Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 541

ตอนที่ 541

สู้!

หลังจากได้ยินคำพูดของปรมาจารย์ฮูเหยียน สีหน้าเมิ่งฮ่าวก็สงบนิ่งเหมือนเช่นเคย นั่นก็คือบุคลิกส่วนตัวของเขา ยิ่งเขาต้องการสังหารใครบางคนมากเท่าใด เขาก็ยิ่งพูดจาน้อยลงมากเท่านั้น จากคำพูดของปรมาจารย์ฮูเหยียนเมื่อครู่นี้ ก็เห็นได้ชัดว่ามันรู้ดีในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง

“จะพูดมากไปเพื่ออะไร?” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ “เจ้าต้องการสู้? มาสู้กัน” ขณะที่เขาพูด ก็ยกมือขวาขึ้น ทำท่าคว้าจับ ทันใดนั้น หอกปีศาจสีดำก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ เขาขว้างมันออกไป ทำให้เสียงระเบิดดังก้องออกไป ขณะที่หอกพุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ

ขณะที่มันส่งเสียงแหวกฝ่าอากาศไป เสียงกระหึ่มก็ได้ยินออกมาจากหอก ขณะที่กลุ่มหมอกสีดำอันไร้ขอบเขตปรากฏขึ้น ภายในกลุ่มหมอกเป็นใบหน้าดุร้ายนับไม่ถ้วน รอยยิ้มกระหายเลือดของพวกมันเต็มไปด้วยความละโมบ

ในความเลือนลางนั้น จริงๆ แล้วก็ดูเหมือนว่ากลุ่มหมอกกำลังก่อตัวเป็นศีรษะขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นศีรษะของ…ร่างปีศาจ!

ตอนนี้หอกปีศาจได้ปลดปล่อยระเบิดพลังของเยาปิงฮวงจ่ง (อาวุธอสูรหลุมฝังศพโดดเดี่ยว) ออกมา พุ่งฝ่าอากาศไปพร้อมกับเสียงดังหึ่งๆ

หอกนี้ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว มันมีพลังอำนาจของมันเอง อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็นแค่เส้นใยของร่างปีศาจ ที่ไม่อาจจะเทียบได้กับเยาปิงฮวงจ่งที่แท้จริงได้

ขณะที่หอกปีศาจระเบิดออกไป มันก็ทรงพลังเพียงพอที่จะสังหารผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งใดๆ ได้ แต่สำหรับตัดวิญญาณ…เมิ่งฮ่าวไม่แน่ใจ ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะทดสอบมันดู

“ขอบเขต” ปรมาจารย์ฮูเหยียนกล่าวขึ้น เสียงมันเยือกเย็นและสีหน้าก็ไม่เปลี่ยนไป ยกมือขวาขึ้น และจากนั้นก็ขยับร่ายเวทตรงไป ทันใดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในรัศมีหนึ่งร้อยจ้าง กลายเป็นเขตแดนของมันเอง

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ แตกต่างอยู่เล็กน้อยกับกฎแห่งธรรมชาติ มันเป็นพลังเวทที่เป็นของขั้นตัดวิญญาณ ขอบเขตนั้นไม่ได้มีขนาดกว้างใหญ่ เพียงแค่หนึ่งร้อยจ้างเท่านั้น แต่เป็นขอบเขตที่เป็นโลกส่วนตัวของมันเอง ภายในโลกแห่งนี้ ปรมาจารย์ฮูเหยียนมีพลังอย่างสูงสุด ไม่มีความสามารถศักดิ์สิทธิ์หรือวิชาเวทใดๆ จะสามารถทำลายเขตแดนนั้น เพื่อเข้าไปทำร้ายมันได้

นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ตัดวิญญาณอยู่เหนือวิญญาณแรกก่อตั้งโดยสิ้นเชิง ในขั้นตัดวิญญาณ ความสามารถศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นกฎแห่งธรรมชาติ!

