Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 740

ตอนที่ 740

เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตระดับสี่!

มรดกวิเศษอันล้ำค่าย่อยของสำนักอีเจี้ยน, สำนักจินหาน, ตระกูลหลี่แปดเปื้อน และตกลงไปบนพื้น แต่เนื่องจากการแสดงออกอย่างกล้าหาญของผู้เฒ่ายอดเขาห้า ทำให้มีบางสิ่งเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็เช่นกัน จู่ๆ ก็มีวงแหวนแวบขึ้นมา ไปปรากฏขึ้นที่รอบๆ มรดกวิเศษอันล้ำค่าของสำนักอีเจี้ยน

เห็นได้ชัดว่า วงแหวนนั้นมีอยู่ที่นั่นมาโดยตลอด แต่ก็ถูกสะกดและถูกผนึกไว้ ตอนนี้เมื่อของชิ้นนั้นแปดเปื้อนไป พลังผนึกก็อ่อนแอลงเล็กน้อย ทำให้เริ่มมองเห็นวงแหวนขึ้นเป็นครั้งแรก

ถึงแม้ว่ากระบี่เล่มนี้จะไม่ใช่ของวิเศษหลัก เป็นเพียงแค่ของวิเศษรองเท่านั้น แต่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนั้นก็เหมือนกับประกายไฟที่ถูกโยนลงไปในกองฟาง มันได้ปะทุขึ้นมาถึงแม้ว่าจะเล็กน้อย แต่ก็ยากที่จะดับลงไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังได้มีผลกระทบต่อของวิเศษหลักที่อยู่ในมือของชายชราชุดเขียว ซึ่งกำลังต่อสู้กับร่างจำแลงของปรมาจารย์อสูรโลหิตในตอนนี้ ที่อยู่สูงขึ้นไปในกลางอากาศอีกด้วย

“เกิดอะไรขึ้น?!” มันร้องอุทานออกมา ขณะที่อยู่ในท่ามกลางการร่ายเวท ที่ด้านข้างมันเป็นมรดกวิเศษอันล้ำค่าที่แท้จริงของสำนักอีเจี้ยน ซึ่งก็คือกระบี่ไม้ไผ่ ก่อนหน้านี้กระบี่เล่มนี้แหลมคมอย่างไร้ที่เปรียบ และสามารถกระจายแรงกดดันอันน่าประหลาดใจออกมาได้ แม้แต่ปรมาจารย์อสูรโลหิตก็ยังต้องรับมือด้วยความระมัดระวังต่อพลังของมัน

ตอนนี้ ถึงแม้ว่ากระบี่จะกระจายกลิ่นอายที่โดดเด่นออกมา แต่จริงๆ แล้ว มันก็เป็นกลิ่นอาย…ที่ดูเหมือนจะคล้ายกับเป็นพลังแห่งกาลเวลา!

เมื่อกลิ่นอายนั้นปรากฏขึ้น กระบี่ไม้ไผ่ก็ยิ่งน่าประหลาดใจมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ชายชราชุดเขียวแห่งสำนักอีเจี้ยนรู้สึกยินดีขึ้นมาในทันที

ปรมาจารย์อสูรโลหิตขมวดคิ้ว มันสามารถจะกระจายพลังออกไปยังร่างจำแลงต่างๆ ได้มากมาย หรือจะมุ่งเน้นไปที่ร่างเดียวก็ได้ ร่างจำแลงเพียงร่างเดียวสามารถจะทำให้ผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าใดๆ ก็ตามต้องพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับที่มันเคยได้ต่อสู้กับปรมาจารย์หกเต๋ามาแล้ว

แต่ตอนนี้มันกำลังเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าสามคน ซึ่งได้ใช้มรดกวิเศษอันล้ำค่ามาต่อสู้ด้วย มันแค่เพิ่มจำนวนร่างจำแลงมากขึ้น ก็สามารถจัดการกับศัตรูที่เพิ่มขึ้นมาได้อย่างแท้จริง

