Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 767

ตอนที่ 767

ดินแดนทางเหนือบุกมา!

“ดินแดนทางเหนือ!” เมิ่งฮ่าวคิด ม่านตาหดเล็กลง

ตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าขั้นสูงสุดคนอื่นๆ ไม่อาจจะเห็นว่าเมิ่งฮ่าวกำลังมองดูอะไรอยู่ ยกเว้นแต่…ตานกุ่ย ดวงตาท่านเริ่มสาดประกายแสงสีทองออกมา และสีหน้าก็สลดลง

เสียงร้องด้วยความยินดียังคงดังก้องเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่ด้านล่าง รอคอยคำพูดอย่างเป็นพิธีการของตานกุ่ย ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของงานวิวาห์ครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม จิตใจของเมิ่งฮ่าวและตานกุ่ยต่างก็นิ่งแข็ง ในตอนนี้จิตใจของคนทั้งสองกำลังจมลงไปในส่วนที่ลึกมากที่สุด!

จากสีหน้าของเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นสวี่ชิงก็รับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ “เกิดอะไรขึ้น…?” นางถามจับมือเขาด้วยความกังวล

“ดินแดนทางเหนือ…กำลังมารุกรานพวกเรา” เขากล่าวอย่างเงียบๆ จับมือนางไว้แน่นขึ้น

ถึงแม้ว่าไม่มีผู้ฝึกตนคนใด จะได้ยินสิ่งที่เขากล่าว แต่สีหน้าของปรมาจารย์ค้นหาเต๋าขั้นสูงสุดที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นต่างก็สลดลงไปในทันที

“นั่นคือ…” ดวงตาตานกุ่ยเบิกกว้าง ขณะที่มองไปยังสะพานขนาดใหญ่อย่างน่าตกใจ ซึ่งยืดยาวออกมาเหนือทะเลเทียนเหอ รวมทั้งกระถางขนาดใหญ่ซึ่งใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

สีหน้าตานกุ่ยเปลี่ยนไป ด้วยความกังวลว่าจะเกิดความตื่นตระหนกขึ้น ท่านจึงกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “เมิ่งฮ่าว ดูให้ละเอียด เจ้ามองเห็นกระถางศิลาที่ไร้การตกแต่ง เต็มไปด้วยดินสีดำสนิทหรือไม่? ยังมี…ธูปหนึ่งดอก…ปักอยู่บนดินนั้น?!?!”

ขณะที่ตานกุ่ยกล่าว ผู้ฝึกตนที่กำลังร่าเริงอยู่ด้านล่างทันใดนั้นก็เริ่มเงียบลง สีหน้าสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าพวกมัน และในที่สุด ทุกคนก็เริ่มตระหนักว่าตานกุ่ยกำลังมองไปยังทะเลเทียนเหอ

เพื่อตอบคำถามของตานกุ่ย อีกครั้งที่เมิ่งฮ่าวกระพริบตาติดต่อกันเก้าครั้ง ทันใดนั้น ภาพของทะเลเทียนเหอก็ขยายใกล้เข้ามา และเขาก็แน่ใจได้ว่าจริงๆ แล้วก็มีธูปหนึ่งดอกปักอยู่ในดินสีดำที่เต็มอยู่ในกระถางขนาดใหญ่ใบนั้น

“มี!” เมิ่งฮ่าวกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ใบหน้าตานกุ่ยกลายเป็นขาวซีด และม่านตาก็หดเล็กลง ทันใดนั้นท่านก็บินขึ้นไปในอากาศ และร้องตะโกนออกมาเป็นเสียงดัง “ผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ พวกท่านต้องปลดปล่อยพลังของพื้นฐานฝึกตนที่มีทั้งหมดออกมาในทันที และหลอมรวมเข้าไปในกระแสพลังลมปราณของสวรรค์และปฐพี สร้างเป็นเกราะป้องกันขึ้นมาในตอนนี้ เร็วเข้า!”

“ปรมาจารย์ซ่ง, ศิษย์ปรุงยาของข้าและเมิ่งฮ่าว มากับข้า นำปรมาจารย์จินหานและปรมาจารย์รุ่นสามตระกูลหลี่มาด้วย!!”