ภายในขอบเขตหนึ่งร้อยจ้างดูเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็รู้สึกได้ว่าปรมาจารย์ฮูเหยียน ได้ทำให้พื้นที่ว่างรอบๆ ร่างมัน กลายเป็นโลกส่วนตัวของมันเอง

เสียงระเบิดได้ยินมา ทันทีที่หอกปีศาจเข้าไปในเขตรัศมีหนึ่งร้อยจ้าง มันก็พ่ายแพ้และกลายเป็นกลุ่มหมอกสีดำ กลุ่มหมอกนั้นกระจายออกมาราวกับว่ามันพยายามจะปกคลุมพื้นที่บริเวณนั้น แต่เมิ่งฮ่าวก็บอกได้ว่า จริงๆ แล้วมันกำลังต่อสู้กลับไปยังโลกที่อยู่รอบๆ ตัวมัน

ด้วยการใช้กฎแห่งธรรมชาติที่น่าเกรงขามเช่นนั้น เป็นครั้งแรกที่เมิ่งฮ่าวได้เผชิญหน้ากับพลังอำนาจของตัดวิญญาณด้วยตัวเอง ปรมาจารย์เอกะเทวะหลบหนีจากไปโดยไม่มีการต่อสู้ ในเมืองเซิ่งเสวี่ย เขาได้หลอมรวมเข้ากับมรดกฉีหนาน

ที่ด้านนอกโม่เหมิน (ประตูสีดำ) จื่อเซียงได้ยื่นมือเข้ามาช่วย

นี่เป็นครั้งแรกที่เมิ่งฮ่าว ต้องมาเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณอย่างแท้จริง

“ไร้เดียงสานัก” ปรมาจารย์ฮูเหยียนกล่าว มันเคลื่อนที่ตรงไป ทำให้รู้สึกถึงแรงกดดันที่เข้มข้นเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม มันยังไม่แม้แต่จะโจมตี เพียงแค่เดินตรงมาเท่านั้น ขณะที่ทำเช่นนั้น พื้นที่หนึ่งร้อยจ้างก็ตามมาพร้อมกับมันด้วย กลุ่มหมอกของหอกปีศาจดูเหมือนจะถูกสะกดข่มโดยโลกที่อยู่รอบๆ ตัวมัน เสียงปะทุได้ยินมาจากด้านใน ขณะที่มันหดตัวลงไป ใบหน้ามากมายนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไป กลายเป็นศีรษะของร่างปีศาจ

สีหน้าของร่างปีศาจเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภายใต้แรงกดดัน มันเริ่มส่งเสียงกู่ร้อง จากนั้นก็เริ่มถอยไปด้านหลัง กระจัดกระจายออกไปอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่ามันใกล้จะถูกทำลายลงไปได้ทุกเมื่อ ปรมาจารย์ฮูเหยียนเข้าไปใกล้มัน และในตอนนี้เองที่ร่างปีศาจได้ระเบิดออก ทันใดนั้น ปราณอสูรก็เริ่มพุ่งตรงไปจากทั่วทุกทิศทาง กลายเป็นระลอกคลื่นต่อสู้กลับไปยังขอบเขตของโลกนั้น และทำให้ร่างปีศาจหลบหนีจากไปได้สำเร็จ

มันหลบหนีไป พร้อมกับเสียงดังกระหึ่มกึกก้องกลับมายังเมิ่งฮ่าว กลุ่มหมอกในตอนนี้จางลงเป็นอย่างมาก ราวกับว่ามันใกล้จะกระจัดกระจายหายไปได้ทุกเมื่อ เมิ่งฮ่าวคว้าจับมันไว้ด้วยสีหน้าบึ้งตึง ในตอนนี้ปรมาจารย์ฮูเหยียนอยู่ห่างจากเมิ่งฮ่าวประมาณหนึ่งร้อยจ้าง

เมิ่งฮ่าวถอยไปด้านหลัง แม้จะอยู่ห่างไกลกันหนึ่งร้อยจ้าง เขาก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความน่ากลัวของผู้เชี่ยวชาญขั้นตัดวิญญาณ

“ไม่จำเป็นต้องรู้สึกขุ่นเคืองใจ” ปรมาจารย์ฮูเหยียนกล่าวเสียงเยือกเย็น ขณะที่มองมายังเมิ่งฮ่าว “ข้าเข้าใจว่ากรรมทำงานได้อย่างไร ถ้าเจ้าต้องการจะตำหนิสิ่งใดๆ ก็ให้ตำหนิตัวเจ้าเองที่โชคร้าย”

