Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 692

ตอนที่ 692

คำสัญญาที่ต้องรักษา

ที่ห่างไกลออกไปในต้าถังแห่งดินแดนตะวันออก ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จิตกรชราที่แต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยผู้หนึ่ง กำลังมองไปด้วยความสงสัยยังบุรุษที่ร่ำรวยผู้หนึ่ง ซึ่งขมวดคิ้วมองมายังมันพร้อมกับพูดจาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

“ขอให้ท่านเซียน ช่วยวาดภาพของผู้น้อยได้หรือไม่? ข้ายินดีที่จะจ่ายให้อย่างงาม”

“ภาพวาดของเหล่าฟูแพงมากเป็นอย่างยิ่ง”

บุรุษที่ร่ำรวยพยักหน้าด้วยความกระตือรือร้น จากนั้นก็โบกมือให้ผู้ติดตามหิ้วถุงเงินขนาดใหญ่มา

จิตกรชราชำเลืองมองพวกมันด้วยหางตา จากนั้นก็กระแอมไอออกมา

“อืม ดูเหมือนว่าพวกเราทั้งสองจะมีโชคชะตาร่วมกัน ถ้าเช่นนั้น เหล่าฟูก็จะวาดรูปบางอย่างให้กับเจ้า”

มันกำลังจะเริ่มวาดรูป แต่ใบหน้าก็มีรอยขมวดคิ้วขึ้นมา

“มีบางสิ่งเพิ่งจะเกิดขึ้น เหล่าฟูจำเป็นต้องถอดจิตออกไป โปรดรอสักครู่” มันกล่าว จากนั้นก็นั่งลงขัดสมาธิและหลับตาลง

บุรุษที่ร่ำรวยไม่กล้าที่จะไปรบกวนมัน ได้แต่ยืนอยู่ด้านข้าง เฝ้ารอคอย

ย้อนกลับไปในดินแดนด้านใต้ ในถ้ำกำเนิดใหม่ ต๋าหนี่ว์ มองออกไปในความว่างเปล่า ตกอยู่ในภวังค์ห้วงความคิด

นางคือดอกปี่อ้านที่บานออกเป็นเจ็ดสี ในวันแห่งการเปลี่ยนแปลง นางได้กลายเป็นเซียน แต่นางก็กระทำผิดพลาดในการไปตกหลุมรักกับร่างอาศัยของนางเอง เมื่อนางกลายเป็นเซียน นางก็ตัดด้านความดีของนางออกไป และฝังไว้ใต้ก้นทะเลเทียนเหอ

ในวันนั้น หยดน้ำตาของนางได้หลอมรวมเข้ากับทะเลเทียนเหอ และนางก็กลายเป็น…เซียนรุ่งอรุณ

สำหรับส่วนที่ดีของนาง ยังคงอยู่ที่ก้นทะเลเทียนเหอ เป็นต๋าหนี่ว์เหมือนเช่นเดิม

หลายปีหลังจากนั้น นางก็โผล่ออกมาจากโลงไม้ เข้าไปในร่างของมัจฉา เมื่อนางพุ่งทะยานขึ้นมาจากน้ำ นางก็กลายเป็นคุนเผิง บินตรงมายังถ้ำกำเนิดใหม่ กระจายกลิ่นอายแห่งความตายอันเข้มข้นออกมา

กลิ่นอายแห่งความตายนั้นมาจากหัวใจที่ตายไปแล้วของนาง

ในถ้ำกำเนิดใหม่ นางหวังว่าจะชำระล้างประสบการณ์ที่ผ่านมาให้หมดสิ้นไป ถือกำเนิดขึ้นมากลายเป็นคนใหม่ แต่ไม่ว่านางจะทำการค้นหาอย่างไร ก็ไม่พบการกำเนิดใหม่ใดๆ อยู่ในถ้ำแห่งนี้ จากนั้นนางก็เข้าใจ ถ้ำกำเนิดใหม่ไม่มีอะไรนอกไปจากความเพ้อฝัน