“พวกเราต้องไม่ยอมให้…กระถางศิลานั่นมาวางอยู่บนดินแดนด้านใต้!” ตานกุ่ยแผดร้องออกมา ขณะที่พุ่งตรงไปยังทะเลเทียนเหอ

“นั่นคือธูปโลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรม ที่กลั่นสกัดมาจากเลือดเนื้อของเซียนแท้!! มันเป็นคำสาปที่ร้ายแรงมากที่สุด ถ้ามันมาแตะสัมผัสพื้นดิน คำสาปก็จะกระจายออกไปยังผู้ฝึกตนทุกคนที่เกิดในดินแดนด้านใต้! ร่างกายพวกมันจะแห้งเหี่ยวไป และพื้นฐานฝึกตนก็จะลดลง! ไม่มีทางรักษาหรือมียาป้องกันใดๆ ยากที่จะหลบหนีจากไปได้ แม้แต่การออกไปจากดินแดนด้านใต้ก็ไม่อาจจะหลบเลี่ยงคำสาปนี้ไปได้ ใครก็ตามที่เกิดในดินแดนด้านใต้จะต้องถูกสาป!”

สีหน้าของปรมาจารย์ซ่งสลดลง และซุนเทาแห่งสำนักจื่อยิ่นก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน โดยไม่ลังเล พวกมันพุ่งติดตามไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบรังสีสังหารขึ้น วันนี้เป็นงานวิวาห์อันยิ่งใหญ่ และเป็นวันที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตของเขา สวี่ชิงมีอายุขัยเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งร้อยปี และสิ่งที่เขาต้องการทำทั้งหมดก็คือมอบงานวิวาห์ที่งดงามยิ่งใหญ่ให้กับนาง แต่โชคร้ายที่ต้องมาถูกขัดขวางแต่กลางคัน

การมาถึงของผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง แล้วเมิ่งฮ่าวจะไม่รู้สึกกราดเกรี้ยวได้อย่างไร?

เขามองไปยังสวี่ชิง และถึงแม้ว่าจิตใจของนางจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล แต่สิ่งเดียวที่เขามองเห็นจากใบหน้านางก็คือสีหน้าอันอ่อนโยน

“พิธีวิวาห์ยังไม่เสร็จสิ้น” นางกล่าวเสียงอ่อนโยน “ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่”

เมิ่งฮ่าวพยักหน้า จากนั้นก็บินขึ้นไปในอากาศ ร่างจริงที่สองปรากฏขึ้นที่ด้านข้าง ปรมาจารย์จินหานและปรมาจารย์รุ่นสามตระกูลหลี่ โผล่ออกมาจากภายในวิหารเซียน เพียงชั่วพริบตา คนทั้งหมดก็กลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังทะเลเทียนเหอ

ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณ ซึ่งได้สร้างมังกรและหงส์ขึ้นมา ก็ปรากฏกายขึ้นในทันที พลังพื้นฐานฝึกตนของพวกมันพุ่งกระจายขึ้น ทำให้อากาศบิดเบี้ยวไปมา ที่ด้านล่าง จิตใจของผู้ฝึกตนอีกนับแสนยังคงหมุนคว้างด้วยความตกใจ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้ แต่ก็ยังคงปลดปล่อยพลังพื้นฐานฝึกตนออกมาด้วยเช่นเดียวกัน อากาศบิดเบี้ยวไปมาเพียงไม่นาน และลมพายุอันรุนแรงก็พุ่งขึ้นมา

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือที่อยู่บนสะพานดอกปี่อ้านเหนือทะเลเทียนเหอ ก็ตระหนักว่าพวกมันถูกพบเห็นแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องปกปิดร่องรอยของพวกมันอีกต่อไป เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ และรูปแบบของทะเลเทียนเหอก็เปลี่ยนไปในทันที!

