Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 769

ตอนที่ 769

พลังแห่งคำสาปแช่ง!

โลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรม ถูกสกัดขึ้นมาจากโลหิตและชิ้นเนื้อของเซียนแท้ โดยการผนึกความเคียดแค้นอย่างลึกล้ำของเซียนแท้ในช่วงก่อนที่จะตายไป ทำให้คำสาปแช่งอันทรงพลังได้ก่อตัวเกิดขึ้นมา ตราบเท่าที่มันไม่แตะสัมผัสโดนพื้นดินใดๆ ก็จะเป็นปกติธรรมดา แต่เมื่อไหร่ที่มันสัมผัสโดนพื้นดิน พลังของคำสาปแช่งก็จะถูกปลดปล่อยไปยังสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ที่เกิดขึ้นอยู่ในดินแดนแห่งนั้น

มันอาจจะมีข้อบกพร่องที่ร้ายแรงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หรือบางทีอาจจะถูกต้องกว่าถ้าจะกล่าวว่าเป็นจุดด้อยที่สุดของมัน เป็นเรื่องจริงที่มันถูกกลั่นสกัดขึ้นมาจากเลือดเนื้อของเซียนแท้ ที่สาปแช่งพื้นดินด้วยความเคียดแค้น คำสาปนี้คงอยู่ได้ไม่นานมากนัก อย่างมากที่สุดก็นานแค่สามเดือน ก่อนที่พื้นดินจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมตามธรรมชาติ!

แต่โชคร้าย ที่เวลาแค่สามเดือนก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ฝึกตนทั้งหมดในดินแดนด้านใต้ จะแห้งเหี่ยวและอ่อนแอลงจนตายไปได้ สำหรับคนที่ยังไม่ตาย พื้นฐานฝึกตนของพวกมันก็จะลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน

วิธีที่ดีที่สุดที่จะใช้มันก็คือ ทำให้เกิดคำสาปแช่งขึ้นในช่วงที่กองกำลังมาถึง ทำให้กองกำลังดินแดนทางเหนือสามารถสังหารไปตลอดเส้นทางคล้ายกับเป็นสายฟ้าที่ฟาดลงมา สามารถจะกวาดล้างดินแดนด้านใต้ไปได้อย่างรวดเร็ว

ดินแดนทางเหนือให้ความสำคัญต่อการทำสงครามกับดินแดนด้านใต้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเช่นนั้น ตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิจึงทุ่มออกมาสุดตัว แม้แต่เศษชิ้นส่วนสุดท้ายของธูปโลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรม ก็ไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียว แต่มีถึงสองชิ้น

ธูปแรกใช้สำหรับการโจมตีอย่างเปิดเผย ธูปอีกดอกใช้สำหรับแอบลอบโจมตี นั่นเป็น…ความหวังของพวกมัน เพื่อให้แน่ใจว่าอย่างน้อยก็มีธูปหนึ่งดอกที่ได้แตะสัมผัสไปโดนพื้นของดินแดนด้านใต้

ดินแดนทางเหนือมีโอกาสเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น!

และโอกาสทั้งสองครั้งนี้ต่างก็ขึ้นกับ…ของวิเศษที่แปลกประหลาดแห่งตระกูลตี้! (จักรพรรดิ)

ตระกูลตี้…จริงๆ แล้วก็มีต้นกำเนิดอยู่ในดินแดนด้านใต้ แต่เมื่อนานมาแล้ว พวกมันถูกสะกดข่มไว้โดยราชันจี้ ในตอนที่ราชันจี้ได้ทำการรวบรวมสี่ดวงดาวอันยิ่งใหญ่ และกลายเป็นราชันแห่งขุนเขาที่เก้า

สำหรับสำนักตี้จง (สำนักจักรพรรดิ) แห่งดินแดนทางเหนือ จริงๆ แล้วพวกมันเป็นสาขาของตระกูลตี้ ซึ่งมีสายโลหิตเดียวกัน มีความแตกต่างกันตรงที่ แทนที่จะมีลำดับชั้นเช่นเดียวกับตระกูลตี้ แต่มันกลับมีโครงสร้างที่ก่อตั้งขึ้นมาในรูปแบบของสำนัก ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังได้ประกาศรับสมัคร เพื่อดึงดูดความสนใจให้บุคคลภายนอกมาเข้าร่วมด้วย ทำให้พวกมันมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น

