Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 739

ตอนที่ 739

ผู้เฒ่ายอดเขาห้า!

มรดกวิเศษอันล้ำค่า!

ในกองหนุนเต๋าของทุกๆ สำนักหรือตระกูล ต่างก็ถือว่าพวกมันคือสิ่งของที่ล้ำค่า ซึ่งจะช่วยให้สำนักหรือตระกูลคงอยู่และก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถจะใช้พวกมันเป็นเครื่องข่มขู่ เพื่อคอยปกป้องสำนักหรือตระกูลจากกองกำลังอื่นๆ

กองหนุนเต๋าของสำนักอีเจี้ยนมีมรดกวิเศษอยู่หลากหลาย แต่กระบี่ไม้ไผ่ก็ถือได้ว่าเป็นเครื่องคุกคามอย่างแท้จริงในดินแดนด้านใต้ทั้งหมด!

กระบี่นั้นมาจากทะเลสาบเต๋าโบราณ และแทบจะทรงพลังอย่างไร้จุดสิ้นสุด มันสามารถปลดปล่อยพลังที่แตกต่างกันออกมาได้อย่างมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนใช้มัน หลังจากที่ทำการค้นคว้าเพิ่มเติม สำนักอีเจี้ยนก็เริ่มสรุปได้ว่าพลังที่แท้จริงของมัน…ต้องถูกปลดปล่อยออกมาโดยเซียนอมตะเท่านั้น

แต่โชคร้าย ที่ถึงแม้จะมีเซียนเกิดขึ้นในสำนักอีเจี้ยนมาก่อน แต่ก็เป็นแค่เซียนเทียมเท่านั้น สำหรับเซียนแท้…จากในสมัยโบราณจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ก็ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะเคยปรากฏขึ้นในดินแดนด้านใต้ทั้งหมด!

จึงไม่จำเป็นจะต้องกล่าวถึงทะเลทรายตะวันตกแต่อย่างใด เซียนแท้เคยปรากฏขึ้นแต่ในดินแดนตะวันออกเท่านั้น!

ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าแห่งสำนักอีเจี้ยน สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และยกมือขวาขึ้นมา อย่างน่าตกใจยิ่ง ใบไม้ปรากฏขึ้นอีกครั้งและเริ่มเรืองแสงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาก็มองเห็นเป็นกิ่งก้านไม้ไผ่ จากนั้นก็ถูกปอกเปลือกออกจนเผยให้เห็น…กระบี่ไม้ไผ่!

“กระบี่นี้เป็นเพียงแค่ของวิเศษรอง จากของวิเศษหลักเท่านั้น” ชายชรากล่าวเสียงราบเรียบ “แต่จากพื้นฐานฝึกตนของข้า ถึงแม้ว่าข้าจะไม่มีกระบี่ที่สมบูรณ์ แต่ก็ยังสามารถจะใช้พลังบางส่วนของมันได้” จากนั้นมันก็ยกกระบี่ขึ้น และพลังชีวิตมากมายก็พลุ่งพล่านอยู่ในบริเวณนั้น ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้กลายเป็นสีเขียว และจุดแสงเล็กๆ จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนก็เริ่มหมุนวนไปรอบๆ ภาพที่เห็นทั้งหมดนี้ดูงดงามอย่างถึงที่สุด

หุ่นเชิดค้นหาเต๋าจากสำนักจินหานแค่นเสียงเย็นชาออกมา มันยกมือขวาขึ้น และก้อนศิลาขนาดเล็กเท่าฝ่ามือก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ และเริ่มขยายตัวออก ในชั่วพริบตาก็กลายเป็นภูเขาที่ความสูงถึงหนี่งพันจ้าง

ภูเขานั้นกระจายเจตจำนงแห่งการข่มขู่คุกคามออกมา ซึ่งระเบิดออกปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณที่อยู่รอบๆ หุ่นเชิด ระลอกคลื่นปรากฏขึ้น กลายเป็นแม่น้ำที่กวาดออกไปทั่วทั้งบริเวณนั้น และยังมีกลิ่นอายที่โผล่ออกมาจากภูเขาศิลาเป็นระยะอีกด้วย

ศิลานี้ก็เป็นมรดกวิเศษอันล้ำค่าด้วยเช่นเดียวกัน และยังเหนือกว่ากระบี่ไม้ไผ่ของสำนักอีเจี้ยนอีกด้วย ทุกสรรพสิ่งที่อยู่ด้านล่างภูเขาดูเหมือนกำลังจะมีรอยร้าวและแตกกระจายไป

