Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 676

ตอนที่ 676

ตัดวิญญาณครั้งแรก!

ขณะที่เสียงนั้นลอยมา จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกว้าวุ่นใจอยู่เล็กน้อย ราวกับว่าทันใดนั้นภายในจิตใจเขาว่างเปล่า เขาลุกขึ้นมาจากการนั่งขัดสมาธิอย่างช้าๆ

“ออกมาจากสถานที่แห่งนั้น เด็กน้อย…มาหาข้า…”

“ข้ารอคอยเจ้ามานานกว่าสองร้อยปีแล้ว…”

“มา มา…”

“โลหิตของเจ้าได้เติบโตเต็มที่แล้ว และวิญญาณของเจ้า…ก็จำเป็นต้องหลับใหล…”

“มา…ข้ากำลังรอเจ้าอยู่ที่นี่…”

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าว่างเปล่ามากยิ่งขึ้น และเริ่มเดินออกไปจากสาหร่ายทะเล เมื่ออยู่ห่างออกไปประมาณสิบจ้าง เซียนชี้ทางภายในร่างเขา จู่ๆ ก็คายกระแสปราณจางๆ ให้ไหลซึมเข้าไปในวิญญาณแรกก่อตั้งของเขา ทันใดนั้นวิญญาณแรกก่อตั้งก็เริ่มเลือนลางลง และจากนั้นลึกลงไปด้านใน ก็เริ่มมองเห็นมังกรปีกวารี!

มันมีขนาดเล็กมาก และดูเหมือนว่ากำลังหลับอยู่ แต่กระแสปราณเซียนก็หามันพบ และซึมเข้าไปในมังกรปีกวารีโดยตรง!

ทันใดนั้น มังกรปีกวารีก็ลืมตาขึ้นมาและส่งเสียงคำราม

ขณะที่เสียงคำรามนั้นดังก้องออกไป มังกรปีกวารีขนาดใหญ่ยาวถึงหนึ่งหมื่นจ้าง ก็ปรากฏอยู่รอบๆ กายเมิ่งฮ่าว กระจายระลอกพลังอันน่าตกใจออกมา ขณะที่มันส่งเสียงคำราม

โฮกกกกก!!

กลิ่นอายของเซียนรุ่งอรุณหายไป และแรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นดวงตาก็เริ่มแจ่มใสขึ้น และมองขึ้นไปยังมังกรปีกวารีด้วยความประหลาดใจ

มังกรปีกวารีหันหน้ามามอง และทันใดนั้น เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกราวกับว่า เขากำลังมองดูตัวเองอยู่

จากนั้นมังกรปีกวารีก็หายไป ใบหน้าเมิ่งฮ่าวซีดขาว ขณะที่คิดย้อนกลับไปในสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ จากนั้นเขาก็มองเข้าไปภายในร่างกาย และก็พบว่าดอกปี่อ้านได้ส่งกิ่งก้านมากมายนับไม่ถ้วนของมัน ให้กระจายออกไปทั่วร่างของเขา

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร และกลับไปยังตำแหน่งเดิมที่อยู่ข้างสาหร่ายทะเล ดอกปี่อ้านสั่นสะท้านและหดตัวกลับไป และตอนที่เมิ่งฮ่าวนั่งลงขัดสมาธิ มันก็ซ่อนตัวเองไว้โดยสิ้นเชิง

“ที่นี่ ตอนนี้ ข้ากำลังจะยืมพลังของหยินเติงซ่างเหริน เพื่อกำจัดดอกปี่อ้านไป!”

“วิธีที่ข้าจะใช้ก็คือ…พลังของตัดวิญญาณ! เส้นทางตัดวิญญาณของข้า…การตัดครั้งแรกของข้า จะเป็นดอกปี่อ้าน!!”

“ข้าต้องเป็นเจ้านายของชีวิตข้าเอง จะไม่ยอมให้บุคคลภายนอกมาควบคุมข้าได้ สิ่งที่ข้าต้องการก็คืออิสรภาพ เส้นทางในชีวิตของข้าก็คือการเดินทาง และเต๋าของข้าก็คือทิศทาง! ข้าจะมุ่งหน้าต่อไปในทิศทางนั้นและไล่ติดตามความเป็นจริง ข้าจะควบคุมความเป็นอิสระของข้าเอง และมีชีวิตอยู่อย่างมีอิสรภาพ!”