ถ้าตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ปกติธรรมดา ดินแดนทางเหนือต้องไม่กล้าที่จะใช้ ของวิเศษแปลกๆ เช่นนี้ ภายใต้จมูกของตระกูลจี้ในดินแดนตะวันออก แม้แต่ดินแดนด้านใต้จะตกอยู่ในความปั่วป่วนวุ่นวาย พวกมันก็ไม่กล้าที่จะใช้ออกมาด้วยเช่นกัน

แต่ตอนนี้…โชคชะตาของเซียนแท้ได้ปรากฏขึ้น ในช่วงเวลานี้ ใครก็ตามที่อยู่บนจุดสูงสุดในการพยายามดิ้นรนเพื่อโชคชะตาแห่งเซียน ก็จะสามารถบรรลุกลายเป็นเซียนแท้ได้ ด้วยการใช้วิชาที่พิเศษเฉพาะ ตระกูลตี้ก็สามารถรับรู้ได้ว่าที่มาของโชคชะตาแห่งเซียน…อยู่ในดินแดนด้านใต้!

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมพวกมันถึงได้มาโจมตีอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้!

ด้วยการได้ครอบครองดินแดนด้านใต้ พวกมันก็สามารถจะควบคุมที่มาของโชคชะตาแห่งเซียนได้

ตอนนี้ เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจได้ยินออกมาจากกลุ่มฝูงชนบนสะพานดอกปี่อ้าน กองกำลังแรกนับแสนของผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือแผดร้องออกมา ขณะที่ร่างกายพวกมันแห้งเหี่ยวลงไป และพื้นฐานฝึกตนก็ตกลงมา

พวกมันเกิดการสูญเสียอย่างเห็นได้ชัดเจน ก่อนที่จะทันได้ก้าวเท้าลงไปยังดินแดนด้านใต้ จึงทำให้สี่ผู้นำขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าที่มาพร้อมกับกองกำลังแรกต้องบ้าคลั่งขึ้นมา

ความเกลียดชังของพวกมันที่มีต่อเมิ่งฮ่าว ได้ระเบิดขึ้นอย่างสูงสุดในทันที

แต่ดินแดนด้านใต้ก็กำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว!

เพียงชั่วพริบตา ความมืดสลัวของโลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรม ก็กระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว คงอีกไม่นานมันก็จะปกคลุมไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้

มันมีสีเทาเข้มจนแทบจะเป็นสีดำ ต้นไม้ใบหญ้าแห้งเหี่ยวและตายไปไกลสุดลูกหูลูกตา สัตว์ป่าแผดร้องเสียงโหยหวน และพยายามจะหลบหนีไป แต่ก็อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว และจากนั้นก็ตกลงไปบนพื้น ร่างกายสั่นสะท้าน ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

สูงขึ้นไปในกลางอากาศ ใบหน้าปรมาจารย์ตระกูลซ่งซีดขาว แม้ว่ามันกำลังลอยตัวอยู่เหนือพื้นดิน แต่ทันใดนั้นร่างกายมันก็เริ่มกระจายกลุ่มหมอกสีดำออกมา ซึ่งเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับซุนเทา, ปรมาจารย์รุ่นสามตระกูลหลี่ และปรมาจารย์จินหาน

กลุ่มหมอกสีดำลอยขึ้นไป ขณะที่เลือดเนื้อของพวกมันเริ่มแห้งเหี่ยวลง และตานกุ่ยก็เป็นเช่นเดียวกัน

“โลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรม…” ตานกุ่ยกล่าวพร้อมกับหัวเราะหึๆ อย่างขมขื่น “ดินแดนทางเหนือต้องการจะกำจัดดินแดนด้านใต้ไปทั้งหมด คำสาปนี้…ถึงแม้ว่าพวกเราจะหลบหนีออกจากดินแดนด้านใต้ไปด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ใครก็ตามที่ถือกำเนิดอยู่ในดินแดนนี้ ก็ไม่อาจจะหลบหนีจากไปได้…คำสาปนี้ช่างทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง!” ขณะที่ท่านพูดอยู่นั้น กลุ่มหมอกสีดำก็พุ่งออกมาจากร่างกาย และความมืดสลัวก็กระจายออกไปมากยิ่งขึ้น

“ถ้าพวกเราสามารถหยุดคำสาปไม่ให้กระจายออกไป…แต่จะทำได้อย่างไร?!” ในตอนนี้เอง สีหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความเสียใจของตานกุ่ยก็ต้องอ้าปากค้าง ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว ซึ่งกำลังสั่นสะท้านด้วยโทสะ ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ “ฮ่าวเอ๋อร์…เจ้า…เจ้าไม่ได้รับผลกระทบจากคำสาปแช่งนี้!!”

