Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1550

ตอนที่ 1550

แม้ตายไปก็ไม่สาสมกับความผิด

ดรรชนีที่ชี้ออกไปนั้นของเมิ่งฮ่าว ทำให้แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างของกลุ่มคนนอกคอกซึ่งอยู่บนสวรรค์ชั้นที่สิบสี่ ระลอกคลื่นพลังที่กระจายออกไปนั้น บรรลุถึงกลุ่มคนนอกคอกที่พุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วมากที่สุดในทันที

ทันใดนั้นพวกมันก็เริ่มสั่นสะท้าน และจากนั้นก็ถูกถลกหนังแล่เนื้อออกไปอย่างฉับพลัน ชั่วขณะต่อมาเมื่อระลอกคลื่นเหล่านั้นพุ่งผ่านไป พวกมันก็กลายเป็นโครงกระดูกไปหมดสิ้น

ความเจ็บปวดที่ถูกถลกหนังแล่เนื้อ ทำให้กลุ่มคนนอกคอกต้องแผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา แต่ขณะที่เลือดเนื้อจางหายไป เสียงของพวกมันก็ขาดหายไปด้วยเช่นกัน ในที่สุดพวกมันก็ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดที่อยู่ภายในจิตวิญญาณ

เมิ่งฮ่าวก้าวเดินตรงไปด้วยความเยือกเย็น ระลอกคลื่นพลังยังคงพุ่งกระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำการถลกหนังแล่เนื้อกลุ่มคนนอกคอกทั้งเป็น ขณะที่พลังนั้นพุ่งผ่านไป ทำให้พวกมันกลายเป็นโครงกระดูกไปโดยสิ้นเชิง

เสียงแตกร้าวเริ่มดังก้องออกมา ขณะที่โครงกระดูกซึ่งยังไม่ตายไปเริ่มสั่นสะท้าน เมื่อพวกมันล้มลงไปก็กลายเป็นกองกระดูกที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ แต่หัวกะโหลกของพวกมันก็ยังคงอยู่ วิญญาณยังคงถูกกักขังอยู่ภายในนั้น ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมาจนยากที่จะอธิบายได้

กองกำลังจากชางหมางพ่ายตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นเจ้านรกโลกันตร์ ที่พุ่งผ่านไปก็ทำให้เลือดเนื้อต้องสูญสลาย เหลือแต่กองกระดูกเท่านั้น

ในตอนที่เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านสวรรค์ชั้นที่สิบสี่ ไม่มีกลุ่มคนนอกคอกแม้แต่คนเดียวที่จะมีเลือดเนื้อที่สมบูรณ์ พวกมันกลายเป็นโครงกระดูกที่กองอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ภายในหัวกะโหลกของพวกมัน วิญญาณกำลังชักดิ้นไปมาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน ซึ่งมีแต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถจะได้ยินได้

พวกมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ทั้งความเจ็บปวดที่ถูกถลกหนังแล่เนื้อไปทั้งเป็น และวิญญาณที่บิดเบี้ยวไปมา ร่างกายพวกมันบอกกับตนเองว่าได้ตายไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดก็บอกว่ายังไม่ได้ตายไป

เมิ่งฮ่าวมองไปยังดินแดนกว้างใหญ่ และความเกลียดชังบางส่วนภายในแววตาเริ่มจางหายไป แต่ก็ยังคงรุนแรงอย่างเข้มข้น โบกสะบัดมือออกไป ทำให้กระโหลกทั้งหมดลอยขึ้นมา และรวมตัวเข้าด้วยกันในกลางอากาศ กลายเป็นทะแลแห่งหัวกะโหลก ซึ่งประกอบไปด้วยวิญญาณของแต่ละคน เสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอความเมตตาดังก้องออกมา พวกมันกำลังวิงวอนร้องขอเมิ่งฮ่าว ไม่ใช่ให้ปล่อยตนเองไป แต่ให้สังหารพวกมันไปอย่างเรียบง่าย

“ต้องการตาย? ไม่ง่ายดายเช่นนั้น” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา ชี้นิ้วตรงไปที่เบื้องหน้า เสียงแตกหักดังก้องออกมา ขณะที่เกิดเป็นรอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิวของหัวกะโหลก ทันใดนั้นความเจ็บปวดที่พวกมันรู้สึกได้ก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า