“นี่ก็คือเจตจำนงแห่งตัดวิญญาณของข้า! ข้าจะบดขยี้ขวากหนาม และทำลายทุกสรรพสิ่งที่มาขัดขวางเส้นทางของข้า ไม่ว่าอุปสรรคใดๆ ที่ข้าต้องเผชิญ ก็จะต้องถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้าข้า!”

“ไร้ความหวาดกลัวใดๆ! มีอิสระ! เสรีภาพ!”

“สวรรค์ไม่อาจจะบดบังสายตาของข้า และปฐพีก็ไม่อาจจะกลบฝังรอยเท้าของข้าได้!”

“เพื่ออิสระแล้ว ข้ายินยอมที่จะต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ก็ตาม!”

“เพื่อเสรีภาพแล้ว ข้าจะตัดทุกสิ่งทุกอย่าง!”

“ดอกปี่อ้านคือภูเขาที่ปิดกั้นเส้นทางแห่งชีวิตของข้า เมื่อข้าผ่านมันไปได้ เส้นทางของข้าก็จะยืดยาวห่างไกลออกไป!”

“ดอกปี่อ้านคือโซ่ตรวน คือกรงขังที่จำกัดอิสระของข้า ข้าจะตัดมัน…และในทันทีที่มันถูกตัดไป ข้าก็จะมีเสรีภาพ และสามารถฝึกฝนวิถีเซียนได้อย่างอิสระ!”

“นี่คือการตัดครั้งแรกของข้า!”

“นี่คืออาณาจักรตัดวิญญาณของข้า!”

“นี่คือเต๋าแห่งการตัดวิญญาณของข้า!”

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายด้วยความรู้แจ้ง เขาจมอยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งมานานหลายปี ได้ผ่านการชุบตัวมาจากสำนักเซียนอสูร และถูกไล่ล่าโดยปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวัง ทั้งหมดนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าได้ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ ถูกชำระล้างให้บริสุทธิ์โดยเปลวไฟ ในตอนนี้เขาได้บรรลุถึงความเข้าใจทั้งหมดแล้ว

ในตอนที่เมิ่งฮ่าวเริ่มรู้แจ้ง พื้นฐานฝึกตนก็เริ่มส่งเสียงดังกระหึ่ม พื้นฐานฝึกตนสองส่วนที่อยู่ภายในร่าง กำลังดิ้นรนเพื่อรวมเข้าด้วยกัน ทันใดนั้นก็เริ่มหลอมรวมกันอย่างรวดเร็ว

ดูเหมือนว่าความคิดของเขาเมื่อครู่นี้ จะไปควบคุมการโคจรหมุนเวียนพื้นฐานฝึกตน ในทันทีที่เขารู้แจ้งนั้น…

ตึง!!

ทั่วร่างเมิ่งฮ่าวเริ่มสั่นสะท้าน และพื้นฐานฝึกตนทั้งสองส่วนก็รวมเข้าด้วยกันในทันที วิญญาณแรกก่อตั้งของเขาหายไป และในเวลาเดียวกันนั้น ร่างเมิ่งฮ่าวก็เริ่มสาดประกายด้วยแสงหลากสี

แสงหลากสีนั้นวนเป็นวงกลมไปรอบๆ บริเวณนั้น หมุนวนอย่างช้าๆ เพื่อก่อตัวเข้าด้วยกันอยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว กลายเป็นใบมีดขณะที่เขาลืมตาขึ้นมา

แสงหลากสีซึ่งประกอบด้วยเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์และปฐพี!

ใบมีดนั้นประกอบด้วยพลังทั้งหมดของพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งเก้าของเขา รวมทั้งธาตุทั้งห้าของสวรรค์และปฐพี

มันยังประกอบไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์ ในการฝึกตนมาถึงสองร้อยปีของเขาอีกด้วย เมื่อเมิ่งฮ่าวมองไปยังใบมีดนั้น ก็ราวกับว่ากำลังมองไปที่ตนเอง!

