Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1552

ตอนที่ 1552

ทะเลที่เก้าผู้ทรยศ

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างสวี่ชิง ขณะที่ค่อยๆ เงยหน้ามองขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นแรก ที่ยืดยาวออกไปทั่วตรงด้านบนที่ดูคล้ายกับเป็นท้องฟ้าอย่างช้าๆ นางรู้สึกได้ว่าเมิ่งฮ่าวกำลังมองลงมายังตนเองจากที่ไหนสักแห่งตรงตำแหน่งที่อยู่สูงขึ้นไปนั้น

นางยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมุ่งหวังและมีความสุข ความคิดและความทรงจำมากมายเต็มอยู่ในจิตใจ และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยความอบอุ่น ซึ่งสามารถจะหลอมละลายน้ำแข็งในแผ่นฟ้าและผืนดินไปได้ทั้งหมด

เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่เงาร่างนับไม่ถ้วนบินขึ้นมาจากภายในโลกแห่งผีเสื้อขุนเขาทะเล นำหน้ามาด้วยเมิ่งไว่กง ตี้จ้าง ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด และ…เคอจิ่วซือ!

คนทั้งสี่คือผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งมากที่สุดในอาณาจักรขุนเขาทะเล และพุ่งตรงไปยังสวรรค์ชั้นแรกโดยไม่ลังเลใดๆ

พื้นฐานฝึกตนของคนทั้งสี่พุ่งทะยานขึ้นไปจนถึงระดับที่สูงมากกว่าเดิม สามารถจะรักษาบาดแผลได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น สัมผัสศักดิ์สิทธิ์และเวทแห่งเต๋าก็ทรงพลังมากกว่าเดิม พลังการต่อสู้ในตอนนี้ของคนทั้งหมด ทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน

สำหรับผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดยิ่งพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตะลึงมากไปกว่านั้น ตลอดช่วงเวลานับพันปีที่เมิ่งฮ่าวจากไป มันไม่เคยขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามขณะที่พลังการต่อสู้ของมันเพิ่มขึ้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ราวกับว่าการเชื่อมต่อบางอย่างที่ถูกตัดขาดไปในที่สุดก็ได้รับการซ่อมแซมฟื้นฟูกลับคืนมา

สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ขณะที่สี่ผู้ยิ่งใหญ่นำกลุ่มคนทั้งหมดเข้าร่วมการต่อสู้ เจ้าอ้วน หวังโหย่วฉาย ฟางอวี๋ หลี่หลิงเอ๋อร์ และจื่อเซียงต่างก็ปรากฏตัวขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มคนอื่นๆ ที่ดูคุ้นตามากมาย

ด้านหลังพวกมันเป็นผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลมากไปกว่านั้น รวมทั้งชายชราที่เคยพบเจอกับการทำลายล้างแห่งขุนเขาทะเล และกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เคยแต่ได้ยินตำนานของเมิ่งฮ่าวมา

ตอนนี้คนทั้งหมดกำลังโจมตีไปด้วยพลังที่ระเบิดขึ้นมา

เมิ่งฮ่าวต้องอดทนกล้ำกลืนมานานนับพันปี เช่นเดียวกับผู้ฝึกตนอื่นๆ แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล เขาต้องการระบายความคับแค้นใจ ต้องการล้างแค้น และพวกมันก็เป็นเช่นเดียวกัน

ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้สวรรค์ชั้นแรกจนถึงชั้นที่สิบเพื่อเป้าหมายเช่นนั้น

รากเหง้าแห่งความเกลียดชังทั้งหลายของพวกมันในตอนนี้ถูกตัดจนขาดไป ไม่มีอะไรที่จะคงอยู่เพื่อทำให้จิตใจพวกมันตกต่ำลงไปได้อีกแล้ว

ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลนับไม่ถ้วนโจมตีไปตลอดทางจนถึงสวรรค์ชั้นแรก และในที่สุดเสียงกรีดร้องโหยหวนก็เริ่มดังก้องขึ้นมา กลุ่มคนนอกคอกดิ้นรนต่อสู้กลับไป แต่พลังการฝึกตนของพวกมันถูกจำกัดไว้ สัมผัสศักดิ์สิทธิ์หายไป พลังแห่งความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทอ่อนแอลง เพียงชั่วขณะพวกมันก็ถูกกำจัดไป