ขณะที่พวกมันแผดร้องออกมา เสียงแตกหักก็ดังก้องออกมามากขึ้น และรอยแตกร้าวก็ปรากฏขึ้นมากกว่าเดิม

ชั่วขณะต่อมาความเจ็บปวดอย่างรุนแรงนั้นทำให้เหล่าวิญญาณกระแทกลงไปยังหัวกะโหลกด้วยความพยายามจะหลบหนีจากไป พวกมันพยายามจะฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่อาจจะทำได้ สิ่งเดียวที่สามารถจะทำได้ก็คือทำให้หัวกะโหลกแตกร้าวมากขึ้น จนทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม

เมิ่งฮ่าวใช้เวลาหลายชั่วยามกว่าที่หัวกะโหลกจะกลายเป็นเถ้าธุลีไป ความเจ็บปวดที่วิญญาณเหล่านั้นต้องพบเจอยังเกินกว่านรกหรือความตายของพวกมัน เสียงกรีดร้องโหยหวนทำให้แม้แต่ฟ้าดินก็ยังต้องมืดสลัวลงไป กลุ่มคนนอกคอกที่ด้านล่างลงไปสั่นสะท้าน จิตใจบางคนยังได้พังทลายลงไปอีกด้วย แต่เนื่องจากพวกมันไม่อาจจะตายไปได้ จึงยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม โชคชะตาที่วิญญาณเหล่านั้นต้องพบเจอก็ยังไม่จบสิ้นลงไป หลังจากที่พวกมันต้องทนทุกข์ทรมาน ก็ยังไม่จางหายไป เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ส่งพวกมันให้เข้าไปในทะเลแห่งเปลวไฟตรงด้านบน เพื่อให้ทนทุกข์ทรมานต่อไปตราบชั่วนิรันดร์

เมื่อกระทำเรื่องราวเหล่านี้เสร็จสิ้น ความเกลียดชังในแววตาเมิ่งฮ่าวก็จางหายไปเล็กน้อย ยกมือขึ้นมากดลงไปบนพื้นผิวของดินแดนกว้างใหญ่ และสวรรค์ชั้นที่สิบสี่ก็แตกกระจายออกไป พิรุณแห่งเศษซากปรักหักพังตกลงไปบนสวรรค์ชั้นที่สิบสาม ทำให้สั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง เสียงแผดร้องของกลุ่มคนนอกคอกดังก้องออกมา ขณะที่ภูเขาพังทลาย แม่น้ำพลุ่งพล่านปั่นป่วน

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่กลางอากาศ มองลงไปยังกลุ่มคนนอกคอกที่กำลังหวาดกลัวตรงด้านล่างด้วยสายตาที่เย็นชา พวกมันบางคนบินขึ้นมาในอากาศ แต่เมิ่งฮ่าวก็แค่ชี้นิ้วออกไป เสียงกรีดร้องก็ดังก้องออกมาจากสวรรค์ชั้นที่สิบสาม เป็นเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยโทสะและคำขอร้องอ้อนวอน

“เมิ่งฮ่าว!” คนนอกคอกที่บินขึ้นมา ดูคล้ายกับเป็นผู้ยิ่งใหญ่ชราแปดแก่นแท้ มองขึ้นมายังเมิ่งฮ่าว ประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ

“เมิ่งฮ่าว เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่ท่านจะมาล้างแค้นยังสามสิบสามสวรรค์ จากสิ่งที่พวกข้าเคยทำไว้ ก็เหมาะสมแล้วที่ท่านจะกำจัดพวกเราไป แต่…ทำไมต้องทรมานคนทั้งหมดด้วย? แค่สังหารไปก็พอแล้ว!”

