Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 493

ตอนที่ 493

ข้าจะให้พวกเจ้าได้ทำสงคราม

เสียงที่ดังก้องออกมานั้น ราวกับเป็นสายฟ้าแห่งสวรรค์และปฐพี ขณะที่เป็นเช่นนั้น อสรพิษยักษ์ขนาดหนึ่งพันจ้างก็ปรากฎขึ้น บินฝ่าอากาศมา!

ที่กำลังยืนอยู่ด้านบนของอสรพิษเป็นผู้ฝึกตนนับพัน ดวงตาสาดประกายด้วยแสงอันเย็นเยียบ นี่เป็นเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งหลังจากที่ทำสงครามมานานหลายปี ก็ได้เปลี่ยนเป็นนักรบเลือดเย็น

ไม่มีใครในพวกมันจะพูดออกมาแม้แต่คำเดียว จากชราไปจนถึงเยาว์วัย พวกมันทั้งหมดมีสีหน้าดุร้ายน่ากลัว โหดเหี้ยมและกระหายเลือด พวกมันจ้องมองมาอย่างเย็นชายังผู้ฝึกตนของแปดเผ่าพันธมิตร…

เห็นได้ชัดว่าพวกมันมีเพียงแค่ไม่กี่พันคนเท่านั้น แต่เมื่อผู้ฝึกตนของแปดเผ่าพันธมิตรมองไป ก็ราวกับว่าพวกมันมีอยู่นับหมื่น ยิ่งพวกมันเข้าใกล้มากขึ้น ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมเต็มไปด้วยรังสีสังหาร ที่สามารถทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน!

รังสีสังหารอันเข้มข้นนี้เป็นกลิ่นอายที่มองไม่เห็น แต่สามารถรู้สึกได้หลังจากที่สังหารศัตรูไปแล้วมากมายนับไม่ถ้วน ความทุกข์ยากลำบากที่เผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ได้เผชิญพบมา ได้จุดประกายความบ้าคลั่งในพวกมันขึ้น ซึ่งดูเหมือนเกือบจะทำให้ทะเลทรายตะวันตกสั่นสะเทือนไปทั่ว

“พวกมันเป็นใคร? นั่นคือชนเผ่าอะไร?!”

“เผ่าที่มีลักษณะเช่นนี้ ยากที่จะพบเห็นได้ในทะเลทรายตะวันตก แม้แต่ในเขตภาคกลางก็เช่นกัน บุคลิกท่าทางเช่นนั้นยากที่จะพบเห็น!”

“เป็นไปได้หรือไม่ว่า…พวกมัน…มาที่นี่เพราะวิญญาณอสูร!?!?”

ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสิบหกคนมองไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์มีผู้ฝึกตนเพียงแค่ไม่กี่พันคน แต่กลิ่นอายของพวกมันเข้มข้นอย่างน่าเหลือเชื่อ รังสีสังหารที่พวกมันกระจายออกมาช่างแข็งแกร่งนัก ทำให้ผู้ฝึกตนแปดเผ่าพันธมิตรรู้สึกราวกับว่าพวกมันแทบจะหายใจไม่ออก

นี่ก็คือ…เผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์!

พวกมันมีประสบการณ์การทำสงคราม ถูกชำระล้างด้วยเปลวไฟเพื่อถือกำเนิดขึ้นมาใหม่! เผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์รุ่นใหม่!

ยานอสรพิษบินฝ่าอากาศมาอย่างรวดเร็ว เดิมทีพวกมันควรจะมาช้าไปหนึ่งวัน แต่เผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ได้ผลักดันอย่างเต็มกำลัง ช่วยเพิ่มความเร็วให้มาถึงก่อนหนึ่งวัน เพียงชั่วพริบตา จู่ๆ พวกมันก็มาอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว!

