Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 331

ตอนที่ 331

ก็แค่ขโมยมันมา

เมิ่งฮ่าวชะงักเดินในทันที จากนั้นก็นั่งกลับลงไปและเพ่งมองไปที่งานประมูลอีกครั้ง ดวงตาสาดประกายขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนธงผืนนั้นไม่มีอะไรที่ดูแปลกเป็นพิเศษ แต่สำหรับนกแก้วที่แสดงท่าทางสนใจในธงนั้น ก็ทำให้เมิ่งฮ่าวมั่นใจว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

“หนึ่งหมื่นหินลมปราณ!” บางคนร้องออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง ในขณะที่คำพูดแนะนำยังคงดังก้องอยู่รอบๆ ลานประมูล เมิ่งฮ่าวแอบชำเลืองมองไปรอบๆ และมองเห็นเจ้าของเสียงนั้นเป็นใครบางคน ที่อยู่ท่ามกลางหนึ่งในสามกลุ่มผู้ฝึกตนที่ดูท่าทางมีพลังอำนาจในงานประมูลครั้งนี้

ราคาประมูลที่เปิดขึ้นมาทำให้ทุกคนขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าจะเสนอราคาอื่นอีก แม้แต่ผู้ฝึกตนจากอีกสองกลุ่ม ก็ไม่ทำอะไรนอกจากพูดคุยกันด้วยเสียงแผ่วเบา

ผู้ดำเนินการประมูลแอบถอนหายใจ ในอดีตเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการประมูลของเมืองตงลั่ว แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์วุ่นวายในดินแดนสีดำ จิ่วเหมิงก็ต้องการรับสมัครกลุ่มผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ด้วย ดังนั้น งานประมูลนี้จึงไม่ได้สำคัญมากนัก และเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นในตอนนี้ก็ไม่ได้รับการสนใจ

ขณะที่ผู้ดำเนินการประมูลกำลังจะเคาะฆ้อนลงไปเพื่อสรุปราคาสุดท้าย เสียงอันราบเรียบของเมิ่งฮ่าวก็ดังขึ้น

“หนึ่งหมื่นห้าพันหินลมปราณ” เขากล่าวเสียงเรียบเฉย ทันทีที่ทำเช่นนั้น ทั่วทั้งบริเวณงานประมูลก็เงียบลง และสายตาคู่แล้วคู่เล่าก็มาหยุดอยู่ที่เขา โดยเฉพาะกลุ่มผู้ฝึกตนซึ่งเป็นผู้เสนอราคาแรก กลุ่มของพวกมันมีอยู่มากกว่าสิบคน สามคนอยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณ ที่เหลืออยู่ในขั้นพื้นฐานลมปราณ แต่คนทั้งหมดก็มองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยท่าทางเคร่งเครียด

 

หนึ่งในสามผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณ ซึ่งมีพื้นฐานพลังเท่ากับเมิ่งฮ่าว กล่าวเสียงเย็นชาขึ้นมา “มารับหินลมปราณหนึ่งหมื่นห้าพันก้อนจากข้าแล้วจากไป ถ้าทำเช่นนั้น พวกเราก็จะไม่สร้างปัญหาใดๆ ให้กับเจ้า”

คำพูดของมันแค่ทำให้เมิ่งฮ่าวยิ้มออกมา “หนึ่งหมื่นหกพันหินลมปราณ” เขากล่าว

นี่ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ อ้าปากค้าง พวกมันมองเห็นแสงแปลกๆ ในดวงตาเมิ่งฮ่าว ซึ่งทำให้สีหน้าของบุรุษวัยกลางคนที่เพิ่งจะพูดออกมาเคร่งเครียดมากขึ้นไปอีก รังสีสังหารสาดประกายอยู่ในดวงตาของมัน

“เจ้าโง่พอที่จะปฏิเสธการไว้หน้าจากข้า? สองหมื่นหินลมปราณ!”