ปรมาจารย์รุ่นห้าตระกูลหลี่ กำลังมองมาจากที่ห่างไกล สีหน้ามันราบเรียบเหมือนเช่นเคย แต่ดวงตาสาดประกายความเย็นชาออกมา มันโบกสะบัดชายแขนเสื้อ และหลัวผาน (เข็มทิศโบราณของจีน) ก็ลอยออกมา สัญลักษณ์เวทมากมายนับไม่ถ้วนบนหลัวผานจมลงไป และจากนั้นก็เริ่มส่องแสงเจิดจ้าออกมา ทำให้เกิดความรู้สึกว่ากฎธรรมชาติอันลี้ลับกำลังเกิดขึ้นมา

บุคคลทั้งสามยังไม่ได้ใช้ของวิเศษหลักของพวกมัน แต่เป็นแค่ของวิเศษรองเท่านั้น ของวิเศษที่แท้จริงอยู่สูงขึ้นไปในอากาศ ถูกใช้โดยปรมาจารย์ทั้งสามที่กำลังต่อสู้กับปรมาจารย์อสูรโลหิต

เมื่อของวิเศษทั้งสามปรากฏขึ้น ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นนับแสนคนก็เริ่มถอยไปยังด้านหลังอย่างช้าๆ ส่งมอบสนามรบให้กับคนทั้งสาม และไม่ยอมให้เมิ่งฮ่าวมีโอกาสได้ใช้เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตออกมาได้

“ผ่า!” ผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยนกล่าวเสียงราบเรียบ มือของมันตวัดลงมา และกระบี่ไม้ไผ่ก็ดูดเอาแสงสีเขียวทั้งหมดที่กระจายออกมาก่อนหน้านี้เข้าไป จากนั้นก็กลายเป็นกระบี่แห่งแสงอันเจิดจ้า ลอยขึ้นไปในอากาศและจากนั้นก็กลายเป็นกระบี่เล่มใหญ่สีเขียวครึ่งเล่ม

กระบี่เล่มใหญ่นั้นเต็มไปด้วยพลังอันยากที่จะอธิบายออกมาได้ ตวัดลงมายังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไป

“ขุนเขาที่เก้า!” เขากล่าวและขุนเขาที่เก้าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็พังทลายลงไปในทันที

ปลายกระบี่ไม้แห่งกาลเวลาปรากฏขึ้น รวมเข้าไปในค่ายกลกระบี่ ซึ่งทันใดนั้นก็เริ่มหมุนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ค่ายกลนี้ก็แตกกระจายออกแทบจะในทันทีด้วยเช่นเดียวกัน

กระบี่ไม้ไผ่พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างต่อเนื่อง เขาแหงนหน้าขึ้นและส่งเสียงแผดร้องออกมา ในเวลาเดียวกันนั้นก็ผลักสองมือออกไปที่เบื้องหน้า ที่มือซ้ายมีกลุ่มหมอกสีขาวปรากฏขึ้น และในมือขวาก็เป็นกลุ่มหมอกสีดำ พวกมันกลายเป็นไข่มุกดำขาว จากนั้นก็ลอยออกไปต่อต้านกระบี่เล่มใหญ่นั้น

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา กระบี่ขนาดใหญ่สั่นไปมา และไข่มุกดำขาวก็สั่นสะท้านด้วยเช่นเดียวกัน เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมากองโต และไข่มุกก็หายไป

กระบี่เล่มใหญ่ดูเหมือนแทบจะกรีดลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว แต่แสงสีโลหิตจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาเขา พลังพื้นฐานฝึกตนระเบิดออกไป เมิ่งฮ่าวมุ่งเน้นไปที่มือขวา และต่อยตรงไปยังกระบี่ที่ตกลงมา

ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน กระบี่หยุดชะงักนิ่ง และมือเมิ่งฮ่าวก็ดูเหมือนจะฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ แรงกดดันอย่างยากที่จะอธิบายออกมาได้ กดทับลงมาบนร่างเขา และเสียงแตกร้าวก็ได้ยินมาจากภายใน แทบจะดูเหมือนว่าเขาไม่อาจจะต่อต้านกับพลังที่กดทับลงมานี้

บาดแผลมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่าพวกมันจะถูกรักษาแทบจะในทันทีขณะที่รอยแผลนั้นปรากฏขึ้น แต่ก็ไม่อาจจะเทียบได้กับความรวดเร็วที่เกิดเป็นบาดแผลขึ้น ทำให้เมิ่งฮ่าวถูกปกคลุมไปด้วยโลหิตอย่างรวดเร็ว ดูคล้ายกับว่าเขากำลังจะถูกหั่นออกเป็นชิ้นๆ ได้ทุกเมื่อ

ในเวลาเดียวกันนั้น หุ่นเชิดสำนักจินหานก็ยกมือขึ้นมา ทำให้ภูเขาที่สูงหนึ่งพันจ้าง เคลื่อนย้ายทางไกลมายังตำแหน่งที่อยู่ด้านบนเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็บดขยี้ลงมาในทันที

ตูม!

ร่างเมิ่งฮ่าวแตกกระจายออกอีกครั้ง และถูกรักษาโดยอาณาจักรแห่งความเป็นนิรันดร์เพียงอย่างเดียว กระบี่ยิ่งใหญ่กรีดเฉือนลงมาอย่างต่อเนื่อง ปราณกระบี่ม้วนตัวไปมา ทำให้ร่างเมิ่งฮ่าวถูกแยกส่วนออกไปอีกครั้ง ภูเขาศิลาก็ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง กระจายแรงกดดันบดขยี้อย่างรุนแรงออกมา

ในตอนนี้เองที่ปรมาจารย์รุ่นห้าตระกูลหลี่แค่นเสียงเย็นชาออกมา และโบกสะบัดมือ ทำให้หลัวผานลอยออกไป

“อัคคีดำและไฟโลกันต์ กลั่นสกัดรังสีสังหารให้กลายเป็นวิญญาณ!” แสงอันดุร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาขณะที่มันกล่าว ไฟสีดำทันใดนั้นก็ถูกพ่นออกมาจากหลัวผาน จากนั้นก็กลายเป็นวิหคเพลิงสีดำขนาดใหญ่หนึ่งพันจ้าง พุ่งตรงไปยังเงาร่างที่กำลังพังทลายลงไปของเมิ่งฮ่าว

เห็นได้ชัดว่าพวกมันมุ่งมั่นที่จะสังหารเขาไปให้จงได้!

แม้แต่จะมีอาณาจักรแห่งความเป็นนิรันดร์ เมิ่งฮ่าวก็คงต้องถูกกำจัดไปอย่างแน่นอน ถ้าต้องมาเผชิญหน้ากับการโจมตีจากของวิเศษอันล้ำค่าเช่นนี้!

ในตอนนี้ ศิษย์สำนักเซี่ยเยาทั้งหมดต่างก็เริ่มคลุ้มคลั่ง

“เจ้าสำนักน้อย!!” ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะอดทนต่อไปได้ ศิษย์สำนักเซี่ยเยาทั้งหมดกลายเป็นลำแสง ขณะที่พวกมันพุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด เท่าที่พวกมันจะสามารถรวบรวมพลังออกมาได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่พวกมันเริ่มพุ่งออกไป ชายชราหลังค่อมก็ส่งเสียงถอนหายใจออกมา หลังที่ค่อมอยู่ของมัน ทันใดนั้นก็ยืดตรงขึ้นเล็กน้อย และหน้าตามันก็เปลี่ยนไป ดูแตกต่างไปจากชายชราก่อนหน้านี้

“เกราะป้องกัน พังทลาย!” มันผลักมือออกไปที่เบื้องหน้า และพลังอันยากจะอธิบายออกมาได้ก็กระจายออกไป ทันทีที่แตะสัมผัสไปโดนเกราะป้องกันชั้นที่ห้า ก็เกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้น จากนั้นในชั่วพริบตา เกราะป้องกันก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

การแตกกระจายนั้น ได้ปลดปล่อยพลังอันน่าเหลือเชื่อ ให้กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ความรุนแรงของมันทันใดนั้นก็ทำให้ของวิเศษล้ำค่าทั้งสามชิ้นหยุดชะงักนิ่ง จากนั้นก็เริ่มกระจายระลอกคลื่นออกมา จนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนและอากาศฉีกขาดออกไป

ด้วยการยืมพลังของการแตกกระจาย ชายชราหลังค่อมวิ่งตรงไปข้างหน้า บรรลุถึงตำแหน่งของของวิเศษทั้งสามชิ้นในทันที มันยกสองมือขึ้นมา จากนั้นก็ตบลงไป

ตูม!