ยิ่งไปกว่านั้น ลึกลงไปในจิตใจ ปรมาจารย์อสูรโลหิตมีความรู้สึกว่า มีใครบางคนกำลังเฝ้ามองดูอยู่ ราวกับว่าทันใดนั้นก็มีสายตาจากที่ไหนสักแห่ง มาจ้องนิ่งอยู่ที่ร่างมัน

“แย่ยิ่งนักที่ไม่อาจจะปล่อยให้วิญญาณของข้าออกไปจากสระโลหิตได้…” มันคิดพร้อมกับถอนหายใจออกมา อย่างไรก็ตาม ก็มองไม่เห็นร่องรอยแห่งความหวาดกลัวแม้แต่น้อยนิดอยู่บนใบหน้าของมัน มันมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าจะมีความวุ่นวายร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้น มันก็สามารถจะแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ทั้งหมด

ความเชื่อมั่นเช่นนั้นมักจะเกิดขึ้นอยู่ภายในใจมัน และไม่ได้จางหายไปแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะมีสถานการณ์ที่เลวร้ายแค่ไหนก็ตามที

การต่อสู้ในกลางอากาศ ขณะที่มันใช้ร่างจำแลงต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า รวมทั้งปรมาจารย์หกเต๋า ซึ่งได้ใช้วิชาลับบางอย่างเพื่อเผาไหม้อายุขัย และฟื้นฟูพื้นฐานฝึกตนของมันขึ้นชั่วคราว จนถึงจุดที่มันสามารถจะต่อสู้กับปรมาจารย์อสูรโลหิตได้

ความเกลียดชังที่มันมีต่อปรมาจารย์อสูรโลหิต ได้กลายเป็นบาดแผลที่ทำให้จิตใจมันตกอยู่ในความทุกข์ตลอดไป

ตูม!

การต่อสู้บนพื้นดินที่ด้านล่างก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อเกราะป้องกันชั้นที่ห้าพังทลายลง ผู้เฒ่ายอดเขาห้าตกตายไป และสามของวิเศษรองแปดเปื้อน จิตใจของผู้ฝึกตนนับแสนก็เลิกสั่นสะท้าน ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มฝูงชนของศิษย์สำนักเซี่ยเยาที่กำลังเฝ้ารออยู่ที่ด้านหลังเกราะป้องกันชั้นที่สี่ ดูคล้ายกับเป็นกระบี่สีโลหิตอันน่ากลัว

“ถล่มช่องโหว่!” ผู้ฝึกตนขั้นต้นค้นหาเต๋าแผดร้องออกมาจากสำนักอีเจี้ยน ดวงตามันแวบแสงอันเย็นชาออกมา พุ่งตัวไปอยู่ที่แนวหน้า ขนาบข้างด้วยหุ่นเชิดสำนักจินหาน และผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ รวมทั้งผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณอีกหลายคน ทั้งหมดพุ่งตรงไปยังเกราะป้องกันชั้นที่สี่

“ตาย!” ผู้ฝึกตนนับแสนรวมกำลังกันเข้าไปโจมตี พลังของพวกมันเดือดพล่าน อีกครั้งที่พวกมันคล้ายกับเป็นอุทกภัยที่พร้อมจะทำให้สำนักเซี่ยเยาต้องจมลงและแตกกระจายไป

ภายในเกราะป้องกันชั้นที่สี่ เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และจากนั้นก็ก้าวเนิบนาบตรงไป ครั้งนี้มีสองผู้เฒ่าอสูรโลหิตเหล็กติดตามไปด้วย รวมทั้งศิษย์สำนักเซี่ยเยามากกว่าหนึ่งหมื่นคน ที่กระจายรังสีสังหารออกมา

ดวงตาพวกมันเต็มไปด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่ และความมุ่งมั่น ซึ่งเมิ่งฮ่าวรู้ว่าเขาไม่อาจจะทำอะไรเพื่อขัดขวางไม่ให้พวกมันไปต่อสู้ได้

“เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็จะต่อสู้จนกว่าจะตายจากกันไป!” เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไป และดวงตาก็สาดประกายด้วยแสงสีแดงที่ปะทุขึ้นมา ปลายกระบี่แห่งกาลเวลาหมุนวนไปมาในอากาศอยู่รอบๆ ตัว กลายเป็นรูปดอกบัวที่กระจายพลังอันน่าประหลาดใจของกาลเวลาออกมา แม้แต่อากาศก็ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากพลังนั้น

ในเวลาเดียวกันนั้น แสงสีโลหิตจางๆ ก็เริ่มมองเห็นได้จากรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว มันเริ่มกระจายออกไปจนดูเหมือนเป็นภาพทับซ้อน แต่เมื่อมันเคลื่อนที่ออกไป ก็เริ่มมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันก็คือร่างจำแลงโลหิต!

ร่างจำแลงโลหิตตระกูลจี้!

“สู้!” มือขวาเมิ่งฮ่าวขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว และค่ายกลกระบี่แห่งกาลเวลาก็พุ่งตรงไป ดวงตาของร่างจำแลงโลหิตสาดประกายเจิดจ้า และแสงสีโลหิตก็พุ่งขึ้นไปจนถึงท้องฟ้า ตามมาด้วยเจตจำนงแห่งปีศาจ จากนั้นมันก็กลายเป็นริ้วสีแดง พุ่งกระโจนเข้าใส่ผู้ฝึกตนคนแล้วคนเล่า

ทุกครั้งที่มันกระโจนเข้าไป เหยื่อของมันก็จะสั่นสะท้านและจากนั้นก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา เพียงชั่วขณะโลหิตของคนผู้นั้นก็เหือดแห้งหายไปโดยสิ้นเชิง หลังจากที่กลายเป็นซากศพที่แห้งกรัง ร่างจำแลงโลหิตก็บินออกไปจนดูคล้ายกับว่า มันเพิ่งจะมีความสุขกับอาหารรสเลิศ จากนั้นมันก็พุ่งตรงไปด้วยความตะกละยังเหยื่อรายอื่นต่อไป

ดูเหมือนว่าสติสัมปชัญญะอันเล็กน้อย กำลังเริ่มตื่นขึ้นมาจากภายในร่างจำแลงโลหิตอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่เมิ่งฮ่าวลังเลที่จะใช้มันในการต่อสู้

จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เขาต้องจัดการกับการต่อต้านจากร่างจำแลงโลหิต และเขาก็มั่นใจว่ายิ่งมันดูดกลืนโลหิตไปมากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมมัน อันที่จริง ก็มีความเป็นไปได้ว่ามันจะเป็นขบถขึ้นด้วยเช่นกัน

แต่ในการต่อสู้ครั้งนี้ เมิ่งฮ่าวไม่ได้รู้สึกกังวลต่อเรื่องราวในอนาคต ดังนั้นร่างจำแลงโลหิตจึงได้ปรากฏขึ้นในสนามรบนี้ และแสงแห่งโลหิตของมันก็พุ่งสูงขึ้นไปในท้องฟ้า สามารถถือได้ว่า…ร่างจำแลงโลหิตไม่มีวันตายไป และมีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด ถึงแม้ว่ามันไม่ได้สังหารศัตรูไปครั้งละมากๆ แต่ภาพของมันก็ทำให้ผู้คนไม่น้อยในสนามรบ ต้องรู้สึกตื่นตระหนกและสับสน

“นั่นคืออะไร!?!?”

“อย่าปล่อยให้เจ้าสีโลหิตนั่นมาแตะต้องตัวเจ้าได้! มันเป็นปีศาจ!”

“สำนักเซี่ยเยาฝึกฝนแต่เวทอสูรเท่านั้น การมีวิชาเวทอันชั่วร้ายเช่นนี้ ก็สมควรแล้วที่สำนักนี้จะถูกกวาดล้างออกไป!”

เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจ, เสียงตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว, เสียงร้องอย่างบ้าคลั่ง และเสียงระเบิด ผสมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นคลื่นเสียงที่ทำให้สนามรบต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว

ท่ามกลางเสียงอันหลากหลายนั้น ผู้เฒ่าอสูรโลหิตเหล็กและศิษย์สำนักเซี่ยเยานับหมื่นคนได้พุ่งไปปะทะกับศัตรู

สำหรับเมิ่งฮ่าว เขาเพียงคนเดียวถูกตรึงไว้โดยปรมาจารย์ขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยน, หุ่นเชิดสำนักจินหาน และผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ รวมทั้งผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณอีกหลายคน กระแสน้ำวนสีทองของเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตระดับสามหมุนวนไปมาทั่วทุกทิศทาง ด้วยการใช้วิชาเวทที่หลากหลาย ทำให้เขามั่นใจว่าคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเหล่านี้ไม่อาจจะทะลวงผ่านเขตบริเวณนี้ไปได้

เป็นงานที่ยากลำบากชิ้นหนึ่งของเมิ่งฮ่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ต้องต่อสู้กับชายชราจากสำนักอีเจี้ยน ซึ่งกำลังแค่นเสียงอย่างเย็นชา และปลดปล่อยกฎธรรมชาติออกมา จากนั้นมันก็ก้าวเดินตรงมา และไปปรากฏขึ้นใกล้กับสองผู้เฒ่าอสูรโลหิตเหล็ก โจมตีไปอย่างรุนแรง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร

“ระเบิด!” เขาแผดร้องออกมา ทำให้หนึ่งในปลายกระบี่แห่งกาลเวลาในค่ายกลกระบี่ดอกบัวระเบิดขึ้น พลังแห่งกาลเวลาระเบิดออกไป กลายเป็นลมพายุที่ม้วนกวาดออกไปทั่วทุกทิศทาง

ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า สามารถที่จะไม่สนใจลมพายุแห่งกาลเวลาเช่นนั้นได้ แต่ไม่ใช่ผู้ฝึกตนขั้นต้นค้นหาเต๋า สีหน้าชายชราเปลี่ยนไป และบังคับให้ตนเองต้องหยุดลง จากนั้นก็ล่าถอยออกไป

“ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณ!” มันร้องตะโกนขึ้น “รับฟังคำสั่งใหม่ ตรึงมันไว้ในทันที!”

ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณสำนักอีเจี้ยน พุ่งตรงไปในฉับพลัน หุ่นเชิดสำนักจินหานและผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ ก็ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นเช่นเดียวกัน เพียงชั่วขณะผู้ฝึกตนตัดวิญญาณมากมายก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทต่างๆ ออกมาเพื่อขัดขวางเมิ่งฮ่าว

ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตาของหุ่นเชิดสำนักจินหานก็แวบขึ้น ขณะที่มันพยายามจะบินผ่านตำแหน่งของเมิ่งฮ่าวไป ผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ก็พยายามที่จะกระทำเช่นเดียวกัน

ในตอนนี้เองที่แสงอันเย็นชาก็ปรากฏขึ้นในดวงตาเมิ่งฮ่าว

“ระเบิด ระเบิด! ระเบิด!!”

สามปลายกระบี่แห่งกาลเวลาระเบิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หุ่นเชิดสำนักจินหานและผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ถูกบังคับให้ต้องหยุดชะงักลง ขณะที่ลมพายุแห่งกาลเวลาพลุ่งพล่านออกไปในทั่วทุกทิศทาง

เมิ่งฮ่าวทุ่มสุดตัวในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาก้าวเดินตรงไป และสีหน้าอันดุร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ขณะที่โบกสะบัดมือออกไป