ในตอนนี้ อ๋าวเฉี่ยนเงยหน้าขึ้นและส่งเสียงหอนออกมา เสียงนั้นทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน ทันใดนั้น พลังก็ระเบิดออก เผยให้เห็นถึงกลิ่นอายตัดวิญญาณของมัน

ทันทีที่กลิ่นอายนั้นปรากฏขึ้น ม่านตาปรมาจารย์ฮูเหยียนก็หดเล็กลง มันมองไปยังอ๋าวเฉี่ยนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง

ในเวลาเดียวกันนั้น แสงสีโหลิตก็เริ่มสาดประกายออกมาจากดวงตาอ๋าวเฉี่ยน ฉับพลันนั้นมันก็พุ่งตรงไป ผ่านเข้าไปในขอบเขตหนึ่งร้อยจ้างของปรมาจารย์ฮูเหยียน ใบหน้าปรมาจารย์ฮูเหยียนซีดขาว ราวกับว่าโลหิตทั่วร่างมันทั้งหมดจู่ๆ ก็ไหลเวียนย้อนกลับ

แสงอันดุร้ายสาดประกายออกมาจากดวงตา มันได้เคลื่อนที่ตรงมาอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ แต่ตอนนี้มันต้องหยุดลง

มันมองอ๋าวเฉี่ยนอย่างละเอียด และจากนั้นก็กล่าวขึ้นช้าๆ “เพียงมองแค่แวบแรก ก็ทำให้ข้าต้องใช้แก่นแท้ของโลหิตถึงหนึ่งในสิบส่วน สัตว์อสูรเซียนตัวนี้ไม่เลวนัก เห็นได้ชัดว่ามันได้รับความรู้แจ้งจากมรดกแห่งการตัดวิญญาณ แต่ตัวมันเองก็ยังไม่ใช่ขั้นตัดวิญญาณ ยังคงเป็น…เจตจำนงแห่งความเป็นอมตะที่หาได้ยากยิ่งอย่างแท้จริง”

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างอ๋าวเฉี่ยน ขณะที่จู่ๆ มันก็ถูกผลักให้ถอยไปด้านหลังสองสามก้าว มันส่งเสียงขู่คำรามออกมา ขณะที่เริ่มจ้องนิ่งไปยังปรมาจารย์ฮูเหยียน

อาณาจักรของอ๋าวเฉี่ยนโลหิต ก็เป็นดังเช่นที่ปรมาจารย์ฮูเหยียนได้กล่าวมา มันได้รับถ่ายทอดมาจากขุมทรัพย์ ไม่ได้รู้แจ้งด้วยตัวมันเอง อย่างไรก็ตาม อาณาจักรขุมทรัพย์เซียนโลหิตก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย มันเป็นเจตจำนงแห่งความเป็นอมตะ!

ตัดครั้งแรกเป็นการตัดโลหิต! โลหิตทั้งหมดในร่างกาย ถูกตัดไป!

โลหิตเป็นตัวแทนของชีวิต ดังนั้น ตัดโลหิตก็เทียบเท่ากับตัดชีวิต! ชีวิตที่ไม่มีวันตายก็คือ…อมตะ!ดังนั้น นี่ก็คืออาณาจักรอมตะซึ่งมีผลกระทบต่อกฎแห่งธรรมชาติ และสร้างเป็นโลกที่โลหิตเป็นสิ่งต้องห้าม!

แทบจะในเวลาเดียวกับที่การดิ้นรนต่อสู้ซึ่งมองไม่เห็นระหว่าง อ๋าวเฉี่ยนโลหิตและปรมาจารย์ฮูเหยียนปรากฏขึ้น ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกาย หลังจากที่ได้ทดสอบความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ฮูเหยียนแล้ว ตอนนี้เขาก็สามารถก่อตัวเป็นภาพคร่าวๆ ขึ้นในจิตใจ รับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างตัวเขาและตัดวิญญาณ