ถึงแม้ว่าพวกมันจะต่อสู้ดิ้นรน แต่ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลก็สามารถจะล้างแค้นได้อย่างง่ายดาย อันที่จริงกลุ่มคนนอกคอกไม่อาจจะทำร้ายคนทั้งหมดได้แม้แต่น้อย

ถ้าเมิ่งฮ่าวทำการล้างแค้นด้วยความบ้าคลั่งเช่นนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความคลุ้มคลั่งที่ผู้ฝึกตนอื่นๆ แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังโจมตีออกไปในตอนนี้

หยดน้ำตาไหลลงมานองหน้าขณะที่พวกมันร้องตะโกนขึ้น ปลดปล่อยพลังจากพื้นฐานฝึกตนออกไป คนนอกคอกใดๆ ก็ตามที่พวกมันพบเจอ ต่างก็ถูกกำจัดไปได้อย่างง่ายดายราวกับเป็นหญ้าแห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนชราที่เคยต่อสู้ในสงครามเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา พวกมันต่างก็ร้องไห้กันหนักมาก

“ซือจุน (อาจารย์) ท่านเห็นหรือไม่? ข้ากำลังล้างแค้นให้ท่านแล้ว!!” คำพูดเหล่านี้ดังออกมาจากปากของบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีเส้นผมที่ขาวโพลน และใบหน้าก็เต็มไปด้วยริ้วรอยที่เหี่ยวย่น ดูเหมือนว่าจะแก่ชรา แต่จริงๆ แล้วก็อยู่ในวัยกลางคน มันต่อสู้ด้วยความบ้าคลั่งพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย สังหารกลุ่มคนนอกคอกไปคนแล้วคนเล่า จนกระทั่งร่างมันเปียกชุ่มไปด้วยโลหิต แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

“ซานซาน เจ้าพุ่งมาขวางอยู่ข้างหน้า เพื่อช่วยให้ข้าปลอดภัยจากแรงระเบิดของคนนอกคอก เมื่อเจ้าตายไป จิตใจข้าก็แหลกสลาย ที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ก็เพื่อล้างแค้นเท่านั้น ข้าต้องล้างแค้น และสังหารคนนอกคอกไปให้หมดสิ้น คนนอกคอกต้องตายไปทั้งหมด!” ผู้ฝึกตนวัยกลางคนผู้หนึ่งยืนอยู่บนสนามรบ ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ ทั้งร้องไห้และหัวเราะในคราเดียวกัน ขณะที่ทำการสังหารกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น

“เตีย (บิดา) เหนียง (มารดา) เกอเกอ (พี่ชาย) ข้าไม่เคยลืมความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในจิตใจตอนนั้น ในที่สุดตอนนี้ข้าก็สามารถล้างแค้นให้กับพวกท่านได้แล้ว!” ชายชราผู้หนึ่งพุ่งทะยานขึ้น กัดลงไปบนลำคอของคนนอกคอกที่กำลังหวาดกลัว เมื่อมันฉีกกระชากชิ้นเนื้อบนลำคอของคนนอกคอกออกมา โลหิตก็พุ่งกระจายจนคล้ายน้ำพุ จากนั้นชายชราก็หัวเราะเป็นเสียงดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ

ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลต่อสู้ด้วยความบ้าคลั่ง โดยเฉพาะคนที่เคยเข้าร่วมสงครามเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้

“ข้าคือผู้ที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวของสำนัก วันนี้ข้าจะสังหารคนนอกคอกหนึ่งแสนคนเพื่อเป็นเครื่องสังเวยให้กับเหล่าผู้กล้าที่ตายไป!”

“สังหารพวกมันให้หมด!”

“ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อล้างแค้นเท่านั้น!”

คนทั้งหมดต่อสู้ด้วยความดุร้าย ในที่สุดกลุ่มคนนอกคอกบนสวรรค์ชั้นแรกก็ถูกกวาดล้างไปจนหมดสิ้น หลังจากนั้นคนทั้งหมดก็พุ่งตรงไปยังสวรรค์ชั้นที่สอง

สำหรับผู้ฝึกตนอื่นๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงหนึ่งพันปีก่อน ความเกลียดชังของพวกมันไม่ได้ลึกล้ำมากนัก อย่างไรก็ตามตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมา พวกมันก็ได้ยินเรื่องราวเมื่อในอดีตจากผู้อาวุโสที่เล่าให้ฟัง และถูกกดดันด้วยสามสิบสามสวรรค์ที่อยู่ตรงด้านบนอยู่ตลอดเวลา