“สองหมื่นหนึ่งพันหินลมปราณ!” เมิ่งฮ่าวมีหินลมปราณไม่มากนัก และจริงๆ แล้วเขาก็มีอยู่เพียงเท่านี้ หลังจากซื้อใบกล้วยไม้วิญญาณ ถุงสมบัติเขาก็แฟบลง

“น่าสนใจนัก” ชายชราที่ยืนอยู่ข้างบุรุษวัยกลางคนกล่าว มันเป็นหนึ่งในสามผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณ พื้นฐานพลังของมันเท่ากับตงลั่วฮั่น อยู่ในขั้นกลางสร้างแกนลมปราณ “กลายเป็นว่ามีใครบางคนในเมืองตงลั่วกล้าที่จะขโมยสิ่งของบางอย่างที่เป็นของสามสำนักใหญ่ ข้าขอเสนอสี่หมื่นสำหรับธวัชผืนนี้”

มันมองมายังเมิ่งฮ่าวราวกับว่าเขากลายเป็นคนตายไปแล้ว

เมิ่งฮ่าวเงียบอยู่สองสามอึดใจ จากนั้นก็กล่าว “ห้าหมื่นหินลมปราณ!” ผู้ที่มุงดูอยู่รอบๆ เงียบลงโดยสิ้นเชิง แม้แต่ผู้ดำเนินการประมูลก็ดูท่าทางสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ในการประเมินของมัน ธงผืนนี้น่าจะมีค่าไม่เกินสี่หมื่นหินลมปราณ ห้าหมื่นหินลมปราณเป็นราคาที่สูงมาก

บางทีการประมูลอาจจะมีราคาสูงเมื่ออยู่ในดินแดนด้านใต้ แต่นี่เป็นดินแดนสีดำ ยิ่งไปกว่านั้น ในความคิดของมัน ธงผืนนี้ก็ไม่ได้มีอานุภาพน่าตื่นตกใจมากเท่าไหร่ จริงๆ แล้วมันได้พูดเกินจริงไปบ้าง

ชายชราขั้นกลางสร้างแกนลมปราณจ้องดูเมิ่งฮ่าว ด้วยสายตาที่เย็นเยียบราวน้ำแข็ง ไม่เพียงแต่มันเท่านั้น ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ก็ดูเหมือนจะคิดว่าเมิ่งฮ่าวกำลังท้าทายหนึ่งในสามขุมกำลังหลักของเมืองตงลั่ว, สำนักฮั่นสุ่ย (สายน้ำฮั่น)

“ถ้าเจ้าต้องการเสนอราคาเช่นนั้น เจ้าก็ต้องแสดงหินลมปราณออกมา”

ชายชรากล่าว ดวงตามันแวบแสงขึ้น “มิเช่นนั้น ข้าก็สามารถเสนอราคาใดๆ ก็ได้เช่นกัน” มันมองไปยังผู้ดำเนินการประมูล ซึ่งลังเลอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นก็มองมายังเมิ่งฮ่าว

“สหายเต๋า” มันกล่าว “เนื่องจากกฎของการประมูล เมื่อท่านทำให้ผู้ร่วมประมูลเกิดความสงสัย ท่านต้องแสดงหินลมปราณออกมา เพื่อพิสูจน์ว่าท่านมีอยู่จริง ได้โปรด อย่าได้ทำให้ข้าต้องลำบากใจ”

“ข้าสามารถขอยืมหินลมปราณได้เท่าใดด้วยของสิ่งนี้?” เมิ่งฮ่าวถาม ชูเหรียญคำสั่งสีดำขึ้นมา

“หนึ่งแสน” ผู้ดำเนินการประมูลกล่าวตอบ มองกลับไปยังผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณ

“ข้าจะจ่ายหนึ่งแสนห้าหมื่นสำหรับธวัชผืนนี้” ผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณกล่าวเสียงราบเรียบ มองมายังเมิ่งฮ่าวพร้อมกับรอยยิ้มอันเย็นชาในดวงตา ด้วยพลังอำนาจของสามสำนักใหญ่ รวมถึงความจริงที่ว่ามันได้รับคำเชื้อเชิญให้เข้าร่วมกับตระกูลตงลั่ว เพียงแค่หนึ่งแสนห้าหมื่นหินลมปราณ ก็เป็นราคาที่ตระกูลตงลั่วสามารถจ่ายให้ได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น มันจึงไม่ได้สนใจมากนัก สิ่งที่มันสนใจก็คือการบรรลุเป้าหมายของสำนัก ต่อหน้าผู้ฝึกตนทั้งหมดนี้ รังสีสังหารสาดประกายอยู่ในดวงตาของมัน