“ไม่มีใครในที่แห่งนี้ ที่เคยเข้าร่วมการทำลายล้างอาณาจักรขุนเขาทะเล ที่แห่งนี้มีแต่ผู้บริสุทธิ์ ผู้คนไม่เคยต่อสู้ในสงครามใดๆ เหล่าฟูขอร้องท่าน ทรมานพวกข้าได้ แต่ก็ไว้ชีวิตพวกเราด้วย!” ชายชราคุกเข่าลงโขกศีรษะด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน

เหล่าคนนอกคอกอื่นๆ ตกอยู่ในความเงียบ บางคนก็คุกเข่าโขกศีรษะด้วยความขมขื่นใจ ภาพการวิงวอนขอร้องเช่นนี้ ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนจากชางหมางพ่ายต้องถอนหายใจออกมา

เมิ่งฮ่าวมองไปยังชายชราอย่างเงียบๆ หลับตาลงชั่วขณะ และเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าก็เปลี่ยนไป และมองลงไปยังดินแดนที่ด้านล่าง

ขณะที่ทำเช่นนั้น ดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงสีโลหิตในทันที เดินตรงไปในท่ามกลางความหวาดกลัวของเหล่าคนนอกคอก ชั่วขณะต่อมาก็ไปปรากฏกายขึ้นภายในพื้นที่ราบอันกว้างใหญ่

หลังจากที่ผู้ยิ่งใหญ่คนนอกคอกตระหนักว่าเมิ่งฮ่าวกำลังไปยืนอยู่ตรงตำแหน่งใด ร่างมันก็สั่นสะท้านและมีท่าทางวิตกกังวลเป็นอย่างมากในทันที

ขณะที่ยืนอยู่ตรงนั้น เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือออกไป พื้นดินรอบๆ ตัวเริ่มสั่นสะเทือนและพังทลายลงไป รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น เผยให้เห็นเป็นหลุมขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่ในตอนนี้ ก็เพราะว่ามีโครงกระดูกนับไม่ถ้วนถูกฝังอยู่ที่นั่น…

โครงกระดูกเหล่านั้นประกอบด้วยส่วนที่ยังเหลืออยู่ของเด็กทารก มองเห็นรอยกัดอยู่บนกระดูก ซึ่งเป็นสักขีพยานต่อความทุกข์ทรมานอันยากที่จะคาดคิดได้ ก่อนที่พวกมันจะตายไป

โครงกระดูกเหล่านั้นไม่ได้เป็นของกลุ่มคนนอกคอก พวกมันคือ…กลุ่มคนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล!

ย้อนกลับไปในตอนที่อาณาจักรขุนเขาทะเลถูกทำลายไป คนทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่บนผีเสื้อขุนเขาทะเล ส่วนใหญ่แล้วจะถูกจับกุมตัวไปโดยกลุ่มคนนอกคอกแห่งสามสิบสามสวรรค์

ทั้งผู้ฝึกตนและมนุษย์ธรรมดา ต่างก็เป็นเช่นเดียวกัน กลายมาเป็นเครื่องเล่นให้กับกลุ่มคนนอกคอก หรือแม้แต่เป็นอาหาร…

อันที่จริงสวรรค์ชั้นที่สิบสามได้ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมเช่นนี้ กลุ่มคนนอกคอกเหล่านี้ต่างก็หมกมุ่นอยู่กับการกระทำเช่นนั้น และเนื่องจากความจริงที่ว่าในที่สุดพวกมันก็มีผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาหนึ่งคน จึงมั่นใจได้ว่าผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลส่วนใหญ่แล้วจะต้องมาจบชีวิตลงในที่แห่งนี้ ที่ซึ่งพวกมันได้กลายเป็นสินค้าที่ถูกซื้อขายกันไปมาระหว่างกลุ่มคนนอกคอกด้วยกัน

ในท่ามกลางโครงกระดูกเหล่านั้น มีอยู่บางโครงกระดูกที่ตายไปแล้วในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อหกสิบปีก่อน นอกจากนี้จากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว ก็ไม่มีผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลรอดชีวิตอยู่อีกต่อไปภายในสามสิบสามสวรรค์ เห็นได้ชัดว่าพวกมันค่อยๆ ถูกกำจัดไปตลอดช่วงเวลาสองพันปีที่ผ่านมา และถูกฝังอยู่ในที่แห่งนี้จนกลายเป็นหลุมฝังศพขนาดใหญ่