พวกมันได้เห็นรูปวาดของอาณาจักรขุนเขาทะเลเมื่อในอดีต และได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเก้าขุนเขาและเก้าทะเลมาก่อน

แน่นอนว่าทั้งหมดเหล่านั้นเป็นแค่เรื่องราวและรายละเอียดที่ถูกบอกเล่าสืบต่อกันมาเท่านั้น อาณาจักรขุนเขาทะเลเองค่อนข้างจะเป็นความคิดที่เลือนราง ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้มีความเกลียดชังอย่างลึกล้ำมากนัก

แต่จากนั้นพวกมันก็ได้เห็นเหล่าผู้คนที่เคยพบเจอกับสงครามขุนเขาทะเลมาก่อน โดยปกติแล้วผู้คนเหล่านั้นมักจะสงบนิ่งเยือกเย็น แต่จู่ๆ ก็บ้าคลั่งขึ้นมา ทำให้จิตใจของคนหนุ่มสาวต้องสั่นสะท้านอย่างลึกล้ำ

ทันใดนั้นพวกมันก็เข้าใจได้อย่างแท้จริง ถึงความเกลียดชังอย่างรุนแรงที่เคยได้ยินมาจากเรื่องราวที่ถูกบอกเล่าสืบต่อกัน ชายชราเหล่านั้น…จะไม่ยอมให้ศัตรูของตนรอดชีวิตไปได้

เหล่าคนหนุ่มสาวต่างก็สั่นสะท้านอย่างลึกล้ำ ในที่สุดความรู้สึกเหล่านั้นก็ไหลซึมเข้าไปในเส้นโลหิตของพวกมัน ความทรงจำที่กระจัดกระจายไปเริ่มพุ่งขึ้นมา เป็นความทรงจำที่อยู่ในสายโลหิตของกลุ่มผู้คนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลไปตราบชั่วนิรันดร์

เนื่องจากความทรงจำที่ตื่นขึ้นมาเหล่านั้น และเนื่องจากความบ้าคลั่งที่อยู่รอบๆ ตัวพวกมัน ทำให้กลุ่มคนหนุ่มสาวที่ถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงหนึ่งพันปีก่อน เริ่มต่อสู้ด้วยความบ้าคลั่งเช่นเดียวกับเหล่าผู้อาวุโส

เจ้าอ้วนต่อสู้ไปร้องไห้ไปด้วย ร่างกายมันราวกับเป็นลูกหนังขนาดใหญ่ แต่ก็ยังคงคล่องแคล่วว่องไวอย่างน่าประหลาดใจ ขณะที่พุ่งทะยานตรงไปกวาดล้างเหล่าคนนอกคอกใดๆ ก็ตามที่ขวางทางอยู่เบื้องหน้า

“พวกเจ้าสังหารภรรยาข้าไปสามร้อยคน! เจ้าพวกบัดซบสารเลว! พวกเจ้าสังหารคนรักข้าไปถึงสามร้อยคน!!”

“รวมทั้งบุตรหลานของข้าด้วย! บัดซบ ข้าจะไม่ยอมหยุดจนกว่าพวกเจ้าจะตายไปทั้งหมด!”

อย่างน่าตกใจยิ่ง เจ้าอ้วนถูกห้อมล้อมโดยผู้ฝึกตนนับหมื่นซึ่งเรียกมันว่าท่านปรมาจารย์ คนที่ต่อสู้เคียงข้างมันเหล่านั้นมีทั้งบุรุษและสตรี ชราและเยาว์วัย ในท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้นเป็นภรรยาใหม่ของมัน ที่อยู่ร่วมกันมานับร้อยปีที่ผ่านมา รวมทั้งบุตรหลานใหม่ของมันด้วย

มันสร้างตระกูลขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วยตัวเพียงคนเดียว คล้ายกับเป็นผลงานของผู้ก่อตั้งตระกูลซึ่งเป็นชีวิตที่แปดของร่างจำแลงเมิ่งฮ่าว

ในที่สุดสวรรค์ชั้นที่สองก็พังทลายลงไป กองกำลังผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล มุ่งหน้าตรงไปยังสวรรค์ชั้นที่สามด้วยดวงตาที่แดงก่ำ และจากนั้นก็ชั้นที่สี่