เมิ่งฮ่าวเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็แอบถอนหายใจ เขาเพียงแค่ต้องการธง ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ใคร อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผู้ดำเนินการประมูลก็มองมายังเขา เตรียมประกาศผู้ชนะการประมูลของชิ้นนี้

“ธวัชผืนนี้มีความสำคัญมากแค่ไหน?” เมิ่งฮ่าวสื่อสารกับนกแก้ว

“สำคัญมาก” มันกล่าวตอบ “ถ้าอู่เหยียดูไม่พลาด นั่นไม่ใช่ธง ใครก็ตามที่กลั่นสกัดของสิ่งนั้นให้กลายเป็นธงช่างโง่เขลานัก ทำให้ของวิเศษล้ำค่าต้องเสียหาย! เจ้ายังจำคนที่ข้าเคยบอกเจ้าว่าเป็นผู้ที่วาดภาพยันต์อาคม ซึ่งสุดท้ายก็ถูกเผาไหม้ไปได้หรือไม่? เถ้าธุลีที่ตกลงมาจากยันต์อาคมนั้นกลายเป็นดินแดนสีดำ แต่จริงๆ แล้ว ยันต์อาคมนั้นไม่ได้ถูกทำลายไปทั้งหมด บางส่วนของมันยังมีเหลืออยู่ และตกลงมาบนโลก”

“ธวัชนี้ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นยันต์อาคมที่ไหม้เกรียมซึ่งยังคงเหลืออยู่ ถ้าเจ้าได้มันมา ก็จะช่วยให้เจ้าได้รับการรู้แจ้งในสัญลักษณ์เวทของเซียนผู้นั้นเป็นอย่างมาก สามารถกล่าวได้ว่าการได้ธวัชนี้มา จะช่วยให้เจ้าสามารถฝึกฝนสัญลักษณ์เวทเหล่านั้นได้! ถ้าเจ้าไม่มีหินลมปราณพอ ก็แค่ขโมยมันมา! เจ้ารีรออันใด! ไม่ต้องหวาดกลัว! เชื่อมั่นในอู่เหยีย, ได้รับชีวิตนิรันดร์! อู่เหยียจะคอยปกป้องเจ้าเอง ขโมยเลย! นั่นเป็นสิ่งที่ข้ากระทำเมื่อหลายปีก่อน ขโมยมัน! ข้าจะช่วยให้เจ้าทะลวงเกราะป้องกันงานประมูลนี้ให้เอง!” เจ้านกแก้วดูเหมือนจะยิ่งมีความตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความมุ่งหวังให้เมิ่งฮ่าวขโมยธงผืนนั้น

เสียงของระฆังผีโต้งดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุยด้วยจิตใจระหว่างนกแก้วและเมิ่งฮ่าว “การขโมยเป็นเรื่องผิดศีลธรรม, ชั่วร้าย, แย่มาก” มันกล่าวเสียงเคร่งขรึม “ถ้าเจ้าทั้งสองทำเรื่องเช่นนี้ด้วยกัน ก็ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นไปอีก, ข้า…”

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำพูดของนกแก้ว ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกาย และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

งานประมูลนี้ถูกจัดขึ้นโดยตระกูลตงลั่ว และเขาก็กำลังพิจารณาเพื่อเข้าร่วมกับพวกมัน แต่เขามีเพียงแค่คนเดียว จะไปเปรียบเทียบกับสิบคนได้อย่างไร?