บุรุษที่ยืนอยู่บนศีรษะของอสรพิษขนาดใหญ่ อยู่เบื้องหน้าผู้ฝึกตนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด เมื่อผู้ฝึกตนแปดเผ่าพันธมิตมองเห็น จิตใจพวกมันก็รู้สึกราวกับว่ากำลังมองไปยังเทพเจ้าแห่งความตาย

คนผู้นั้นสวมใส่ชุดยาวสีเขียว และมีผมขาวแซมอยู่เล็กน้อยในเส้นผมสีดำที่กำลังลอยพริ้วไปมา กระจายกลิ่นอายของนักศึกษาออกมา แต่ดวงตาก็แหลมคมและเย็นชา ใบหน้าเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ทำให้มีกลิ่นอายที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง แทบจะราวกับว่าตลอดทั้งร่างของคนผู้นี้เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บแห่งฤดูหนาว

การคงอยู่ของคนผู้นี้แทบจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกแช่แข็งไป คนผู้นี้เป็นต้นกำเนิดของรังสีสังหารทั้งหมดของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเปรียบเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์เป็นคราบโลหิตที่อยู่บนใบมีดอันแหลมคม บุรุษผู้นี้ก็น่าจะเป็น…ส่วนปลายอันแหลมคมของใบมีด!

นี่ก็คือ…เมิ่งฮ่าว!

การปรากฎตัวขึ้นของเขา ได้ทำให้ผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสิบหกคนเริ่มหอบหายใจออกมาในทันที ดวงตาพวกมันเบิกกว้าง และจิตใจก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ พวกมันรู้สึกราวกับว่ากำลังจมอยู่ใต้กระแสน้ำเชี่ยว ขณะที่ตระหนักได้ว่าพวกมันจดจำใบหน้าของเขาได้! ใบหน้านี้ดูเหมือนกับใบหน้าของร่างจำแลงกลุ่มหมอกที่พวกมันเพิ่งจะสังหารไป!

ภาพที่เห็นนี้ ทำให้จิตใจของผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสิบหกคนระเบิดเป็นเสียงดังกระหึ่มขึ้นมาในทันที

สีหน้าของหัวหน้าเผ่าทั้งแปดสลดลงในทันใด ผู้เฒ่าสูงสุดทั้งแปดเริ่มหอบหายใจออกมา ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ ม่านตาโอวอวิ๋นจื่อหดเล็กลง ข้างกายมัน บุรุษที่ดูคล้ายกับเป็นนักศึกษาก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ขณะที่สตรีซึ่งอยู่ในชุดหญิงสาว มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“พวกท่านเป็นใครกัน?!” คำพูดนี้เปล่งออกมาจากหนึ่งในสองผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งมากที่สุด ของสิบหกคนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง เสียงนั้นดังก้องออกไปพร้อมกับพลังที่คล้ายเป็นสายฟ้าฟาด ตามติดไปด้วยกลิ่นอายอันแข็งแกร่ง แต่แรงกดดันของกลิ่นอายนี้ก็ไม่อาจจะสะกดข่มรังสีสังหารที่เดือดพล่านขึ้นมาของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้

“พวกเราคือเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์!” เสียงนับพันของกลุ่มคนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้นพร้อมกัน เกิดเป็นเสียงกระหึ่มกึกก้องตอบกลับไป เสียงกระหึ่มนี้กลายเป็นพลังคลื่นเสียงที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเสียงฟ้าฝ่าหรือสายฟ้าฟาด พุ่งออกมาจากอสรพิษยักษ์ ขณะที่ตกกระทบไปบนแปดเผ่าพันธมิตร ก็ดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง ทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะเทือนด้วยเสียงที่ดังก้องเช่นนี้ จนไม่มีสิ่งใดมาเทียบเปรียบได้!

ราวกับว่ามียักษ์อันน่าตกใจกำลังส่งเสียงตะโกนดังก้องออกมา ทำให้เกิดเป็นสายลมอันรุนแรงขึ้น กลายเป็นพลังโจมตีกระจายออกไป ส่งผลให้กลุ่มหมอกที่อยู่ในบริเวณนั้นพุ่งพล่านปั่นป่วน

ขณะที่เสียงกระหึ่มของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ดังก้องออกไป อสรพิษยักษ์ก็ส่งเสียงร้องออกมา ฉับพลันนั้นกลุ่มคนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์นับพันก็กลายเป็นลำแสงหลากสี กระจายออกไปในอากาศ เมื่อมองจากด้านล่างบนพื้นขึ้นไป ภาพที่เห็นนี้ก็ทำให้คิดไปถึงภาพของเทพธิดาโปรยบุปผา แต่บุปผาเหล่านี้เป็นสีของโลหิต ทำให้ดูราวกับว่าสิ่งที่กำลังถูกโปรยออกมานั้น เป็นการโปรยหยดโลหิต!ตูม!