พื้นฐานฝึกตนของมันระเบิดออก สร้างเป็นเกราะป้องกันขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าวที่กำลังจะพังทลายลงไป ดูเหมือนว่าชายชราได้ใช้พลังทั้งหมดที่มันสามารถรวบรวมได้มาปกป้องเมิ่งฮ่าวไว้ ช่วยให้เขามีเวลาในการฟื้นฟูร่างกาย แต่ตัวมันได้กลับไปต่อสู้กับของวิเศษทั้งสามตามลำพัง

กระบี่ยิ่งใหญ่ตกลงมา และร่างของชายชราหลังค่อมก็สั่นสะท้าน โลหิตกระจายออกมาจากปาก และแสงอันดุร้ายก็ปรากฏขึ้นในดวงตามัน อีกครั้งหลังที่ค่อมอยู่ของมันได้ยืดตรงขึ้น และรูปลักษณ์มันก็เปลี่ยนเป็นบุรุษวัยกลางคน ขณะที่มันยืนขึ้นมา พื้นฐานฝึกตนของมันทันใดนั้นก็เปลี่ยนไป กลายเป็นตัดวิญญาณครั้งที่สอง

เมื่อได้หยุดพักชั่วครู่ ร่างเมิ่งฮ่าวก็หลอมรวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง และดูเหมือนว่าในตอนนี้ กำลังจะกลับเป็นร่างที่สมบูรณ์แบบขึ้นอีกครั้ง

เมื่อภูเขาได้บดขยี้ลงมา ใบหน้าของชายชราหลังค่อมเริ่มซีดขาว และโลหิตก็กระจายออกมาจากทั่วทั้งร่างของมัน กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นกลุ่มหมอก หลังที่ค่อมอยู่ของมันยืดตรงขึ้นมากกว่าเดิม และตอนนี้มันก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับบุรุษหนุ่ม

ในตอนนี้ ร่างเมิ่งฮ่าวรวมตัวกันได้มากกว่าครึ่งแล้ว

แต่โชคร้ายที่ในตอนนี้เองวิหคเพลิงสีดำได้บินมาถึง ภายใต้การโจมตีของพวกมัน ชายชราหลังค่อมเงยหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา หลังของมันในตอนนี้ยืดตรงโดยสิ้นเชิง และดูคล้ายกับเด็กหนุ่ม พื้นฐานฝึกตนของมันพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง และมันได้ไปอยู่ในขั้นตัดวิญญาณครั้งที่สาม

ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันมีอายุประมาณสิบสี่หรือสิบห้าปีเท่านั้น มีหน้าตาที่หล่อเหลา และพลังของมันก็เดือดพล่านขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้น ร่างกายก็ระเบิดเปลวไฟออกมา ไม่ใช่เปลวไฟแห่งความมืด แต่เป็นเปลวไฟแห่งพลังชีวิต

ขณะที่มันเผาไหม้พลังชีวิตของตนเอง พื้นฐานฝึกตนของมันก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง จนกระทั่งเข้าไปอยู่ในขั้นต้นค้นหาเต๋า ซึ่งตอนนี้มันประกอบไปด้วยกฎแห่งธรรมชาติ

มันกำลังใช้พลังชีวิตของตนเอง ต่อสู้กลับไปยังของวิเศษอันล้ำค่าทั้งสามชิ้นนั้น

ภาพที่เกิดขึ้นนี้ แม้แต่ผู้ฝึกตนฝ่ายศัตรูนับแสนคนก็ยังต้องสะท้านใจ

“ท่านอาจารย์!!” ศิษย์ของมัน, หญิงสาวเยาว์วัยที่น่ารักร้องออกมา หยดน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม ขณะที่ตระหนักถึงสิ่งที่อาจารย์นางเลือกที่จะทำ

“ท่านผู้เฒ่ายอดเขาห้า!!”

“ท่านผู้เฒ่า!”

ขณะที่ศิษย์สำนักเซี่ยเยามองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ จิตใจพวกมันสั่นสะท้าน และดวงตาก็เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

การเผาไหม้พลังชีวิตของตนเองเช่นนั้น มีผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวคือต้องตายไปอย่างแน่นอน!