ยากจะบอกได้ว่าสุดท้ายแล้วตระกูลตงลั่วจะอยู่ข้างใคร นั่นคือปัญหา เมื่อดูเหมือนว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีก และมองเห็นผู้ดำเนินการประมูลกำลังจะกล่าวอะไรออกมา เมิ่งฮ่าวก็ลุกขึ้นยืนในทันที

ทำให้ผู้ดำเนินการประมูลจ้องมองมาด้วยความตกตะลึง ร่างเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น ท่ามกลางสายตาที่เบิกค้างทั้งหมดของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น เขาพุ่งตรงไปยังเวทีประมูลที่อยู่ตรงกลาง

เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครทันจะมีปฏิกิริยาใดๆ ขณะที่เขาเข้าไปใกล้แท่นเวที นกแก้วก็เริ่มตื่นเต้นมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันร้องเสียงดังออกมา พ่นบางสิ่งออกมาจากปากของมัน

เป็นการโจมตีที่กระแทกเข้าไปในแท่นเวทีโดยทันใด ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังก้องไปทั่ว ผู้ดำเนินการประมูลจ้องมาด้วยความตกใจ ขณะที่เกราะป้องกันซึ่งมองไม่เห็น ที่ปกป้องแท่นเวทีไว้ได้แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนนับไม่ถ้วน เมิ่งฮ่าวร่อนลงไป ไม่สนใจผู้ดำเนินการประมูล และคว้าจับธงไว้ จากนั้นก็หมุนตัวและพุ่งออกไป

ผู้ฝึกตนที่เข้าร่วมการประมูลส่วนใหญ่ไม่มีแม้แต่เวลาในการแสดงปฏิกิริยาใดๆ แต่ทันทีที่เมิ่งฮ่าวเริ่มหลบหนี เสียงแผดร้องสองเสียงก็ดังขึ้นมาจากจุดศูนย์กลางของลานประมูล สองชายชราทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้น และบินไปขวางทางเมิ่งฮ่าวไว้

“เจ้ากล้าขโมยสิ่งของจากงานประมูลของตระกูลตงลั่วของข้า!? เจ้ากำลังหาที่ตาย!”

“กลับไป!” พื้นฐานฝึกตนของชายชราระเบิดออกมาด้วยพลังของขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ

เมื่อได้เห็นพวกมันใกล้เข้ามา ก็ดูเหมือนจะยิ่งทำให้นกแก้วตื่นเต้นมากขึ้น มันส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง และเสียงอันดุร้ายก็ดังออกมา กระจายการโจมตีตรงไปยังสองชายชราขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ ร่างของพวกมันสั่นสะท้าน และไม่อาจจะเข้ามาใกล้มากไปกว่านี้

เมิ่งฮ่าวหลบผ่านพวกมันไป บินไปราวกับดาวตกเหนือศีรษะของผู้ฝึกตนคนอื่นๆ ทำให้เกิดเป็นสายลมอันรุนแรงพัดผ่านใบหน้าของพวกมัน ขณะที่เขากลายเป็นลำแสงพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า

ขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ จากตอนที่เขาหยิบฉวยธงจนกระทั่งหายตัวไป เขาเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ วิธีที่เขาใช้ในการหยิบธงขึ้นมาช่างราบเรียบและเป็นธรรมชาติ ราวกับเคยซักซ้อมอยู่เป็นประจำ จิตใจของผู้ฝึกตนที่มุงดูอยู่หมุนคว้างไปมา และเต็มไปด้วยความงุนงง

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันได้เห็นใครบางคนมาปล้นงานประมูล แม้แต่ในดินแดน

สีดำ นี่เป็นเรื่องที่ยากจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคิดว่ามักจะมีตระกูลหลักเป็นเจ้าของงานประมูล ผู้ฝึกตนทั้งหมดต่างก็มีสีหน้าแปลกๆ ปรากฎขึ้น

ผู้คนจากสามสำนักใหญ่มองมาด้วยความตกตะลึง ผู้ที่ตกตะลึงมากที่สุดก็คือชายชราซึ่งเพิ่งจะเสนอราคาสูงสุดไป มันจะคาดคิดได้อย่างไรว่าคู่ต่อสู้ของมันจะ…ละเมิดกฎด้วยวิธีการเช่นนี้?