นางไม่อาจจะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ได้ ดังนั้นนางจึงยังอยู่ในที่แห่งนี้ จมอยู่ในความทรงจำของตนเอง ไม่มีใครในโลกนี้จะเข้าใจความเจ็บปวดของนางได้ แต่จากนั้นนางก็มองเห็นสวี่ชิง และก็ตระหนักว่าสวี่ชิงก็คล้ายกับนางเมื่อหลายปีก่อน

นางถอนหายใจ ความทรงจำแวบขึ้นมาในจิตใจ จนดูเหมือนจะมีความงดงามมากยิ่งขึ้น แต่กลับกัน ร่างกายนางเริ่มแห้งเหี่ยวลงไปมากกว่าครึ่ง ราวกับเป็นบุปผาที่กำลังโรยรา

มือที่แตะสัมผัสไปที่หน้าผากเมิ่งฮ่าว ก็เห็นได้ชัดว่ากำลังแห้งเหี่ยวลงไป ขณะที่พลังชีวิตอันไร้ขอบเขตของนางไหลเข้าไปในร่างเขา ตอนนี้เขาได้ฟื้นฟูกลับคืนมาโดยสิ้นเชิง และไม่ได้ดูแก่ชราเลยแม้แต่น้อยนิด

ภายในร่างเมิ่งฮ่าว จุดแสงเล็กๆ ได้ปรากฏขึ้น พวกมันรวมตัวเข้าด้วยกันอย่างหนาแน่น ประสานเชื่อมต่อกันจนก่อตัวเป็นสะพานที่มีรูปทรงโค้ง

อย่างไรก็ตาม…สะพานนั้นก็ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ตรงกลางของมันยังมีส่วนที่ยังเสียหายอยู่ ทำให้ยากที่จะเป็นสะพานโดยสมบูรณ์

จุดแสงทั้งหมดเหล่านั้นก็คือพลังชีวิตที่ต๋าหนี่ว์ส่งเข้าไปให้กับเมิ่งฮ่าว และสะพานนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นสะพานแห่งชีวิต!

“ข้าไม่ตำหนิท่าน…” ต๋าหนี่ว์พึมพำเสียงแผ่วเบา ดวงตาว่างเปล่า จิตใจจมอยู่ในความทรงจำซึ่งไม่มีใครมองเห็นได้

ตอนนี้แขนของนางได้แห้งเหี่ยวไปหมดแล้ว และกำลังกระจายไปที่ลำคอของนาง แทบจะดูคล้ายกับเป็นกิ่งก้านของไม้เลื้อย กำลังปีนป่ายขึ้นไปบนหน้าผากของนาง และในที่สุดก็จะปกคลุมไปทั่วทั้งศีรษะ เมื่อกิ่งก้านไม้เลื้อยนั้นไปถึงดวงตานาง นางก็คิดไปถึงครั้งแรกที่ได้พบกับร่างอาศัย

ในตอนนั้น มันได้มองมายังนาง และนางก็มองไปที่มัน ในตอนนั้นก็ดูราวกับว่าจะเป็นชั่วนิจนิรันดร์

“ข้าไม่เคยจะตำหนิท่าน…” เมื่อความแห้งเหี่ยวไปถึงดวงตานาง หยดน้ำตาสองหยดก็ไหลลงมา กลิ้งลงมาจากใบหน้าที่แห้งเหี่ยวของนาง และจากนั้นก็ตกลงไปบนพื้นพร้อมกับเกิดเป็นเสียงดังเบาๆ

ดวงตานางเริ่มเศร้าซึมและนางก็หลับตาลง จากนั้นก็ยกมือที่กดลงไปบนหน้าผากของเมิ่งฮ่าวขึ้นมา ชั่วครู่ต่อมา นางก็ตีไปที่ศีรษะเขาอย่างแผ่วเบา