มันคือหลุมแห่งซากศพขนาดใหญ่

ในท่ามกลางดินแดนกว้างใหญ่ของสวรรค์ชั้นอื่นๆ ที่ถูกทำลายไป ไม่มีสถานที่แห่งใดเป็นเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวมองลงไปยังหลุมลึก และจากนั้นรังสีสังหารในแววตาก็ยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าวิธีการก่อนหน้านี้ของตนเองช่างเมตตามากเกินไป

เมิ่งฮ่าวหันหลัง และยกมือขึ้นมาชี้ตรงไปยังดินแดนกว้างใหญ่ ไม่มีระลอกคลื่นแผ่กระจายออกไป แต่ทำให้กฎธรรมชาติในที่แห่งนั้นเปลี่ยนแปลงไป เวลาเดียวกันนั้นก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในจิตใจของกลุ่มคนนอกคอกแห่งสวรรค์ชั้นที่สิบสาม

“ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าครั้งหนึ่ง ใครก็ตามที่ไม่เคยสังหารผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็จะพบเจอกับการตายไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้วิญญาณของพวกเจ้าก็จะไม่ถูกโยนเข้าไปในทะเลแห่งเปลวไฟ”

“โชคชะตาของพวกเจ้าจะถูกตัดสินจากความทรงจำของพวกเจ้าเอง!” เมื่อพูดจบแผ่นฟ้าสะท้านผืนดินสะเทือน กลุ่มคนนอกคอกแห่งสวรรค์ชั้นที่สิบสาม เริ่มสั่นไปทั้งร่าง ดวงตาเริ่มว่างเปล่า ขณะที่ภาพจำนวนมากพุ่งขึ้นมาในจิตใจ ซึ่งเป็นความทรงจำของพวกมันเอง

พวกมันนึกย้อนกลับไปยังทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เมื่ออาณาจักรขุนเขาทะเลถูกทำลายไปและช่วงเวลาหลังจากนั้น ทันใดนั้นผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด ที่พวกมันเคยสังหารไปเมื่อในอดีตจู่ๆ ก็ดูเหมือนว่าจะมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง และเริ่มพุ่งตรงมายังพวกมันด้วยความเกลียดชังและความต้องการสังหาร

กลุ่มคนนอกคอกต้องการจะต่อสู้กลับไป แต่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าไม่อาจขยับร่างเคลื่อนไหวได้ ผู้ฝึกตนที่พวกมันสังหารไปเมื่อในอดีต กำลังพุ่งกระโจนตรงมา จากในความทรงจำของพวกมัน

เสียงกรีดร้องอย่างน่าอนาถใจเริ่มดังก้องออกมา จากปากของกลุ่มคนนอกคอกแห่งสวรรค์ชั้นที่สิบสาม

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในสวรรค์ชั้นที่สิบสามคือกลุ่มคนนอกคอก แต่การถือกำเนิดขึ้นมาของพวกมันก็แตกต่างไปจากผู้ฝึกตน ระยะเวลาในการตั้งครรภ์ของพวกมันคือสามสิบปี และที่ยาวนานมากที่สุดก็เป็นหนึ่งร้อยปี

ด้วยเช่นนั้นคนนอกคอกที่ถือกำเนิดขึ้นมาหลังจากสงครามอาณาจักรขุนเขาทะเล ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่เคยมีส่วนร่วมในการต่อสู้จริงๆ และถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ยังคงมีส่วนร่วมในการเข่นฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณต่อผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลมากมาย

เมิ่งฮ่าวมองไปยังกลุ่มคนนอกคอกด้วยสายตาที่เย็นชา ขณะที่กลุ่มควันสีดำเริ่มพุ่งขึ้นมาจากศีรษะพวกมัน ความหนาแน่นของกลุ่มควันนั้นเป็นตัวบ่งชี้ว่าพวกมันได้สังหารผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลไปมากน้อยเท่าใดตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา

ขณะที่เมิ่งฮ่าวมองไปยังดินแดนกว้างใหญ่ ก็พบว่าไม่มีคนนอกคอกแม้แต่คนเดียวที่ไม่มีกลุ่มควันสีดำพุ่งขึ้นมา!

“ต่อให้ตายไปก็ยังไม่สาสมกับความผิดของพวกเจ้า!” ด้วยเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือออกไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version