“ระเบิด!” จากปลายกระบี่แห่งกาลเวลาที่ยังเหลืออยู่ ห้าชิ้นได้ระเบิดขึ้น ยังคงเหลืออยู่เพียงแค่หนึ่งชิ้นเท่านั้น พลังของลมพายุแห่งกาลเวลาขนาดใหญ่ พลุ่งพล่านกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ทำให้สนามรบเกิดเป็นเสียงดังกึกก้องและสั่นสะเทือนไปทั่ว

เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนได้ยินมา ขณะที่ร่างของผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณแก่ชราลงอย่างรวดเร็ว อายุขัยอันยาวนานของมันหดหายไปอย่างรวดเร็ว และจากนั้นก็ตกตายไปในทันที คนอื่นๆ ล่าถอยหลบหนีไปอย่างเร่งรีบ อย่างไรก็ตาม ขณะที่พวกมันถอยไปด้านหลัง เมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นกลุ่มควันสีเขียวหายตัวไป และจากนั้นก็ปรากฏกายขึ้นใหม่อยู่ที่ด้านหลังหนึ่งในพวกมัน มือขวาเขาพุ่งออกไป เสียงแตกร้าวได้ยินมา ขณะที่ลำคอของมันถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด ร่างเขาแวบขึ้นอีกครั้ง และต่อยหมัดออกไป ศัตรูอีกคนก็ถูกสังหารไป

เงาร่างเมิ่งฮ่าวแวบไปมา ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ เขาก็สังหารผู้ฝึกตนตัดวิญญาณไปเจ็ดคน

ตอนนี้ลมพายุแห่งกาลเวลาได้จางหายไป ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าจากสำนักอีเจี้ยน, หุ่นเชิดสำนักจินหาน และผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ต่างก็รวมกำลังกันทั้งหมด ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังมากที่สุดของพวกมัน กลายเป็นการโจมตีที่แม้แต่ปฐพียังต้องแตกกระจายไป ด้วยความตั้งใจที่จะกำจัดเมิ่งฮ่าวไปให้จงได้

ปัง!

ร่างเมิ่งฮ่าวพังทลายลงไป จากนั้นก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่ สีหน้าเขาซีดขาว และมีลางสังหรณ์อย่างรุนแรงว่า ถ้าร่างเขายังคงพังทลายเช่นนี้ต่อไปคงอีกไม่นาน…เขาก็จะต้องตายไปอย่างแท้จริง

ตอนนี้ศิษย์สำนักเซี่ยเยาที่อยู่ในสนามรบถูกสังหารไปมากมาย ดวงตาของศิษย์สำนักเซี่ยเยาส่วนที่เหลือกลายเป็นสีแดงก่ำ ศิษย์นับหมื่นบินออกไป ตามติดมาด้วยสามผู้เฒ่าไฟอสูร แต่เมื่อคิดว่าพวกมันต้องมาต่อสู้กับศัตรูนับแสนคน สิ่งที่ดีที่สุดที่พวกมันสามารถทำได้ก็คือถ่วงเวลาได้อีกเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรพวกมันก็ไม่อาจจะต้านทานได้นานเท่าใดนัก

แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังสังหารได้ช้าลงไป ภายใต้การโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากสำนักอีเจี้ยน, สำนักจินหาน และผู้แข็งแกร่งตระกูลหลี่

ขุนเขาที่เก้าพังทลายลงไป

เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะใช้ไข่มุกดำขาวได้อีกต่อไป

เขาบังคับให้ค่ายกลกระบี่แห่งกาลเวลาระเบิดตัวเองไปจนหมดสิ้น

กิ่งก้านของดอกปี่อ้าน ซึ่งเป็นของวิเศษตัดวิญญาณของเขา ถูกตัดออกไป และมันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้อีกต่อไป

ร่างเมิ่งฮ่าวอ่อนแอลงอย่างถึงที่สุด!

