Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1578

ตอนที่ 1578

การเปลี่ยนแปลงของหลัวเทียน

ในตอนที่การเชื่อมต่อถูกตัดออกไปนั้น พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งทะยานขึ้น ถึงแม้ว่าจะยังคงอยู่ห่างจากอาณาจักรบรรพจารย์แค่ครึ่งก้าว แต่ก็ก้าวหน้าขึ้นไปอย่างเห็นได้ชัดเจน

เส้นผมเมิ่งฮ่าวพลิ้วไสวไปมา และพลังก็พุ่งขึ้นไป เมื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะท้านไปทั่ว ดวงตาของร่างจำแลงหลัวเทียนเบิกกว้างขึ้น ขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวก็กล่าวขึ้นมาว่า

“ข้าคือเจตจำนงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ข้าคือจิตวิญญาณของมัน คำพูดของข้าคือกฎธรรมชาติ และความคิดของข้าก็คือกฎแห่งเวททั้งปวง!”

“วันนี้ข้าจะสร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ ที่แห่งใดก็ตามที่ข้ายืนอยู่ ก็จะไม่ใช่สถานที่อันปลอดภัยสำหรับผู้ฝึกตนนี้!”

ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากมัน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็เริ่มสั่นสะเทือน เสียงกระหึ่มคล้ายเสียงฟ้าร้องคำรามก็ได้ยินมา และรอยแตกก็เปิดออกที่ด้านบน ได้ยินเสียงแตกร้าวดังก้องขึ้น เมื่อรอยแตกกระจายออกไปและรวมตัวเข้าด้วยกัน พลังที่ฉีกกระชากสวรรค์บดขยี้ปฐพีก็กระจายออกไป ขณะที่…กฎธรรมชาติแบบใหม่ปรากฏขึ้นมา

เวลาเดียวกันนั้นความว่างเปล่าที่อยู่รอบตัวเมิ่งฮ่าวก็เริ่มพังทลายลงไป กลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ ราวกับว่ากฎธรรมชาติแบบใหม่นี้จะทำให้สิ่งที่คงอยู่ทั้งปวง ไม่ยินดีที่จะเข้าใกล้เมิ่งฮ่าว เนื่องจากกฎธรรมชาตินี้ จึงไม่มีสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเมิ่งฮ่าวในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งนี้!

หลุมดำนั้นไม่ใช่หลุมดำที่แท้จริง แต่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวและความว่างเปล่าไม่ยอมให้เมิ่งฮ่าวคงอยู่ภายในที่แห่งนี้ด้วยความปลอดภัย

ขณะที่พวกมันล่าถอยออกไป ก็ทิ้งหลุมดำไว้เบื้องหลัง เป็นสิ่งที่มืดสนิทอย่างไร้จุดสิ้นสุด ทำการเชื่อมต่อเข้ากับอาณาเขตตรงด้านนอกความว่างเปล่าไร้ขอบเขต ซึ่งก็คือจักรวาล ถ้าเมิ่งฮ่าวตกลงไปข้างใน ก็จะต้องถูกขับไล่ออกไปอย่างสมบูรณ์

การต่อสู้ดำเนินไปจนเกินกว่าจะใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ และตกอยู่ในอาณาจักรแห่งการต่อสู้ด้วยกฎธรรมชาติ เป็นระดับการต่อสู้อันน่ากลัวเกินกว่าที่ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่จะสามารถคาดคิดได้ เป็นการต่อสู้เฉพาะผู้ฝึกตนเหนือสูงสุดเท่านั้น

ระดับพลังของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ ไม่สามารถจะสร้างเป็นกฎธรรมชาติแบบใหม่ด้วยคำพูดได้ แต่ก็สามารถจะเปลี่ยนแปลงมันได้

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายเจิดจ้าขึ้นกล่าวว่า “เต๋าของข้าคืออิสรภาพและเสรีภาพ เป็นสิ่งที่ไร้ขีดจำกัดและพันธนาการใดๆ ข้าไม่ปรารถนาให้สวรรค์ที่เป็นของคนอื่นอยู่เหนือข้า เต๋าของข้าคือแก่นแท้ ที่ใดก็ตามที่ข้ายืนอยู่ ก็สามารถจะเรียกแก่นแท้แห่งเต๋าของข้ามาปัดเป่ากฎธรรมชาตินั้นให้กระจัดกระจายออกไปได้ ไม่มีใครจะสามารถขับไล่ข้าออกไปจากที่แห่งนี้ได้!” เขาโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป ทำให้พลังแห่งแก่นแท้เต๋าส่งเสียงดังกระหึ่ม ทำการเปลี่ยนแปลงกฎธรรมชาติให้บิดเบี้ยวไปมาและแตกกระจายไป

หลุมดำที่อยู่ด้านล่างหายไป ทำให้ทุกสรรพสิ่งกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

หลัวเทียนตระหนักดีว่าในการต่อสู้ด้วยกฎธรรมชาตินี้ มีอันตรายมากเกินกว่าที่ผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเข้าใจได้

ดวงตาหลัวเทียนสาดประกายขึ้นขณะที่กล่าวว่า “ข้าขอเพิกถอนการควบคุมธาตุทั้งห้าของเจ้า และสร้างเป็นกฎธรรมชาติขึ้นมาใหม่!”