“ข้า…ต่อสู้กับมันได้!” เขาเดินตรงไปสองก้าว ด้วยสองก้าวนั้น เสียงกระหึ่มก็เต็มอยู่ในร่าง ขณะที่เขาเข้าไปในวิญญาณดวงที่สอง พลังของสองวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง ระเบิดออกมาอยู่ภายในร่าง

กลิ่นอายเขากระจายออกไปคล้ายกับเป็นกระแสน้ำวน ร่างกายสูงขึ้นและมีความองอาจมากขึ้น เดินไปเป็นก้าวที่สาม และทันใดนั้น ก็เข้าไปอยู่ในวิญญาณดวงที่สามของเจ็ดวิญญาณแปลง การรวมตัวเข้าด้วยกันของวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งสาม ทำให้ร่างเขาระเบิดพลังการต่อสู้ ที่เทียบเท่ากับสี่วงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งออกมา เขามีความสูงและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม

“ถึงแม้เจ้าจะมีวิธีทำให้พลังเวทเพิ่มขึ้นได้ชั่วคราว” ปรมาจารย์ฮูเหยียนกล่าวเสียงราบเรียบ “มันก็ยังคง…ประเมินค่าตัวเองสูงส่งมากเกินไป!” มันโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้ขอบเขตหนึ่งร้อยจ้างบิดเบี้ยวกลายเป็นระลอกคลื่น พุ่งตรงไปยังอ๋าวเฉี่ยน อ๋าวเฉี่ยนส่งเสียงคำรามออกมา ขณะที่แสงสีโลหิตระเบิดออกมาจากร่าง มันสำแดงขอบเขตโลกของตัวเองเพื่อต่อสู้กลับไปด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่ามันจะมีเพียงแค่เจ็ดสิบจ้างเท่านั้น

การต่อสู้ของตัดวิญญาณ แตกต่างไปจากผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณทั้งหมดต่างก็มีขอบเขตโลกของตัวเอง ถ้าขอบเขตนั้นไม่ถูกทำลายลง ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

ระหว่างอ๋าวเฉี่ยนและปรมาจารย์ฮูเหยียน ขอบเขตโลกต่อต้านซึ่งกันและกัน สายลมของเมิ่งฮ่าวกวาดผ่านออกไป และกลิ่นอายเขาก็พุ่งขึ้น เดินตรงไปเป็นก้าวที่สี่

สี่วิญญาณแรกก่อตั้งหลอมรวมเข้าด้วยกัน เสียงปะทุดังออกมาเป็นระลอกคลื่น ขณะที่ร่างเมิ่งฮ่าวเริ่มสูงใหญ่และแข็งแกร่งมากขึ้น กลิ่นอายของนักศึกษาในตอนนี้ได้หายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกแห่งเซียนปีศาจ พลังการต่อสู้ของแปดวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งระเบิดออก

ด้วยพลังการต่อสู้ และพลังงานเช่นนั้น ทำให้สายลมในบริเวณนั้นเริ่มส่งเสียงหวีดหวิว หมุนควงจนกลายเป็นกระแสน้ำวน ซึ่งหมุนอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว เสื้อผ้าเขาพริ้วไปมาอยู่ในสายลม ดวงตาสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้า ในตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ปรมจารย์ฮูเหยียน ก็ยังเกิดผลกระทบต่อพลังเช่นนั้นอย่างช่วยไม่ได้

ปรมจารย์ฮูเหยียนไม่เคยเผชิญพบกับ ผู้ฝึกตนขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่วิญญาณแรกก่อตั้งใดๆ ที่ทรงพลังอย่างน่าตกใจเช่นเมิ่งฮ่าวมาก่อน ด้วยความแข็งแกร่งอย่างน่ากลัวเช่นนั้น ทำให้เขาสามารถกวาดล้างขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งได้ทั้งหมด

“เจ้าเพิ่มพลังเวทขึ้นได้ชั่วคราวอย่างยอดเยี่ยมยิ่ง…” กล่าวอย่างครุ่นคิด ดวงตามันหดเล็กลงในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวเดินออกไปเป็นก้าวที่ห้า ดวงตาจ้องนิ่งไปยังปรมาจารย์ฮูเหยียน ในตอนนี้เขาได้เข้าไปในขอบเขตพื้นที่หนึ่งร้อยจ้างของปรมาจารย์ฮูเหยียนแล้ว