มันไม่ได้ดูสดใสและสงบนิ่งอีกต่อไป แต่คลื่นขนาดใหญ่ก็พุ่งขึ้นมาทั่วทั้งพื้นผิวทะเล รวมทั้งซากศพจำนวนมากมาย ซากศพเหล่านี้เป็นผู้ฝึกตนที่อยู่ในทะเลเทียนเหอ

ที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็คือ สะพานดอกปี่อ้านที่ดูดุร้ายน่ากลัว รวมทั้งผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือนับล้าน ที่ขยายยืดยาวออกไปในรูปแบบของค่ายกลที่ดูคล้ายกับเป็นมังกรขนาดใหญ่

“ภายในหนึ่งเดือน ดินแดนด้านใต้จะต้องถูกทำลายลงไป!” เสียงเย็นชาและเก่าแก่โบราณดังก้องออกไป เป็นชายชราที่อยู่ในกองกำลังของดินแดนทางเหนือ สวมใส่เสื้อผ้าหนังสัตว์ และมีสร้อยคอที่ทำจากเขี้ยวสัตว์แขวนอยู่รอบๆ คอ มันบินขึ้นไปในอากาศ ติดตามไปด้วยสามเงาร่างอันน่าตกใจ

สำหรับคนทั้งสามนี้ สองเป็นชายชรา และหนึ่งเป็นเด็กชาย

ชายชราทั้งสองมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน ยกเว้นว่าคนหนึ่งสวมใส่ชุดยาวสีดำทั้งตัว และอีกคนสวมใส่สีขาวทั้งร่าง พื้นฐานฝึกตนของพวกมันอยู่ในขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า สำหรับเด็กชาย มันถือผลไม้สีแดงชาดอยู่ในมือ ซึ่งมันมักจะกัดกินไปเป็นระยะ มองเห็นแสงสีแดงส่องประกายอยู่ในดวงตาของมัน และถูกห้อมล้อมด้วยบรรยากาศแห่งการฆ่าฟันอันเข้มข้น มันอยู่ในขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าด้วยเช่นเดียวกัน

คนทั้งสี่เหล่านี้เป็นปรมาจารย์ที่นำกองกำลังแรกของดินแดนทางเหนือมา ที่อยู่ห่างออกไปด้านหลังพวกมันไม่กี่วันเป็นกองกำลังที่สองของผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือนับแสน

กองกำลังแรกเข้ามาใกล้ จนพวกมันสามารถมองเห็นภูเขาของดินแดนด้านใต้ได้ รวมทั้งลำแสงทั้งหกที่กำลังพุ่งฝ่าอากาศมา

ในเวลาเดียวกันนั้น พวกมันก็สังเกตเห็นลมพายุอันน่าตกใจ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพื้นฐานฝึกตนของผู้ฝึกตนนับแสนด้วยเช่นกัน ซึ่งกระจายสูงขึ้นไปในท้องฟ้า เต็มไปด้วยพลังอันน่าตกใจ

“ผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ช่างชาญฉลาดนัก พวกมันรู้ตัวล่วงหน้า และรู้ว่าพวกเราจะมาถึงเมื่อไหร่ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ”

“ไม่เพียงแต่พวกมันจะรู้ถึงช่วงเวลาเท่านั้น พวกมันยังรู้ถึงสถานที่อีกด้วย และเตรียมพร้อมที่จะสู้รบ! พวกมันยังได้รวมพลังพื้นฐานฝึกตนของผู้ฝึกตนนับแสนเพื่อสร้างเป็นลมพายุ! ด้วยความหวังว่าจะลดทอนพลังของยาศักด์สิทธิ์ของพวกเรา!”

“จากปฏิกิริยาของพวกมัน ดูเหมือนว่าพวกมันรู้ซึ้งถึงแผนการของพวกเราจริงๆ! โชคดีที่พวกเราได้เตรียมตัวมาอย่างดี โชคร้ายที่ยาศักดิ์สิทธิ์จะเกิดผลมากที่สุดในตอนที่พวกมันกระจัดกระจายกันออกไป!”

“จากหกคนที่ใกล้เข้ามา สี่คนอยู่ในขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า หนึ่งคนอยู่ในขั้นต้นค้นหาเต๋า และคนที่สาม บุรุษหนุ่มในชุดสีแดง…ดูเหมือนว่ามันจะเป็นผู้ฝึกตนขั้นตัดวิญญาณครั้งที่สองเท่านั้น?”

“ไม่ว่าอย่างไร พวกเราก็จะดำเนินการตามแผน และใช้ยาศักดิ์สิทธิ์ให้จงได้!!”

สี่ปรมาจารย์ดินแดนทางเหนือสบตากัน จากนั้นชายชราที่มีสร้อยเขี้ยวสัตว์ก็แค่นเสียงเย็นชาออกมา หยิบเอาเม็ดยาสีแดงซึ่งเคลือบไว้ด้วยสัญลักษณ์เวทแปลกๆ ออกมากลืนกินเข้าไปในทันที จากนั้นมันก็ยื่นมือออกไป และเงยหน้าขึ้นส่งเสียงแผดร้องออกมา

“มัจฉามังกรแปลง!”