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อกล่าวว่า “ธาตุทั้งห้าคงอยู่ภายในแก่นแท้เต๋าของข้า ที่ใดก็ตามที่

แสงแห่งเต๋าของข้าสาดส่องไปถึง ห้าธาตุจะไม่มีทางกระจายหายไป!”

 

เสียงของหลัวเทียนดังกระหึ่มขึ้นคล้ายเสียงฟ้าร้องคำราม ขณะที่กล่าวว่า “แสงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวไม่มีทางจะสาดส่องลงมาบนร่างเจ้า! ข้าขอตัดความสามารถในการมองเห็นแสงของเจ้าไป!”

ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดสีดำสนิท ราวกับว่าไม่อาจจะมองเห็นแสงได้แม้แต่น้อย ราวกับว่าเขากำลังหลอมรวมเข้ากับความมืด กลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน

เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา “ข้าคือผู้ฝึกตนเหนือสูงสุด ห่างจากอาณาจักรบรรพจารย์แค่ครึ่งก้าว แสงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวไม่คู่ควรที่จะมาสัมผัสโดนข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องตัดมันไป ข้าจะบอกให้มันไสหัวไปเอง!”

ก่อนหน้านี้ร่างกายของเมิ่งฮ่าวกำลังจางหายไป แต่ตอนนี้กลับแจ่มชัดราวกับเป็นยามกลางวัน เขาไม่เพียงแต่จะขับไล่แสงออกไปเท่านั้น ยังได้ขับไล่ความมืดมิดไปด้วยเช่นกัน

ใบหน้าหลัวเทียนบิดเบี้ยวขึ้นด้วยโทสะ ถึงแม้ว่ามันจะได้เปรียบในการต่อสู้ด้วยกฎธรรมชาติ และเป็นผู้นำอยู่หนึ่งก้าวเสมอ แต่ก็รู้สึกได้ว่าไม่อาจจะทำอะไรได้เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเมิ่งฮ่าว “วิญญาณเจ้าคือเปลวไฟชีวิตของเจ้า ขุนเขาทะเลคือดินแดนของเจ้า ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้ขุนเขาทะเลคงอยู่ และวิญญาณเจ้าก็ไม่อาจจะลุกไหม้ขึ้นด้วยเปลวไฟชีวิต!”

แสงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวไม่คู่ควรที่จะมาสัมผัสโดนข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องตัดมันไป ข้าจะบอกให้มันไสหัวไปเอง!”

ก่อนหน้านี้ร่างกายของเมิ่งฮ่าวกำลังจางหายไป แต่ตอนนี้กลับแจ่มชัดราวกับเป็นยามกลางวัน เขาไม่เพียงแต่จะขับไล่แสงออกไปเท่านั้น ยังได้ขับไล่ความมืดมิดไปด้วยเช่นกัน

ใบหน้าหลัวเทียนบิดเบี้ยวขึ้นด้วยโทสะ ถึงแม้ว่ามันจะได้เปรียบในการต่อสู้ด้วยกฎธรรมชาติ และเป็นผู้นำอยู่หนึ่งก้าวเสมอ แต่ก็รู้สึกได้ว่าไม่อาจจะทำอะไรได้เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเมิ่งฮ่าว “วิญญาณเจ้าคือเปลวไฟชีวิตของเจ้า ขุนเขาทะเลคือดินแดนของเจ้า ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้ขุนเขาทะเลคงอยู่ และวิญญาณเจ้าก็ไม่อาจจะลุกไหม้ขึ้นด้วยเปลวไฟชีวิต!”

“ถ้าข้าไม่คงอยู่ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวทั้งปวงก็จะหายไปพร้อมกับข้า!” เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าดูแคลนขณะที่เผชิญหน้ากับกฎธรรมชาติเหล่านี้ของหลัวเทียน เวลาเดียวกันนั้นกลิ่นอายสะกดข่มก็กระจายออกมาจากร่าง

“คำพูดข้าทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงคงอยู่ภายในโลกแห่งนี้ ตอนนี้คำพูดข้าจะทำให้เจ้าต้องถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ แล้วเจ้าจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?”