การสังหารหมู่เริ่มขึ้นในทันที ขณะที่กลุ่มคนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์นับพันพุ่งลงไปยังสนามรบ พวกมันคุ้นเคยกับการทำสงคราม, โลหิต และการสังหารมานานแล้ว

ในสงคราม ไม่จำเป็นต้องพูดจา, ไม่จำเป็นต้องสาปแช่ง, ไม่จำเป็นต้องด่าทอ มีเพียงอย่างเดียว…ต่อสู้!

ขณะที่กลุ่มคนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าไปในสนามรบ เมิ่งฮ่าวก็แหวกฝ่าอากาศเป็นเสียงแหลมเล็ก ราวกับเป็นอุกกาบาต ขณะที่เขานำผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งหกคนของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ พุ่งตรงไปยังท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสิบหกคนของแปดเผ่าพันธมิตร

หนึ่งในท่ามกลางสิบหกคนนั้นเป็นผู้ฝึกตนชราวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นสุดท้าย กล่าวอย่างเคร่งขรึมขึ้น “แค่ไม่กี่พันคนอันกระจ้อยร่อย ถึงพวกเจ้าจะมีความสามารถพิเศษบ้าง แต่เมื่อกล้าที่จะมายังที่แห่งนี้ก็แสดงว่าพวกเจ้าช่างไม่ประมาณตนอย่างแท้…”

ก่อนที่มันจะทันได้พูดจบ เมิ่งฮ่าวซึ่งดูเหมือนกับเป็นดาวตก ก็โบกสะบัดมือขวา ทำให้ผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งหมด รวมถึงสมาชิกของพวกมันที่ด้านล่าง ต่างก็อ้าปากค้าง

สัตว์ปีศาจหกหมื่นตัวส่งเสียงคำรามแผดร้อง กระจายออกไปบดบังทั่วทั้งท้องฟ้า ต้าเหมา, จิ้งเหลน, จระเข้แดง, อีกาดำ, ยุงเขียว รวมถึงสัตว์ปีศาจอีกมากมายของเผ่าห้าพิษ ทำให้สวรรค์ยังต้องสั่นสะท้าน

ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์อสูรเทียมสวรรค์ก็ส่งเสียงคำรามอย่างมีโทสะออกมา จากนั้นก็ได้ยินเสียงแผดร้องแหลมเล็กอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งก็คือนกแก้ว มันกระจายกลิ่นอายอันหยิ่งผยองออกมา รวมถึงเสียงบ่นพล่ามไร้สาระซึ่งดังออกมาจากที่ไหนสักแห่ง ภายในฝูงสัตว์ปีศาจซึ่งก็คือผีโต้งนั่นเอง

ฝูงสัตว์ปีศาจอันน่าตกใจนี้พุ่งฝ่าอากาศออกไป ราวกับเป็นอุทกภัยของสัตว์ป่า กวาดล้างไปทั่วทุกสรรพสิ่ง

ภาพที่เห็นนี้ราวกับเป็นฆ้อนขนาดใหญ่ กระแทกลงไปในจิตใจของแปดเผ่าพันธมิตร

“ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย แปดเผ่าโจมตีกลับไป!” นี่เป็นคำพูดที่เปล่งออกมาจากผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นสุดท้ายในชุดแดงที่เพิ่งจะกล่าวออกมา สีหน้ามันเปลี่ยนไป และจิตใจก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้อีก ได้แต่ส่งเสียงกู่ร้องอย่างมีโทสะออกมาขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสิบหกคน ทันใดนั้นก็เริ่มขยับมือร่ายเวท ขณะที่พวกมันเคลื่อนย้ายทางไกลตรงไปยังเมิ่งฮ่าว แสงของอาวุธเวท รวมถึงใบหน้าเวทอันดุร้าย พุ่งออกมารอบๆ ตัวพวกมัน ใบหน้าเหล่านั้นส่งเสียงคำรามออกมา ขณะที่พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

แต่ในขณะที่พวกมันใกล้เข้ามา เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือ หน้ากากสีโลหิตทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้น ซึ่งเขาเลื่อนไปวางไว้บนใบหน้าอย่างรวดเร็ว โบกสะบัดมืออีกครั้ง และใบหน้าขนาดใหญ่ จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นรอบๆ ร่างเขา

ใบหน้าขนาดใหญ่นั้นมีหน้าตาไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเมิ่งฮ่าว!