ในที่สุด ร่ายกายเมิ่งฮ่าวก็ฟื้นฟูกลับคืนมาได้อย่างสมบูรณ์ เขาลืมตาขึ้นมามองไปยังเด็กหนุ่มที่กำลังเผาไหม้พลังชีวิตของตนเอง เพื่อให้เขามีเวลาที่จะฟื้นฟูร่างกาย

ถึงแม้ว่าร่างกายเขาจะต้องแตกกระจายไป วิญญาณและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ยังคงมีอยู่ ดังนั้นเขาจึงรับรู้ได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว

“ท่าน…” เมิ่งฮ่าวกล่าว ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

“เจ้าสำนักน้อย” เด็กหนุ่มกล่าวด้วยเสียงที่เก่าแก่โบราณ “ท่านได้กระทำเพื่อสำนักเซี่ยเยามามากแล้ว ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องมาเถียงกันว่าใครจะทำอะไร ครั้งนี้ขอให้ข้าได้ปกป้องท่านบ้าง!” มันหัวเราะอย่างมีความสุข แต่ร่างกายก็สั่นสะท้าน ขณะที่ต่อสู้กลับไปยังของวิเศษอันล้ำค่าทั้งสามชิ้น แม้แต่จะเผาไหม้พลังชีวิตของตนเองไป แต่มันก็ไม่อาจจะต่อต้านได้นานนัก

“ออกไปจากที่นี่!” ทันใดนั้นมันก็กล่าวขึ้น มองกลับมายังเมิ่งฮ่าว “ข้ากำลังจะตายแล้ว แต่ก่อนที่จะตายไป ข้าจะทำให้ของวิเศษทั้งสามชิ้นนี้ไม่อาจจะถูกใช้มาจัดการท่านได้อีก อย่างน้อยก็ชั่วคราว ท่านปรมาจารย์กำลังต่อสู้อยู่ และข้าก็เช่นกัน…แต่สุดท้ายแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะขึ้นกับท่าน! ไป!”

เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ขณะที่ตระหนักว่าผู้เฒ่ายอดเขาห้าได้เตรียมใจที่จะตกตายไปเรียบร้อยแล้ว และไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจได้อีก จิตใจเมิ่งฮ่าวรู้สึกราวกับว่ากำลังจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ แต่การตัดสินใจอย่างแน่วแน่ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาที่แดงก่ำของเขา และล่าถอยออกไปในทันที

เมื่อเมิ่งฮ่าวผ่านเข้าไปในเกราะป้องกันชั้นที่สี่ เด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นชายชราก็ยิ้มออกมา และเผาไหม้พลังชีวิตของตนเองต่อไป

“ข้ามีชีวิตอยู่มานานมากแล้ว และได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างมามากมาย…” มันหันหลังและมองกลับไปยังศิษย์ของมันในสำนักเซี่ยเยา ส่งยิ้มอย่างมีเมตตาให้กับนาง จากนั้นก็หลับตาลง เปลวไฟแห่งการเผาไหม้พลังชีวิตของมันกลายเป็นสีแดงอย่างเจิดจ้า ฉับพลันนั้น ร่างของมันก็ระเบิดออก ปลดปล่อยระลอกคลื่นสีโลหิตอันน่าตกใจ กระแทกเข้าไปยังของวิเศษอันล้ำค่า ย้อมพวกมันให้กลายเป็นสีแดง

ของวิเศษอันล้ำค่าเริ่มมืดสลัวหมองมัวลงไปในทันที ราวกับว่าจิตวิญญาณของพวกมันได้ถูกทำให้แปดเปื้อน พวกมันเริ่มตกลงไปบนพื้นในทันที

“ท่านอาจารย์!!” ศิษย์แห่งยอดเขาห้าร้องตะโกนออกมาด้วยดวงใจที่แหลกสลาย หยาดน้ำตาที่คล้ายกับโลหิตไหลลงมาจากใบหน้าของหญิงสาวเยาว์วัยผู้น่ารักนั้น

ศิษย์สำนักเซี่ยเยาทั้งหมดกำลังสั่นสะท้าน ความสิ้นหวังของพวกมันก่อนหน้านี้ได้หายไปหมดสิ้นในตอนนี้ ถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชังอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้พวกมันไม่จำเป็นต้องมีคำพูดที่เร้าใจมาปลุกกระตุ้นอีกต่อไป สำนักเซี่ยเยาราวกับเป็นกระบี่ที่หลุดออกมาจากฝัก พร้อมที่จะสังหาร!

เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไป และแสงสีแดงจนทำให้สวรรค์ยังต้องตกตะลึงก็มองเห็นได้จากในดวงตาของเขา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version