การสัมผัสนั้นดูเหมือนจะแผ่วเบา แต่แรงตีนั้นคล้ายกับเป็นสายฟ้า เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง และเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในจิตใจ

จุดแสงมากมายนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายในร่างเขา ซึ่งก่อตัวขึ้นมาเป็นสะพานแห่งชีวิต ฉับพลันนั้นก็สั่นสะเทือนและจากนั้นก็ขยายตัวออกไป ในตอนนั้นสองด้านของสะพานก็เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน กลายเป็นสะพานที่สมบูรณ์

เมื่อสะพานแห่งชีวิตเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ร่างเมิ่งฮ่าวก็กระตุกขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ฉับพลันนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าไปอีกครั้ง หัวใจที่หยุดนิ่งก่อนหน้านี้ก็เริ่มมีเสียงกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อหัวใจเขาเริ่มเต้น ฝุ่นผงที่ต๋าหนี่ว์ได้สร้างขึ้นมาจากแม่เหล็กของขุนเขาทะเลที่เก้า ก็กระจายตรงไปยังหน้าอกของเขา และหลอมรวมเข้าไปในหัวใจ

ตึ๊กตั๊ก ตึ๊กตั๊ก!

หัวใจของเขาเริ่มเต้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เสียงของมันดังก้องออกไปทั่วทั้งถ้ำกำเนิดใหม่ ทันใดนั้น แรงดึงดูดอันน่าเหลือเชื่อก็ระเบิดออกมาจากด้านในหัวใจของเขา

ในเวลาเดียวกันนั้น วิญญาณของเมิ่งฮ่าว ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยเส้นไหมของดักแด้ไร้ตา ก็จมอยู่ในแรงดึงดูด โผล่เข้าไปในหัวใจของเขา และจากนั้นก็ซ้อนทับไปทั่วร่างของเขา

ในตอนนี้ สะพานแห่งชีวิตได้เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ แสงอันเจิดจ้ากระจายออกมาเต็มไปทั่วทั้งถ้ำกำเนิดใหม่ ขับไล่ความมืดมิดทั้งหมดไป แสงอันแววาวนั้นเจิดจ้าเหลือประมาณ

โลหิตในร่างเมิ่งฮ่าวเริ่มไหลเวียนขึ้นอีกครั้ง พลังชีวิตของเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง! วิญญาณได้กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม! เขากลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง!

เขาลืมตาขึ้นมาในทันที

สิ่งแรกที่เขามองเห็นก็คือต๋าหนี่ว์ เขามองเห็นร่างกายที่เหี่ยวแห้งของนาง และรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตที่พลุ่งพล่านของตนเอง เขารับรู้ได้ถึงการเชื่อมต่อระหว่างพลังชีวิตกับหญิงสาวนางนี้ได้ในทันที

จิตใจเขาสั่นสะท้าน ถ้าตอนนี้เขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น การมีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนานมากกว่าสามร้อยปีของเขาก็คงจะสูญเปล่า เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวนางนี้ได้ส่งมอบพลังชีวิตของนางให้กับเขา

“ผู้อาวุโส…”

ต๋าหนี่ว์มองมาที่เขา และดวงตานางทันใดนั้นก็ลืมขึ้นมาในทันที “ข้ามอบชีวิตให้กับเจ้า ไม่ใช่เพราะเจ้า แต่เพราะนาง”

ทันใดนั้นภาพก็ปรากฏขึ้นมาในจิตใจเขา

เขามองเห็นตนเองตกลงไปบนพื้นที่ด้านนอกของถ้ำกำเนิดใหม่ และมองเห็นสวี่ชิงมาถึง นางยกเขาขึ้นมา และตะเกียกตะกายดิ้นรนอุ้มเขาตรงไป ในครั้งหนึ่งที่นางเคยงดงาม แต่ตอนนี้เส้นผมของนางกลายเป็นสีขาวและนางก็แก่ชราลง โลหิตสีม่วงคล้ำไหลซึมออกมาจากมุมปากของนาง