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเปียกชุ่มไปด้วยโลหิต ดวงตาหวังโหย่วฉายปิดอยู่ แต่ก็ถือกระบี่อยู่ในมือเล่มหนึ่ง เมื่อมันปลดปล่อยพลังการฝึกตนออกไป กลุ่มคนนอกคอกนับไม่ถ้วนก็ถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ ถึงจะปล่อยให้ศีรษะพวกมันครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ก็รวบรวมมัดเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นกระแสคล้ายสายน้ำที่ลอยพริ้วอยู่ด้านหลัง

สายน้ำแห่งศีรษะเหล่านั้นคล้ายกับเป็นผ้าคลุมไหล่ ทำให้ดูโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด คนนอกคอกใดๆ ก็ตามที่มองไปยังมัน ก็จะต้องตื่นตระหนกด้วยความหวาดกลัว

ในท่ามกลางกองกำลังของผู้ฝึกตนเหล่านั้นเป็นตระกูลฟาง ที่ต่อสู้ด้วยความดุร้ายกว่าคนอื่นๆ ทั้งปวง

ในที่สุดผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลก็มาถึงสวรรค์ชั้นที่หก การล้างแค้นของพวกมันบรรลุถึงจุดสูงสุด ดวงตากลายเป็นสีแดงเจิดจ้า ขณะที่ระเบิดพลังออกไปด้วยแรงกดดันที่สะสมมานานนับพันปี

หลี่หลิงเอ๋อร์ร้องไห้ไปด้วยขณะที่ทำการต่อสู้ไปมา

กัดฟันแน่นพร้อมกับคิดถึงไห่เมิ่งจื้อจุนไปด้วย ไม่สำคัญว่านางจะเป็นหญิงสาวหรือไม่ แต่ก็ทำการสังหารไปอย่างดุร้าย นางไม่ได้ดูงดงามเหมือนกับตอนเยาว์วัยอีกต่อไป ตอนนี้นางกลายเป็นหญิงชราไปแล้ว แต่ก็ยินดีที่จะจ่ายค่าตอบแทนใดๆ เพื่อสืบทอดมรดกของไห่เมิ่งจื้อจุนต่อไป

สวรรค์ชั้นที่หกพังทลายลงไป และการต่อสู้ก็ย้ายไปยังสวรรค์ชั้นที่เจ็ด จื่อเซียงคล้ายกับเป็นภูตผีขณะที่ต่อสู้กับกลุ่มคนนอกคอก หลายปีก่อนโน้นนางเรียกตัวเองว่าภูตสาว ตอนนี้นางกลายเป็นเจ้าสำนักเซียนอสูร ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสำนักใหญ่แห่งผีเสื้อขุนเขาทะเล อันเนื่องมาจากว่า…เคอจิ่วซือได้กลับมาเข้าสังกัดสำนักเซียนอสูร และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้ว

ขณะที่การสังหารเพื่อล้างแค้นกำลังดำเนินต่อไป สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างสี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งขุนเขาทะเล และผู้ยิ่งใหญ่จากสวรรค์ชั้นต่างๆ แต่เป็น…เต่ายักษ์ตัวหนึ่ง!

ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนบินออกมาจากหลังของเต่ายักษ์เพื่อต่อสู้กับกลุ่มคนนอกคอกอย่างดุร้าย เต่ายักษ์ใช้ศีรษะโขกกระแทกไปยังสวรรค์ชั้นที่เจ็ด บดขยี้มันลงไป จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา พุ่งตรงไปยังสวรรค์ชั้นที่แปด

“ท่านย่ามันเถอะ! ศิษย์ผู้สืบทอดของเหลาจู่ (ปรมาจารย์) กลับมาแล้ว เหลาจู่ภาคภูมิใจนัก! เจ้าพวกบัดซบไม่ต้องหลบหนี! เหลาจู่จะมอบโชควาสนาให้กับพวกเจ้า!”

อย่างไรก็ตามขณะที่เต่ายักษ์เริ่มเคลื่อนที่ตรงไปยังทิศทางของสวรรค์ชั้นที่แปด ระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมา ขณะที่ดินแดนอันกว้างใหญ่นั้นกลายเป็น…ทะเล!

ในทันทีที่ทะเลแห่งนั้นปรากฏขึ้นมา สายตาเมิ่งฮ่าวก็ตกกระทบลงไป

“ผู้ทรยศแห่งขุนเขาทะเล, ทะเลที่เก้า”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version