เขาใช้เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ตอนนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่แสงหลากสีของเวทนี้ปรากฏขึ้น ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็หลบหนีจากไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยน หุ่นเชิดสำนักจินหาน และผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตระดับสาม ไม่ได้แข็งแกร่งเพียงพอที่จะตรึงพวกมันไว้ได้

“ท่านปรมาจารย์เคยบอกว่าระดับสี่ของเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต เพียงพอที่จะสังหารค้นหาเต๋าขั้นต้นได้ ระดับสี่…ข้าต้องบรรลุถึงระดับสี่ให้จงได้!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายสีแดงจ้าขณะที่ล่าถอยออกไป อีกครั้งที่เขาปลดปล่อยเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตออกมา และอีกครั้งที่ร่างกายต้องพังทลายลงไป และฟื้นฟูกลับคืนมา

“ข้าต้องทำให้กระแสน้ำวนหมุนเร็วขึ้นมากกว่านี้! มันก็จะบรรลุถึงระดับสี่! ไม่ควรจะถึงทางตันก่อนระดับสี่ ข้าอยู่ในขั้นเส้นลมปราณแล้ว เพียงแค่ต้องทำให้กระแสน้ำวนสีทอง…หมุนวนเร็วขึ้น! เร็วมากขึ้น!” พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวระเบิดออกเต็มไปด้วยพลัง ขณะที่เขาปลดปล่อยเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตออกมา และผลักดันให้มันตรงเข้าไปในระดับสี่อย่างเต็มกำลัง ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยน หุ่นเชิดสำนักจินหาน และผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ ต่างก็พุ่งตรงเข้ามาหาเขาอย่างดุดัน…

ทันใดนั้น จิตใจเมิ่งฮ่าวก็แจ่มชัดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัว ดูเหมือนจะเคลื่อนที่ช้าลง เขายกมือขึ้นและชี้ตรงไป

กระแสน้ำวนสีทอง ฉับพลันนั้นก็ปรากฏขึ้น มีขนาดใหญ่มากกว่ากระแสน้ำวนใดๆ ก่อนหน้านี้ถึงสิบเท่า ปรากฏขึ้นที่ด้านบนข้างขวามือของผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยน รวมทั้งผู้ฝึกตนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นอีกสิบกว่าคน

กระแสน้ำวนสีทองระเบิดแรงดึงดูดอันบ้าคลั่งออกมาในทันที ทั้งพื้นฐานฝึกตน รวมถึงปราณและโลหิต ต่างก็ถูกดูดเข้าไปอย่างรวดเร็ว ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่อยู่ภายในกระแสน้ำวนกลายเป็นซากศพไปในทันใด ยกเว้นผู้แข็งแกร่งสำนักอีเจี้ยน!

สำหรับผู้แข็งแกร่งสำนักอีเจี้ยน มันแค่นเสียงเย็นชาออกมา และกำลังจะทำให้กระแสน้ำวนพังทลายลงไป แต่ฉับพลันนั้นดวงตามันก็เบิกกว้าง จู่ๆ มันก็ตระหนักว่ากระแสน้ำวนนี้แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

แรงดึงดูดอันเข้มข้นได้ทำการดูดซับพื้นฐานฝึกตนของมันไป อย่างน้อยก็สามในสิบส่วน!

ที่สำคัญมากไปกว่านั้น มันได้ตระหนักว่า…ไม่อาจจะหลบหนีออกไปได้! มันถูกกักขังไว้อย่างแน่นหนา!

“เป็นไปไม่ได้!” มันร้องออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง

ความเร็วของสิ่งที่ถูกดูดออกไปโดยแรงดึงดูดนั้น มากเกินกว่าระดับสามของเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต เมิ่งฮ่าวที่กำลังล่าถอยออกไป แต่ในตอนนี้ เขาได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ และมองขึ้นไปยังผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าที่ติดอยู่ในกระแสน้ำวน รังสีสังหารแวบขึ้นมาอยู่ในดวงตา

“เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต ระดับสี่!”

เขาทะลวงผ่าน ได้สำเร็จแล้ว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version