ในเวลาเดียวกันนั้น ร่างกายมันก็เริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นในทันที เพียงชั่วพริบตา ก็มีความสูงนับสิบจ้าง และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ อย่างน่าตกใจยิ่ง เขี้ยวสัตว์ป่าที่อยู่รอบๆ ลำคอมัน หมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ร่าง กลายเป็นค่ายกลเวทรูปทรงกลม!

เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ตามมาด้วยเสียงแผดร้องที่ดังออกมาจากภายในค่ายกลเวท ทันใดนั้น จระเข้สีดำขนาดใหญ่ก็โผล่ออกมา มีความยาวถึงหนึ่งร้อยจ้าง!

จระเข้สะบัดหางตบลงไป ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นกระจายออก ทันใดนั้น ผู้ฝึกตนนับหมื่นที่กำลังแบกกระถางศิลาขนาดใหญ่ก็บินตรงมา และลงไปอยู่ที่บนหลังของจระเข้

จระเข้ส่งเสียงแผดร้องคำรามออกมา และดวงตาก็เริ่มสาดประกายเป็นสีแดง ขณะที่มันพุ่งตรงไปยังดินแดนด้านใต้

สำหรับชายชราที่สูงนับสิบจ้าง ร่างมันกระจายพลังอันดุร้ายออกมา ขณะที่พุ่งติดตามไปทำตัวเหมือนกับเป็นผู้คุ้มกันจระเข้

ด้านหลังมัน สองชายชราที่มีหน้าตาเหมือนกัน ยกเว้นว่าสวมใส่เสื้อผ้าดำขาวแตกต่างกัน ทั้งคู่โบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้กลิ่นอายแห่งความตายอันน่าเหลือเชื่อกระจายออกมา และที่น่าแปลกใจมากไปกว่านั้นก็คือ มีผีดิบสองตนกำลังกระโดดพร้อมกันทั้งสองขาอยู่ที่ด้านหลังพวกมัน ซึ่งผีดิบทั้งสองก็สวมใส่เสื้อผ้าสีดำและขาวที่ต่างกันด้วย

ผีดิบสองตนที่กระโดดอยู่มีฟันที่ยาวและสีหน้าที่ดุร้ายน่ากลัว พวกมันสวมใส่หมวกและกระโดดไปพร้อมกับชายชราทั้งสอง ขณะที่ไปช่วยคุ้มกันกระถางศิลา

สุดท้ายเป็นเด็กผู้ชาย ขณะที่มันพุ่งออกไป ก็มียักษ์โผล่ออกมาจากกองกำลังที่อยู่บนสะพานดอกปี่อ้าน กวัดแกว่งกระบองเขี้ยวสุนัขป่า และแผดร้องคำรามขณะที่พุ่งตรงไป ทำให้เกิดเป็นสายลมอันรุนแรงขึ้น เด็กชายผู้นั้นบินขึ้นไปยืนอยู่บนไหล่ของมัน

เด็กชายกัดผลไม้สีแดงชาดไปเกือบครึ่ง ถือส่วนที่เหลือไว้ในมือ ถูไปมาอยู่เป็นระยะ

จระเข้ที่อยู่ในตำแหน่งหน้าสุดมีดวงตาสีแดงเจิดจ้า แผดร้องคำรามออกมาขณะที่มันพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสิ่งที่แทบจะดูคล้ายกับเป็นสายฟ้าสีดำ ขณะที่มันเข้าไปใกล้ดินแดนด้านใต้ ตานกุ่ย, ปรมาจารย์ซ่ง และศิษย์ทายาทปรุงยาซุนเทา ก็พุ่งเข้าไปหามัน

ไม่ต้องมีการพูดจา ทันทีที่เผชิญหน้ากัน การต่อสู้ก็เริ่มขึ้น

ตูม!