แต่ก็ไม่มีความเสียใจปรากฏให้เห็นในดวงตาของนาง นางมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความอ่อนโยนและความมุ่งมั่น

เขามองไปขณะที่สวี่ชิงใช้พลังชีวิตของนางเองมาประคับประคองเขา ทุกครั้งที่นางส่งพลังชีวิตมาให้เขา ก็ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นเล็กน้อย และทำให้นางอ่อนแอลง

อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของนางก็ไม่เคยจะจางหายไป

เมื่อมองเห็นสิ่งเหล่านี้ เมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้าน เขามองดูสวี่ชิงอุ้มเขาเข้ามาในถ้ำกำเนิดใหม่ และนั่งลงขัดสมาธิ เขามองเห็นนางลูบไล้ไปที่ใบหน้าของเขา

สวี่ชิงแก่ชรา เส้นผมเป็นสีขาว แต่นางก็ยังคงส่งมอบพลังชีวิตให้เขาอย่างต่อเนื่อง ทีละเล็กทีละน้อย โดยไม่สนใจถึงผลลัพธ์ที่จะตามมากับตัวนางเอง

“ท่านอยู่ ข้าอยู่, ท่านตาย ข้าตาย!”

หยดน้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว ต่อมาเขามองเห็นต๋าหนี่ว์ปรากฏกายขึ้น นางส่งสวี่ชิงออกไป…และจากนั้นเจ้าอ้วนก็มาส่งขวดยา

เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้กระแทกลงมาในจิตใจเขาราวกับเป็นสายฟ้าฟาด เขาสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง และทันใดนั้นความหวาดกลัวอย่างเข้มข้นก็เต็มอยู่ในจิตใจ

“ทำไม…ทำไมสวี่ชิงถึงไม่ได้นำมันมาด้วยตนเอง?” เมิ่งฮ่าวไม่กล้าจะขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาหันหน้ามองขึ้นไปยังต๋าหนี่ว์

ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ลุกขึ้นมายืน ภายในใจ เขารู้ว่า…ต้องมีบางอย่างที่เลวร้ายเกิดขึ้นกับสวี่ชิง!

เขาต้องไปหานาง! เขาต้องไปหาสวี่ชิง!

อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขาลุกขึ้นมายืน สีหน้าทันใดนั้นก็สลดลง และเขาก็ยืนอยู่ที่นั่น เต็มไปด้วยความเสียใจ, หวาดกลัวและชะงักนิ่ง กำมือเป็นหมัดจนแน่น ขณะที่ตระหนักว่าเขาถูกจำกัดด้วยขอบเขตบางอย่าง

เขาสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นึกขึ้นได้ว่า เขาไม่มีพื้นฐานฝึกตน เขาว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง…

“ไม่มีเรื่องการเกิดใหม่ใดๆ…” ต๋าหนี่ว์พึมพำกับตัวเอง ร่างนางแทบจะเหี่ยวแห้งไปทั้งหมด มองมายังเมิ่งฮ่าว และกำลังจะส่งพลังชีวิตสุดท้ายของนางให้กับเขา จากนั้นก็ตกตายไป แต่…

ทันใดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มสั่นสะเทือนและเกิดเป็นเสียงดังกึกก้อง!