ทันทีที่ใบหน้าปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวก้าวเท้าไปข้างหน้า ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน ใบหน้าเซียนโลหิตขนาดใหญ่ในตอนนี้มีหน้าตาเหมือนเมิ่งฮ่าวโลดแล่นไปข้างหน้า กลายเป็นพลังการโจมตีขนาดใหญ่ ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะท้าน สำหรับผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสิบหกคน มีอยู่สิบคนได้แต่มองไปขณะที่อาวุธเวทของพวกมันแตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันถูกบดขยี้ไป โลหิตพุ่งออกมาจากปากขณะที่พวกมันลอยละลิ่วไปด้านหลัง ราวกับว่าวที่ถูกตัดสายป่าน

“วงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง!!” ความตกตะลึงเต็มอยู่บนใบหน้าคนทั้งสิบ และพวกมันก็ไม่แม้แต่จะเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก

“เจ้าคือหนึ่งในคนที่…สังหารร่างจำแลงของข้า!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ เดินตรงไปอย่างต่อเนื่อง ก้าวเท้าออกไปเป็นครั้งที่สอง ขณะที่ทำเช่นนั้น ใบหน้าขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ดวงตาที่ปิดอยู่ของใบหน้านั้นจู่ๆ ก็ลืมขึ้นมา และดูเหมือนจะพูดจาที่ไร้เสียงออกมาหนึ่งคำ!

ทันทีที่คำพูดนั้นปรากฏขึ้น ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งอีกหกคน ซึ่งยังคงมีโลหิตไหลรินออกมาจากมุมปาก จิตใจพวกมันก็หมุนเคว้งคว้างราวกับมีใบมีดอันแหลมคม กำลังแทงเข้าไปในสมอง คำพูดที่ไร้เสียงนั้นกวาดผ่านจิตใจพวกมันไป ทำให้ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน แก่นแท้ของพลังชีวิตถูกบีบให้ออกมาจากวิญญาณแรกก่อตั้ง

“มันอยู่ห่างแค่ครึ่งทางจากตัดวิญญาณ!” สี่คนในพวกมันกระอักโลหิตออกมา ขณะที่ถูกส่งให้ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง ร่างกายสั่นสะท้าน ความหวาดกลัวกระจายออกไปทั่ว และความประหลาดใจอย่างเข้มข้นก็เต็มอยู่ในดวงตา

“ถ้าพวกเจ้าต้องการจะทำการค้า เมิ่งฮ่าวก็จะทำการค้ากับพวกเจ้า แต่ถ้าพวกเจ้าต้องการทำสงคราม…ข้าก็จะให้พวกเจ้าได้ทำสงคราม!” คำพูดของเมิ่งฮ่าวเย็นเยียบขณะที่เขาเดินไปเป็นก้าวที่สาม ซึ่งทำให้เกิดเป็นเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมาจากร่างกายของผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสิบ ซึ่งลอยละลิ่วไปด้านหลังก่อนหน้านี้ กลุ่มควันสีดำเริ่มบิดเบี้ยวลอยออกมาจากร่างของพวกมัน เปลวไฟแห่งสงครามในตอนนี้กำลังเผาไหม้พลังชีวิตของพวกมัน

แม้แต่ผู้แข็งแกร่งมากที่สุดของแปดเผ่าพันธมิตร ชายชราสองคนที่อยู่ในขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้ง ก็รู้สึกว่าหูของพวกมันดังหึ่งๆ ขึ้น ถึงแม้พวกมันไม่ได้ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง แต่จิตใจก็เต็มไปด้วยคลื่นแห่งความกระหึ่มกึกก้อง และเปลวไฟแห่งสงครามก็ปรากฎขึ้นบนร่างกายพวกมันด้วยเช่นกัน