ซุนเทาเรียกกระถางปรุงยาที่กระจายกลุ่มควันของตัวยาออกมา ภายในกลุ่มควันนั้น มีนักรบในชุดเกราะสีทองมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น และทำการปิดกั้นไปทั่วทั้งบริเวณนั้นในทันที

ปรมาจารย์ตระกูลซ่งแค่นเสียงอย่างเย็นชาออกมา และขยับมือร่ายเวท ทันใดนั้น พลังลมปราณในบริเวณนั้นก็จางหายไป และโลงทองแดงก็ปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นของวิเศษอันล้ำค่าของตระกูลซ่ง

สำหรับตานกุ่ย ท่านพุ่งตรงไปยังกระถางศิลา

จระเข้แผดร้องคำราม ขณะที่ชายชราสูงสิบจ้างที่อยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็แวบขึ้น และไปปรากฏอยู่ที่ด้านหน้าของจระเข้ จากนั้นก็ต่อยหมัดออกไป

“ไสหัวไป!” มันแผดร้องขึ้น

ตูม!

หมัดที่ต่อยออกไปนั้น เต็มไปด้วยพลังของร่างกายมัน ทำให้อากาศแตกกระจายไป ขณะที่มันแผดร้องตรงไปยังนักรบเกราะทองของซุนเทา ทันใดนั้น เหล่านักรบก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงไป และพังทลายกลายเป็นชิ้นๆ

ชายชรามีความแข็งแกร่งที่พิเศษไม่ธรรมดา กฎแห่งธรรมชาติหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ตัวมัน ทำให้ทั่วทั้งบริเวณรอบๆ ตัวมันกลายเป็นอาณาเขตของมันเอง มันพุ่งตรงไป กระแทกผ่านสิ่งกีดขวางทั้งหมด ติดตามไปด้วยจระเข้

ในเวลาเดียวกันนั้น ชายชราที่อยู่ในชุดดำและชุดขาวหลับตาลง ร่างกายพวกมันเริ่มเลือนลางไป อย่างน่าประหลาดใจ พวกมันหลอมรวมเข้าไปในผีดิบสองตนที่กระโดดอยู่ด้านหลัง ดวงตาของผีดิบจู่ๆ ก็เริ่มสาดประกายความฉลาดออกมา ขณะที่พวกมันกระโดดตรงไป กลิ่นอายแห่งความตายของพวกมันก็พุ่งสูงขึ้นไปในอากาศ กลายเป็นกระแสน้ำวน จากนั้นแขนที่ซีดขาวมากมายนับไม่ถ้วน ก็ยื่นออกมาจากภายในกระแสน้ำวนนั้น ผีดิบตนหนึ่งพุ่งตรงไปยังปรมาจารย์ซ่ง และอีกตนมุ่งหน้าไปสกัดกั้นตานกุ่ย

ผู้ที่เคลื่อนไหวท้ายสุดก็คือเด็กชายและยักษ์ที่ใหญ่โตคล้ายภูเขา ยักษ์กวัดแกว่งกระบองเขี้ยวสุนัขป่า และเด็กชายก็ชี้นิ้วออกไป ทำให้สีหน้าซุนเทาสลดลง ทันใดนั้นก็มีตุ่มขนาดใหญ่โป่งพองออกมาจากหน้าผากของเด็กชาย มีสีแดงเจิดจ้า และดูคล้ายกับเป็นผลไม้สีแดงชาดนั้น

การต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า ระเบิดขึ้นในชั่วพริบตา เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้ ตามมาด้วยร่างจริงที่สอง และผู้พิทักษ์กฎซ้ายขวา

“ฮ่าวเอ๋อร์” ตานกลุ่ยกล่าวขึ้นอย่างรีบเร่ง “ไปขัดขวางกระถางศิลานั่น! อย่าให้มันแตะสัมผัสพื้นดินได้!”

เมื่อพิจารณาดูการต่อสู้ ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบขึ้น และเขาก็พุ่งตรงไปยังจระเข้ราวกับเป็นสายฟ้า

ชายชราสูงสิบจ้างที่อยู่เบื้องหน้าจระเข้ มีร่างกายที่สามารถบดขยี้ศัตรูราวกับเป็นหญ้าแห้ง เมื่อมันเห็นเมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้ มันก็ไม่สนใจเขาโดยสิ้นเชิง แต่เพ่งมองไปยังสามผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าที่ด้านข้างเขาแทน

“ไสหัวไป!!” ชายชราแผดร้องคำราม ต่อยหมัดออกไปในอากาศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version