กลุ่มหมอกสีดำพุ่งออกมาจากภายในส่วนลึกของถ้ำกำเนิดใหม่ ปกคลุมไปทั่วทุกมุมของถ้ำอย่างรวดเร็ว รวมถึงอาณาเขตหนึ่งแสนจ้างรอบๆ ถ้ำ ทำให้กลายเป็นดินแดนแห่งหมอกสีดำ

หมอกสีดำพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า กลายเป็นศีรษะขนาดใหญ่อย่างน่าตกใจ ศีรษะนั้นมีผมสีดำ และหน้าตาของมันดูเลือนลาง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเก่าแก่โบราณอย่างเหลือประมาณ

“ใครบอกว่าไม่มีเรื่องการเกิดใหม่เช่นนั้น!?” เสียงนั้นแผดร้องออกมา

ต๋าหนี่ว์มองขึ้นไป และดวงตานางก็เต็มไปด้วยแสงแปลกๆ นางได้อาศัยอยู่ในถ้ำกำเนิดใหม่มานานหลายปี และได้สำรวจไปทั่วทุกบริเวณด้านใน แต่ก็ไม่เคยรับรู้ได้ถึงสิ่งใดๆ ที่คล้ายกับกลุ่มหมอกสีดำนี้มาก่อน

ผู้ที่ตกตะลึงมากไปกว่านางก็คือโฉ่วเหมินไถ มันได้ยินเสียงดังมาจากตำแน่งเดียวกับมันที่อยู่ลึกภายในถ้ำ และทำให้จิตใจมันเต็มไปด้วยเสียงกระหึ่ม มันลุกขึ้นมายืน ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ มันก็ได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำมานานหลายปี และคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ทุกตารางนิ้ว แต่ก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีสิ่งเช่นนี้อยู่ด้านใน!

“คนผู้นี้คือใคร?” มันคิดพร้อมกับอ้าปากค้าง ทันใดนั้นก็ตระหนักว่าถ้ำกำเนิดใหม่…ไม่ใช่สิ่งที่มันเชื่อทั้งหมด

ยังมีสิ่งที่ลี้ลับอยู่ในที่แห่งนี้…ซึ่งแม้แต่มันก็ไม่อาจจะรับรู้ได้

“เต๋าแห่งการเกิดใหม่เกิดขึ้นอยู่นอกเหนือจากกฎแห่งสวรรค์และปฐพี เจ้าไม่อาจจะรับรู้ถึงมันได้ ก็แค่นั้น…”

“วันนี้ เจ้าเลือกที่จะตายไปเพื่อช่วยคนผู้นี้ นั่นก็คือ…การเกิดใหม่ที่แท้จริง!”

“การเกิดใหม่ก็คือวัฏจักรแห่งชีวิตและความตาย นับจากนี้ไป มันก็จะเป็นตัวแทนของเจ้าบนเส้นทางแห่งการฝึกตน เจ้าตายเพื่อมันในวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ นั่นก็คือ…การเกิดใหม่ที่แท้จริง!”

“ถ้าเจ้าเข้าใจ เจ้าก็จะเป็นอิสระจากโลกที่เจ้ากังวลอยู่นี้ ถ้าเจ้าไม่เข้าใจ เช่นนั้น…ชีวิตต่อไปของเจ้าก็จะตกอยู่ในความมืดมิด”

ร่างต๋าหนี่ว์สั่นสะท้านด้วยความตกตะลึง และลมหายใจของนางก็เร่งร้อนถี่เร็วขึ้น นางรับฟังคำพูดของเสียงนั้น และดวงตาก็ค่อยๆ แวบขึ้นด้วยสัญญาณแห่งความเข้าใจ

“กำเนิดใหม่…ผู้อาวุโส ได้โปรดชี้แนะข้าด้วย” นางหลับตาลงอย่างช้าๆ และในตอนนั้น ก็แห้งเหี่ยวไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็นดอกปี่อ้าน อยู่ที่นั่นในถ้ำกำเนิดใหม่