ในตอนนี้ จิตใจเมิ่งฮ่าวไม่ได้มีความยินดีหรือโศกเศร้าเสียใจ ราวกับว่าเขาได้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างไป ยกเว้นแต่ความกระหายที่จะได้รับเสรีภาพ และความต้องการที่จะไล่ตามอิสระไป

ดอกปี่อ้านที่อยู่ภายในร่างเขา ดูเหมือนจะรับรู้ได้ว่ามันกำลังตกอยู่ในอันตราย มันสามารถหลบซ่อนตัวจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขา ดังนั้นเมิ่งฮ่าวจึงไม่อาจจะสัมผัสถึงมันได้ แต่มันก็ไม่อาจจะซ่อนตัวจากใบมีดนี้ได้แม้แต่น้อยนิด

ความรู้สึกถึงความตายที่ใกล้เข้ามาอย่างรุนแรง ทำให้ดอกปี่อ่านเริ่มต่อสู้ดิ้นรน ราวกับว่ามันปรารถนาที่จะระเบิดออกมาจากภายในร่างเมิ่งฮ่าว มันต้องการจะเป็นผู้ที่เริ่มรุกไล่ก่อนอีกครั้ง แต่ทันทีที่มันขยับตัวเคลื่อนไหว แสงอันเลือนลางก็เริ่มกระจายออกมาจากโครงกระดูกที่กำลังลอยอยู่ในสาหร่ายทะเล ด้านบนขึ้นไป พื้นผิวของทะเลในวงแหวนที่สามเริ่มพลุ่งพล่านปั่นป่วน

ต่อจากนั้นตราประทับของดอกไป๋กู่ก็เริ่มสาดประกายอยู่บนร่างอสูรทะเลทั้งหมดในวงแหวนที่สาม เครื่องหมายนั้นดูคล้ายกับเป็นใบหน้าแปลกๆ และกระจายกลิ่นอายภูติผีออกมา

กลิ่นอายเหล่านั้นหลอมรวมเข้าด้วยกัน เพื่อสะกดข่มดอกปี่อ้าน

ตูม!

ดอกปี่อ้านดิ้นรนต่อสู้ และจากนั้นก็เริ่มส่งเสียงกรีดร้องที่ไม่มีใครได้ยินออกมา นอกจากเมิ่งฮ่าวคนเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ ภาพลวงตาของดอกปี่อ้านห้าสีก็พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ด้านหลัง มันตกอยู่ในความคลุ้มคลั่งโดยสิ้นเชิง และกะเสือกกะสนดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง สีหน้าเมิ่งฮ่าวเรียบนิ่ง ถึงแม้ว่าร่างกายกำลังแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าพลังชีวิตและพื้นฐานฝึกตนของเขา กำลังถูกดอกปี่อ้านดูดซับเข้าไป

แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ จ้องมองไปยังใบมีดที่อยู่เบื้องหน้า

ดอกปี่อ้านกรีดร้องเสียงโหยหวน และดิ้นรนขัดขืนมากยิ่งขึ้น แต่พลังสะกดข่มที่มาจากดอกไป๋กู่ของหยินเติงซ่างเหรินที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนดูเหมือนว่าจะทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงกับดอกปี่อ้านห้าสี ร่างของมันแทบจะกระจัดกระจายหายไปได้ทุกเมื่อ และต้องพยายามดูดซับร่างเมิ่งฮ่าวอีกครั้งอย่างไร้ทางเลือก

หลังจากนั้น เมื่อร่างเมิ่งฮ่าวหดตัวลงและแทบจะกลายเป็นโครงกระดูก ใบมีดที่เบื้องหน้าเขาก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆ ยกขึ้นไปอย่างช้าๆ

ขณะที่ใบมีดลอยขึ้นไป พลังอันสุดประมาณ กลิ่นอายที่ทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะเทือนก็พุ่งขึ้นมา ทันใดนั้นมันก็แทงทะลุผ่านพื้นผิวของน้ำทะเล และสูงขึ้นไปในท้องฟ้า ก่อตัวเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับสวรรค์อันกว้างใหญ่!