ทันทีที่เกิดขึ้นเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกถึงแรงกดดันอย่างน่าเหลือเชื่อจากขอบเขตของโลกนั้น กดทับลงมาที่เขา รู้สึกราวกับว่าจู่ๆ ก็มีภูเขาตกลงมาบนร่าง เพื่อที่จะบดขยี้เขาให้กลายเป็นผุยผง ทันทีที่แรงกดดันอย่างน่าเหลือเชื่อนั้นกดทับลงมา ร่างเมิ่งฮ่าวก็ส่งเสียงกระหึ่มออกมา ขณะที่ห้าสีรวมเข้าด้วยกัน และเขาก็เข้าไปสู่วิญญาณดวงที่ห้า!

ด้วยวิญญาณดวงที่ห้า ก็ทำให้พลังการต่อสู้เพิ่มขึ้นเป็นสิบหกเท่าของวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง พลังที่ระเบิดออกมาเช่นนั้น ต่อสู้กลับไปยังแรงกดดันอันมหาศาลที่กระจายออกมาจากขอบเขตพื้นที่หนึ่งร้อยจ้าง ทำให้อากาศบิดเบี้ยวกลายเป็นระลอกคลื่นพุ่งออกไป

ภาพที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ปรมาจารย์ฮูเหยียนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

ขอบเขตหนึ่งร้อยจ้างนี้ เป็นสิ่งที่สามารถทำให้ศีรษะของผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งระเบิดออกมาได้ แม้แต่จะอยู่ในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่ก็ตามที สิ่งที่ปรมาจารย์ฮูเหยียนต้องทำทั้งหมดก็คือใช้ความคิด และคนผู้นี้ก็จะถูกบดขยี้จนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

อย่างไรก็ตาม เมิ่งฮ่าวก็ใช้วิชาอันน่าแปลกใจออกมา เพื่อสร้างเป็นพลังอันน่ากลัวของตัวเอง และต่อสู้กลับไปยังขอบเขตหนึ่งร้อยจ้างของมัน

“ข้าต้องไม่ปล่อยให้มันมีชีวิตรอด” ปรมาจารย์ฮูเหยียนคิด “มันอยู่แค่ในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่วิญญาณแรกก่อตั้งเท่านั้น แต่ก็มีพลังอันน่ากลัวเช่นนี้แล้ว ถ้ามันสามารถตัดวิญญาณของมันได้…”

เป็นครั้งแรกที่ดูเหมือนว่ามันกำลังจัดการสถานการณ์ด้วยความเคร่งเครียดจริงจัง รังสีสังหารของมันพุ่งขึ้น ส่งเสียงแค่นอย่างเย็นชาออกมา ฉับพลันนั้นมันก็เอาส่วนของขอบเขตหนึ่งร้อยจ้าง ที่กำลังต่อต้านกับอ๋าวเฉี่ยนกลับมา และส่งไปบดขยี้เมิ่งฮ่าว

“เจ้ากำลังจะถึงขีดจำกัดในไม่ช้าแล้ว ใช่หรือไม่!? ต่อหน้าตัดวิญญาณ…ไม่สำคัญว่าวิญญาณแรกก่อตั้งของเจ้าจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน เจ้าก็เป็นแค่มดแมลงเท่านั้น!”

ขณะที่ปรมาจารย์ฮูเหยียน ส่งขอบเขตแรงกดดันกดทับลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าวก็ขบฟันแน่น แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง ดวงตาสาดประกายด้วยความเย็นชา และแสงอันดุร้าย

“วิญญาณดวงที่หก!”

ตูม!

หกสีหลอมรวมเข้าด้วยกัน เมิ่งฮ่าวสูงขึ้นกว่าเดิม และดูคล้ายกับเป็นเซียนปีศาจ กลิ่นอายความองอาจอันยากจะอธิบายออกมาได้พุ่งสูงขึ้นไป ตอนนี้เขามีพื้นฐานฝึกตนเทียบเท่ากับสามสิบสองวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง นี่เป็นระดับพลังของวิญญาณแรกก่อตั้ง ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในโลกแห่งการฝึกตนนี้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version