“ตัวตนในด้านดี สุดท้ายเจ้าก็ยังคงกระทำแต่สิ่งที่ดี ทุกๆ ลมหายใจของเจ้าที่เข้าไปอยู่ในร่างมัน เจ้าก็คือตัวแทนแห่งความเป็นจริงและกฎเกณฑ์…เนื่องจากเช่นนี้ ข้าจะช่วยเจ้าในครั้งนี้!” ขณะที่เสียงนั้นดังก้องไปมา กลุ่มหมอกสีดำก็เริ่มรวมตัวเข้าด้วยกัน อยู่ที่ด้านในถ้ำกำเนิดใหม่ ด้านข้างดอกปี่อ้าน จากนั้นก็กลายเป็นกิ่งก้าน กิ่งก้านนั้นเคลื่อนไหวไปมา ดูเหมือนจะใช้อากาศเป็นเหมือนผืนผ้าใบเพื่อวาดดอกปี่อ้านที่แท้จริงขึ้นมา

กิ่งก้านนั้นเอนไหวไปมาอย่างรุนแรง และดอกปี่อ้านภาพลวงตา ก็เกิดขึ้นบนร่างกายที่แห้งเหี่ยวของต๋าหนี่ว์

“หลับไปหมื่นปี หลังจากนั้น ถ้าเจ้าตื่นขึ้นมาได้ เจ้าก็จะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่” ขณะที่เสียงนั้นดังก้องออกไป กลุ่มหมอกสีดำก็ดูเหมือนจะทำให้โฉ่วเหมินไถ ที่อยู่ในซอกหลืบส่วนลึกของถ้ำกำเนิดใหม่เกิดความสนใจขึ้นมา

จิตใจโฉ่วเหมินไถสั่นสะท้าน

“ท่านคือวิญญาณที่เคยมีชีวิตอยู่มานานหลายปี และหลายชาติภพ ท่านได้พึ่งพาความพากเพียรของตนเองเพื่อบรรลุถึงวันนี้…ต่อมาข้าก็รับรู้ได้ถึงบางอย่างที่คุ้นเคยเป็นอย่างมากเกี่ยวกับตัวท่าน”

โฉ่วเหมินไถเริ่มหอบหายใจ “ท่านก็คือ…”

ก่อนที่มันจะทันได้พูดจบ กลุ่มหมอกก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน และโฉ่วเหมินไถก็ถูกกวาดขึ้นไปในทันที มันไม่อาจจะควบคุมร่างกายตนเองได้ ขณะที่ถูกส่งออกไปจากดาวหนานเทียน เข้าไปสู่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

“ไม่ว่าบุคคลที่เจ้ารอคอยจะอยู่ในที่แห่งนี้หรือไม่” เสียงนั้นกล่าว “ถ้าเจ้ารู้ว่าต้องใช้คนอื่น เมื่อเวลานั้นมาถึง เมื่อคนที่อยู่ในจิตใจเจ้าสามารถกลับมามีชีวิตได้อีก…เจ้าก็จะรู้สึกเสียใจเท่านั้น ไปเถอะ เมื่อเวลานั้นมาถึงเจ้าก็จะเข้าใจ และสามารถกลับมายังที่นี่ได้อีก”

ย้อนกลับมาที่ถ้ำกำเนิดใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบ กลุ่มหมอกหมุนวนไปมา รอบแล้วรอบเล่า และเงาร่างนั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มมองเห็นได้ กำลังมองมายังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ลุกขึ้นมายืน และเดินออกไปยังปากถ้ำ ถึงแม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่เหมือนกับมนุษย์ธรรมดาในตอนนี้ แต่เขาก็ยังมี…คำสัญญาที่ต้องรักษา

ท่านอยู่ ข้าอยู่, ท่านตาย ข้าตาย!

ในตอนที่เมิ่งฮ่าวกำลังจะก้าวเท้าออกไปจากถ้ำกำเนิดใหม่ เงาร่างเลือนลางที่ด้านหลังเขาก็กล่าวเสียงราบเรียบ “ทำไมเจ้าถึงได้สนใจแต่เรื่องอาณาจักรแห่งความสมบูรณ์แบบมากมายเช่นนั้น?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version