ร่างเมิ่งฮ่าวไม่ได้กระจายกลุ่มควันสีดำใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย…ก่อนหน้านี้ก่อนที่ธูปโลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรมจะแตะสัมผัสไปโดนพื้นดิน มันมีผลกระทบต่อเขา แต่ตอนนี้ดินแดนด้านใต้ต้องคำสาปไปแล้ว ทำให้มีแต่ผู้คนที่ถือกำเนิดอยู่ที่นี่เท่านั้นที่จะมีผลกระทบ แต่ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าว…จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แม้แต่น้อย!

สำหรับร่างจริงที่สอง มันถูกสร้างขึ้นมาด้วยการใช้ร่างกายของเขาเอง ดังนั้นมันจึงเป็นเช่นเดียวกัน

เมิ่งฮ่าวไม่มีเวลาที่จะคิดว่า ทำไมคำสาปแช่งถึงไม่มีผลกระทบต่อเขา ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ขณะที่บินลงไปยังพื้นดิน เขามองเห็นว่าไม่อาจจะทำอะไรได้ เพื่อจะไปหยุดยั้งไม่ให้คำสาปแช่งนั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ได้แต่มองไปขณะที่ความมืดสลัวของคำสาปแช่งพุ่งตรงไปยังสถานที่ที่ใช้จัดงานวิวาห์ของเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นสีเทาไป

ตรงงานวิวาห์ ผู้ฝึกตนนับแสนกำลังรวมพลังพื้นฐานฝึกตน เพื่อก่อตัวเป็นลมพายุพยายามที่จะต่อสู้กลับไปอย่างไม่คิดชีวิต ลมพายุนั้นค่อนข้างจะมีผลกระทบในการลดพลังของคำสาปแช่งไปได้บ้าง แต่ก็ไม่อาจจะปิดกั้นมันไว้ได้โดยสิ้นเชิง

กลุ่มหมอกสีดำเริ่มม้วนตัวขึ้นไปอย่างน่าตกใจ

ตอนนี้ สี่ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าแห่งดินแดนทางเหนือ ได้สังเกตเห็นว่าเมิ่งฮ่าวกำลังสวมใส่เสื้อผ้าที่ผู้ฝึกตนปกติไม่สวมใส่กัน พวกมันยังได้เห็นการตกแต่งในงานพิธีวิวาห์ที่อยู่ห่างไกลออกไปอีกด้วย ในที่สุดพวกมันก็เข้าใจ

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ จริงๆ แล้วก็มารวมตัวกันในที่แห่งนี้ เพื่อเข้าร่วมงานวิวาห์ของคนผู้นั้นนั่นเอง!” ชายชราในชุดหนังสัตว์กล่าว ดวงตามันแวบขึ้นด้วยแสงเจิดจ้า

สองชายชราที่ดูคล้ายเป็นผีดิบยิ้มอย่างโหดเหี้ยมออกมา “ผู้ฝึกตนนับแสนที่มารวมตัวกันเพื่องานพิธีวิวาห์ของผู้ฝึกตนนี่เอง!” หนึ่งในสองกล่าว “มันเป็นโชคชะตาที่จะเปียกชุ่มไปด้วยสีของโลหิต!”

“ฮา ฮา ฮา!” เด็กชายหัวเราะ “งานวิวาห์สีโลหิต!”