หลัวเทียนเริ่มเดินตรงมา ทุกย่างก้าวของมันทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือน

เมิ่งฮ่าวก็เริ่มเดินตรงไปข้างหน้าด้วยเช่นกัน แต่ละก้าวนั้นก็ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนด้วยเช่นกัน “เจ้าสามารถทำลายร่างกาย กำจัดพื้นฐานฝึกตนข้าไปได้ แต่จิตวิญญาณและแก่นแท้เต๋าของข้าจะคงอยู่ ถ้าเจตจำนงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนี้เหมือนกับทะเลอันไร้ขอบเขต ข้าก็จะเป็นภูเขาศิลาที่คงอยู่ภายในน้ำนั้นตราบชั่วนิรันดร์ ไม่ว่าคลื่นเหล่านั้นจะบดขยี้ข้าอย่างไร ข้าก็จะยังคงอยู่ต่อไป!”

เมิ่งฮ่าวต่อสู้กลับไปอย่างไม่ลดละยังพลังที่มองไม่เห็นของหลัวเทียน ไม่ว่ากฎธรรมชาติแบบใหม่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขาก็ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย และจริงๆ แล้วก็ยังได้บดขยี้พวกมันอยู่ใต้แทบเท้าอีกด้วย

เมื่อหลัวเทียนสามารถสร้างพวกมันขึ้นมาได้ เมิ่งฮ่าวก็สามารถจะทำลายไปได้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าไม่อาจจะต่อสู้กับหลัวเทียนได้เต็มกำลังอย่างแท้จริง แต่การทำลายกฎธรรมชาติก็เป็นสิ่งที่ง่ายดายกว่าการสร้างมันขึ้นมามากนัก

สิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆ ความว่างเปล่าไร้ขอบเขตกำลังถอยร่นไปทางด้านหลังด้วยความรวดเร็วสูงสุด การต่อสู้ระหว่างเมิ่งฮ่าวและหลัวเทียนเป็นสิ่งที่พวกมันไม่อาจจะเข้าร่วมได้ ได้แต่ต้องล่าถอยออกไปด้วยจิตใจที่กำลังหมุนคว้างไปมาเท่านั้น

สำหรับผู้ยิ่งใหญ่ และสิ่งมีชีวิตเก้าแก่นแท้ พวกมันต่างก็สั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง และดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น ขณะที่พยายามเป็นอย่างมากเพื่อเรียนรู้การต่อสู้ด้วยกฎธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงเบื้องหน้าในตอนนี้

กลุ่มคนเหล่านั้นทั้งหมดอยู่ห่างจากเหนือสูงสุดแค่ก้าวเดียวเท่านั้น แต่เป็นก้าวที่ห่างไกลจากความสำเร็จมากที่สุด โชคดีที่พวกมันได้มาเห็นการต่อสู้นี้ด้วยสองตาของตนเอง ทำให้ได้รับประโยชน์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“เหนือสูงสุด…นี่คือเหนือสูงสุด!”

“ในอาณาจักรพื้นฐานเต๋า สามารถจะสร้างกฎธรรมชาติขึ้นมา และทำลายพวกมันไปได้อย่างแท้จริง!” เจ้าสำนักและคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะต้องหอบหายใจออกมา ขณะที่เพ่งสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้

เมิ่งฮ่าวเพิ่งจะตัดสายโลหิตของตนเองไป เพื่อได้รับอิสรภาพและเสรีภาพที่แท้จริง แม้แต่กฎธรรมชาติที่กำลังโจมตีมาก็ยังไม่อาจจะทำอะไรได้ ดวงตาร่างจำแลงหลัวเทียนสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา ขณะที่เดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว ทำให้พลังพุ่งสูงขึ้นไปมากกว่าเดิม

ลมพายุพุ่งขึ้นมาม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่น

สะเทือนไปมา ดวงตาร่างจำแลงแวบประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร

“หลัวเทียน แรกเปลี่ยนแปลง!”

ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากมัน ร่างกายก็เริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้น เนื้อแปดก้อนเริ่มโผล่ขึ้นมาจากหัวไหล่ อย่างน่าตกใจยิ่งพวกมันกลายเป็น…ศีรษะแปดเศียร

เมื่อรวมเข้ากับศีรษะเดิมของมัน ตอนนี้ก็มีทั้งหมดเก้าเศียร!

ร่างกายมันเริ่มเปลี่ยนรูปด้วยเช่นกัน ไม่ได้เป็นมนุษย์อีกต่อไป แต่เป็นอสรพิษที่มีความยาวถึงหนึ่งล้านจ้าง รูปร่างหน้าตาของมันทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือน ดุร้ายน่ากลัวอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้

ศีรษะทั้งเก้ามองมายังเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็แผดร้องคำรามออกมา ปลดปล่อยคลื่นเสียงอันน่าเหลือเชื่อออกมา จนแม้แต่ตำแหน่งของดวงดาวก็ยังต้องเคลื่อนที่ออกไป เมื่อคลื่นเสียงนั้นพุ่งผ่านไป และผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง

นี่คือพลังที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version