เมื่อมองมาจากที่ห่างไกล ก็จะเห็นวงแหวนที่สามกำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วน ขณะที่ลำแสงพุ่งขึ้นไปในความมืดมิดยามราตรี ทำให้ดูคล้ายกับเป็นยามกลางวัน

ในตอนนั้น ขณะที่หยางหุนเซิ่งลอยตัวอยู่เหนือทะเลเทียนเหอ สีหน้ามันเปลี่ยนไป และทันใดนั้นมันก็หันหน้ากลับไปมองยังลำแสงนั้น

“มีใครบางคนกำลังทำการตัดวิญญาณ แต่การตัดวิญญาณนี้ได้ไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสวรรค์และปฐพีเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!?”

ในเวลาเดียวกันนั้น เฟยเซียนเซิ่งและไห่เสินเซิ่ง ก็รับรู้ได้เช่นเดียวกัน พวกมันมองไปยังลำแสงนั้น และท้องฟ้าที่กำลังส่องแสงสว่าง ใบหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ตอนนี้ปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวังกำลังนั่งขัดสมาธิเข้าฌาณอยู่ในเมืองไห่เฉิง จู่ๆ ดวงตามันก็ลืมขึ้นมาในทันที และมองออกไปยังที่ห่างไกล ความยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้ามัน

“นั่น…ก็คือระลอกคลื่นของตัดวิญญาณ มันนี่เอง!! มันอยู่ที่นั่น! มันเป็นคนพิเศษอย่างแท้จริง! ตัดวิญญาณของมันสามารถเชื่อมต่อกับสวรรค์แห่งจี้ และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในท้องฟ้า!”

“แต่เจ้ากลับกล้ามาทำการตัดวิญญาณต่อหน้าข้า? มาดูกันว่าเจ้าจะหลบหนีไปได้อย่างไรในครั้งนี้!” ปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวังแค่นเสียงเย็นชาออกมา และลุกขึ้นมายืน ในตอนนี้เองที่จู่ๆ สีหน้ามันก็เปลี่ยนไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แม้แต่ด้วยระดับพลังจิตของมัน สิ่งที่เห็นก็ทำให้มันไม่อาจจะพูดออกมาได้

“เป็นไปไม่ได้!!”

ลำแสงที่พุ่งขึ้นมาจากทะเล ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในท้องฟ้า แต่มันพุ่งเข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทำให้ร่างของสวรรค์ต้องระเบิดแสงแห่งดวงดาวออกมา ขณะที่ทันใดนั้นกลุ่มดาวก็เปลี่ยนตำแหน่งเพื่อก่อตัวเป็นใบมีดแห่งดวงดาว!

ใบมีดนั้นส่งประกายลงมายังดินแดนแห่งดาวหนานเทียน และในที่สุด คนทั้งหมดที่อยู่ในดาวหนานเทียน ก็มองขึ้นไปในท้องฟ้า และเห็นภาพของใบมีดขนาดใหญ่

แทบจะราวกับว่ามันได้ทำให้ท้องฟ้าเหนือดินแดนแห่งดาวหนานเทียนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และตอนนี้ก็กำลังตกลงมา

ในเวลาเดียวกันนั้น กลิ่นอายแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็ได้ตกลงมาจากท้องฟ้า ตรงมายังทะเลเทียนเหอ ทะลุผ่านลงไปในพื้นผิวของน้ำทะเล และตกลงไปบนใบมีดที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว

“ใบมีดของการตัดครั้งแรก ได้ไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในท่ามกลางหมู่ดาว!” ปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวังร้องอุทานออกมา “มันรู้แจ้งเต๋าอะไรกัน?!”

“เต๋ามีลำดับขั้น สามารถเป็นไปได้ทั้งยิ่งใหญ่หรือเล็กน้อย เต๋าของเมิ่งฮ่าวนี้…คืออะไรกันแน่? มันสามารถทำให้กลุ่มดาวกลายเป็นใบมีดสวรรค์ มาช่วยมันในการตัดเต๋า!!”