“น่าเสียดายที่พวกมันทั้งหมดมารวมตัวกัน ถ้าพวกมันกระจัดกระจายออกไปทั่วทั้งดินแดน โลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรมก็จะกระจายออกไปได้ผลมากกว่านี้…ดูเหมือนว่ามันจะอ่อนแอลงเล็กน้อยแล้ว”

เมิ่งฮ่าวพุ่งกลับไปยังงานวิวาห์ด้วยความรวดเร็วสูงสุด ทันใดนั้นเขาก็ทะลวงผ่านเข้าไปในลมพายุที่ปรากฏขึ้นเหนือเกาะกลางทะเลสาบ

สวี่ชิง, ฉู่อวี้เยียน คนอื่นๆ ทั้งหมดต่างก็กำลังนั่งขัดสมาธิ ส่งพลังพื้นฐานฝึกตนเข้าไปในลมพายุ เพื่อต่อสู้กลับไปยังคำสาปแช่งนั้น

ร่างสวี่ชิงกำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่เหมือนใครในตอนนี้ของนาง…ทำให้คำสาปแช่งนั้นมีผลกระทบต่อนางมากกว่าคนอื่นๆ หลายเท่า!

ทันทีที่เมิ่งฮ่าวมองเห็นสวี่ชิง ดวงตาเขาก็เต็มไปด้วยการตกลงใจ เขายื่นมือขวาออกมา และฟาดลงไปอย่างแรงบนพื้นดิน ทันใดนั้นเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตระดับสี่ก็หมุนวนขึ้นมา

แทนที่จะดูดซับโลหิตและพื้นฐานฝึกตน เขากลับใช้กระแสน้ำวนของเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต พยายามจะดูดซับพลังคำสาปแช่งของโลกันต์เฉาเก้าเสื่อมโทรมแทน!

เมิ่งฮ่าวไม่แน่ใจว่ามันจะได้ผลหรือไม่ แต่ก็ไม่อาจจะคิดวิธีอื่นได้อีก ดินแดนทางเหนือได้บุกรุกเข้ามาในวันวิวาห์ของเขา ความสุขได้กลายเป็นความตาย นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะยอมรับได้!

จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านจนแทบจะบ้าคลั่งไปได้ทุกเมื่อ เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตหมุนวนอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำวนสีทองห้อมล้อมไปรอบๆ ตัว, ทั่วทั้งเกาะ และทะเลสาบแห่งนั้นทั้งหมด

มันหมุนวนอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำในทะเลสาบหมุนวนไปมา ดูเหมือนว่าคำสาปแช่งโลกันต์เฉาจะได้รับผลกระทบในตอนแรก แต่ทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่ามันจะเลิกสนใจเมิ่งฮ่าวไปโดยสิ้นเชิง

“มานี่!!” เมิ่งฮ่าวคำรามออกมา ฝ่ามือขวาเกิดเป็นรอยแผลขนาดใหญ่เปิดออก ส่งผลให้โลหิตสีแดงจ้าพุ่งกระจายตกลงไปบนพื้น ในเวลาเดียวกับที่โลหิตซึมผ่านลงไปในดิน เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตก็มีความรวดเร็วอย่างสูงสุด ในที่สุดคำสาปแช่งโลกันต์เฉาก็ได้รับผลกระทบ และเริ่มเข้ามาใกล้ อย่างไรก็ตาม…มันก็ยังช้ามากอยู่ดี!

“ร่างจริงที่สอง!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนขึ้น ร่างจริงที่สองพุ่งลงมาจากด้านบน ลงมาอยู่ที่ด้านหลัง นั่งขัดสมาธิ จากนั้นก็ยื่นมือขวาออกไป วางทาบอยู่บนแผ่นหลังของเมิ่งฮ่าว

ด้วยการรวมพลังกันของคนทั้งสอง ทำให้เมิ่งฮ่าวสามารถผลักดันให้เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตระดับสี่หมุนวนได้รวดเร็วขึ้นมากกว่าเดิม

ชี่!

ราวกับเป็นการใส่หยดน้ำลงไปในกระทะที่กำลังร้อนจัด น้ำในทะเลสาบเดือดพล่าน โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลาง พลังของคำสาปแช่งโลกันต์เฉาที่เต็มอยู่ในบริเวณนั้นเริ่มพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวในทันที

ตามมาด้วยโลหิตและชิ้นเนื้อบนฝ่ามือของเขา เมื่อมันเข้าไปในร่าง เขาก็เริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาในทันที และเส้นผมก็เริ่มกลายเป็นสีขาว ร่างกายก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงไป ขณะที่พลังคำสาปแช่งจำนวนมากมหาศาลมารวมตัวกันภายในร่างเขา

เขากำลังบังคับให้คำสาปแช่งมาหลอมรวมเข้าไปในร่าง!