“ไฟสงครามรวมเป็นหนึ่ง!” ทันทีที่เมิ่งฮ่าวกล่าวคำพูดนี้ เสียงที่คล้ายกับการระเบิดออกเป็นชิ้นๆ ก็ดังขึ้นมาในทันใด คนทั้งสิบที่อยู่ห่างออกไปไกลมากที่สุด ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา ขณะที่ร่างของพวกมันระเบิดขึ้น วิญญาณแรกก่อตั้งโผล่ออกมา พยายามจะหลบหนีออกไปด้วยความหวาดกลัวให้เร็วมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้ขยับตัวเคลื่อนไหว ก็ถูกบดขยี้ออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

สายลมอันหนาวเหน็บกวาดผ่าน และพวกมันก็หายสาบสูญไป

โอวอวิ๋นจื่อ, บุรุษที่ใส่ชุดคล้ายกับนักศึกษา และสตรีที่อยู่ในชุดหญิงสาว ร่างกายของพวกมันทั้งหมดพังทลายลงไป กลายเป็นกลุ่มเมฆของโลหิตและชิ้นเนื้อ วิญญาณแรกก่อตั้งของพวกมันโผล่ออกมาเพื่อหลบหนีไปยังที่ห่างไกล เมื่อพวกมันมองกลับมายังเมิ่งฮ่าว ก็ต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

สองชายชราที่อยู่ในขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้ง ซึ่งมีพื้นฐานฝึกตนสูงมากที่สุด แม้แต่พวกมันก็ยังต้องกระอักโลหิตออกมา และลอยละลิ่วไปด้านหลัง ร่างกายสั่นสะท้านขณะที่พวกมันพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองระเบิดออก

กลุ่มคนในเผ่าของพวกมันทั้งหนึ่งหมื่นคน ซึ่งเดิมทีอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบ แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจหกหมื่นตัว ก็ทำให้พวกมันเริ่มพ่ายแพ้แล้วพ่ายแพ้เล่าตลอดการต่อสู้ในทันที แน่นอนว่าพวกมันก็มีสัตว์ปีศาจเช่นเดียวกัน แต่สัตว์ปีศาจของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์ผ่านคลื่นลมฝนแห่งโลหิตมาอย่างโชกโชน ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังได้รับการเกื้อหนุนจากปราณอสูรของเมิ่งฮ่าวมาหลายครั้ง ทำให้สัตว์ปีศาจของแปดเผ่าพันธมิตรไม่อาจจะเทียบได้แม้แต่น้อยเสียงร้องอย่างโศกเศร้าดังเต็มไปทั่วบริเวณนั้นอย่างต่อเนื่อง พื้นดินชุ่มโชกไปด้วยโลหิต เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ แปดเผ่าพันธมิตรก็พบว่า…พวกมันไม่อาจจะต่อสู้กลับไปได้แม้แต่น้อย

แม้จะพูดในแง่ของกลิ่นอายพื้นฐานฝึกตน พวกมันก็อ่อนแอกว่า เมื่อต้องมาพบกับความเย็นชาและกระหายเลือดของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่แต่ในกลุ่มคนระดับสูงของแปดเผ่าพันธมิตรเท่านั้น แต่สำหรับเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ สมาชิกของเผ่าทุกคนต่างก็เป็นเช่นนี้

เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนของแปดเผ่าพันธมิตรไม่เคยพบเห็น หรือแม้แต่เคยได้ยินมาก่อน พวกมันไม่อาจจะคาดคิดได้ว่าในดินแดนอันกว้างใหญ่ของทะเลทรายตะวันตก จะมีชนเผ่าเช่นนี้อยู่!

“นี่คือ…ชนเผ่านักรบ!”

ในตอนนี้เองที่คำพูดของเมิ่งฮ่าวจากเมื่อครู่นี้ ก็ดังก้องออกมาอีกครั้งอยู่ในจิตใจของผู้ฝึกตนแปดเผ่าพันธมิตร

“ถ้าพวกเจ้าต้องการทำสงคราม…ข้าก็จะให้พวกเจ้าได้ทำสงคราม!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version