“ใบมีดสวรรค์ก็คือเต๋าสวรรค์ ใบมีดของการตัดครั้งแรกก็คือเต๋าแห่งการตัดวิญญาณครั้งแรกด้วยเช่นกัน!” สีหน้าของปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวังสลดลง ด้วยความประหลาดใจโดยสิ้นเชิง มันหยุดนิ่งไม่ขยับตัว ในตอนนี้ มันไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้สถานที่ของเมิ่งฮ่าว เต๋าอันยิ่งใหญ่กำลังมา และด้วยพื้นฐานฝึกตนของมันในตอนนี้ ถ้ามันเข้าไปใกล้ ก็คงต้องตายไปอย่างแน่นอน

ในเวลาเดียวกันนั้น แคว้นจ้าวที่ลอยอยู่ในทะเลเทียนเหอ บนหลังของปรมาจารย์เอกะเทวะ ทั่วทั้งเกาะแห่งนั้นจู่ๆ ก็ส่งเสียงดังกระหึ่ม และศีรษะขนาดใหญ่ก็ยื่นออกมาจากน้ำทะเล เพื่อมองขึ้นไปในท้องฟ้า

“เจ้าสารเลวน้อยนั่นกำลังทำการตัดเต๋า…บัดซบ! ผู้ผนึกอสูรทั้งหมดต่างก็เป็นเจ้าคนชั่ว เจ้าสารเลวน้อยยิ่งเป็นคนชั่วในเหล่าคนชั่วทั้งหลาย!! เหลาจู่ต้องรีบหนีไปให้เร็วที่สุด ท่านย่ามันเถอะ ข้าเกลียดมันแทบตาย!!”

ในดินแดนด้านใต้ สวี่ชิงกำลังอยู่ในท่ามกลางการฝึกตน แต่ทันใดนั้นแรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่าง ราวกับว่านางเพิ่งจะรับรู้ได้ถึงบางอย่าง นางวิ่งออกมาจากถ้ำแห่งเซียน และมองขึ้นไปในท้องฟ้า เหมือนราวกับว่านางสามารถมองเห็นเมิ่งฮ่าวได้จริงๆ

ในสำนักจื่อยิ่น ตานกุ่ยกำลังปรุงเม็ดยาอยู่ แต่ทันใดนั้นท่านก็หยุดชะงักนิ่ง มองขึ้นไปในท้องฟ้า และใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ข้างกายท่านเป็นฉู่อวี้เยียน ซึ่งดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงบางสิ่งด้วยเช่นเดียวกัน นางมองขึ้นไปในท้องฟ้า และดูเหมือนจะตกอยู่ในภวังค์ห้วงความคิด

ในเวลาเดียวกันนั้น เจ้าอ้วน, เฉินฝาน และผู้คนทั้งหมดในดินแดนด้านใต้ ซึ่งรู้จักเมิ่งฮ่าว ต่างก็มีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครจะเทียบได้กับสวี่ชิงและตานกุ่ย

ยกเว้นอยู่หนึ่งคน

ในสำนักเซี่ยเยา ชายชราที่สวมใส่ชุดยาวสีแดง ซึ่งถูกห้อมล้อมด้วยแสงสีโลหิต มันยืนอยู่บนยอดเขา มองขึ้นไปในท้องฟ้า รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“เจ้าและข้ามีโชคชะตาที่เชื่อมต่อกัน สำนักเซี่ยเยา…ก็คือบ้านที่เจ้าจะกลับมาได้อย่างวางใจ”

——————–

หมายเหตุ

  1. 1. สำนักเซี่ยเยา (อสูรโลหิต) และเมิ่งฮ่าว เกี่ยวข้องกันในตอนที่ 34, 93-95, 582-583
  2. 2. ขอเปลี่ยนชื่อ เฉินฟ่าน เป็น เฉินฝาน (ภาษาจีนออกเสียงเฉินฝาน แต่ผมเปลี่ยนเป็นเฉินฟ่านเองครับในตอนที่เริ่มแปลครั้งแรก)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version