้องระงม ขณะที่ดรรชนีซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากเจตจำนงแห่งหลัวเทียนเริ่มสั่นไหวไปมา

แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้ ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงเจิดจ้า ขณะที่มองขึ้นไปและแผดร้องคำรามว่า “หลอมรวมเก้าแก่นแท้ ทะลวงผ่านพื้นฐานฝึกตน!!”

ตูมมมมมมม! แก่นแท้ทั้งเก้าของเมิ่งฮ่าวหลอมรวมเข้าด้วยกัน เก้ากลายเป็นหนึ่ง…และประตูแห่งฟ้าดินก็เปิดออก ข้อจำกัดของความว่างเปล่าไร้ขอบเขตถูกทำลายไป เสียงฟ้าร้องดังก้องออกมา ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงและโลกทั้งหมดในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งหลัวเทียนต่างก็ได้ยินกันไปทั่ว

ภายในเสียงฟ้าร้องคำรามนั้นคือเสียงของเมิ่งฮ่าว ซึ่งดังก้องออกไปทั่วทั้งความว่างเปล่าไร้ขอบเขต

“นับจากนี้ไป ข้าเมิ่งฮ่าว จะอยู่เหนือสูงสุด!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version