อาณาจักรแห่งความเป็นนิรันดร์ เกิดปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที ขณะที่เขาใช้ร่างกายของตนเอง พยายามที่จะทำให้ดินแดนแถบนั้นปลอดจากคำสาปแช่งโลกันต์เฉา คนอื่นๆ ไม่อาจจะกระทำเช่นนี้ได้ มีเพียงเมิ่งฮ่าวคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสทำได้เช่นนี้ เพราะว่าเขามีอาณาจักรความเป็นนิรันดร์

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังอยู่รอบๆ ตัว ขณะที่อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ฟื้นฟูร่างกายกลับคืนมา ทันทีที่เกิดขึ้นเช่นนี้ พลังคำสาปแช่งก็ยิ่งทำให้ร่างเขาแห้งเหี่ยวลงไปมากยิ่งขึ้น กลายเป็นวัฏจักรอันโหดร้าย ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ก็ฟื้นฟูร่างกายเขาไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน ขณะที่ความมืดสลัวในบริเวณนั้น…เริ่มเปลี่ยนไป ถ้ามองมาจากด้านบนในท้องฟ้า ก็เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นหลุมดำ ที่กำลังดูดกลืนความมืดสลัวของพลังคำสาปแช่งเข้าไป ทำให้ดินแดนแถบนั้นเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม

สี่ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าแห่งดินแดนทางเหนือ ต่างก็ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง

“เป็นไปไม่ได้!”

“มันเป็นใคร?!?! ผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดค้นหาเต๋านั่นเป็นร่างจำแลงของมัน!”

“เห็นได้ชัดว่าคำสาปแช่งนั้นไม่มีผลกระทบต่อมัน! มันไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน! แต่ร่างกายของมัน…จริงๆ แล้วก็…แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ทำให้มีผลต่อคำสาปแช่งโลกันต์เฉาด้วยตัวของมันเอง!”

ตลอดช่วงการฝึกตนทั้งหมดที่ผ่านมา พวกมันไม่เคยได้พบเจอกับผู้ฝึกตนที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน

“ปีศาจร้าย!” ในความตกตะลึง พวกมันบินตรงมาเพื่อพยายามจะหยุดเมิ่งฮ่าวให้ได้ แต่ปรมาจารย์ซ่ง และตานกุ่ยจะปล่อยให้พวกมันกระทำได้ตามอำเภอใจได้อย่างไร? นอกจากนั้น คนทั้งหมดก็เริ่มมองเห็นความหวังกันแล้วในตอนนี้ ตามมาด้วยซุนเทา, ปรมาจารย์จินหาน และปรมาจารย์รุ่นสามตระกูลหลี่ คนทั้งหมดบินตรงไป ใช้ความแข็งแกร่งไปปิดกั้นพวกมันไว้อย่างเต็มกำลัง

เสียงระเบิดดังก้องออกไป และสี่ผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนือก็ส่งเสียงแผดร้องออกมา แต่พวกมันก็ไม่อาจจะทะลวงผ่านไปได้ ไม่มีทางจะสอดมือเข้าไปแทรกแซงเมิ่งฮ่าวได้

ร่างเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน เห็นได้ชัดว่ากำลังแห้งเหี่ยวลงไปและฟื้นฟูกลับคืนมาใหม่อย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ที่เพียงพอจะทำให้คนที่มีจิตใจแข็งแกร่งส่วนใหญ่ต้องหมดสติลงไปได้

เขากัดฟันแน่น และพยายามต่อไปอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเขามองไปและเห็นสวี่ชิงกำลังนั่งอยู่ที่นั่น สั่นสะท้านอย่างรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

“ช้าเกินไปแล้ว! ข้าต้องทำให้เร็วขึ้นกว่านี้!!” เขากดมือซ้ายลงไปบนพื้นดินที่ด้านล่าง

ตูม!

พลังคำสาปแช่งพุ่งตรงมาที่สองมือเขาอย่างบ้าคลั่ง ไหลเข้าไปในร่างเขาอย่างรวดเร็ว

ความมืดสลัวของพื้นดินแถบนั้นค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version