มันไม่มีหินลมปราณ ดังนั้นมันก็แค่ขโมยของไป…อันที่จริง สามสำนักใหญ่เหล่านี้ก็มักจะทำเช่นเดียวกันนี้ แต่ก็กระทำอย่างเป็นความลับ พวกมันไม่เคยกล้าจะกระทำอย่างเปิดเผยเช่นนี้มาก่อน

จริงๆ แล้ว ตอนนี้ก็ดูเหมือนราวกับว่าชายชราเพิ่งจะพูดเรื่องขำขันออกไป โทสะปรากฎขึ้นบนใบหน้ามันอย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีความโกรธมากกว่าก็คือสองชายชราขั้นสร้างแกนลมปราณที่พยายามจะหยุดเมิ่งฮ่าวไว้

ดวงตาพวกมันสาดประกายด้วยโทสะ และเส้นโลหิตที่อยู่บนหน้าผากก็โป่งพองออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกมันโกรธเป็นอย่างยิ่ง

เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นท่ามกลางพวกที่มุงดูในทันที

“นั่นเป็นใคร? ช่างหน้าด้านนัก! มันกล้าขโมยของไปจริงๆ!”

“มันเกินกว่ากล้าแล้ว มันไม่มีหินลมปราณ มันจึงขโมยไป?! เมื่อเปรียบเทียบกับมัน พวกเราไม่อาจแม้แต่จะนับว่าเป็นผู้ฝึกตนดินแดนสีดำ! มันจึงเป็นผู้ฝึกตนดินแดนสีดำที่แท้จริง!”

“พวกเราต้องเรียนรู้จากมัน!”

ที่ห่างไกลออกไป ที่กำแพงด้านหนึ่งซึ่งไม่มีใครในงานประมูลสามารถมองเห็น มีแผงลอยเล็กๆ อยู่แผงหนึ่ง ด้านในยืนไว้ด้วยตงลั่วฮั่น มันกำลังจ้องมองมาด้วยความตกตะลึง จากแผงลอยนี้ สามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ด้านนอกได้ชัดเจน แต่ไม่มีใครสามารถมองเข้าไปด้านในได้

มันสังเกตเห็นว่าเมิ่งฮ่าวขาดแคลนหินลมปราณมานานแล้ว และรู้ว่าเขารู้สึกอึดอัดใจอยู่เล็กน้อย นอกจากนี้ เมิ่งฮ่าวยังได้ไปแข่งประมูลกับสำนักฮั่นสุ่ย หนึ่งในสามสำนักใหญ่ซึ่งตระกูลตงลั่วได้ทำข้อตกลงเบื้องต้นไว้เรียบร้อยแล้ว ตงลั่วฮั่นได้เริ่มจัดเตรียมคำตอบอย่างมีชั้นเชิงไว้แล้ว ถ้าเมิ่งฮ่าวทำการร้องเรียน มันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเมิ่งฮ่าวจริงๆ แล้วจะกล้าขโมย!

“ช่างบ้าระห่ำนัก…” บุรุษที่ยืนข้างตงลั่วฮั่นกล่าว มันดูท่าทางสุภาพเรียบร้อย แต่ก็ยังถอนหายใจด้วยความยอมรับนับถือออกมา

ตงลั่วฮั่นได้แต่ยิ้มอย่างแห้งแล้งออกมา

ในเวลาเดียวกันนั้น…

 

ชายชราที่เป็นผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณจากสำนักฮั่นสุ่ยก็ส่งเสียงแผดร้องขึ้น “เจ้ากล้าขโมยสิ่งของในงานประมูลของตระกูลตงลั่ว และเป็นของของข้าเช่นนั้น!? สามสำนักใหญ่จะไม่ปล่อยให้เจ้าหลบหนีไปได้!”

ร่างของมันแวบขึ้น ขณะที่บินขึ้นไปในอากาศ ตามมาด้วยผู้คนสิบกว่าคน ทั้งหมดกลายเป็นลำแสงหลากสีพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า

อีกสองกลุ่มจากสามสำนักใหญ่สบสายตากัน จากนั้น พวกมันก็บินขึ้นไปในอากาศไล่ติดตามมาอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน

สำหรับผู้ฝึกตนที่เหลือ พวกมันเห็นว่างานประมูลได้จบลงแล้วในตอนนี้ ดังนั้นพวกมันก็ไล่ติดตามมาในอากาศด้วยเช่นกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version